วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 16 มิถุนายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดลบติดต่อกัน 3 วัน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่ง
ตลาดทองคำ COMEX (Commodity Exchange) สัญญาส่งมอบเดือนสิงหาคม ปรับตัวลดลง $-9.5 (-0.51%) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวพุ่งขึ้น นักลงทุนยังเฝ้าติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เช้ามืดวันนี้ 01:00 (17/06/64)
เมื่อวานนี้ทองคำปรับตัวร่วงลงต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว หลังเมื่อวานมีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐเช่น
- ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) เดือนต่อเดือน พ.ค. = 0.7% ต่ำกว่าคาดการณ์ระดับ 0.2%
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต่อเดือน พ.ค. = 0.8% สูงกว่าคาดการณ์ระดับ 0.6%
- ดัชนียอดขายปลีก เดือนต่อเดือน พ.ค. = -1.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ -0.8%
ประเมินทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือ 1,857 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มที่ราคาทองคำอาจปรับฐานราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,867-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง และหากทองคำยังไม่สามารถจึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,867-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น อาจเกิดแรงเทขายทองคำออกมา ประเมินแนวรับบริเวณ 1,844-1,852 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำวันนี้
Long Position: รอซื้อทองคำหากราคาปรับลงมาแนวรับบริเวณ 1,844-1,857 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถทรงตัวได้ในบริเวณดังกล่าวให้เสี่ยงเปิด "ซื้อ" โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,867-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position: หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,867-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด "ขาย" โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับบริเวณ 1,844-1,852 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่าแนวต้านบริเวณ 1,867-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้านทองคำ กรอบรายชั่วโมง
--------------------------------------
Support: 1,852 / 1,844 / 1,829
--------------------------------------
Resistance: 1,866 / 1,873 / 1,880
แนวโน้มทองคำวันนี้
-------------------
1H = Down trend
4H = Down trend
Day = Up trend
Week = Up trend
-------------------
กองทุน SPDR
สถานะถือครองทองคำ = ไม่เปลี่ยนแปลง
ปัจจุบันถือครองทองคำทองสุทธิ = 1,044.61 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรได้ 100%
Xpowerteam
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564ทองคำเมื่อวานนี้ปิดบวกรับเงินเฟ้อที่พุ่งเกินคาด ฉุดดอลลาร์และบอนด์ร่วง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.1 (+0.37%) ปิดระดับ 1,900.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำวานนี้ช่วงแรกทูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย และมีการระบุว่า “ECB จะเข้าซื้อสินทรัพย์ตามโครงการ PEPP เพิ่มเติมในไตรมาสหน้า ในอัตราที่สูงกว่าไตรมาสแรกอย่างนีนัยยะ จึงเป็นเหตุให้ทองคำร่วงตกระหว่างวันที่ระดับ 1,870.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ที่สุดราคาทองคำก็กลับมาพุ่งทะยานอีกครั้งหลังรายงานตัวแลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายเดือน และ 0.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถึงเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2008 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.7% ปัจจัยดังกล่าวเลยเป็นแรงหนุนให้มีการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นักลงทุนเองก็ยังคงเชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้อนั้นขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว จะไม่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ออกนโยบายใดๆ ที่เป็นการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือ เร่งปรับลดวงเงิน QE ในระยะนี้ จึงเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลง จนหนุนให้ทองคำสามารถปรับขึ้นมาได้กว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในบริเวณ 1,899.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิควันนี้
เช้าวันนี้ราคาทองคำยังแกว่งตัวต่ำกว่าบริเวณ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่มากนัก หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับราคา 1,893 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นกลับไปยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกรอบ แต่หากแรงซื้อไม่พอสำหรับการกลับขึ้นยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นได้ ประเมินแนวรับที่ระดับ 1,885 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอซื้อคืนทองคำเหนือแนวรับ 1,890-1,893 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวก็ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Up trend
-----------------------------------------
4H : Up trend
-----------------------------------------
DAY : Up trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,893 / 1,885 / 1,873
---------------------------------------------------
Resistance : 1,903 / 1,916 / 1,923
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ซื้อทองคำเพิ่ม +1.45 ตัน
- เข้าซื้อขายทองคำที่ระดับราคา : 1,897.95 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,044.61 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 6 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +1.40 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2564ทองคำปิดบวกไม่มาก หลังดอลลาร์ และบอนด์ฯร่วง
ตลาดทองคำเมือวานนี้ปิดบวกเล็กน้อย 1.1 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับร่วงต่ำกว่าระดับ 1.50% เมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังเฝ้าจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯวันนี้เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้ปิดบวก 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.06% โดยปิดที่ระดับ 1,895.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ความผันผวนของทองคำก่อนรายงานสำคัญจะออกมาในช่วงเย็นวันนี้คือรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เดือน พ.ค. ของสหรัฐ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะพุ่งขึ้นถึง 4.7% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย. ถือว่าเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ก็ต้องเฝ้าจับตาดูในช่วงค่ำวันนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ทองคำวันนี้ปรับตัวร่วงก่อนหน้ารายงานตัวเลขดัชนี CPI จะออกมา แต่ก็ยังมีแนวรับ 1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ยังเป็นแนวทดสอบเช้านี้ของราคาทองคำ หากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับราคาดังกล่าวได้นั้นก็อาจมีแนวโน้มกลับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวบริเวณ EMA200 วันได้อีกครั้ง ทั้งนี้วันนี้ตลอดทั้งวันทองคำอาจได้รับความผันผวนเนื่องจากมีข่าวสำคัญทั้งข่าวเกี่ยวกับธนาคารกลางยุโรป และรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในช่วงค่ำ จึงเป็นเหตุให้ทองคำอาจมีความผันผวน สำหรับผู้เล่นใหม่แนะนำให้พักการลงทุนในช่วงเวลาดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนต่อพฤติกรรมราคาที่อาจเกิดขึ้นจากความสับสนของตลาดในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนทองคำวันนี้แนะให้รอราคาลงทดสอบแนวรับ 1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,890 - 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีแรงเทขายออกมาได้อีกครั้ง จึงควรระมัดระวังที่บริเวณแนวต้านดังกล่าวไว้ด้วย
กลยุทธ์การเทรดทองคำวันนี้
วันนี้ให้ปรับลดขนาดการลงทุนให้เหมาะสมกับเความเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดด้วย
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วสามารถทรงตัวเหนือบริเวรดังกล่าวได้นั้น ให้รอเสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,890-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากสามารถผ่านไปได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,912 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,881 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มตลาดทองคำ
--------------------------------------
1H = Down trend
4H = Up trend
DAY = Up trend
Week = Up trend
Month = Up trend
กองทุน SPDR
สถานะการถือครอง = ซื้อเพิ่มทองคำ +5.83 ตัน
ระดับการซื้อขาย = 1,888.70 ดอลลาร์
ถือครองทองคำสุทธิ = 1,043.16 ตัน
ปรับเปลี่ยนการถือครองต่อเดือน = 5 ครั้ง
ระดับการเปลี่ยนแปลงต่อเดือน = -0.05 ตัน
**การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าจะเป็นการทำกำไรได้อย่าง 100%
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 9 มิถุนายน 2564ทองคำปิดลบ $4.4 เหตุดอลลาร์แข็ง นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดราคาที่ระดับ 1,894.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำได้รับแรงกดดันจาการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังมีรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐออกมาลดลง 8.2% สู่ระดับ 6.89 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.90 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 7.50 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน มี.ค. ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งใช้อ้างอิงวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.3 ล้านตำแหน่งในเดือน เม.ย. ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธ.ค. 2543 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.18 ล้านตำแหน่ง
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อคืนเมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลักในการซื้อขายตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ รายงานออกมา ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ เพื่อนำมาประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 4.7% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆที่จะรายงานตามมาในสัปดาห์นี้ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขึ้นต้นเดือนมิ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ประเมินทางเทคนิควันนี้
เช้าวันนี้ทองคำยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีระยะของราคาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ระดับ 1,887-1,896 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังมีระดับการทรงตัวเหนือ 1,887 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจมีแนวโน้มให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1896 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,900-1,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : รอราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,887-1,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถปรับตัวทรงราคาได้เหนือบริเวณดังกล่าวอาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,896-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Up trend
-----------------------------------------
DAY : Up trend
-----------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,887 / 1,864 / 1,855
---------------------------------------------------
Resistance : 1,896 / 1,907 / 1,913
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR
- ถารถือครองทองคำ : ยังไม่มีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง
- เข้าซื้อขายทองคำที่ระดับราคา : 1,898.85 $
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,037.33 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 4 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -5.88 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
แผนการเทรดสำหรับกรอบรายวันสำหรับการเทรดกรอบรายวัน เราจะยังเห็นทิศทางราคาเคลื่อนไหวไปด้านข้างระหว่าง 1,772-1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทิศทางทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดนี้ เราอาจหาโอกาสการเทรดตามการขึ้นลงของราคาได้ตามเงื่อนไข
1. ถ้าราคาไม่สามารถผ่าน 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อราคาย่อต่ำลงมาให้หาจังหวะเปิด "Short" ใต้บริเวณดังกล่าว โดยเน้นกำไรระยะสั้น เป้าหมายทำกำไรถ้าราคาไม่หลุดต่ำกว่า 1,772 ก็ให้ปิดทำกำไรบริเวณดังกล่าวไป
2. ถ้าราคาไม่สามารถลงต่ำกว่า 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อราคาดีดตัวกลับขึ้นไปให้หาจังหวะเปิด "Long" เหนือบริเวณดังกล่าว โดยเน้นกำไรระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายทำกำไรคือเมื่อราคายังไม่สามารถผ่านบริเวณ 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ปิดสถานะทำกำไรที่บริเวณดังกล่าว
นี่เป็นแผนการเทรดกรณีที่ราคายังเคลื่อนไหวในกรอบเดิม
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 (บ่าย) ทองคำบ่ายช่วงเช้าได้ปรับตัวลดลงจากช่วงปรับฐานราคากลับมาที่ระดับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ช่วงเช้าทองคำขยับปรับตัวต่ำลักษณะการปรับฐานราคาอีกรอบ หลังดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 92.30 จุด แต่หากยังไม่สามารถปรับตัวสูงกว่านี้ได้ก็มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีกครั้ง ส่งผลให้ทองคำจะกลับขึ้นด้านบนได้อีก
ความตึงเครียดบนทะเลจีนใต้ก็ยังต้องเฝ้าจับตามองกันนาทีต่อนาที ขณะที่ IMF ออกมาเตือนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐิกิจนั้นอาจส่งผลให้เกิดควาเสี่ยงหนี้พุ่ง จึงควรระมัดระวังในการใช้มาตรการดังกล่าว ฝากฝั่งสินทรัพย์เกิดใหม่อย่าง bitcoin ที่ระยะนี้ปรับตัวพุ่งขึ้น โดยช่วงเช้า bitcoin พุ่งขึ้นถึง 2.31% เคลื่อนไหวที่ระดับ 57,859 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวสูงขึ้นอีกรอบ ทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อกันส่วนหนึ่ง จึงส่งผลให้ทองคำอาจถูกลดทอนความน่าสนใจลงไป
ทางด้านเทคนิค หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,745-1,743 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นด้านบนประเมินแนวต้านไว้ที่ระดับ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีความเป็นไปได้สูง จึงแนะนำให้หาจังหวะช่วงย่อของราคาเข้าซื้อทองคำตามแนวรับสำคัญๆ ต่างๆ สำหรับฝั่ง Short Position แนะนำให้ลดการถือครองออกบ้างบางส่วน เพื่อปรับสมดุลย์ของพอร์ตลงทุนไม่ให้เสี่ยงขาดทุนมากเกินไปในช่วงเวลานี้ เนื่องจากทองคำยังปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และบอนด์ฯ
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
Long Position : หากราคาทองคำยังไม่หลุดแนวรับ 1,745-1,743 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" เหนือบริเวณดังกล่าวเมื่อทองคำขยับตัวขึ้น โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น และพิจารณาปิดทำกำไรหากทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,743 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ฟ
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอไป
วิเคราะห์ทองคำศุกรที่ 9 เมษายน 2564ทองคำเมื่อวานนี้ปรับบวกได้อีกครั้งหลังเฟดคงเดินหน้าทำ QE ต่อไป
ใกล้เทศกาลสงกรานต์กันแล้ว แต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ก็กลับมารุนแรงอีก ก็ให้ระมัดระวังกันด้วยนะครับ สำหรับวันจันทร์และอังคารสัปดาห์หน้าผมงดการวิเคราะห์สองวันนะครับ ขอพักผ่อนสงกรานต์กับครอบครัวครับ เมื่อวานนี้ทองคำกลับมาปิดบวกได้อีกครั้งหลังจากที่เฟดได้ออกมาเดินหน้าคงทำ QE ต่อไปและไม่เป็นกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ดอลลาร์ร่วงลงมาอีกครั้ง อีกทั้งบอนด์ยีลส์ก็อยู่ช่วงปรับฐาน ทำให้ทองคำขยับขึ้นหลุดแนวต้านแข็งที่ระดับ 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้
ทองคำเมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1,737.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดที่ระดับ 1,754.51 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อ โดยระหว่างวันสามารถทำจุดสูงสุดได้ที่ระดับ 1,758.57 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อ และจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,733.04 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อ ทำให้ทองคำเมื่อวานนี้ปิดบวก 17.12 ดอลลาร์ (+0.99%) โดยมีผลปัจจัยจากการอ่อนค่าของดอลลาร์หลังเฟดออกมาประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าทำมาตรการ QE ต่อไป และยังมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับจำกัด ทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในไม่ช้านี้ และเฟดก็ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ส่งผลให้ดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักปรับตัวอ่อนค่าลง ทำให้ทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับแนวต้าน 1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ก็มาพักฐานราคาหลังมีความพยายามขึ้นเหนือ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ได้ คาดว่าทองคำช่วงเช้าของวันนี้ยังอยู่ในโซนพักฐานราคาเพื่อสะสมกำลังในการปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,758-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
ทางด้านเทคนิค หากราคาทองคำยังสามารถยืนในกรอบ 1,758-1,753 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น แนวโน้มที่ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นก็เป็นไปได้สูง โดยประเมินราคาเป้าหมายเหนือระดับ 1,765 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อ จึงเน้นให้เปิดการซื้อทองคำเมื่อเกิดการย่อตัวของราคาและให้เปิดเทรดในระยะสั้นๆ เป็นรอบๆ ไป
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
Long Position : รอราคาทองคำย่อตัวลงมาไม่ต่ำกว่า 1,750 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อ และสามารถทรงตัวเหนือระดับได้ ก็ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "BUY" ใกล้บริเวณดังกล่าว แต่ให้เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น สำหรับการพิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,760 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อได้ ก็ให้ปิดทำกำไรที่บริเวณดังกล่าว แต่ถ้าหากยังสามารถปรับขึ้นเหนือได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้าน ทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------
Support : 1,750 / 1,736 / 1,722
---------------------------------------
Resistance : 1,758 / 1,765 / 1,772
---------------------------------------
กองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
- กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลง -2.62 ตัน
- ปัจจุบันถือครองทองคำสุทธิที่ระดับ 1,026.07 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอไป
วิเคราะห์ทองคำอังคารที่ 6 เมษายน 2564 (บ่าย)ตลาดทองคำวันนี้อาจยังไม่คึกคักในช่วงภาคกลางวันวันนี้เนื่องจากตลาดหลักๆ ยังคงปิดทำการอยู่
วันนี้ตลาดทองคำยังไม่คึกคักเท่าที่ควรเนื่องจากตลาดทองคำของจีนปิดทำการในช่วงเทศกาลเชงเม้ง และตลาดออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ฮ่องกง และอังกฤษก็ยังปิดทำการตอเนื่องในวัน Easter Monday แต่ทองคำยังคงเคลื่อนไหวได้ในช่วงตลาดของอเมริกาในวันนี้
เมื่อวานตลาดทองคำไม่ค่อยเคลื่อนไหวมากนัก จนช่วงตลาดอเมริกาเปิดทำการก็ยังพอทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้มาบ้าง จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ที่เกิดการเทขายออกมาเพื่อรับกับตลาดความเสี่ยง การปรับขึ้นของทองคำวานนี้ก็ยังจำกัดเพราะตลาดความเสี่ยงเปิดรับปรับบวกกันทุกตลาด ทำให้นักลงทุนหันเข้าลงทุนในตลาดความเสี่ยงมากกว่าทองคำซึ่งอยู่ในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย วันนี้เรายังคาดการว่าการปรับขึ้นก็คงปรับขึ้นได้บ้างเนื่องจากตลาดซื้อขายล่วงหน้าของอเมริกาติดลบจากการปรับฐานราคาหลังทำจุดซื้อขายสูงสุดในค่ำคืนที่ผ่านมา วันนี้ก็อาจทำให้ทองคำขยับตัวได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งจะมีแนวต้านสำคัญต้องเฝ้าระวังคือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับ 1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแดนดังกล่าว
สำหรับดอลลาร์ยังคงปรับฐานลงต่ำประเมินลงทดสอบแนวรับ 92.53 จุด ซึ่งหากไม่หลุดแนวรับดังกล่าวก็อาจปรับฟื้นคืนตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง ก็จะส่งผลกดดันทองคำได้อีกรอบเช่นกัน ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐราคายังทรงตัวเหนือ 1.680% หากไม่หลุดลงต่ำกว่าก็มีโอกาสขยับขึ้นได้อีกเช่นกัน
ทางด้านเทคนิค หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็มีแนวโน้มจะโดนขายออกจากการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นกันอีกครั้ง ประเมินแนวรับที่ 1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เฝ้ารอซื้อคืนทองคำได้ที่บริเวณดังกล่าว หากทองคำไม่หลุดแนวรับนั้นลงไป วันนี้ถ้าทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น เราอาจได้เห็นการปรับตัวขึ้นของทองคำอีกครั้ง โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
รอซื้อคืนทองคำ (Open BUY) หากทองคำย่อลงไปบริเวณ 1,722 ดออลาร์ต่อออนซ์ โดยเน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาทำกำไรที่แนวต้านเดิม 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
สำหรับใครที่รับความเสี่ยงได้สูง หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,736 ดอลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจเสี่ยงเปิดซื้อต่อเนื่องเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ประเมินเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนทันทีถ้าราคาขยับต่ำกว่า 1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้าน ทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------
Support : 1,722/ 1,713 / 1,700
---------------------------------------
Resistance : 1,736 / 1,750 / 1,760
---------------------------------------
กองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
- กองทุน SPDR ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
- ปัจจุบันถือครองทองคำสุทธิที่ระดับ 1,032.83 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอไป
วิเคราะห์ทองคำเข้าวันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2564มาถึงเดือนแห่งความสุขของคนไทยกันอีกครั้ง แม้จะไม่สนุกเหมือนเดิมเพราะมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดนั้นยังคงอยู่ จึงฝากให้เพื่อนๆ นักลงุทนใช้สติถึงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ไว้ด้วยนะครับ เป็นไปตามคาดเมื่อคืนตลาดหุ้นร่วง ดอลลาร์อ่อน เป็นเหตุหนุนทองคำให้กลับขึ้นทดสอบ EMA200 วันในกรอบรายชั่วโมงอีกครั้ง
ตลาดทองคำเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวันก็นิ่งปรับขึ้นไม่มากนัก แต่หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกมาเปิดเผยแผนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแผนดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื้อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งระบบน้ำ, บรอดแบนด์และการผลิตของสหรัฐฯ รวมถึงเป้าหมายอื่นๆ ที่สำคัญการเพิ่มอัตราภาษีนิติบุคคลขึ้นเป็น 28% และมาตราการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้มีการชดเชยผลกำไรจะเป็นเงินทุนในการใช้จ่ายตามที่ทำเนียบขาวได้ออกมาระบุ ขณะที่จีนเองมีการเก็บภาษีนิติบุคคลเพียง 25% เท่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นร่วงและดอลลาร์อ่อนค่าลง ทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
การอ่อนค่าลงของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ก็ยังมองว่าไม่มีความรุนแรง เนื่องจากคำประกาศที่ออกมาก็ยังอยู่ในความคาดหมายของนักลงทุนก่อนหน้านี้แล้ว ก็ต้องมองกันไปวันศุกร์ที่ซึ่งมีประกาศตัวเลขสำคัญคือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ NFP (Non-farm payroll) ที่จะประกาศขึ้น ซึ่งแนวโน้มคาดการณ์ว่าตัวเลขจะสูงขี้นจากเดิม แต่จะเหนือคาดหมายมากน้อยแค่ไหน มันก็อาจกลับมาทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้อีกครั้ง จึงแนะนำนักลงทุนทองคำระมัดระวังการเปิดสถานะคำสั่งซื้อในเวลานี้ด้วย ควรเน้นการทำกำไรเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น หากเมื่อโอกาสที่ทองคำปรับตัวขึ้นมาได้บ้าง
ทางด้านเทคนิค ทองคำเช้านี้กลับมาทรงตัวเหนือ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังปรับขึ้นสูงสุดของวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,715.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินวันนี้ทองคำยังมีแรงซื้อสะสมอยู่จึงยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับขึ้นได้อีกในช่วงระยะสั้นๆ หากการปรับขึ้นครั้งนี้สามารถไปสู่ระดับ 1,723 ดอลลาร์ต่ออนซ์ได้นั้น เราก็มีโอกาสพอที่จะเห็นการปรับขึ้นของทองคำภายในสัปดาห์นี้ได้อีกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผลประกาศ NFP ในศุกร์ที่จะถึงนี้
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
การซื้อคืนทองคำนั้นแนะนำให้รอราคาย่อลงมาบริเณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หากสามารถทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าวได้อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" ได้โดยยังคงให้เน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาขายออกหรือทำกำไรหากราคาทองคำนั้นไม่สามารถปรับขึ้นเหนือระดับ 1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,700 ดอลลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้าน ทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------
Support : 1,700 / 1,691 / 1,679
---------------------------------------
Resistance : 1,714 / 1,723 / 1,737
---------------------------------------
กองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
- กองทุน SPDR คงสถานะไม่เปลี่ยนแปลง
- ปัจจุบันถือครองทองคำสุทธิที่ระดับ 1,037.50 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอไป
วิเคราะห์ทองคำพุทธที่ 31 มีนาคม 64 (เช้า)ทองคำวันอังคารยังร่วงหนักต่อเนื่องจากวันจันทร์ -$27.05 หรือ -1.58%
ตลาดทองคำเมื่อวันอังคารที่ผ่านมายังปรับตัวร่วงลงจต่อจากวันจันทร์ โดยเปิดตลาดเช้าวันอังคารที่ 1,711.92 และปิดตลาดที่ 1,684.87 ปรับตัวลดลง -27.05 หรือ -1.58% ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวพุ่งอย่างแข็งแกร่งตลอดทั้งสองวันที่ผ่านมา ทำให้กดดันราคาทองคำให้ปรับร่วงแรงกว่า 2 วัน
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐวานนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องขณะเวลา 05:30 ตามเวลาประเทศไทยดอลลาร์ปรับขึ้นสู่ระดับ 93.266 จุด +0.322 หรือ +0.35%
Bond Yield 10 Year ก็ปรับพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.774% หลังจากที่ก่อนหน้าร่วงลงไปที่ระดับ 1.589%
ทางด้านเทคนิค ทองคำถูกกดดันต่อเนื่องตลอดทั้งสองวันทำให้ราคาทองคำปรับตัวหลุดลงต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และกลับมาทรงตัวเหนือ 1,681 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก็ได้ทำจุดต่ำสุดของวันไว้ที่ 1,678.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็ไม่สามารถสร้างจุดต่ำสุดใหม่ก่อนหน้าได้ ประเมินราคาทองคำทางเทคนิคว่าจะพักฐานอยู่ที่ระดับราคา 1,681 เพื่อปรับฐานราคาอีกครั้ง หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็อาจมีการเทขายทำกำไรทองคำออกมาอีกได้เช่นกัน ทั้งนี้ต้องติดตามแผนฟื้นฟูวงเงิน 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของนายโจ ไบเดน ในวันนี้ว่าจะมีเรื่องมาตราการปรับภาษีครั้งใหญ่ของสหรัฐหรือไม่อย่างไร หากมีการปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่นี้ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นได้พอสมควร จึงมีผลเชิงบวกกันทองคำได้เช่นกัน เราจึงควรติดตามและระมัดระวังแรงผันผวนของทองคำที่อาจเกิดขึ้นในวันนี้ด้วย ช่วงกลางวันคาดว่าราคาจะทรงตัวแถว 1,687-1,681 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Sideway)
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
สำหรับแผนการเทรดทองคำวันนี้หากราคาเป็นช่วง Sideway นั้นต้องวางแผนการเทรดตามน้ำไปก่อน เนื่องจากนักลงทุนยังจับตาแผนฟื้นฟูที่จะออกมาประกาศวันนี้ โดยการเคลื่อนไหวของทองคำจะอยู่ในกรอบ 1,695-1,681 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังไม่หลุดแนวรับและแนวต้านดังกล่าว แนะนำว่าควรรู้ฟังข้อมูลที่จะประกาศแผนฟื้นฟูก่อนจะปลอดภัยกว่า
แนวรับแนวต้าน ทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------
Support : 1,679/ 1,663 / 1,642
---------------------------------------
Resistance : 1,691 / 1,700 / 1,714
---------------------------------------
กองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
- กองทุน SPDR คงสถานะไม่เปลี่ยนแปลง
- ปัจจุบันถือครองทองคำสุทธิที่ระดับ 1,037.50 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอไป
วิเคราะห์ทองคำประจำวันอังคารที่ 30 มีนาคม 2564 (ภาคเช้า)ทองคำตลาดวันจันทร์ที่ผ่านมาปิดร่วงกว่า -$20.13 (-1.16%)
ตลาดทองคำวันจันทร์ปิดร่วงอีกวันหลังดอลลาร์แข็งค่า และ Bond Yield 10 Year พุ่งทะลุ 1.717% หลังลงต่ำระดับ 1.634% การกลับขึ้นมาครั้งนี้ทำให้กดดันราคาทองคำให้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.705.69 ก่อนจะปรับขึ้นมาทรงตัวบริเวณ 1,715-1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนเทขายทองคำเพื่อเพิ่มหลักประกันเงินในการเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ยังผลให้ทองคำยังคงมีทิศทางในการปรับตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้นักลงทุนก็ยังเฝ้าติดตามการแถลงการแผนการลงทุนด้านสาธารณูปโภคของประธานา
ธิบดีโจ ไบเดน ในวันพุธนี้ด้วย
ทางด้านเทคนิค ทองคำยังเคลื่อนไหวในลักษณะการพักฐานราคา โดยยังทรงตัวเหนือบริเวณ 1,708 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าหากดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่ทองคำจะถูกกดดันลงใกล้ 1,700 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และเมื่อราคาทองคำอยู่ใกล้บริเวณ 1,708-1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มักจะมีแรงเข้าซื้อทองคำเพราะเนื่องจากราคาทองคำอยู่ในระดับที่น่าสนใจที่เข้าทำกำไรระยะสั้นตามรอบปรับฐานราคา จึงแนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังการเข้าซื้อทองคำในเวลานี้ด้วย เพราะเมื่อราคาปรับขึ้นแล้วก็มักจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาทุกครั้ง
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
Long Position : เมื่อราคาปรับตัวลงมาไม่หลุด 1,702 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้รอจังหวะเข้าซื้อที่บริเวณดังกล่าว หากราคาทองคำทรงตัวได้อย่างชัดเจน โดยให้เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หากยังสามารถหลุดขึ้นไปได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,728-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : เมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,726-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ผ่าน ก็ให้รอจังหวะเข้าเปิดคำสั่ง "ขาย" ที่บริเวณนั้น หากราคาทองคำปรับตัวต่ำลงจากแนวต้านดังกล่าวได้อย่างชัดเจน โดยเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหรือซื้อคืนหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,718 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าวก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,702 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้าน ทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------
Support : 1,708 / 1,700 / 1,695
---------------------------------------
Resistance : 1,718 / 1,726 / 1,736
---------------------------------------
กองทุน SPDR
---------------------------------------------------------------
- กองทุน SPDR ซื้อเพิ่มทองคำ 0.88 ตัน
- ปัจจุบันถือครองทองคำสุทธิที่ระดับ 1,037.50 ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีผลกำไรที่ถูกต้อง 100% เสมอไป
วิเคราะห์ทองคำรอบเย็น 26 มีนาคม 2564 🙏🏼ทองคำยังอ่อนแรงช่วงวันนี้ แม้จะรีบาวน์กลับมากลได้บ้าง แต่แรงซื้อยังจำกัดพอสมควร
---------------------------------------------------
ทองคำตลอดช่วงกลางวันนี้ปรับตัวลดลงต่ำจนหลุดแนวรับ 1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยกลับไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบวันที่บริเวณ 1,723.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการอ่อนค่าของทองคำยังเป็นผลจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ แม้ช่วงบ่ายจะมีการปรับตัวลงบ้าง แต่ทิศทางของดอลลาร์นั้นก็ยังสะท้อนถึงแรงซื้อที่ชัดเจน หากราคาดอลลาร์ยังยืนเหนือ 92.60 จุดได้นั้น แนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อก็เป็นไปได้สูง
ประเมินทางเทคนิค ทองคำช่วงเย็นวันนี้อาจมีปรับตัวขึ้นได้ระยะสั้น จากการปรับฐานของดอลลาร์ แต่ก็ยังมองเพียงการปรับขึ้นที่มีข้อจำกัดอยู่พอสมควร โดยหากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะมีแรงขายสลับกลับมากดดันให้ทองคำปรับร่วงลงได้อีกเช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
------------------------------------
แนะนำให้เน้นฝั่ง Sell เป็นหลักวันนี้ โดยหาจังหวะที่ราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ โดยปรับแผนดังนี้
Short : เมื่อราคาปรับขึ้นทดสอบแนว 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถขึ้นยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ขาย" ที่บริเวณดังกล่าว โดยพิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,718 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้ (ตัดขาดทันหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
จังหวะการซื้อคืนนั้นบริเวณที่เหมาะและน่าสนใจหากราคาทองคำย่อลงไปบริเวณ 1,718-1,708 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทรงตัวตัวบริเวณนี้ได้นั้น โอกาสที่จะปรับตัวขึ้นก็มีความเป็นไปได้ จึงเป็นโอกาสที่ดีหากจะเข้าซื้อบริเวณของถูกกันอีกครั้ง แต่ก็ยังเป็นการเข้าลงทุนเก็งกำไรกันระยะสั้นเท่านั้นนะครับ จังหวะนี้ทองคำยังไม่มีทิศทางให้ถือได้ยาวๆ
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564ดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทำทองปิดลบ $8.1 เมื่อคืนนี้
---------------------------------------------------
ทองคำเมื่อวานนี้ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ แม้ตลอดช่วงเช้าจะเห็นว่าทองวิ่งขึ้นคู่ไปกับดอลลาร์ ทำเอามือใหม่หลายคนงงกันไปทำไมเพราะอะไร จริงแล้วเรื่องแบบนี้มีอยู่บ่อย เพราะสินทรัพย์ทั้งคู่จัดเป็นประเภทสินทรัพย์ปลอดภัยนั่นละ จากการแข็งค่าของดอลลาร์ก็ยังกลับมากดดันทองคำให้เสียช่วงบวกไปเมื่อวาน หลังข้อมูลแรงงาสนที่ออกมาดีเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนหันเข้าหาดอลลาร์ และเทขายทองคำออกมา
วานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยจำนวนตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 684,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่ตั้งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 735,000 ราย สะท้อนถึงภาวะการจ้างงานของสหรัฐที่เริ่มกลับมาดีขึ้นตามลำดับ แต่นั้นก็ยังไม่สามารถสรุปได้ในระยะยาวว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะกลับมาฟื้นจริงได้หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าขณะนี้ในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐนั้นล้วนแล้วมาจากการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบผ่านโครงการต่างๆ ที่ต้องการผยุงเศรษฐกิจภายในประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อใดที่โครงการดังกล่าวสิ้นสุดลง หรือไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ ถึงตรงนั้นก็จะเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องยอมรับและเผชิญกับความเป็นจริงของระบบเศรษฐกิจที่มันควรจะเป็นอยู่ขณะนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี วานนี้ก็ลดความร้อนแรงลงต่อเนื่องหลังวานนี้ได้ลดระดับลงสู่ 1.589% ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่ก็ยังเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.646-1.614% ทำให้มีผลกดดันทองคำได้อีกครั้งหากจะประเมินช่วงเช้าวันนี้หากย่อตัวลงมาไม่หลุด 1.614% ก็มีแนวโน้มจะกลับขึ้นไปที่บริเวณ 1.659% ได้อีกครั้ง
ประเมินทางเทคนิค ทองคำวันนี้ยังอยู่ในโซนแนวรับ ซึ่งยังต้องรอปัจจัยเสริมใหม่ๆ เข้ามาช่วยหนุนให้ราคาทองคำกลับขึ้นมาได้นั้นก็ต้องรอตัวเลขเศรษฐกิจที่กำลังจะเปิดเผยมาเรื่อยๆ สำหรับทองคำช่วงเช้าเราประเมินว่าจะยังคงปรับตัวออกด้านข้างเพื่อรอสะสมกำลังกันใหม่ ประเมินว่าจะอยู่ในกรอบ 1,732-1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กรอบรายวันก็ยังปรับตัวลงต่อจากการที่ถูกปฏิเสธราคาบริเวณ EMA20 วัน แต่ในส่วนของ RSI รายวันนั้นเรายังมองเห็นพื้นที่ด้านบนยังเหลือระยะพอสมควร ซึ่งถ้าหากมีปัจจัยใหม่เข้ามา ก็อาจทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นเหนือเส้น EMA20 วันในกรอบรายวัน เพียงแต่รอบนี้อาจจะมีย่อลงก่อน ซึ่งถ้าย่อลงไม่หลุด 1,726-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีลุ้นกันต่อว่าจะปรับขึ้นไปได้อีกหรือไม่ เว้นแต่มันย่อจนหลุด 1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากตรงนี้ขอบอกเลยว่าลงยาวๆ ไป
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ 1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" เหนือบริเวณดังกล่าว โดยพิจารณาปิดทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถยืนเหนือได้ (ตัดขาดทุนหากหลุดต่ำกว่า 1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ขาย" ใต้บริเวณดังกล่าว โดยพิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำปรับย่อลงมาไม่สามารถหลุดต่ำกว่า 1,721 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดลงไปได้ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนไปก่อน โดยประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,718 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้านกรอบรายชั่วโมง
------------------------------------
Support : 1,726 / 1,718 / 1,708
------------------------------------
Resistance : 1,740 / 1,746 / 1,755
------------------------------------
กองทุน SPDR
- ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
- ปัจจุบันถือครองสุทธิ 1,043.03 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสฯที่ 25 มีนาคม 2564 ภาคเช้าทองคำระยะนี้เราจะสังเกตได้ว่าราคาอยู่ช่วงระหว่าง 1,680-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งการที่ทองคำยังไม่สามารถเคลื่อนไหวทางใดทางหนึ่งชัดเจนได้นั้น เป็นเพราะทองคำยังคงโดนปัจจัยทั้งด้านบวกและลบเข้ามาในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ทิศทางทองคำยังไม่สามารถสร้างผลกำไรกับนักลงทุนสายกลางและยาวได้ สิ่งที่เราทำได้เวลานี้คือเล่นตามน้ำ ไล่ตามคลื่นเท่านั้น เทคนิคคอลต่างๆ ก็ต้องเอามาใช้กันอย่างระมัดระวังมากขึ้น เช้าวางแผนเรียบร้อย บ่ายข่าวกระทบมาแรงฉีกแผนทิ้งเสียงั้น เรียกได้ว่าทำการตรงหน้า ว่ากันตรงก้าวเท่านั้นเวลานี้
ทองคำวานนี้กลับมาปิดบวกได้อีกครั้งหลังร่วงลงมากว่า 2 วัน โดยปิดที่ระดับ 1,733.94 +7.25 (+0.42%) ซึ่งก็มักจะเป็นแบบนี้เวลาที่ทองคำเคลื่อนตัวไปในบริเวณที่มีราคาถูก ก็จะถูกเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น แม้การปรับขึ้นจะเห็นได้บ้าง แต่ก็เป็นการปรับขึ้นในทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งหากเรามองกรอบรายวัน เรายังจะมองเห็นเพียงการขึ้นทดสอบแนว EMA20 วันเท่านั้น แถมยังโดยปฏิเสธราคาอีกต่างหาก และยังตอกย้ำถึงการเคลื่อนไหวทองคำว่าอยู่ในช่วงที่มีการซื้อมากเกินไปแล้ว (Overbought) ใน Stochastic Period 14 เราจะเห็นว่าเส้นเร่ิมคล้อยลงจากจุด Level 80 ลงมาบ้างแล้ว สอดคล้องกับกราฟที่โดนปฏิเสธราคาที่บริเวณ EMA20 ด้วย ทำให้มั่นใจว่าทิศทางทองคำคงจะปรับตัวลงกันอีกรอบ ยิ่งตอกย้ำการแข็งค่าของดอลลาร์เวลานี้แล้วด้วยที่พุ่งทยานทำจุดสูงสุดใหม่อย่างเมามัน ก็คงเป็นแรงกดดันทองคำได้ตลอดทั้งอาทิตย์หรือไม่
สำหรับในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ดูแล้วการเข้าฝั่ง Short จะดูได้เปรียบกว่าฝั่ง Long เวลาที่เทรนด์มันลงไปจะมีเวลายาวนานกว่าเทรนด์ที่มันขึ้น จึงอยากบอกว่าความได้เปรียบของฝั่งซื้อมันจะอยู่ที่บริเวณ 1,680 ซึ่งมองว่าแถวๆ นั้นถ้าลงไปจะให้มองผ่านไปก็คงกะไรอยู่เช่นกัน สำหรับฝั่งขายความได้เปรียบก็จะอยู่ที่บริเวณ 1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังโดนปฏิเสธราคาเรื่อยๆ ก็คงต้องมองการขายเอาไว้จะดีกว่าครับ
ดอลลาร์เมื่อวานก็ปิดบวกที่ 92.528 จุดหรือ +0.192 (+0.21%) ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 เดือนที่ระดับ 92.611 จุด จึงยังเป็นแรงกดดันราคาทองอยู่ในเวลานี้ ดอลลาร์กรอบรายวันขยับขึ้นทดสอบ EMA200 วันก็ต้องดูกันว่าจะผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ หากเกิดการปฏิเสธกันบริเวณนี้ ก็จะเป็นผลดีที่ทองคำจะได้ปรับตัวขึ้นมาอีกรอบในระยะสั้น เน้นย้ำว่าในระยะสั้น
ในฝั่งของ Bond Yield 10 Year ก็เริ่มลดความร้อนแรงลงไปหลังจากที่ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1.754% และเมื่อถ้อยแถลงจากปากของปธ.เฟด และรัฐมนตรีคลัง เราเลยเห็นการลดลงของ Bond ได้เวลานี้ แต่เมื่อมองทางเทคนิค Bond ก็ยังคงปรับตัวลดลงเพียงระดับการปรับฐานซึ่งจะทดสอบแนว EMA20 วัน และ RSI, STO ก็ยังมีพืนที่ให้กลับขึ้นไปด้านบนอีกพอสมควร ก็ต้องระวังแรงกดดันเพิ่มเติมตรงนี้ด้วย เว้นแต่มันจะร่วงหลุด 1.50% ตรงนี้เราอาจเห็นการร่วงของ Bond ในระยะสั้นๆ ได้ครับ
ประเมินทางเทคนิค ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดระหว่าง 1,736-1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งแนวโน้มตลอดภาคกลางวันเราอาจเห็นการเคลื่อนไหวออกด้านข้าง (Sideway) หากราคาทองคำยังทรงตัวได้แข็งแกร่งเหนือ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง แต่หากไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าวมันก็จะเป็นจุดขายทำกำไรออกมาของนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรจากระดับ 1,728 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้อีกครั้งได้เช่นกัน แนะนำว่าวันนี้ให้เล่นตามเทรนด์ไปก่อน เว้นแต่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาอีกครั้ง วันนี้ติดตามประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวถึงนโยบายการเงินของยุโรปเวลา 16:30 ตามเวลาประเทศไทย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ของสหรัฐก็มี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ เวลา 19:30 ตามเวลาประเทศไทย
กลยุทธ์การเทรดทองคำ
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ 1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" เหนือบริเวณดังกล่าว โดยพิจารณาปิดทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถยืนเหนือได้ (ตัดขาดทุนหากหลุดต่ำกว่า 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นบริเวณ 1,736-1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง "ขาย" ในบริเวณแนวต้านที่โดนปฏิเสธราคาลงมา โดยเน้นการลงทุนในกรอบระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวรับ 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้านกรอบรายชั่วโมง
------------------------------------
Support : 1,726 / 1,718 / 1,708
------------------------------------
Resistance : 1,740 / 1,746 / 1,755
------------------------------------
กองทุน SPDR ลดการถือครอง -2.33 ตัน ปัจจุบันถือครองสุทธิ 1,043.03 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำรอบเย็นพุธที่ 24 มีนาคม 2564ทองคำช่วงเช้าวันนี้ร่วงลงแตะระดับ 1,724 (1,723.87)ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย
---------------------------------------------------
ราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่บริเวณ 1,724 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนฟื้นกลับมาได้เพียงเล็กน้อย แต่ยังเป็นการกลับมาในระดับจำกัด ซึ่งยังมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเมื่อราคาปรับตัวขึ้น ราคาทองคำร่วงต่อเนื่องในรอบ 4 วันจากเมื่อคืนหลัง Jerome Powell ได้ตอบคำถามของนายแพริค แมคเฮนรี เกี่ยวกับความเห็นในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งนาย Jerome Powell มีความเห็นดังกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อเป็นเพียงการปรับขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งจะไม่รุนแรงและไม่ก่อให้เกิดในระยะยาว
การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ก็ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในระหว่างวันนั้น สามารถขึ้นไปทดสอบที่ระดับสูงสุด 92.606 จุด ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจในตัวของดอลลาร์และขายทำกำไรในฝั่งเงินสกุลยูโร ที่ยังคงไม่สดในมากนัก จากเรื่องการระบาดรอบที่ 3 ในยุโรป ผลจากการที่มีการฉีดวัคซีนล้าช้า จะมีผลทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของยุโรปเงินเฟ้อได้ในอนาคต
ประเมินทางเทคนิค ทองคำยังรักษาระดับได้ที่เหนือ 1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังสามารถรับราคาทองคำไว้ได้ต่อเนื่อง ก็มีแนวโน้มว่าจะขยับตัวขึ้นได้บ้าง ภายใต้ภาวะกดดันของการแข็งค่าสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้ยังมองเห็นการปรับขึ้นในระดับจำกัดอยู่ ซึ่งจะยังไม่แนะนำให้เน้นฝั่ง Long ในสถานะการณ์เช่นนี้ ควรรอประเมินถึงความแข็งค่าอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์อย่างใกล้ชิด ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ชะลอตัวลงได้บ้างแล้วเวลานี้
กลยุทธ์การเทรดทองคำเย็นวันนี้
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำย่อลงมาบริเวณแนวรับ 1,726-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสามารถทรงตัวที่แนวรับบริเวณดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง "ซื้อ" ในบริเวณแนวรับที่ว่า โดยพิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับร่วงต่ำกว่า 1,718 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,732-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือได้ อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง "ขาย" โดยเน้นเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถหลุดผ่านแนวรับ 1,718 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำรอบเย็นถึงค่ำ 23 มีนาคม 2564ทองคำรอบเย็นถึงค่ำวันนี้ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาในช่วงเช้าร่วงลงมาทดสอบแนว EMA200 ก่อนปรับตัวขึ้นเหนืออีกครั้ง
ราคาทองคำช่วงเช้าที่ผ่านมายังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ซึ่งแรงซื้อที่เข้ามาในช่วงเช้าวันนี้เกิดจากความตึงเครียดจากชาติพันธมิตรกับสหรัฐได้ออกมาตรการคว่ำบาตรพลเมืองและหน่วยงานบางแห่งของจีน ขณะที่จีนเองก็ออกมาตอบโต้ด้วยการออกมาตรการคว่ำบาตรต่อชาติตะวันตกทันที ซึ่งถือว่าเป็น Geopolitical Risk ที่อาจช่วยกลับมาหนุนราคาทองคำในระยะต่อไปได้เป็นอย่างดี แต่การปรับขึ้นที่จำกัดของทองคำนั้นยังผลจากนักลงทุนยังเฝ้าจับตามองนายเจอโรม พาวเวล และนางเจเน็ต เยลเลน ที่จะกล่าวแถลงต่อคณะกรรมธิการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เกี่ยวกับมุมมองทางด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะชี้ทิศทางนโยบายการเงินการคลังของสหรัฐฯ ต่อไป ก็ต้องเฝ้าติดตามกันในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำเย็นนี้ยังสามารถยืนเหนือระดับราคา 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ราคาทองคำก็ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นในรอบได้ ซึ่งแนวต้านบริเวณ 1,742-1744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังเป็นแนวต้านที่รับราคาทองคำไว้อยู่ต่อเนื่องกว่า 3 วันแล้ว
กลยุทธ์การเทรดทองคำเช้านี้
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาระดับ 1,728-1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิดคำสั่งซื้อที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านขึ้นไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,749-1,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำรอบเย็นถึงค่ำ 22 มีนาคม 2564ทองคำรอบเย็นถึงค่ำวันนี้ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาในช่วงเช้าร่วงหลุดแนวรับต่างๆ ลงมา
ราคาทองคำช่วงเช้าที่ผ่านมาร่วงจากการถูกแรงกดดันของสกุลเงินดอลลาร์อีกครั้ง
แต่ก็กลับมาเคลื่อนไหวที่แถวราคาเดิมของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การกลับขึ้นของทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด เพราะนักลงทุนยังเฝ้าระมัดระวังเรื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้พุ่งทะยานทำระดับสูงสุดบริเวณ 1.74% ถือว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนทีเดียว แต่ก็ยังมีแนวโน้มว่าแรงซื้อพันธบัตรจากสถาบันการเงินอาจ "ลดลง" ในเร็วๆ นี้จากการที่เฟดออกมาประกาศไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะหมดอายุลงในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ทำให้มองว่าอาจมีการเทขายพันธบัตรที่สถาบันการเงินถือครองอยู่ออกมาเพื่อรักษาระดับ SLR เลยมีผลให้ Bond Yield 10 year อาจปรับตัวสูงขึ้นต่อไป ก็จะเป็นผลปัจจัยกดดันราคาทองคำ ช่วงเช้าวันนี้เรายังเห็นการชะลอตัวขึ้นของ Bond yield 10 year ลงได้บ้าง แต่ทองก็กลับโดนดัชนีดอลลาร์เข้ามากดดันอีกทางหนึ่ง ทำให้ระยะการฟื้นของทองคำยังเป็นไปได้อย่างจำกัด
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำเย็นนี้ยังสามารถรักษาระดับทรงตัวเหนือบริเวณ 1,728-1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ก็ยังมีแนวโน้มว่าทองคำจะกลับฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้การปรับขึ้นที่ค่อนข้างจำกัด ประกอบกับการแข็งค่าของสกุงเงินดอลลาร์และการปรับขึ้นของ bond yield 10 year ที่ยังมองเป็นเพียงการปรับฐานอีกรอบที่ระดับ 1.674% หาก Bond Yield 10 Year ยังไม่หลุดระดับดังกล่าวก็ยังเป็นไปได้ว่าจะปรับตัวขึ้นอีกได้ในช่วงคำวันนี้ จึงยังเป็นปัจจัยกดดันทองคำได้อีกครั้ง จึงให้ระมัดระวังแรงซื้อเอาไว้ก่อน หากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือ 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ประเมินไว้ก่อนว่าทองคำยังมีโอกาสอ่อนตัวลงได้ ซึ่งยังมีแนวรับสำคัญถัดไปที่บริเวณ 1,719-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การเทรดทองคำเช้านี้
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังไม่หลุดแนวรับ 1,728-1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่งซื้อเหนือบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น ปิดทำกำไรหากราคาไม่สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านบริเวณ 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดจากระดับ 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ เมื่อราคาทองคำปรับตัวลงมาให้เสี่ยงเปิดคำสั่งขาย ใต้บริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรบริเวณ 1,728-1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำยังสามารถปรับตัวต่ำลงไปได้อีก ให้ชะลอการปิดทำกำไรออกไปก่อน โดยประเมินแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,719-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำขยับขึ้นเหนือระดับ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
การลงทุนฝั่ง BUY ให้ปรับลดขนาดการลงทุนไปก่อนในวันนี้ เนื่องจากแรงกดดันของทองคำค่อนข้างเข้ามาพอสมควร จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จึงควรมองหาโอกาสจากฝั่ง Sell เอาไว้ก่อน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564ทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมา (เช้าวันเสาร์) ปรับตัวขึ้น ขานรับบอนด์ฯ ชะลอตัว
ราคาทองคำฟิวเจอร์เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปอีก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. บวก 3.30 ดอลลาร์หรือ 0.19% สู่ระดับ 1,735.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ Bond Yield 10 Year ได้ชะลอตัวลงหลังพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.74% แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน สำหรับทองคำวันนี้ตลาดเอเซีย ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดลดลงแตะ 16,110 HKD/tael
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำยังรักษาระดับเชิงบวกบริเวณ 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์เอาไว้ได้ แนวโน้มที่ทองคำจะปรับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ซึ่งถ้าวันนี้แรงซื้อยังมีเข้ามาเด่นชัดจะทำให้ทิศทางของทองคำยังปรับขึ้นได้อีก แต่ทั้งนี้หากเราพิจารณาจาก Bond Yield 10 Year หากยังปรับฐานไม่หลุดต่ำกว่า 1.674% ก็ยังจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกเช่นกัน หากเป็นเช่นนี้จะทำให้ทองคำจะโดนกดดันได้อีกรอบ ประเมินอัตราผลตอบแทนฯ วันนี้เรายังเห็นการอ่อนแรงของ Bond อยู่ โดยให้เฝ้าพิจารณาแนวรับรับสองแนวคือ 1.674% และ 1.646%
กลยุทธ์การเทรดทองคำเช้านี้
-----------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังไม่หลุดแนวรับ 1,734-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นโอกาสให้เปิดเสี่ยงคำสั่งซื้อได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยให้เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
-----------------------------------------
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,742-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่งขายที่บริเวณดัวกล่าว เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าบริเวณแนวรับ 1,730-1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านลงไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,719-1,723 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้านกรอบรายชั่วโมง
-------------------------------------------
Support : 1,732 / 1,725 / 1,717
-------------------------------------------
Resistance : 1,737 / 1,740 / 1,755
-------------------------------------------
กองทุน SPDR
-------------------------------------------
สถานะการถือครอง | ซื้อทองเพิ่ม +3.5 ตัน
-------------------------------------------
ปัจจุบันถือครองสุทธิ | 1,051.78 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564 ⬇️ทองคำเมื่อวานนี้ร่วงแรงหลุด 1,720 ดอลลาร์ เหตุ Bond Yield และ Dollar แข็งทุบตลาด
ราคาทองคำฟิวเจอร์เมื่อวานนี้หลุดต่ำกว่า 1,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ และการปรับตัวพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เกิดการกดดันทองคำกลับมาอีกครั้ง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ปรับพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.74% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ทั้งนี้นักวิเคราะห์กล่าวว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐนั้นจะดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตร นอกจากนี้ดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นจะเป็นสาเหตุให้ทองคำถูกกดดันได้อีกด้วย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นภายหลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดออกมายืนยันว่า เฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นายพาวเวลยังระบุอีกว่า เฟดต้องการที่จะเห็นเงินเฟ้ออยู่เหนือเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ขณะที่ตลาดแรงงานปรับตัวขึ้น ก่อนที่เฟดเองจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือลดวงเงิน QE
แม้ทองคำจะถูกกดดันอย่างหนัก แต่เมื่อช่วงค่ำของวานนี้ก็สามารถ Rebound กลับขึ้นมาได้อีกครั้งแตะระดับ 1,737 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำยังรักษาระดับเชิงบวกบริเวณ 1,725-1,732 เอาไว้ได้ แนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,740 ก็อาจมีอีกครั้ง ทั้งนี้การปรับขึ้นทองคำยังมีระดับจำกัด เมื่อทองคำปรับตัวขึ้นก็จะมีการขายทำกำไรออกมาเป็นระยะๆ เนื่องจากหากเราพิจารณาในกรอบเทรนด์ใหญ่รายวันนั้น เราจะเห็นการปฏิเสธราคาที่บริเวณแนวเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน (EMA20) จึงยังไม่เห็นการปรับขึ้นของราคาทองคำในระยะยาวได้ การปรับขึ้นของทองคำตอนนี้เป็นเพียงการปรับขึ้นระยะสั้น ตามการปรับฐานของราคาเท่านั้น
แนะนำว่าวันนี้ให้ลดขนาดการลงทุนฝั่ง BUY โดยปรับลดคำสั่งซื้อเมื่อราคาปรับขึ้นมาตามแนวรับสำคัญๆ ต่างๆ
กลยุทธ์การเทรดทองคำเช้านี้
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำปรับตัวย่อลงมาทรงตัวเหนือบริเวณ 1,728-1,732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเสี่ยงเปิด Long ในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านเหนือแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,737-1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ อาจเสี่ยงเปิด short ในบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถหลุดต่ำกว่า 1,728-1,725 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับแนวต้านกรอบรายชั่วโมง
----------------------------------
Support : 1,725 / 1,717 / 1,708
----------------------------------
Resistance : 1,737 / 1,740 / 1,755
----------------------------------
กองทุน SPDR
----------------------------------
สถานะการถือครอง | คงที่ 🙌🏻
----------------------------------
ปัจจุบันถือครองสุทธิ | 1,048.28 ตัน
แนวโน้มทองคำในกรอบเวลาต่างๆ
Time Frame 1H = ⬆️
Time Frame 4H = ⬇️
Time Frame DAY = ⬇️
Time Frame Week = ⬆️
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำรอบเย็น 18 มีนาคม 2564ทองคำเย็นวันนี้สูญเสียช่วงบวกระหว่างวัน ปรับตัวต่ำ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลัง Bond Yield 10 Year พุ่งทะลุ 1.7% ขานรับเฟดคงอัตราดอกเบี้ยยาวตอกย้ำทำ QE ต่อเนื่อง
ตลอดช่วงเช้าทองคำยังผันผวนในกรอบแคบ รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังผลประชุมของ FED เมื่อคืนยังคงจุดยืนนโยบายการเงินผ่อนคลาย (Dovish) อัตราดอกเบี้ยระดับ 0.00-0.25% ต่อไปจนถึงปี 2023 และยังคงเข้าซื้อคืนพันธบัตรต่อเนื่อง QE จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ทำให้ดอลลาร์ปรับร่วงลงอย่างหนักช่วงเช้าวันนี้ ทองคำได้ปรับแรงหนุนทะลุแนวต้าน 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ โดยสามารถทำจุดสูงสุดได้ที่ 1,755.39 ก่อนจะสูญเสียช่วงบวกร่วงลงมาบริเวณแนวรับ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การปรับลงต่ำของทองคำมาจากผลกระทบที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นทำ New High ที่ระดับ 1.7% ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.6% การพุ่งขึ้นดังกล่าวเกิดจากภาพหลังที่ FED ออกมาประกาศว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำ และทำ QE ต่อเนื่อง เลยเป็นปัจจัยกดดันทองคำอย่างหนักในช่วงบ่ายของวันนี้
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวบริเวณแนวรับ 1,731-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง แนวบริเวณดังกล่าวเป็นแนวของ EMA200 กรอบรายชั่วโมง สำหรับในกรอบรายวัน ยังเห็นการทดสอบของราคาที่แนว EMA20 และแล้วย่อตัวต่ำลงมาจากบริเวณดังกล่าว ก็ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อย่างต่อเนื่องคู่ขนานกับการเทรดทองคำ
กลยุทธ์การเทรดทองคำเช้านี้
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังยืนเหนือบริเวณ 1,731-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด Long ที่บริเวณดังกล่าวอีกครั้ง พิจารณาตัดปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : หากราคาทองคำยังเคลื่อนไหวขึ้นอีก และไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น เสี่ยงเปิด Short ใต้แนวต้านบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 17 มีนาคม 2564ทองคำวานนี้ปิดบวก $1.7 ได้อีกครั้ง รับอัตราผลตอบแทนฯร่วง และจับตาประชุมเฟดวันนี้
ทองคำตลาดนิวยอร์คปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้รับปัจจัยจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ร่วงหลุดจากระดับ 1.6% ขณะที่วันนี้นักลงทุนยังเฝ้าติดตามจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาของสหรัฐ
สัญญาทองคำสามารถปิดบวกได้เป็นเวลา 2 วันติดต่อกันแล้ว ซึ่งมาจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรช่วยให้นักลงทุนคลายกังวล หลัวจากที่ก่อนหน้านี้ตลอดทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกลดลง 3.0% ในเดือน ก.พ. หลังจากพุ่งขึ้น 7.6% ในเดือน ม.ค. ทั้งนี้ การร่วงลงของยอดค้าปลีกในเดือน ก.พ. ได้รับผลกระทบจากภาวะหนาวจัดในสหรัฐ
วันนี้นักลงทุนยังให้ความสนใจและติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ประเมินทางเทคนิค ทองคำในช่วงเช้าวันนี้ยังทรงตัวเหนือ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งอาจปรับตัวขึ้นอีกรอบในกรอบจำกัดตามปริมาณแรงซื้อที่ไม่มากนัก โดยหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,740-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มทองคำอาจปรับตัวต่ำลงได้อีกรอบ โดยหากราคาทองย่อตัวลงมาไม่หลุดจาก 1,729-1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับราคาขึ้นได้อีกครั้ง แต่หากราคาปรับลดลงต่ำกว่าแนวดังกล่าว ประเมินแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,725 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตอนนี้ทางเทคนิคเราจะพบเจอกับการเกิด Divergenc ในอินดิเคเตอร์สองตัวคือ RSI Period 14 และ MACD ที่สร้างสัญญาณ Divergenc กรอบรายชั่วโมงขึ้น เป็นจึงเป็นสัญญาณที่อาจจะมีการกลับทิศราคาของทองคำอีกครั้ง
สอดคล้องกับกรอบรายวัน เราก็จะเห็นว่าราคาทองคำถูกปฏิเสธราคาแถวๆ EMA20 หรือใกล้ 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 3 วันติดต่อกันแล้ว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังเชื่อว่าตลาดทองคำยังอยู่ในช่วงขาลงอยู่ ซึ่งเราก็ต้องติดตามผลประชุมของเฟดวันนี้ว่าจะเปลี่ยนทิศทางของทองคำได้หรือไม่
กลยุทธ์การเทรดทองคำเช้านี้
------------------------------------
Long Position : หากราคาทองคำยังทรงตัวเหนือ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจเสี่ยงเปิด Long ที่บริเวณดังกล่าว โดยพิจารณาทำกำไรหรือขายออกหากราคาทองคำยังไม่สามารถปรับขึ้นเหนือ 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากทองคำหลุดแนวรับ 1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
------------------------------------
Short Position : หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,736-1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ เปิดเสี่ยง short ที่บริเวณดังกล่าว โดยเก็งกำไรระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหรือซื้อคืนทองคำอีกทีที่บริเวณ 1,731-1,729 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเหนือ 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ)
------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
------------------------------------
Support : 1,731/ 1,725 / 1,715
------------------------------------
Resistance : 1,740 / 1,752 / 1,760
------------------------------------
กองทุน SPDR ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองสุทธิ 1,050.32 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในอนาคต ไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรได้ถูกต้อง 100%