ReutersReuters

EUROPE:โพลล์คาดหุ้นยุโรปปรับลง 1.5% ก่อนสิ้นปีหน้าขณะศก.ถดถอย

มิลาน--30 พ.ย.--รอยเตอร์

  • รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นผู้จัดการกองทุนและนักยุทธศาสตร์การลงทุนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้เปิดเผยผลสำรวจออกมาในวันอังคาร โดยผลสำรวจคาดว่า ภาวะการเงินที่ตึงตัวมากยิ่งขึ้นและแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะสร้างความเสียหายต่อตลาดหุ้นยุโรปในช่วงต้นปี 2023 โดยดัชนี STOXX 600 ของตลาดหุ้นยุโรปอาจจะอยู่ที่ 408 ในช่วงกลางปีหน้า หรือเท่ากับว่าดัชนีอาจจะดิ่งลงเกือบ 8% จากระดับปิดของวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. และเข้าใกล้จุดต่ำสุดของปีนี้ที่เคยทำไว้ที่ 379.72 ในวันที่ 13 ต.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนีอาจจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว โดยดัชนีตลาดหุ้นยุโรปอาจจะอยู่ที่ 434 ในช่วงสิ้นปีหน้า หรือเท่ากับว่าดัชนีอาจจะร่วงลง 1.5% จากระดับปิดวันศุกร์ และดัชนีอาจจะดิ่งลงกว่า 12% จากสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ที่ 495.46 ในวันที่ 4 ม.ค. 2022 ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ดิ่งลงมาแล้วราว 10% จากช่วงต้นปีนี้ และอาจจะปิดตลาดปีนี้ด้วยการดิ่งลงรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 ถึงแม้ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • นายเอ็มมานูเอล เคา นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคารบาร์เคลย์สกล่าวว่า "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวจะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง และต่ออัตราการเติบโตของผลกำไรในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า โดยนักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่า เศรษฐกิจยุโรปอาจจะถดถอยลงเล็กน้อย ซึ่งจะส่งผลให้ผลกำไรภาคเอกชนยุโรปลดลง 12%" ในปีหน้า อย่างไรก็ดี นายโทมัส ฮิลเดอแบรนด์ ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของบริษัทเอฟลีกล่าวว่า "สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนแปลงไป ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด หรือถ้าหากมีการทำข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน" ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญกับความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ โดยเป็นผลจากวิกฤติพลังงานหลังจากเกิดสงครามยูเครน และเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ

  • นายมาร์ค แฮฟลิเกอร์ หัวหน้าฝ่ายแผนยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นโลกของธนาคารเครดิต สวิสกล่าวว่า "นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และเราก็คาดว่าผลกำไรภาคเอกชนจะตกต่ำลง" โดยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจในยูโรโซนมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ โพลล์คาดว่า ดัชนี STOXX50E สำหรับหุ้นกลุ่มบลูชิปของยูโรโซนอาจจะดิ่งลง 7.9% จากระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว สู่ 3,650 ภายในช่วงกลางปี 2023 และดัชนีจะทรงตัวอยู่ใกล้ระดับดังกล่าวจนถึงสิ้นปี 2023 ก่อนจะปรับขึ้นในช่วงต้นปี 2024

  • นักลงทุนในตลาดเงินคาดการณ์ว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกกว่า 1.50% ก่อนสิ้นเดือนมิ.ย. 2023 ทั้งนี้ โพลล์รอยเตอร์คาดว่า ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนีอาจจะอยู่ที่ 13,209 ในช่วงกลางปี 2023 หรือเท่ากับว่าดัชนีจะดิ่งลง 9.2% จากระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว, ดัชนี CAC 40 ของตลาดหุ้นฝรั่งเศสอาจจะดิ่งลงกว่า 15% ในช่วงตั้งแต่สัปดาห์นี้จนถึงกลางปี 2023 และดัชนี FTSE MIB ของตลาดหุ้นอิตาลีอาจจะดิ่งลงกว่า 15% ในช่วงตั้งแต่สัปดาห์นี้จนถึงกลางปี 2023 ด้วยเช่นกัน ส่วนดัชนี IBEX ของตลาดหุ้นสเปนอาจจะรูดลง 17% ในช่วงตั้งแต่สัปดาห์นี้จนถึงกลางปี 2023

  • โพลล์คาดว่า ดัชนี FTSE 100 ของตลาดหุ้นอังกฤษอาจจะอยู่ที่ 6,700 ในช่วงกลางปี 2023 หรือเท่ากับว่าดัชนีจะรูดลง 10.5% จากระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว แต่ดัชนีอาจจะปิดตลาดสิ้นปี 2023 ที่ 7,373 โดยเทียบกับระดับปิดวานนี้ที่ 7,512--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้