POLL:โพลล์คาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นในปีหน้า

ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์พบว่า เศรษฐกิจโลกอาจจะต้องพบกับพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น ก่อนที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่จะฟื้นตัวขึ้น และพวกเขาได้ปรับลดคาดการณ์ตลาดหุ้นสำหรับปีหน้าลงเมื่อเทียบกับเมื่อ 3 เดือน

นักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ช่วง 12 เดือนข้างหน้าเมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนสำหรับดัชนีหุ้นส่วนใหญ่จาก 17 ตลาดในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่จัดทำระหว่างวันที่ 14-29 พ.ย. โดยนักวิเคราะห์ 70% ระบุว่า ภาวะตกต่ำในขณะนี้จะดำเนินต่อไปอีก 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ ส่วนอีก 9 รายระบุว่า ภาวะตกต่ำจะสิ้นสุดภายในเวลาสั้นๆ และที่เหลืออีก 15 คนระบุว่า ภาวะตกต่ำสิ้นสุดลงแล้ว

แต่ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นอยู่กับว่า ธนาคารกลางต่างๆจะดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ไปอีกนานแค่ไหน ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า แต่ก็จะยังคงสูงกว่า และนานกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ซึ่งนักวิเคราะห์จากซิติระบุว่า "แนวคิดนี้อาจจะคงมีอิทธิพลต่อไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวไร้ทิศทาง"

คาดว่าดัชนีหุ้นส่วนใหญ่จาก 17 ตลาดในผลสำรวจนี้จะพุ่งขึ้นในเลขหลักเดียวภายในปลายปีหน้า ซึ่งไม่เพียงพอที่จะหักล้างช่วงติดลบที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ และนักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ลงเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันแล้วในผลสำรวจในเดือนนี้ โดยปัจจัยที่สำคัญที่สุดอาจจะเป็นประเด็นที่ว่า ธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประสบผลสำรวจมากเพียงใดในการทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดในรอบหลายปีโดยที่ไม่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

สำหรับปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นเพื่อฟื้นตัวกลับไปสู่ทิศทางขาขึ้นนั้น นักวิเคราะห์กว่า 70% ระบุถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางชั้นนำหลายประเทศจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า จึงคาดว่าหลายประเทศจะชะลอตัวรุนแรงหรือเผชิญกับภาวะถดถอยในไม่ช้า และนายมาร์โก โคลาโนวิค หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดโลกจากเจ.พี.มอร์แกนระบุว่า "เรายังคงมองว่า หุ้นจะปรับตัวขึ้นต่อไปในเดือนหน้า แต่ก็มองเห็นภาพรวมเศรษฐกิจที่ท้าทายมากขึ้นในปีหน้า โดยคาดว่า นโยบายของธนาคารกลางต่างๆจะเป็นแบบเชิงจำกัดต่อไป"--จบ--