ReutersReuters

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ถ้อยแถลงปธ.เฟดหนุนหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น

นิวยอร์ค--1 ธ.ค.--รอยเตอร์

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพุธ หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวที่สถาบันบรูคกิงส์ในกรุงวอชิงตันว่า เฟดอาจจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยเขากล่าวว่า "เราคิดว่าการชะลอความเร็วในจุดนี้จะเป็นหนทางที่ดีในการรักษาสมดุลความเสี่ยง" อย่างไรก็ดี เขากล่าวเตือนว่าการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อจะยังคงดำเนินต่อไปอีกนาน และคำถามสำคัญยังคงไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งรวมถึงประเด็นที่ว่า อัตราดอกเบี้ยจำเป็นจะต้องปรับขึ้นจนถึงระดับใด และจำเป็นจะต้องปรับขึ้นต่อไปเป็นเวลานานเพียงใด ทั้งนี้ เทรดเดอร์ในตลาดสัญญาล่วงหน้า Fed funds คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 91.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยพุ่งขึ้นจากโอกาส 65% ที่เคยคาดไว้ก่อนที่นายพาวเวลล์จะกล่าวแถลง และเทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 9.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยเทรดเดอร์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า อัตราดอกเบี้ย fed funds จะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 4.95% ในเดือนพ.ค.ปีหน้า แทนที่จะแตะจุดสูงสุดที่ 5.06% ในเดือนมิ.ย.ปีหน้าเหมือนอย่างที่เคยคาดการณ์กันไว้ในช่วงเช้าวันพุธ

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทะยานขึ้น 2.18% สู่ 34,589.77, ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 3.09% สู่ 4,080.11 และสามารถปิดตลาดเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยค่าเฉลี่ยดังกล่าวอยู่ที่ 4,050.30 ทางด้านดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 4.41% สู่ 11,468.00 ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการพุ่งขึ้น 5.7% จากเดือนต.ค., ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการทะยานขึ้น 5.4% จากเดือนต.ค. และถือเป็นการปิดตลาดรายเดือนในแดนบวกเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการพุ่งขึ้น 4.4% จากเดือนต.ค. โดยดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนในเดือนพ.ย.จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง และจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P 500 ยังคงดิ่งลงมาแล้วราว 14% จากช่วงต้นปีนี้ และดัชนี Nasdaq ยังคงรูดลงมาแล้ว 27% จากช่วงต้นปีนี้

  • หุ้นบริษัทเอ็นวิเดียพุ่งขึ้น 8.2% ในวันพุธ, หุ้นไมโครซอฟท์ทะยานขึ้น 6.2% และหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 4.9% ทางด้านหุ้นเทสลาทะยานขึ้น 7.7% หลังจากธนาคารไชน่า เมอร์แชนท์ส แบงก์ อินเตอร์เนชั่นแนลรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ของเทสลาในจีนได้รับแรงหนุนในเดือนพ.ย.จากมาตรการปรับลดราคาและมาตรการจูงใจลูกค้าสำหรับรถยนต์โมเดล 3 และโมเดล วาย ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.85% ในวันพุธ แต่ยังคงดิ่งลงมาแล้วราว 28% จากช่วงต้นปีนี้

  • บริษัท ADP รายงานว่า การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐปรับขึ้นเพียง 127,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากปรับขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +200,000 ตำแหน่งสำหรับเดือนพ.ย. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่าอุปสงค์ในแรงงานสหรัฐกำลังชะลอตัวลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ยอดการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐดิ่งลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ 10.334 ล้านตำแหน่งในวันสุดท้ายของเดือนต.ค. จาก 10.687 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้เปิดเผยผลการประเมินครั้งที่สองสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ออกมาในวันพุธ โดยระบุว่าจีดีพีเติบโต 2.9% ในไตรมาสสามเมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี (annualized) โดยปรับขึ้นจากระดับ +2.6% ในการประเมินรอบแรก หลังจากจีดีพีหดตัวลง 0.6% ในไตรมาสสอง

  • หุ้นไบโอเจนพุ่งขึ้น 4.7% หลังจากผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า ยารักษาโรคอัลไซเมอร์ของไบโอเจนช่วยชะลอการเสื่อมถอยในการทำงานของสมอง--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้