วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CPALL ประมาณการ 4Q67F: จะเป็นไตรมาสที่ดี
คาดว่ากำไรสุทธิของ CPALL ใน 4Q67F จะออกมาแข็งแกร่งที่ 6.4 พันล้านบาท (+17% YoY, +15%QoQ) เพราะได้แรงหนุนจาก SSSG ที่เป็นบวก, อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจาก product mix ที่ดี และ ผลจากปัจจัยฤดูกาล
ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2567F อยู่ที่ 2.46 หมื่นล้านบาท (+33% YoY) สูงกว่าประมาณการกำไรเต็มปีของเรา 9%
คาดว่า same-store-sales จะเป็นบวกในไตรมาสสุดท้ายของปี
เราคาดว่ารายได้รวมบริษัทในเครือใน 4Q67F จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.49 แสนล้านบาท (+6% YoY, +6% QoQ) จากผลการดำเนินงานที่เป็นบวกของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CV) และ CP Axtra (CPAXT.BK/CPAXT TB) โดยเราคาดว่า Same-store-sales growth (SSSG) ของธุรกิจ CV จะอยู่ที่ ~4% ใน 4Q67F (จาก +3.6%ใน 4Q66 และ +3.3% ใน 3Q67) โดย SSSG ที่เป็นบวกใน 4Q67F จะเป็นเพราะ i) มาตรการกระตุ้นของรัฐบาล (โครงการแจกเงินเฟส 1) ii) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เพิ่มขึ้น 26%YoY เป็น 35.5 ล้านคนในปี 2567 และ เพิ่มขึ้น 19% YoY เป็น 9.4 ล้านคนใน 4Q67) และ iii) เป็นช่วงที่มีการเดินทางสูงตามฤดูกาล
คาดว่า margin ของสินค้าในธุรกิจ CV จะอยู่ในเกณฑ์ดี
เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นรวมบริษัทในเครือใน 4Q67F จะอยู่ที่ประมาณ 22.4% (+20bps YoY, -40bps QOQ) ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2567F อยู่ที่ 22.5% (+50bps YoY) โดย margin ของสินค้าใน ธุรกิจ CV น่าจะเพิ่มขึ้น YoY ทั้งหมวดอาหาร และ ไม่ใช่อาหาร เราคาดว่า margin ของสินค้าหมวดอาหาร จะเพิ่มขึ้นเป็น 27.2% (+50bps YoY, -10bps QoQ) เพราะอาหารพร้อมรับประทาน และ สินค้าใหม่ (ขนม ไทย) ส่วน margin ของสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารเราคาดว่าจะอยู่ที่ 29.0% (+110bps YoY, +20bps QoQ) เพราะสินค้าประเภทของใช้ส่วนตัว และ สัดส่วนยอดขายบุหรี่มีแนวโน้มจะลดลง อัตรากำไรขั้นต้นรวม บริษัทในเครือต่ำกว่า margin ของสินค้าในธุรกิจ CV เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าของ CPAXT
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567F-2569F และ derate PER จากการที่กำไรกลับมาโตระดับปกติ
เราคาดว่าภาวะตลาดจะดีต่อเนื่องใน 1Q68F จากการดำเนินมาตรการ Easy e-Receipt ทั้งนี้ เมื่อพิจารณา i) ผลประกอบการที่คาดจะออกมาดีใน 4Q67F ii) เป้าหมายเชิงบวกของ CPAXT และ iii) ผลของการที่ CPAXT เข้าไปลงทุนใน Happitat เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F ขึ้นอีก 9%, ปี 2568F ขึ้นอีก 3% และ ปี 2569F ขึ้นอีก 4% ซึ่งจะทำให้กำไรของ CPALL เพิ่มขึ้น 33% YoY และ ทำให้กำไรปกติในปี 2568F และ 2569F เพิ่มขึ้นประมาณ 7% YoY ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนถึงกำไรที่กลับมาโตในระดับปกติ เราจึง de-rate PER จาก 29.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศไทย และ ในต่างประเทศ +0.5 S.D.) เหลือ 27.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศไทย และ ในต่างประเทศ -0.5 S.D.)
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL และ ประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 79.00 บาท อิงจาก PER ที่ 27.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศไทย และ ในต่างประเทศ -0.5 S.D.)
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัว, ขยายสาขาใหม่ได้ช้ากว่าที่วางแผนเอาไว้, disruption จากเทคโนโลยีใหม่, ถูกยกเลิก เครื่องหมายการค้า 7-Eleven, ความเสี่ยงด้าน logistic