XAUUSD วนลูป 2000-2050 (Round number ) รอปัจจัยพาเลือกข้างเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ ราคาทองคำวิ่งอยู่ในกรอบไซด์เวย์ 2040-2020 สะสมกำลังต่อรอข้อมูลสหรัฐฯเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ จะมีหลายรายการที่นักลงทุนยังรอ เช่น CPI, ดัชนีการผลิตของ Empire State, การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนการว่างงาน, PPI ควรติดตามตัวเลขเหล่านี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเข้าลงทุน
TF H4 ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงราคา $2,000-$2050 (Round number ) และรอราคาเลือกข้างฝั่งใด โอกาสโครงสร้างราคาจะถูกทำลายหากผ่านจุด BREAK point ฝั่งใดฝั่งหนึ่งในทางเทคนิค
แนวคิด intraday(12 กพ)
แผน Sell รอราคาขยับขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 2,038 ดอลลาร์, 2,051 ดอลลาร์
แผน Buy รอราคาขยับลงเข้าใกล้ 2,005 ดอลลาร์, 1985 ดอลลาร์
**ควรพิจารณาสัญญาณบ่งชี้ในทางเทคนิคอล เช่น สัญญญาณกลับตัวในไทมเฟรมนั้นๆ
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราและช่องฟรีด้วยการกดปุ่มไลค์/เพิ่มความคิดเห็นต่อเรา 🚀 ขอบคุณครับ
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการซื้อขาย
Xauusdshort
XAUUSD Sideway มีแรงซื้อดีแต่โดยขายออกเป็นช่วงๆ📈ปัจจัยพื้นฐาน
เมื่อวานนี้ ทองบวก $11.30!! ในระยะสั้นสลับมาฟื้นตัวขึ้นได้บ้างขานรับ ดอลล์-บอนยีลยีด์ สลับมาพักตัว!! หลังดีด 2 วันติด โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการพักตัวทางเทคนิคประกอบกับ ดัชนีภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐรัในรอบ 6 เดือน จาก RealClearMarkets ลดลงสู่ 44.0 ซึ่งต่ำกว่า 50 ถือเป็นมุมมองเชิงลบ จึงหนุนทอง High $2,038 เมื่อคืน / แต่อย่างไรก็ตาม ภาพหลักทองคำ ยังมีแรงกดดัน จากที่เฟดอาจตรึงดอกเบี้ยไว้สูงนานกว่าคาดการณ์
ผู้ว่าการ Fed คลีฟแลนด์ ลอเลตตา เมสเชอร์ คาดว่า Fed มีแนวโน้ม จะลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งหากเงินเฟ้อไม่ลดลง Fed ก็สามารถคงนโยบายปัจจุบันไว้ก่อนได้ และคาดว่าความมั่นใจในการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หากเศรษฐกิจดำเนินไปตามที่คาดไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ในคืนนี้ต้องรอจับตาว่าถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดจะแสดงท่าที Hawkish และกดดันตลาดมากน้อยเพียงใด ตลาดจึงชะลอการลงทุนเพื่อรอจับตาปัจจัยดังกล่าว อีกทั้งยังมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งอาจทำ ให้ Bond Yield 10 ปีสหรัฐที่มีนัยสำคัญต่อตลาดค่อนข้างมากนั้นผันผวนได้
🙏Credit ข้อมูลโดย : บ. ylgbullion .co .th
อนึ่งสถานการณ์สุ่มเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์แถบตะวันออกกลาง / ฮามาสตอบสนองเชิงบวกอย่างเป็นทางการ ต่อกรอบข้อเสนอการหยุดยิงครั้งล่าสุด ในสงครามฉนวนกาซา แต่สหรัฐ และกาตาร์ กล่าวว่าข้อตกลงใด ๆก็ตามต้องใช้เวลา / UN เผยจะต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไปได้ เพื่อ หลีกเลี่ยงการโจมตีของอิสราเอลต่อราฟาห์ เมืองทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ซึ่งอาจนำไป สู่การสูญเสียชีวิตจำนวนมาก / นักลงทุนยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
🙏Credit ข้อมูลโดย : บ. Shinninggoldbullion . com
🧩แนวคิดประจำวัน 📊เทคนิคอล
ในช่วงเช้าการซื้อขายของเอเชีย ยังมีความผันผวนภายในช่วงแคบๆราคาแกว่งตัวระหว่าง 2,033-2,036 ดอลลาร์ความเห็นโดยส่วนตัวแม้ราคาจะพยายามรีบาวด์ แต่โดยประเด็นที่ Fed จะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2024 จึงยังทำให้แรงซื้อยังไม่มากพอ น่าจะเป็นการ รีบาวด์ขึ้นมาหาจุดกลับตัวแล้วลงต่อ ฐานเดิม 2005-2000 ซึ่งถ้ายังรักษาระดับฐานแนวรับดังกล่าวไว้ได้ก็ยังมองว่า เทรนหลักทองคำรอสะสมกำลังสะสมแรงซื้อหาปัจจัยหนุนกันต่อไป หากราคาหลุดแนวรับ 2000 ลงไปอาจทำให้มุมมองของเทรนหลักเปลี่ยนไป
ช่วงนี้แม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway แต่ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาในระดับหนึ่งประกอบกับมีแรงขายกดราคาลง แนะนำเน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 2046-2054 // เปิดสถานะขายเมื่อราคาเข้าใกล้กรอบด้านบน 2,046-2054 / 2065-2090 (ตัดขาดทุนหรือชะลอการเปิดสถานะ Sell หากราคาผ่าน 2,090 ) //รอปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับ 2,020-2,005 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถยืนได้(ทยอยเข้าซื้อหากมีพบความเหมาะสม)
📈กราฟรายวันและรายสัปดาห์อยู่ในช่วง Bullish
RSI อยู่เหนือบริเวณเป็นกลางที่ 50%
แนวต้าน
2170.00 Daily**
2135.00 Daily***
2090.00 Daily***
2065.00 Daily**
2054.00 intraday
2046.00 intraday
2041.00 intraday
แนวรับ
2028.00 intraday
2022.00 intraday
2014.00 intraday
2005.00 Daily***
1970.00 Daily***
1930.00 Daily***
***จำนวนเครื่องหมายดอกจันแสดงถึงความแข็งแกร่งของระดับแนวรับและระดับแนวต้าน
🔽แนวคิดแผน Sell 1 (7กพ)
Scalping
Sell 2042 -2045-2048
Sl 2056
TP1 2035
TP2 2025
TP3 2015
TP4 2005
แผน 1
Sell 2051-2055-2059
SL 2075
TP1 2030
TP2 2010
TP3 1990
แผน 2
Sell 2065-2075
Sl 2095
TP1 2045
TP2 2025
TP3 2005
TP4 1985
🔼แนวคิดแผน Buy (7 กพ)
แผน 1 (5 ก.พ)
Buy 2014-2010-2006
Sl 1995
TP1 2024
TP2 2034
TP3 2044
TP4 2054
แผน 2
Buy 2002-2000
sl 1985
TP1 2020
TP2 2040
TP3 2060
แผน 3 6 กพ
Buy 1986-1982
Sl 1969
TP1 2005
TP2 2025
TP3 2045
TP4 2065
TP5 2085
ฝั่ง Buy ต้องระวังการตั้งฐานบริเวณ 2005-2000 แนวรับจิตวิทยานะครับ 🙏เทรดด้วยความระมัดระวัง หากหลุดแนวรับ 2000 อาจเกิด Panic sell เปิดโอกาสให้ราคาทองคำปรับลงทดสอบ 1990 ได้ โฟกัสเฉพาะจุดกลับตัวชัดๆ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
.........................
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยการกดปุ่มไลค์/เพิ่มความคิดเห็นต่อเรา 🚀 🙏ขอขอบพระคุณมากครับ
ราคาทองคำผันผวนเล็กน้อยยังคงกังวลเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยราคาทองคำมีความผันผวนเล็กน้อยในวันพุธแต่เริ่มผ่อนคลายลงเมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน แม้ว่าการเดิมพันการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นของสหรัฐฯ จะทำให้แนวโน้มของโลหะสีเหลืองผสมปนเปกันก็ตาม แน่นอน
ราคาทองคำแท่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเดิมพันอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานานโดยเฉพาะหลังจากที่มีข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและความคิดเห็นที่หยาบคายจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ สถานะ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากสัญญาณเหล่านี้ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันพุธ แต่ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนถึงปี 2024
แนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นจะเป็นลางไม่ดีสำหรับทองคำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงจะเพิ่มต้นทุนเสียโอกาสในการลงทุนในทองคำแท่ง ธุรกรรมนี้ได้จำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำที่สำคัญในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ราคาทองคำสปอตทรงตัวที่ 2,035.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนเมษายนไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2,050.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 00:25 ET (05:25 GMT)
ทองคำเคลื่อนตัวไปด้านข้างท่ามกลางสัญญาณที่ขาดหายไป แต่ยังคงอยู่เหนือแนวรับสำคัญ
ขณะนี้ตลาดกำลังรอสัญญาณเพิ่มเติมจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อเป็นแนวทางในความผันผวนของราคาทองคำ ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมที่จะครบกำหนดในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะเป็นแนวทางได้
ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ทองคำร่วงมากขึ้นในระยะสั้น แต่โลหะสีเหลืองยังคงมีการซื้อขายที่ดีกว่าระดับแนวรับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าอาจมีการทดสอบได้ในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม แนวโน้มของทองคำจึงยังคงมีความไม่แน่นอน ความต้องการแหล่งปลอดภัยสำหรับโลหะสีเหลืองอาจถูกลดทอนลงเนื่องจากการหยุดยิงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและฮามาส
ทองคำคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยในที่สุด แต่มีสัญญาณเพิ่มมากขึ้นว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในภายหลัง แทนที่จะเป็นก่อนหน้านั้นในปี 2024
ราคาทองคำทรงตัวเมื่อเงินดอลลาร์สูญเสียโมเมนตัม ระดับแนวรับ 2,000ราคาทองคำทรงตัวในวันอังคาร หลังจากร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นชั่วคราว โดยตลาดต่างๆ มองว่าโลหะสีเหลืองมีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวรับที่สำคัญ
แนวโน้มของทองคำในระยะสั้นยังคงถูกกดดันจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดเริ่มมีราคาในความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงเดือนมิถุนายน
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและความคิดเห็นที่เข้มงวดจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของมุมมองนี้ ทั้งสองปัจจัยส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงสองช่วงที่ผ่านมา
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่สูงขึ้น ซึ่งกดดันทองคำต่อไป
ราคาทองคำสปอตทรงตัวที่ 2,026.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนเมษายนไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2,042.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 00:23 ET (05:23 GMT)
ระดับแนวรับที่ 2,000 USD มุ่งเน้นไปที่ความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าราคาทองคำสปอตสามารถทดสอบระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
Fed Rate Tracker ของ CME แสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์กำลังกำหนดราคาโดยมีโอกาส 83% ที่ Fed จะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้คงที่ในเดือนมีนาคม และคาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวคล้าย ๆ กันในเดือนพฤษภาคม
ทองคำทดสอบราคาที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงสั้นๆ ในช่วงต้นเดือนมกราคม แต่การฟื้นตัวดูเหมือนจะหยุดชะงักลง การเคลื่อนไหวใด ๆ ที่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์อาจส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในระยะยาวที่สูงขึ้น
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะทำหน้าที่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับราคา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนก็จะพูดเช่นกันในสัปดาห์นี้
อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นในระยะยาวจะช่วยลดความน่าดึงดูดใจของทองคำโดยการเพิ่มต้นทุนเสียโอกาสในการลงทุนในโลหะสีเหลือง
Gold ร่วงหลัง Nonefarm ดียกแผง แต่ยังยืนเหนือแนวรับ Daily📈ปัจจัยพื้นฐาน
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำเคลื่อนไหว ภายใต้ความกังวลของสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง และตลาดยังคาดหวังว่าตัวเลข Nonfarm เมื่อคืนวันศุกร์อาจจะลดต่ำลงกว่าคาดตามไปด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์คือ ทองคำแอบมีแรงขายออกมาเป็นทุกระยะแนวต้าน 2033 /2048 /2056/ 2065 และท้ายที่สุดก็มีแรงขายลงมา หลังตัวเลขแรงงานวันศุกร์แกร่ง!! ราคาทองคำมาพลิกกลับมาปรับตัวลดลง ทันทีที่สหรัฐประกาศตัวเลขตลาดแรงงาน ที่แกร่งกว่าคาดยกแผง จนทองร่วง $14.87!! ดอลล์-บอนยีลด์ฟื้น !! ปัจจัยเหล่านี้จึงไปกระตุ้นคาดการณ์เฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย กลับมากดทอง Low $2,028
🙏Credit : shininggold . com / ylgbullion .co .th
👀เช้านี้ทองคำเปิด GAP กระโดดเล็กน้อยจาก 2039 ไป 2042 ก่อนกลับลงมาปิด GAP จนสนิทในทันที สาเหตุก็น่าจะมาจากการสอดรับกับข่าวที่สหรัฐประกาศโจมตีกลุ่มติดอาวุธฮูตีในเยเมนครั้งใหม่ เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และฮูตีก็ให้คำมั่นจะตอบโต้การโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐ และอังกฤษ หลังจากสหรัฐ และพันธมิตรกำหนดเป้าหมายพื้นที่ของกลุ่มฮูตีในเยเมน 13 แห่ง ที่นับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การโจมตีครั้งแรกเมื่อ 11 ม.ค.เลยก็ว่าได้ แต่หากเปรียบเสมือน Action ที่เกิดขึ้นในตลาดทองคำเช้านี้ก็ดูเหมือนจะน้อยอยู่มาก ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 2,029-2,042 โดยราคาค่อยๆแกว่งซึมตัวลง หลังดัชนีดอลลาร์แร์ละบอนด์ยีลด์สหรัฐกลับมาเคลื่อนไหวทิศทางปรับตัวขึ้นและเช้านี้ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากเงินหยวนสลับมาอ่อนค่า หลังไฉซินเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการในเดือน ม.ค.ที่ลดลงสู่ระดับ 52.7
สวนจากคาดการณ์ ทั้งนี้แนะนำให้จับตาตัวเลขศก.สหรัฐรวมถึงถ้อยแถลงจนท.เฟดอย่างใกล้ชิด
🙏Credit : shininggold . com / ylgbullion .co .th
📊เทคนิคอล
กราฟรายสัปดาห์ที่ผ่านมาแม้จะปิดเป็นกราฟเขียวแต่ในภาพกราฟ DAY ก็ยังคงแสดงภาวะแรงขายที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง /กราฟ Month ยังกดลง / กราฟ 4H Rebound /แสดงภาวะความขัดแย้งกันอย่างมากในแต่ละ TF ดังนั้นจะเลือกให้สัญญาณ Rebound ก่อน แต่หากไม่สามารถทะลุผ่าน 2055 และ 2075 ได้ตามลำดับ ก็จะให้น้ำหนักไปทางฝั่ง Rebound เพื่อลงเช่นเดิม
🧩แนวคิดประจำวัน
🛸มุมมองฝั่ง Sell
ราคาทองคำ เคลื่อนไหวผัวผวนขึ้น หากราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน ไม่สามารถยืนได้ อาจเกิดแรงขายเพิ่มเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคามีการปรับตัวขึ้น ยังคงมีแรงขายเข้ามากดราคาอย่างชัดเจน // แนะนำ เปิดสถานะขายเพื่อทำกำ ไรระยะสั้นหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 2050-2065 รอปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาปรับตัวลงสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 2,020-2,2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
🚀มุมมองฝั่ง Buy
กลยุทธ์วันนี้รอย่อเข้าหาหาแนวรับ หาสัญญาณกลับตัวเพื่อเปิดสถานะ Buy เมื่อราคาปรับลดลงไม่หลุดบริเวณแนวรับ 2020-2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเป้าทำกำไร 2050-2065- 2075 หากผ่านและยืนได้ชะลอการปิดสถานะไปที่โซนถัดไป 2088-2106(Trillingstop) ทั้งนี้สถานะบายยังควรเน้นการลงทุนระยะสั้น เมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2050-2065 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ชะลอการเข้าซื้อ หรือตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวต้าน
2170.00 Daily**
2135.00 Daily***
2090.00 Daily***
2057.00 intraday
2052.00 intraday
2047.00 intraday
แนวรับ
2033.00 intraday
2026.00 intraday
2020.00 intraday
2005.00 Daily***
1970.00 Daily***
1930.00 Daily***
***จำนวนเครื่องหมายดอกจันแสดงถึงความแข็งแกร่งของระดับแนวรับและระดับแนวต้าน
🔼แนวคิดแผน Buy (5 กพ)
แผน 1 (2 ก.พ)
Buy 2023-2021-2019
Sl 2007
TP1 2035
TP2 2055
TP3 2075
TP4 ปล่อย(2090)
TP5 ปล่อย(2135)
แผน 2 (5 ก.พ)
Buy 2008-2005-2002
Sl 1983
TP1 2030
TP2 2050
TP3 2070
TP4 2090
ฝั่ง Buy ต้องระวังการตั้งฐานบริเวณ 2005-2000 แนวรับจิตวิทยานะครับ 🙏เทรดด้วยความระมัดระวัง หากหลุดแนวรับ 2000 อาจเกิด Panic sell เปิดโอกาสให้ราคาทองคำปรับลงทดสอบ 1990 ได้ โฟกัสเฉพาะจุดกลับตัวชัดๆ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
.........................
🔽แนวคิดแผน Sell 1 (5กพ)
Scalping
Sell 2040-2043
Sl 2056
TP1 2030
TP2 2010
TP3 1990
แผน 1
Sell 2055-2060
SL 2065
TP1 2030
TP2 2010
TP3 1990
แผน 2
Sell 2065-2075
Sl 2095
TP1 2045
TP2 2025
TP3 2015
TP4 2005
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
(ติดตามสัญญาณฟรีผ่าน Telegram -ของเราไม่มีเงื่อนใข)
โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราและช่องฟรีด้วยการกดปุ่มไลค์/เพิ่มความคิดเห็นต่อเรา 🚀 และเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ผู้ให้การสนับสนุน 🙏ขอขอบพระคุณมากครับ
ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์เนื่องจากการคาดการณ์กเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในวันจันทร์ เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดได้ปรับการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ การปรับเทียบการเดิมพันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใหม่เกิดขึ้นภายหลังรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และความคิดเห็นจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ที่แนะนำว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมไม่น่าจะเป็นไปได้
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงิน สูงสุดที่ 104.18 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม การเพิ่มขึ้นของค่าเงินดอลลาร์เกิดขึ้นหลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ สหรัฐฯ เอาชนะการคาดการณ์ของตลาดและเสริมความคิดเห็นล่าสุดโดย พาวเวลล์ว่าความเข้มแข็งของเศรษฐกิจอาจทำให้เฟดอดทนในการปรับอัตราดอกเบี้ยได้
การประเมินความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed อีกครั้งนั้นเห็นได้ชัดในการประเมินมูลค่าตลาด โดยปัจจุบันเครื่องมือ CME FedWatch แสดงโอกาสเพียง 20% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ซึ่งลดลงอย่างมากจากโอกาสเกือบ 50% ราคาชุดประกอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมก็ลดลงเช่นกัน
ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ของ CBS นายพาวเวลล์กล่าวว่าเฟดมีสิทธิ์ที่จะ "ระมัดระวัง" ในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยโดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ
ฟิวเจอร์สกองทุนเฟดสะท้อนถึงความรู้สึกนี้ โดยคาดว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายพื้นฐานประมาณ 137 จุดในปีนี้ ลดลงจาก 150 จุดพื้นฐานที่คาดการณ์ไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว
เงินเยนอ่อนค่าลงเป็น 0.15% อยู่ที่ 148.58/USD แตะระดับต่ำสุดที่ 148.82 ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% สู่ระดับ 0.6490 ดอลลาร์ และดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.25% สู่ระดับ 0.6050 ดอลลาร์ เงินปอนด์อังกฤษก็แตะระดับต่ำสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ที่ 1.2600 ดอลลาร์สหรัฐฯ
อัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐสะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราผลตอบแทนสองปีเพิ่มขึ้นเกือบ 7 จุดเป็น 4.4386% และอัตราผลตอบแทนมาตรฐาน 10 ปีเพิ่มขึ้น 5 จุดพื้นฐานเพิ่มขึ้น 4.0829%
คาดว่าทองคำจะลดลงเหลือ 2,000 วันนี้เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงรักษาตำแหน่งใกล้ระดับสูงสุดในรอบหกสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการเผยแพร่ข้อมูล GDP ของสหรัฐฯ เพื่อช่วยกำหนดทิศทางในอนาคตของอัตราดอกเบี้ย ในขณะเดียวกัน ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะจัดขึ้นในวันเดียวกัน
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม โดยมีสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้ออาจผ่อนคลายลง ราคาที่บริษัทเรียกเก็บสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีครึ่ง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเปรียบเทียบสกุลเงินสหรัฐฯ กับสกุลเงินหลักอื่นๆ อีก 6 สกุลเงิน เพิ่มขึ้น 0.06% มาอยู่ที่ 103.33 ตามมาด้วยการลดลงเล็กน้อย 0.2% ในวันอังคาร โดยเทรดเดอร์ปรับสถานะของตนเพื่อรอการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขเบื้องต้นสำหรับ GDP ของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่จะสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ทนต่อผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญ
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาสที่สี่ของสหรัฐฯ เติบโตในอัตรา 2% ต่อปี ข้อมูลสำคัญอื่นๆ รวมถึงมาตรการเงินเฟ้อที่ต้องการของเฟด ข้อมูลรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) จะถูกเปิดเผยในวันศุกร์
เฟดได้รับการคาดหวังอย่างกว้างขวางว่าจะคงจุดยืนในปัจจุบันในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น แต่ความคิดเห็นของประธานเจอโรม พาวเวลล์ จะถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูคำแนะนำในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น ความคาดหวังของตลาดเปลี่ยนไป โดยมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมในขณะนี้ที่ 41% ลดลงจาก 88% ในเดือนก่อนหน้า ตามเครื่องมือ CME FedWatch นอกจากนี้ เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ 130 จุดในปีนี้ ลดลงจาก 160 จุด ณ สิ้นปี 2566
ในเอเชีย เงินหยวนจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.06% เป็น 7.1648 USD เทียบกับ USD สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประกาศของธนาคารประชาชนจีนเรื่องการลดทุนสำรองของธนาคารลงอย่างมากโดยมีเป้าหมายเพื่ออัดฉีดเงินประมาณ 140 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคาร ซึ่งส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับเศรษฐกิจและตลาดหุ้น การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากรายงานก่อนหน้านี้เกี่ยวกับแพ็คเกจช่วยเหลือมูลค่า 278 พันล้านดอลลาร์เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้น
เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.16% มาอยู่ที่ 147.75 ต่อดอลลาร์ พลิกกลับเพิ่มขึ้นบ้างจากวันพุธ การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเยนเกิดขึ้นในขณะที่เทรดเดอร์ตอบสนองต่อความคิดเห็นของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น คาซูโอะ อูเอดะ โดยบอกว่าความสามารถของธนาคารในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อนั้นกำลังเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้ม ความสามารถในการย้ายออกจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ
ก่อนการประชุม ECB ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.07% สู่ระดับ 1.0875 ดอลลาร์ คาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ แม้จะสิ้นสุดรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในเดือนกันยายน แต่ ECB ย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะพิจารณาการกลับรายการนโยบาย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่คงอยู่และการเจรจาค่าจ้างที่กำลังดำเนินอยู่
รายงานผลประกอบการ การตัดสินใจของ Fed ในสัปดาห์นี้ราคาหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐฯ วนเวียนอยู่รอบทั้งสองด้านของเส้นทรงตัวในวันจันทร์ เนื่องจากเทรดเดอร์เตรียมพร้อมรับรายงานรายได้ของบริษัทสำคัญๆ และการตัดสินใจของธนาคารกลางเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
เมื่อเวลา 05:07 ET (10:07 GMT) สัญญา Dow Jones ร่วงลง 55 จุดหรือ 0.1% S&P 500 ลดลง 3 จุดหรือ 0.1% และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้นอีก 19 จุดหรือ 0% แรก
การเริ่มต้นปีใหม่ที่มั่นคงสำหรับดัชนีหุ้นหลักของ Wall Street มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการทดสอบที่เข้มงวดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นักลงทุนจะวิเคราะห์ข้อมูลจากธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดบางแห่งของอเมริกาและรับความคิดเห็นที่มีอิทธิพลจาก Federal Reserve ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถช่วยชี้แจงแนวโน้มเศรษฐกิจในวงกว้างได้ ใหญ่กว่า (ดูด้านล่าง)
S&P 500 ร่วงลง 0.1% เมื่อวันศุกร์ ทำให้ดัชนีมาตรฐานอยู่ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจลดลงโดยไม่ชะลอการเติบโต - สถานการณ์ที่มักเรียกกันว่า "การลงจอดอย่างนุ่มนวล" ดัชนี Nasdaq Composite ก็ร่วงลง 0.4% ในช่วงสิ้นสุดสัปดาห์การซื้อขายก่อนหน้า ในขณะที่ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.2%
2. รายได้มหาศาลรออยู่ข้างหน้า
สัปดาห์นี้จะมีการประกาศผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและอาจทำให้ตลาดสั่นคลอนจากบริษัทหลายแห่ง รวมถึงหุ้นที่เรียกว่า "Magnificent 7" จำนวนมากที่กระตุ้นให้ตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นในระยะสั้น นี้
ในวันอังคาร Microsoft จะรายงานหลังระฆัง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่มูลค่าตลาดของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google (NASDAQ:GOOGL) ซึ่งเหมือนกับ Microsoft ที่ได้รับประโยชน์จากกระแสกระแสโฆษณาปัญญาประดิษฐ์ก็จะเปิดเผยตัวเลขล่าสุดหลังตลาดปิดประตู
ในวันพุธจะมีผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ Qualcomm (NASDAQ:QCOM) โดยนักลงทุนกำลังรอจุดยืนของกลุ่มบริษัทในซานดิเอโกเกี่ยวกับการผลิตชิปในปีหน้า ตัวเลขรายไตรมาสยังมาจาก Boeing (NYSE:BA) ผู้ผลิตเครื่องบินที่กำลังดิ้นรนซึ่งถูกตรวจสอบอย่างละเอียดหลังจากเหตุระเบิดอันตรายบนเครื่องบิน 737 Max 9 รุ่นใดรุ่นหนึ่งเมื่อต้นเดือนนี้ เช่นเดียวกับ Novo Nordisk (NYSE:NVO) ผู้ผลิตยาสัญชาติเดนมาร์กที่ผลิตยาลดน้ำหนัก Wegovy ยอดนิยม
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จำนวนมากจะก้าวเข้าสู่จุดสนใจในวันพฤหัสบดี รวมถึงผู้ผลิต iPhone Apple, Amazon ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ และ Meta Platforms ที่เป็นเจ้าของ Facebook (NASDAQ:META)
3. จุดสนใจอยู่ที่การตัดสินใจของเฟด
ตลาดจะจับตาดูธนาคารกลางสหรัฐเนื่องจากธนาคารกลางที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกจัดการประชุมนโยบายสองวันล่าสุด
เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสองทศวรรษหลังการประชุมในวันพุธ โดยเน้นไปที่ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มต้นทุนการกู้ยืมในระยะสั้น
ในเดือนธันวาคม เฟดส่งสัญญาณว่าสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้หกครั้งในปีนี้ ทำให้เกิดความหวังที่จะลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายบางรายได้ลดความคาดหวังเหล่านี้ลง โดยชี้ให้เห็นว่ายังคงมีความกังวลว่าภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็วอาจกระตุ้นให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงได้
การคาดการณ์ล่วงหน้าที่แข็งแกร่งเกินคาดของการเติบโตของสหรัฐในไตรมาสที่สี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังตอกย้ำความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนมกราคมในวันศุกร์จะแสดงความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงานสหรัฐฯ แม้ว่า Fed จะไม่สามารถรวมข้อมูลเฉพาะนี้ตามการคาดการณ์ล่าสุดได้
วิธีที่เฟดมองว่าราคาเพิ่มขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาในปี 2024 จะส่งผลต่อการเดิมพันในช่วงเวลาของการปรับลดครั้งแรก ตามเครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยของ Fed ของ Investing.com มีโอกาสเกือบ 50% ที่ธนาคารจะดำเนินการดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม
ทองคำโลกแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันอังคาร (30 มกราคม) โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง ในขณะที่ความสนใจหันไปที่การประชุมนโยบายของสหรัฐฯ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กำลังมองหาข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ แผนงานเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ในช่วงสิ้นสุดเซสชั่นการซื้อขายของวันอังคาร สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 2,035.86 USD/ออนซ์ หลังจากที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมในช่วงเริ่มต้นเซสชั่น สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 2,054.40 USD/oz
Daniel Pavilonis นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures ให้ความเห็นว่า “ความผันผวนส่วนใหญ่ในตลาดทองคำมีสาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง แต่เราเห็นว่าตลาดมีการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นจากการคาดการณ์การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในวันที่ 31 มกราคม .
ดัชนี USD อ่อนตัวลง 0.2% ทำให้ทองคำน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองโลหะสีเหลือง
การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคม หลังจากการเปลี่ยนแปลง "นกพิราบ" ในการประชุมเดือนธันวาคม 2566 ตลาดคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมเมื่อสิ้นสุดการประชุมสองวัน
Fed ต้องการให้ตลาดมีเสถียรภาพ ดังนั้นเราจึงอาจไม่เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากนัก และนายพาวเวลล์จะยังคงเป็นกลางและพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นายพาวิโลนีกล่าว
ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าราคาสหรัฐปรับตัวขึ้นปานกลางในเดือนธันวาคม 2566 ทำให้อัตราเงินเฟ้อรายปีต่ำกว่า 3% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันและอาจส่งผลให้เฟดเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ในขณะนี้
ผลสำรวจของรอยเตอร์เมื่อวันที่ 29 มกราคม แสดงให้เห็นว่าความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่ลดลงอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024
ทองคำโลกเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี (1 กุมภาพันธ์) หลังข้อมูลเผยข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตลาดเปลี่ยนโฟกัส เน้นข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานนโยบายของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ในช่วงสิ้นสุดเซสชันการซื้อขายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.9% เป็น 2,054.89 USD/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2024 ในช่วงเริ่มต้นเซสชัน
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 2,071.1 USD/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า การขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 224,000 รายที่ปรับตามฤดูกาลแล้วในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 มกราคม รายงานแยกต่างหากแสดงให้เห็นว่าผลิตภาพแรงงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่สี่ของปี 2023
Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่าทองคำยังคงอยู่ในรูปร่างที่ “ต่ำที่สุด” หลังจากการตอบรับของ Fed แต่มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากข้อมูลการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การว่างงาน
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมและปฏิเสธแนวคิดที่ว่าธนาคารกลางอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ล้มเลิกการอ้างอิงที่มีมายาวนานถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ตามเครื่องมือ CME Fed Watch ปัจจุบันนักลงทุนคาดการณ์ความเป็นไปได้ 96% ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนพฤษภาคม 2024
ตลาดยังเผชิญกับปัญหาที่ Community Bancorp ผู้ให้กู้ระดับภูมิภาคในนิวยอร์ก ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
ขณะนี้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพื่อทำความเข้าใจเส้นทางอัตราดอกเบี้ยให้ดียิ่งขึ้น
คาดว่าทองคำจะลดลงจนถึงปี 2020 วันนี้ราคาทองคำวันนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยซื้อขายทองคำ Spot ที่ 2,030.87 USD/ออนซ์ การเพิ่มขึ้นของมูลค่าโลหะมีค่าเกิดขึ้นพร้อมกับดัชนีดอลลาร์ที่ลดลงเล็กน้อย 0.1% ซึ่งโดยทั่วไปจะมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากการลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์อ้างถึงคำแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ เจ้าหน้าที่เหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนมีนาคมได้ผ่อนคลายลง โดยมีโอกาสอยู่ที่ 55%
เมื่อเทียบกับสภาพเศรษฐกิจในวงกว้าง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2021 การมองโลกในแง่ดีของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นนี้มีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้จ่าย การใช้จ่ายและการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำและภาคการเงินอื่นๆ
นักลงทุนมักจะหันมาใช้ทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน ทำให้การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของโลหะมีค่า . ในขณะที่ตลาดยังคงยอมรับจุดยืนที่ระมัดระวังของเฟดเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ราคาทองคำล่วงหน้า ก็ฟื้นตัวเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุนในสินทรัพย์ในฐานะสวรรค์ ซ่อนไว้อย่างปลอดภัย
เมื่อพิจารณาจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและการตัดสินใจนโยบายของ Fed ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผู้เข้าร่วมตลาดจะติดตามผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
คาดว่าทองคำจะยังคงลดลงในวันนี้สัปดาห์นี้ ตลาดจะติดตามความผันผวนของ USD อย่างใกล้ชิด คาดว่า USD จะมีความผันผวนมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางรายใหญ่ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคาดว่าจะคงท่าทีที่เป็น Dovish แต่ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาก็คาดว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจหลังจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนธันวาคม ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าความผันผวนของ USD และทองคำจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
สัปดาห์ที่แล้วที่ World Economic Forum ในเมืองดาวอส (สวิตเซอร์แลนด์) สมาชิก ECB คัดค้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนด นโยบาย "เหยี่ยว" ของ ECB สามารถสร้างแรงกดดันต่อ USD และสนับสนุนราคาทองคำในอนาคตอันใกล้นี้
นักลงทุนต่างตั้งตารอข้อมูลเงินเฟ้อที่จะเปิดเผยในวันศุกร์อย่างใจจดใจจ่อ นักวิเคราะห์กล่าวว่าหากรายงานแสดงให้เห็นว่าดัชนีการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก (มาตรการเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ) ไม่ลดลงตามที่คาดไว้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแผนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ทองคำโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รอสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร (23 มกราคม) เนื่องจากนักลงทุนรอชุดข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้เพื่อค้นหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานของธนาคารกลางสหรัฐในการลดอัตราดอกเบี้ย US (Fed)
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 23 มกราคม สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 2,025.09 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 2,025.8 USD/oz
“ตลาดทองคำอยู่เหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ และดูเหมือนว่าจะเป็นตลาดที่เป็นกลาง” Daniel Pavilonis นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าว ทุกครั้งที่ราคาเริ่มสูงขึ้น ราคาก็กลับลดลง”
จุดสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงาน PMI เบื้องต้นของสหรัฐฯ ในวันที่ 24 มกราคม ประมาณการ GDP ไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 25 มกราคม และข้อมูลการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลของ PCE ในวันที่ 26 มกราคม /01
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่เฟดกล่าวว่าธนาคารกลางต้องการข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย และกำหนดเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มในไตรมาสที่สามของปี 2567
ตามเครื่องมือ CME FedWatch ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมเมื่อสิ้นสุดการประชุมนโยบายในวันที่ 30-31 มกราคม และเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกออกไป
Michael Hewson หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดของ CMC (HM:CMG) Markets กล่าวว่า “การฟื้นตัวของทองคำเมื่อเร็วๆ นี้ดูเหมือนจะอ่อนตัวลง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะลดลงอีกหากธนาคารกลาง รัฐบาลกลางยังคงผลักดันความคาดหวังของตลาดในการลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป ”
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประชุมในวันที่ 25 มกราคม และคาดว่าจะคงนโยบายการเงินไว้ได้
ในด้านกายภาพ อินเดียได้เพิ่มภาษีนำเข้าทองคำและเงินที่ใช้ทำเครื่องประดับ
คาดการณ์ทองคำสัปดาห์นี้ - สัปดาห์หน้าทองคำในสัปดาห์นี้และยาวจนถึงสัปดาห์หน้า
ส่วนตัวคาดการณ์ว่าทองคำราคายังสามารถลงไปได้อีก โดยโซนราคาที่น่าจับตามอง 2024-2028 เป็นโซนที่น่าพิจารณาเข้า SELL และถ้าราคาเบรค2036ได้=ขึ้นต่อ
ผลสรุป ทองคำ
ยังสามารถลงต่อได้ ฝั่งSELL ยังได้เปรียบ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ไม่ได้ชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด ❗️
ปล. การลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาก่อนลงทุนนะครับ📈
XAUUSD ราคาวิ่งในกรอบ 2050-2000 รอประชุม Fed ปลายเดือนนี้📈สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ แกว่งตัว Sideway down ลงมาตามกรอบ และร่วงลงประมาณ 1% หลังจากที่เจ้าหน้าที่ Fed กล่าวว่าพวกเขาต้องการข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติมก่อนที่จะมีการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย แม้ก่อนปิดสัปดาห์จะมีแรงซื้อสลับในระยะสั้นเข้ามาบ้าง (วันศุกร์ทองคำปิดบวก $6.42!!) รับดอลล์กลับมาอ่อนค่า!! หลังแข็งค่า 5 วันติด!! จากยอดขายบ้านมือมืสองในเดือนธ.ค.ที่ลดลงกว่าคาดการณ์ และขานรับถ้อยแถลงจนท.เฟด ที่ทำให้ นลท.ลดความหวังลดดบ. จาก CME FedWatch บ่งชี้ลดการให้น้ำหนักเหลือเพียง 48% ที่เฟดจะลดดบ.ในเดือนมี.ค. 2024
Credit : ข้อมูลจาก YLG
📊อีกทั้งเช้านี้ดัชนีดอลลาร์ถูกกดดันเพิ่มเติม จากการแข็งค่าของค่าเงินเยนหลังมีกระแสคาดการณ์ว่าญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาด FX เพื่อพยุงค่าเงินเยนอย่างไรก็ตามปัจจัยเหล่านี้ยังหนุนทองคำ ได้จำกัดเนื่องจากในภาพหลัก ตลาดกำลังให้ความสนใจกับทิศทางดอกเบี้ยเฟด ปัจจัยนี้จะยังคงหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้เคลื่อนไหวอยู่เหนือ 4% ซึ่งยังเป็นแรงกดดันราคาทองคำ ทั้งนี้สหรัฐเข้าช่วง Blackout Period งดแสดงความเห็น ก่อนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญและการประชุมของธนาคารปลายเดือนนี้
Credit : ข้อมูลจาก YLG
ปัจจัยหลัก
• สินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ ก็อ่อนค่าลงเช่นกัน เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลัง
• ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะบริเวณเส้นทางทะเลแดง
• ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคาดว่าจะคงนโยบายที่ง่ายมากในการประชุมวันอังคาร
• นักลงทุนจะจับตาดูตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปลายสัปดาห์นี้
• อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนเสียโอกาสในการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น
• ราคาเงิน แพลทินัม และแพลเลเดียม ร่วงลงในวันจันทร์เช่นกัน
H4 : แนวคิดฝั่ง Sell วันที่ 22 มกราคม เก็งกำไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถยืนเหนือกรอบแนวต้าน 2,045-2,055 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เพื่อรอทยอยปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาปรับรั ตัวลงไม่หลุดแนวรับ 2,000 ดอลลาร์ต่ร์ต่อออนซ์
ลดสถานะ Sell หากราคาผ่าน 2055 ดอลลาร์ต่ร์ต่อออนซ์
Supply zone
2084-2090
2074-2080
2064-2070
แผน 1
Sell - 2037-2042- 2045
Sl 2056
แผน 2
Sell - 2052-2056-2059
Sl 2066
..............................................
H4 : แนวคิดฝั่ง Buy วันที่ 22 มกราคม เริ่มมองจุดเข้าเพื่อสะสมใกล้แนวรับ 2000 หรือ ลึกกว่านั้นนะ ยืงถ้ายืนเหนือ 2005 ได้คือจะยังดูดี แต่ถ้าหลุดลงไปต้องปรับสถานะบายกันหน่อย ยิ่งกว่านั้นห้ามหลุด 1940-1930 ถ้าหลุดไปได้จะเสียทิศทางขาขึ้นระยะกลางไปเยอะทีเดียว
แผน A (22 มกราคม)
Buy 2011-2008- 2005
Sl 2001
TP1 2020
TP2 2030
TP3 2040
TP4 2050
TP5 2060
Demand zone
1982-1980
1962-1960
1952-1950
⚠️ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
XAUUSD มุมมองต้นสัปดาห์ 22/1 ลุ้นทองฟื้นสายสวนเตรียมค้อนขวับ⚔️เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทองคำทำระดับสูงสุดของวันได้ถึง 2039 ก่อนเจอแรงขายทำกำไรร่วงสู่ 2022 แล้วยังยืนได้จนให้ราคาปิดตลาดได้ที่ 2029 มุมมองวันถัดไปเมื่อตลาดเริ่มดำเนินการต่อ ระยะสั้นหรือระหว่างวันหากไม่มีปัจจัยหนักมากดดันให้หลุด 2020 ลงไปเสียก่อนมองว่าระยะสั้นๆ ยังมีโอกาสฟื้นตัวไปต่อเพื่อทดสอบแนวต้าน 2041 / 2047 /2053 / 2060 ตามลำดับ ถ้าหาก 2020 รับไม่อยู่แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 2009 / 2002 / 1982 ตามลำดับ
🚀ในช่วงต้นสัปดาห์ ทองคำอาจปรับขึ้นด้วยเหตุผลหลายประการ:
- การโจมตีเยเมนและการตอบโต้ต่อเรือสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ดัชนีดอลลาร์ปิดเซสชั่นวันศุกร์ในช่วงปรับฐาน
- กรอบเวลารายชั่วโมงราคาทองคำสิ้นสุดเซสชั่นของวันศุกร์และสิ้นสุดการปรับฐานเหนือ Demand zone 2025-2020 ราคาได้พักฐานสะสมกำลังเหนือระดับที่สำคัญทางจิตวิทยา 2000 และทางเทคนิค ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลต่อมุมมองเชิงบวก
🔨กลยุทธ์การเทรดในวันที่ 22 มกราคม
แม้ว่าราคาจะเกิดรูปแบบขาขึ้นเพิ่มเติม แต่มุมมองผมว่าควรมองแผน Sell มากกว่าแผนบาย โดยรอโอกาสเมื่อราคาขยับขึ้นและไม่ผ่านแนวต้านต่างๆ และเข้าสู่โหมด Over bought ดังนั้นเราจะเฝ้าราคาขึ้นไปแตะ Supply zone/ resistance zone ในการหาจังหวะเข้าเปิดสถานะฝั่ง sell เพื่อเก็งกำไรจังหวะย่อตัว หรือสวิงในกรอบ สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นๆหรือ Daytrade ควรเก็งกำไรจากการแกว่งตัวของราคาในกรอบจากแนวต้าน 2065(Sl รายย่อย) ถึงแนวรับ 1981(Sl รายย่อย) โดยมีมุมมองแคบลงว่าถ้าราคาไม่ผ่าน 2050(แนวต้านจิตวิยา) ไปได้ยังมีโอกาสลงมาทดสอบ 2000(แนวรับจิตวิทยา) และยังมีความเสี่ยงอยู่มากที่ราคาจะหลุดระดับแนวรับ เชิงจิตวิทยา 2000 โดยประเมินแนวรับถัดไป 1981 / 1961 / 1950 ตามลำดับ และรอเข้าเล่นฝั่งบายเมื่อราคาลงมาสะสมกำลังที่แนวรับสำคัญ
แนวคิดเพิ่มเติม
Tf Day-คาดการณ์หากยังเคลื่อนไหวเหนือ 2020 มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะเคลื่อนที่ขึ้นหาแนวต้านจิตวิทยา 2050
ถ้ายืนได้มีโอกาสขึ้นต่อเพื่อทดสอบโซนแนวต้าน 2067-2088
Tf Day-คาดการณ์หากยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 2020 มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะเคลื่อนที่ลงหาแนวรับเชิงจิตวิทยา 2005-2000
Tf Day-คาดการณ์หากยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 2000 มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะเคลื่อนที่ลงหาแนวฐาน 1981 / 1961 / 1950
XAUUSD จบ Week ขี้เหร่นิดนึง แต่ Day ยังงึด ขึ้นไปให้ทุบ รอละนะ🚀 Weekly แม้จะปิดแท่งค่อนข้างขี้เหร่ (ปิดลบ $20 จากสัปดาห์ก่อนหน้า ) แต่ผมยังมองเป็น Uptrend เนื่องราคายังทรงตัวระดับเหนือ 2000 ได้ตลอดสัปดาห์ โดยประเมินแนวรับของ Weekly ที่จะทำให้ระยะกลางเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลงได้คือ สามารถหลุดต่ำกว่าระดับราคา 1940-1930 หากราคาปรับฐานไปลึกกว่านั้นเราจะได้เห็นฐานใหม่ 1880 ได้นั่นคือมุมมองของเทคนิคอล แต่ในทางปัจจัยพื้นฐานทั้งหลายเราจะเห็นได้ว่าทองคำควรที่ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้สูงไปอีก ระยะสั้นหากราคายังสามารถทรงตัวเหนือ 2000 ได้ แนวโน้มถัดไปจะอยู่ที่ 2090 / 2135 / 2170 ตามลำดับ
🚀Day=Sideway Uptrend (ปิดบวก $6 จากวันก่อนหน้า) พฤติกรรมราคาในวันศุกร์เมื่อเริ่มเปิดตลาดราคามีทิศทางที่พยายามฟื้นตัวขึ้นมา โดยมีแรงซื้อในทางเทคนิค ประกอบกับส่วนหนึ่งได้แรงหนุนในฐานะสินทรัพรัย์ปลอดภัย หลังกลุ่มฮูตียิงขีปนาวุธใส่เคมเรนเจอร์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันของสหรัฐ นับเป็นการโจมตีครั้งรั้ ที่ 3 ที่เกิดขึ้นในรอบ 3 วัน อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของทองอาจเป็นไปอย่างจำกัดทางเทคนิคเช่นกันหลังจากกราคาไม่ผ่านแนวต้านเทรนขาลง(2042-2045)ในไทมเฟรม H4 อีกทั้งมีแรงกดดันจากเงินปอนด์อังกฤษที่สลับอ่อนค่า *สกัดช่วงบวกทอง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ได้ลดความหวังการลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด ก่อนการประชุมเฟดคืนวันที่ 31 ม.ค.
⚔️เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทองคำทำระดับสูงสุดของวันได้ถึง 2039 ก่อนเจอแรงขายทำกำไรร่วงสู่ 2022 แล้วยังยืนได้จนให้ราคาปิดตลาดได้ที่ 2029 มุมมองวันถัดไปเมื่อตลาดเริ่มดำเนินการต่อ ระยะสั้นหรือระหว่างวันหากไม่มีปัจจัยหนักมากดดันให้หลุด 2020 ลงไปเสียก่อนมองว่าระยะสั้นๆ ยังมีโอกาสฟื้นตัวไปต่อเพื่อทดสอบแนวต้าน 2041 / 2047 /2053 / 2060 ตามลำดับ ถ้าหาก 2020 รับไม่อยู่แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 2009 / 2003 / 1985 ตามลำดับ
🔨กลยุทธ์การเทรดในวันที่ 22 มกราคม มุมมองผมว่าควรมองแผน Sell มากกว่าแผนบาย โดยรอโอกาสเมื่อราคาขยับขึ้นและไม่ผ่านแนวต้านต่างๆ และเข้าสู่โหมด Over bought ดังนั้นเราจะเฝ้าราคาขึ้นไปแตะ Supply zone/ resistance zone ในการหาจังหวะเข้าเปิดสถานะฝั่ง sell เพื่อเก็งกำไรจังหวะย่อตัว หรือสวิงในกรอบ สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นๆหรือ Daytrade ควรเก็งกำไรจากการแกว่งตัวของราคาในกรอบจากแนวต้าน 2065(Sl รายย่อย) ถึงแนวรับ 1981(Sl รายย่อย) โดยมีมุมมองแคบลงว่าถ้าราคาไม่ผ่าน 2050(แนวต้านจิตวิยา) ไปได้ยังมีโอกาสลงมาทดสอบ 2000(แนวรับจิตวิทยา) และยังมีความเสี่ยงอยู่มากที่ราคาจะหลุดระดับแนวรับ เชิงจิตวิทยา 2000 โดยประเมินแนวรับถัดไป 1981 / 1962 / 1950 ตามลำดับ
♾สัญญาณทางเทคนิคดูจาก Tf m30(ชี้วัดแนวโน้มระหว่างวัน)
RSI สูงกว่า 50
MACD ต่ำกว่าเส้นสัญญาณแต่เป็นบวก
ราคาปัจจุบันอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยที่เคลื่อนไหวที่ 20 ถึง 50 (อยู่ที่ลำดับ 2029.68 และ 2026.47)
แนวต้าน🔽
2330.00 Weekly
2270.00 Weekly
2170.00 Weekly
2135.00 Daily
2090.00 Daily
2060.00 Intraday
2053.00 Intraday
2047.00 Intraday
2041.00 Intraday
..........
แนวรับ🔼
2020.00 Intraday
2009.00 Intraday
2003.00 Daily
1970.00 Daily
1930.00 Weekly
1880.00 Weekly
1810.00 Weekly
⚠️ทองเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
ทองคำกำลังรอข่าวว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงในปี 2553ราคาทองคำผันผวนเล็กน้อยในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันพุธ ก่อนที่นักลงทุนจะตั้งคำถามถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงต้น
จุดสนใจส่วนใหญ่อยู่ที่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวในเดือนธันวาคม
ราคาทองคำร่วงลงอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเทรดเดอร์เริ่มกังวลว่า Fed อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ไม่ว่าจะเป็นในเดือนมีนาคม 2024 มุมมองนี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งยังสร้างแรงกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม โลหะสีเหลืองสามารถรักษาระดับไว้ที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หลังจากที่ทะลุระดับนี้ไปได้สบาย ๆ ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ราคาทองคำก็เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในปี 2023
ราคาทองคำสปอตทรงตัวที่ 2,029.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเดือนกุมภาพันธ์ทรงตัวที่ 2,034.65 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 00:28 ET (05:28 GMT)
ข้อมูล CPI ที่ครบกำหนดในวันพฤหัสบดีคาดว่าจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนธันวาคม อัตราเงินเฟ้อคงที่พร้อมกับสัญญาณการฟื้นตัวในตลาดแรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้ห้องเฟดสามารถคงอัตราดอกเบี้ยไว้สูงขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น
นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดกำลังลดการปรับลดเดิมพันว่า Fed สามารถเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือนมีนาคม 2567 เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยของ Fed CME เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 25 จุดซึ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคมโดยมีผลการดำเนินงาน 63.6% ลดลงจาก 69.6% % โอกาสที่เห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แม้ว่าเฟดจะส่งสัญญาณว่าในที่สุดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 แต่ก็ให้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับระยะเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนถึงขณะนี้ธนาคารกลางยังคงรักษาแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเงินเฟ้อเป็นส่วนใหญ่ในการลดอัตราดอกเบี้ย
วัตถุประสงค์ที่สูงขึ้น ทำให้เกิดต้นทุนเสียโอกาสในการลงทุนในทองคำซึ่งไม่ได้ผลกำไร การค้าขายนี้ได้กดดันโลหะสีเหลืองในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยการเพิ่มขึ้นของทองคำอย่างต่อเนื่องชี้ไปที่ความคาดหวังของอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในปี 2024
ในบรรดาโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงขยับขึ้นในวันพุธหลังจากลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในปีนี้
ฟิวเจอร์สที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 3.7717 ดอลลาร์ต่อปอนด์ แต่การซื้อขายลดลงมากกว่า 2% ในปี 2567
XAU/USD ยังเหนียวทดสอบ Oversold 2000 แต่แรงบายมาจริงหรือมาหลอก?📊ปัจจัยพื้นฐาน
วานนี้ทองคำเริ่มมีแรงซื้อมีแรง Buy ที่หนาแน่นขึ้น ปลุกทองฟื้นปิดตลาดบวก $16 แม้ Jobless Claims จะหนุนดอลล์-บอนด์ยีลย แม้ว่าสภาครองเกรสจะผ่านร่างกฏหมายการใช้จ่ายชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐบางส่วนแล้ว แต่มีแรงซื้อทางเทคนิคดันขึ้นมา จากที่ไม่หลุดแนวรับเชิงจิตวิทยาที่ 2,000 ดอลลาร์ ประกอบกับ RSI ทดสอบโซน Oversold อีกทั้งปัจจัยหนุนความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่งคือ ปัญหาในทะเลแดง สหรัฐและอังกฤษตอบโต้กลุ่มฮูตีหลังมีการโจมตีการขนส่งของพ่อค้าเดินเรือ ซึ่งสร้างความโกลาหลให้กับอุตสาหกรรมการขนส่งไม่น้อย หากปัญหายังยืดเยื้อ และรุนแรงต่อไปอาจไปตอกย้ำถึงภัยคุกคามของวิกฤตห่วงโซ่อุปทานได้มากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยนี้ถือเป็นประเด็นบวกที่รอวันปะทุ
Credit : ShinningGold / YLG
🧩กลยุทธ์การลงทุน
ราคาแกว่งตัวในกรอบแคบ หากราคายังไม่สามารถทรงตัวเหนือแนวต้าน 2049-50 ได้ เปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้น รอทยอยปิดทำกำไร หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับ 2,001-1,991 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ชะลอการลงทุนฝั่ง Sell หากหากราคาผ่านแนวต้าน 2,054 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านถัดไป 2062-2067
📉แนวคิดแผน Sell วันที่ 19 มกราคม
เริ่มหาสัญญาณ Sell เมื่อการรีบาวด์เข้าใกล้ 2037-2040 เริ่มจากการเก็งกำไรระยะสั้น ถ้าผ่านและยืนเหนือ 2040 ได้รอดูลาดเลาแล้วค่อยหาแผนถัดไป หรือมีสัญญาณ Over bought ใน H4 ขึ้นไปเริ่มสะสมเซล(แนวต้านถัดไป 2062-2067)
TP วันนี้วางเป้าหมาย 2005-2001 และ 1986-1982 และ 1962-1959 และ 1950-1948(TSL)
⭐️Sell 2037-2040-2043
คัท 2055
TP1 2015
TP2 2005
TP3 1985
TP4 1965
.....
⭐️แผน 2
Sell 2048-2052
คัท 2062
TP1 2028
TP2 2008
TP3 1988
TP4 1968
TP5 1958
....
📈แนวคิดแผน Buy วันที่ 19 มกราคม
คนมีของพยายามเน้นไม้สะสมรอรันเทรน H4,D1,W1
D1 จะมี แนวรับสำคัญ 2009-2007 หรือถ้าหลุด Low ของเมื่อวานนี้ที่ 2005 ก็มีความเสี่ยงลงต่อตามโมเมนตั้มที่ค้างคาไว้เมื่อวาน และถ้าหากวันนี้มีแรงซื้อเข้ามาอาจจากปัจจัยหนุนราคาอาจทะลุ 2050 ขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 2062-2067
วันนี้อาจรอพิจารณาเข้าซื้อเก็งกไรในโซน 2005-2000 หากหลุด 2000 ชะลอการเข้าซื้อเพื่อดูแผนถัดไปหากว่าเขาหลุด แนวรับจิตวิทยา 2000 ซึ่งโซนราคาที่ควรเล็งไว้คือ 1984-1980 และ 1962-1960 และ 1950-1945
⭐️แผน 1
Buy 1984-1981
Sl 1959
TP1 1994
TP2 2004
TP3 2014
TP4 2024
TP5 2034
TP6 2090(TSl)
TP7 2135(TSL)
.....
⭐️แผน 2
Buy 1962-1960
Sl 1945
TP1 1972
TP2 1982
TP3 1992
TP4 2002
TP5 2012
TP6 2050(TSl)
TP7 2100(TSL)
....
⭐️ แผน 3 รันเทรน
Buy 1952-1949-1946
Sl 1929
TP1 1962
TP2 1972
TP3 1982
TP4 1992
TP5 2002
TP6 2012
TP7 2022
⚠️ทองเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง แนะนำให้นักลงทุนติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนยังไงก็ขอให้เพื่อนๆประสบความสำเร็จในการลงทุน
เมื่อวานมีชัยชนะครั้งใหญ่ แนวโน้มหลักของทองคำในปัจจุบันยังคงลดลงราคาทองคำทรงตัวในวันอังคาร (9 มกราคม) เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังรอข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เปิดเผยในปลายสัปดาห์นี้
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายวันอังคาร สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้นเกือบ 0.1% เป็น 2,029.06 USD/ออนซ์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ในวันที่ 8 มกราคม สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าก็เพิ่มขึ้นเกือบ 0.1% เป็น 2,035.3 USD/ออนซ์
Jim Wyckoff นักวิเคราะห์อาวุโสของ Kitco Metals ให้ความเห็นว่า "หากข้อมูลเงินเฟ้อน่าประหลาดใจ Fed อาจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ซึ่งจะนำปัจจัยลบมาสู่ตลาดทองคำ"
ความสนใจของนักลงทุนตอนนี้หันไปที่รายงานอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคและภาคการผลิตของสหรัฐฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 11 มกราคม โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาจะชะลอตัวลงในเดือนธันวาคม 2023
การสำรวจของเฟดที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 8 มกราคม แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง โดยรายได้ครัวเรือนและการใช้จ่ายจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป
มิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟดเมื่อวันที่ 8 มกราคม ประกาศว่านโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดูเหมือนจะ "เข้มงวดเพียงพอ"
จากเครื่องมือ CME FedWatch ผู้เข้าร่วมตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 60% ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนมีนาคม 2024
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองโลหะไม่ให้ผลตอบแทน
ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตลาดรอเฟดปรับลดอัตราดอกเราคาทองคำมีความผันผวนเล็กน้อยในการซื้อขายในเอเชียในวันพุธ หลังจากร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากผู้ค้ากำลังมองหาสัญญาณเพิ่มเติมว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ตา.
รายงานการจ้างงานของ JOLTs ที่อ่อนแอเกินคาดในเดือนตุลาคม ทำให้เกิดความคาดหวังบางประการเกี่ยวกับการชะลอตัวของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม ความสนใจยังคงอยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคาดว่าจะประกาศในวันศุกร์นี้
โลหะสีเหลืองเริ่มต้นในสัปดาห์นี้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่มากกว่า 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากคำพูดที่ดูเหมือนประหม่าของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จางหายไปและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่นั้นมา ความไม่แน่นอนโดยรอบธนาคารกลางสหรัฐได้ช่วยให้เงินดอลลาร์ฟื้นตัว ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดตลอดกาล ราคาทองคำยังคงอยู่เหนือ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์
ณ เวลา 12:08 ET (17:08 น. ตามเวลาญี่ปุ่น) สปอตทองคำเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 2,021.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 2,039.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มันกลายเป็น.
แม้ว่านักลงทุนจะมั่นใจว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
ราคาฟิวเจอร์สกองทุนของรัฐบาลกลางแสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์กำลังกำหนดราคาโดยมีโอกาสมากกว่า 50% ที่เฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2024 นอกจากนี้ ฟิวเจอร์สยังแนะนำว่ามีโอกาสมากกว่า 90% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในเดือนธันวาคม แต่ธนาคารกลางไม่ได้ให้ข้อบ่งชี้ว่าจะเป็นเช่นนั้น โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงในวงกว้างเป็นเวลานาน เว้นแต่อัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงสูงกว่าเป้าหมายประจำปีของ Fed ที่ 2% และตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
ราคาทองคำทรงตัวที่ 2,000 เหรียญสหรัฐ รอเอกสารข้อมูลนอกภาคเกษตรราคาทองคำผสมเล็กน้อยในการซื้อขายในเอเชียเมื่อวันศุกร์ โดยตลาดได้รับแรงหนุนหลัก เนื่องจากตลาดรอให้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงก่อนการประชุมเฟด เกินค่ามาตรฐาน
โลหะสีเหลืองพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการผสมผสานระหว่างความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
แต่ทันทีที่ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาก็ร่วงลงจากสถิติเมื่อเทรดเดอร์ทำกำไรท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
ณ เวลา 01:17 น. ET สปอตทองคำทรงตัวที่ 2,030.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2,046.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ . หุ้นทั้งสองทำสถิติสูงสุด ราคาสูงขึ้นเหนือ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันจันทร์ แต่การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่หายไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ราคาโลหะสีเหลืองทรงตัวที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์มาเกือบสามสัปดาห์แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มของทองคำในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ประเด็นสำคัญในขณะนี้อยู่ที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันศุกร์
ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานจะเย็นลงอีก หลังจากที่ตำแหน่งงานว่างและตัวเลขค่าจ้างภาคเอกชนบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของอุตสาหกรรม
การชะลอตัวลงอีกในตลาดแรงงานจะลดแรงจูงใจของธนาคารกลางสหรัฐในการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้คงที่เป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่สนับสนุนทองคำ เป็นที่คาดกันอย่างกว้างขวางว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ในการประชุมสัปดาห์หน้า แต่แนวโน้มนโยบายการเงินยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย ยังไม่รู้.
ความเชื่อที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือนมีนาคม 2024 ถือเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญสำหรับราคาทองคำเมื่อต้นสัปดาห์นี้ แต่ผู้ค้ากำลังลดการเดิมพันเหล่านั้น เนื่องจากเฟดส่วนใหญ่ยังคงแข็งแกร่งโดยมองว่าราคาจะยังคงสูงต่อไปเป็นระยะเวลานาน