วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BDMS ประมาณการกำไร 4Q67F: เติบโตเล็กน้อย YoY
เราคาดว่า BDMS จะรายงานกำไรสุทธิใน 4Q67F ที่ 4.17 พันล้านบาท (+5.5% YoY แต่ -1.8% QoQ) อิงจากประมาณการของเรา โดยกำไรใน 4Q67F และปี 2567F คิดเป็น 26.4% และ 100.3% ของประมาณการเต็มปีที่ 1.58 หมื่นล้านบาท (+9.8% YoY) ตามลำดับ
ขณะที่การดำเนินงานของ BDMS น่าจะเติบโตต่อเนื่อง YoY จาก i) ปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ (ตะวันออกกลาง ยุโรปและจีน) ii) การบริหารค่าใช้จ่ายที่ดีด้วยสัดส่วน SG&A/รายได้คงที่อยู่ที่ 20.2% (เทียบกับ 20.5% ใน 4Q66 และ 19.6% ใน 3Q67) และ iii) ประโยชน์ทางภาษีจากการประหยัดพลังงานด้วยสิทธิประโยชน์ BOI ส่งผลให้อัตราภาษีลดต่ำลงเหลือ 19% (เทียบกับปกติ 20%) ในแง่ดีที่ BDMS ได้รับผลกระทบน้อยอย่างมีนัยสำคัญจากผู้ป่วยคูเวตที่หายไป เนื่องจากรายได้จากกลุ่มนี้ปกติอยู่ที่ประมาณ 0.7% ของรายได้รวม สำหรับผู้ป่วยในประเทศ BDMS จะได้รับแรงหนุนเชิงบวกเล็กน้อยจากโรคในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ทั้งนี้ เราคาดว่าสัดส่วนผู้ป่วยของบริษัทจะอยู่ที่ 71% จากผู้ป่วยชาวไทยและ 29% จากผู้ป่วยชาวต่างชาติ (เทียบกับ 72:28 ใน 4Q66 และ 74:26 ใน 3Q67) ทางด้านรายได้ของบริษัทน่าจะอยู่ที่ 2.66 หมื่นล้านบาท (+5.0% YoY แต่ -1.7% QoQ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 35.0% ใน 4Q67F (เทียบกับ 35.4% ใน 4Q66 และ 34.9% ใน 3Q67) การที่ margin ชะลอ YoY จะเป็นผลมาจากจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออก(dengue fever) ไข้หวัดใหญ่ (influenza) และการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ (RSV) ที่ลดลง ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นควรคงที่ QoQ จากผู้ป่วยที่มารับการรักษาประเภทที่มีความซับซ้อน (intensity) สูง
คาดการเติบโตต่อเนื่องในปี 2568F และ 2569F
สำหรับปี 2568F เราคาดรายได้ของ BDMS เติบโต 5.5% YoY อยู่ที่ 1.105 แสนล้านบาท ปัจจัยหนุนหลัก จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ (+10% YoY และ +3.5% สำหรับกลุ่มผู้ป่วยไทย) ปัจจุบัน เราคาดว่ากำไรสุทธิจะ อยู่ที่ประมาณ 1.70 หมื่นล้านบาท (+7.5% YoY) ในปี 2568F และ 1.93 หมื่นล้านบาท (+13.5% YoY) ใน ปี 2569F ส่วนประเด็นการบังคับใช้ประกันร่วมจ่าย (co-payment insurance) จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม โดยมีเงื่อนไขสำหรับโรคไม่ซับซ้อนหรือโรคทั่วไปที่มีการเคลมการนอนโรงพยาบาลมากกว่า 3 ครั้งต่อ ปี โดยที่ผู้ป่วยเหล่านี้จะต้องเข้าร่วมในโครงการร่วมจ่ายสำหรับประกันสุขภาพ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อ บริษัทจำกัด เนื่องจากคิดเป็นเพียง 1% ของรายได้รวม
Valuation & Action
เราคิดว่าประเด็นเรื่องประกันร่วมจ่ายได้กดดันราคาหุ้นมาหลายเดือนแล้ว ในขณะที่เราไม่คาดว่าจะ ได้รับผลกระทบรุนแรงจากประเด็นนี้ ดังนั้น เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2568F ที่ 39.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.0% และ TG ที่ 3.0%)
Risks
เกิดการแพร่โรคระบาด เกิดปัญหาเสถีรยภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่ และ เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่