ReutersReuters

FED:"พาวเวลล์"ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

  • นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ถึงเวลาที่จะชะลออัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว พร้อมทั้งส่งสัญญาณถึง การปรับเปลี่ยนทางเศรษฐกิจที่ยาวนานกับโลกที่ต้นทุนการกู้จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงช้าๆ และสหรัฐก็ยังคงขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เขากล่าวแถลง และตอบกระทู้ถามที่สถาบันบรูคกิงส์ ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายก่อนการประชุมครั้งต่อไปของเฟดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยเขาให้ข้อความระยะสั้นที่ทำให้ตลาดหุ้นทะยานขึ้นว่า เฟดจะชะลอความเร็วจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ที่ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิ.ย. และจะดำเนินการอย่างช้าๆไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่จุดสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด

  • แต่เขาก็ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวที่อาจกำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะในด้านอุปทานแรงงาน ซึ่งอาจแสดงให้เห็นถึงภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงขึ้นเป็นเวลานาน และอัตราเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวรับอย่างช้าๆกับนโยบายเชิงจำกัดของเฟด ขณะเดียวกัน เขาปฏิเสธแนวคิดที่ว่า เฟดมีความตั้งใจมากที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปีลดลงจนกระทั่งเฟดจะ "ทำลาย" เศรษฐกิจในความพยายามนั้น โดยยืนยันว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างนุ่มนวล หรือค่อนข้างนุ่มนวลนั้น ยังคงเป็นไปได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงโดยที่ไม่ทำให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นแบบกะทันหัน

  • เขาระบุว่า ตลาดแรงงานที่ตึงตัวจะต้องถูกทำให้อยู่ในภาวะสมดุลด้วยการดำเนินการต่างๆของเฟดที่จะลดความต้องการแรงงาน ทั้งด้วยการลดลงของตำแหน่งงานว่าง หรือไม่ก็การเพิ่มขึ้นของอัตราว่างงาน "ผมคิดว่าตอนนี้ เราต้องสันนิษฐานว่า อุปทานแรงงานจะไม่ฟื้นตัว เราต้องทำในสิ่งที่จะทำเพื่อฟื้นฟูให้ตลาดแรงงานมีสมดุลเพื่อกลับไปสู่เงินเฟ้อ 2% ด้วยการชะลอการเติบโตของการจ้างงาน แทนที่จะให้คนออกจากงาน"

  • แม้อัตราการขึ้นดอกเบี้ยกำลังจะชะลอความเร็วลง แต่เขาก็กล่าวว่า ยังคงเป็นคำถามเปิดที่ว่า "เราจะต้องขึ้นดอกเบี้ยไปอีกมากแค่ไหนเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และระยะเวลาที่จำเป็นต่อการคงนโยบายไว้ที่ระดับเชิงจำกัด" ขณะที่เขาไม่ได้ระบุถึงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสุดท้ายของเขา แต่ก็กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยสุดท้ายอาจจะสูงกว่าระดับ 4.6% ที่ผู้กำหนดนโยบายระบุไว้ในการคาดการณ์ในเดือนก.ย. พร้อมทั้งกล่าวว่า การควบคุมเงินเฟ้อ "จะต้องคงนโยบายไว้ที่ระดับเชิงจำกัดต่อไปอีกระยะหนึ่ง" ซึ่งเป็นความเห็นที่สวนทางกับการคาดการณ์ในตลาดที่ว่า เฟดอาจจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง

  • เฟดจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% และเฟดจะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ใหม่สำหรับอัตราดอกเบี้ย, อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ และอัตราว่างงานในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย และการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าอาจจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่กรอบ 4.25-4.50% จากเกือบ 0% ในเดือนมี.ค. ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่นายพอล โวลค์เกอร์ อดีตประธานเฟดเคยต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่รุนแรงกว่านี้ แต่นั้นก็ยังไม่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในเดือนต.ค.พบว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดอยู่ราว 3 เท่า และนายพาวเวลล์ระบุว่า แม้การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าชะลอลง แต่ต้นทุนที่อยู่อาศัยอาจจะเพิ่มขึ้นต่อไปในปีหน้า ดัชนีวัดราคาก็ยังคงสูงอยู่ และตลาดแรงงานยังตึงตัว "แม้จะมีสถานการณ์ที่น่าพอใจเกิดขึ้นบ้าง แต่เราก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของราคา เราจะคงแนวทางนี้ต่อไปจนกว่างานนี้จะเสร็จ"--จบ--

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้