ReutersReuters

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงตามหุ้นกลุ่มพลังงาน

นิวยอร์ค--2 ส.ค.--รอยเตอร์

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน โดยตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเอ็กซอน โมบิล แต่ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทโบอิ้งซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน โดยก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่งทะยานขึ้นในเดือนก.ค.ในอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการภาคเอกชนที่แข็งแกร่งเกินคาด ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 แกว่งตัวขึ้นลงระหว่างแดนบวกและแดนลบในระหว่างช่วงการซื้อขายวันจันทร์ ในขณะที่นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุน หลังจากตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นเพิ่งทะยานขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวมากเท่ากับที่ได้เคยคาดการณ์กันไว้

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับลง 0.14% สู่ 32,798.60, ดัชนี S&P 500 ปิดร่วงลง 0.28% สู่ 4,118.63 และดัชนี Nasdaq ปิดขยับลง 0.18% สู่ 12,368.98 ในวันจันทร์ ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 เพิ่งพุ่งขึ้นราว 9.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2020 ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่งทะยานขึ้นราว 12.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการทะยานขึ้นรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2020 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P 500 ดิ่งลงมาแล้วราว 14% จากช่วงต้นปี 2022

  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานในวันจันทร์ว่า ดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานปรับลงจาก 53.0 ในเดือนมิ.ย. สู่ 52.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2020 แต่อยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 52.0 โดยดัชนีที่ระดับสูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตขยายตัว นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณบ่งชี้อีกด้วยว่า ปัญหาขีดจำกัดด้านอุปทานลดระดับลง โดยดัชนีราคาจ่ายสำหรับปัจจัยการผลิตดิ่งลงจาก 78.5 ในเดือนมิ.ย. สู่ 60.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2020 และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้ออาจจะผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว อย่างไรก็ดี ตัวเลขภาคโรงงานของเอเชียและยุโรปอยู่ในภาวะอ่อนแอในเดือนก.ค. ในขณะที่อุปสงค์ในตลาดโลกชะลอตัว และมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดในจีนส่งผลให้การผลิตชะลอตัวลงด้วย

  • ความกังวลเรื่องอุปสงค์กดดันราคาน้ำมันให้ดิ่งลงในวันจันทร์ และปัจจัยดังกล่าวส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานถือเป็นกลุ่มที่ดิ่งลงมากที่สุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยหุ้นบริษัทเอ็กซอน โมบิลดิ่งลง 2.5% อย่างไรก็ดี หุ้นบริษัทโบอิ้งพุ่งขึ้น 6.1% หลังจากรอยเตอร์รายงานข่าวว่า หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบทางการบินของสหรัฐได้อนุมัติแผนการตรวจสอบและดัดแปลงของโบอิ้ง เพื่อที่โบอิ้งจะได้เริ่มต้นจัดส่งเครื่องบินรุ่น 787 ดรีมไลเนอร์ได้อีก

  • บริษัท 283 แห่งในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการออกมาแล้ว และบริษัท 78% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 66% ทั้งนี้ นักลงทุนจะรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้ เพื่อใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ นักลงทุนก็กำลังจับตาดูข่าวที่ว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอาจจะเดินทางเยือนไต้หวันด้วย โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า นางเพโลซีอาจจะเดินทางเยือนไต้หวันในวันอังคาร ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐประกาศว่า สหรัฐจะไม่ยอมถูกข่มขู่โดยจีน หลังจากจีนระบุว่า กองทัพจีนจะไม่อยู่นิ่งเฉยถ้าหากนางเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวัน--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้