ReutersReuters

POLL:โพลล์คาดราคาน้ำมันดิบสหรัฐมีค่าเฉลี่ยที่ 101.28 ดอลล์ในปีนี้

2 ส.ค.--รอยเตอร์

  • รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันศุกร์ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดว่าราคาน้ำมันดิบสหรัฐจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 101.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมในเดือนมิ.ย.ที่ 102.82 ดอลลาร์ และโพลล์ก็คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 105.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมในเดือนมิ.ย.ที่ 106.82 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นมา โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ราว 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้จนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ โพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบสหรัฐจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 90.94 ดอลลาร์ในปี 2023 โดยปรับลดลงจาก 92.19 ดอลลาร์ในโพลล์ครั้งก่อน และโพลล์คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 95.40 ดอลลาร์ในปี 2023 โดยปรับลดลงจาก 95.75 ดอลลาร์ในโพลล์ครั้งก่อน โดยรอยเตอร์จัดทำโพลล์นี้จากการสอบถามนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ 35 ราย

  • โพลล์คาดว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาอาจจะหยุดชะงักลง ในขณะที่ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย และจากการพุ่งขึ้นของยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในจีน โดยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมัน และบดบังความเสี่ยงด้านอุปทานน้ำมันที่เกิดจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และที่เกิดจากการข้อจำกัดด้านการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ทั้งนี้ นายเอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ของบริษัท OANDA กล่าวว่า "ตลาดได้หันเหความสนใจออกจากการขาดตอนของอุปทานน้ำมัน และมุ่งความสนใจไปยังความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ"

  • โพลล์รอยเตอร์คาดว่า อุปสงค์น้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 1.4-2.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ โดยปรับลดลงจาก 2.3-5.0 ล้านบาร์เรลต่อวันในโพลล์ครั้งก่อน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มอ่อนแอลงในช่วงที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสำคัญหลายแห่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว และเป็นผลจากมาตรการจำกัดการเดินทางในจีน โดยจีนถือเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ราคาน้ำมันจะได้รับแรงหนุนจากการที่ชาติตะวันตกดำเนินมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย และจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมัน

  • นายแมทธิว เชอร์วูด นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัท EIU ระบุว่า "เรายังคงคาดว่าราคาน้ำมันจะได้รับแรงหนุนในระยะสั้นจากสงครามยูเครนและจากภาวะตลาดตึงตัว โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจเคลื่อนตัวในช่วง 100-120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงต่อไปในปีนี้" ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐอยู่ที่ 93.75 ดอลลาร์ในวันนี้ ส่วนเบรนท์อยู่ที่ 99.81 ดอลลาร์ในวันนี้

  • กลุ่มโอเปกพลัสจะจัดการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 3 ส.ค. ในขณะที่มาตรการจำกัดการผลิตน้ำมันชุดปัจจุบันของกลุ่มโอเปกพลัสกำลังจะหมดอายุลงในเดือนก.ย. และสหรัฐได้เรียกร้องให้มีการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายซุฟโร ซาร์คาร์ นักวิเคราะห์ของธนาคารดีบีเอสกล่าวว่า "กลุ่มโอเปกและสหรัฐต้องการจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในระยะใกล้ แต่การปรับเพิ่มจะทำได้เพียงในวงจำกัด และไม่มีแนวโน้มว่าปริมาณการผลิตจะปรับขึ้นได้อย่างรวดเร็วเกินคาด"--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้