ขาขึ้นยังครองเกม — เส้นเทรนด์ H1 ถูกเจาะแล้ว!ราคาทองคำวันนี้ (8 ก.ค. 2568) 🕰️
ราคาทองคำสปอตแกว่งแคบแถว $3,327-3,335 ต่อออนซ์ (-0.12% จากวานนี้) โดยตลาดเอเชียยังคงซึม ๆ ในช่วงเช้า
ราคาทองคำซื้อขายในแดนลบใกล้ 3,327 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายเอเชียในช่วงเช้านี้ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำอ่อนค่าลงท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าที่คลี่คลายลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศขยายกำหนดเส้นตายภาษีศุลกากร และเขาเปิดกว้างต่อการเจรจาเพิ่มเติม
ความวิตกกังวลของตลาดลดลง หลังจากที่ทรัมป์ส่งสัญญาณความยืดหยุ่นเกี่ยวกับกำหนดเส้นตายภาษีศุลกากรวันที่ 1 สิงหาคม โดยระบุว่า "ไม่มั่นคง 100%" และแนะนำให้มีพื้นที่สำหรับการปรับเปลี่ยนต่อไป ความหวังใหม่ที่มีต่อนโยบายการค้านี้ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์สหรัฐ เช่น ทองคำ มีราคาสูงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
💡ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำสะสมรอข่าวเกี่ยวกับข้อมูลภาษีศุลกากรใหม่ ทำลายแนวโน้มครึ่งปีแรก กำลังซื้อที่ดี
แนวรับทางเทคนิคแรกอยู่ที่ $3,310 (Low เอเชีย) และแนวต้านระยะสั้นที่ $3,355 หากผ่านได้มีสิทธิ์มุ่ง $3,380
ปัจจัยหนุน-กดดันหลัก 🔍
🛡️ ภาษีใหม่ของสหรัฐ – ประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้า 25 % ต่อสินค้าญี่ปุ่น-เกาหลี 1 ส.ค. สร้างอานิสงส์ safe-haven แต่ถูกหักล้างบางส่วนด้วยบอนด์ยีลด์ที่ยังสูง
💵 ดอลลาร์ & บอนด์ยีลด์ – ผลตอบแทนพันธบัตร 10 Y ยืนเหนือ 4.25 % ทำให้ต้นทุนถือทองเพิ่มขึ้น
🏦 ท่าทีเฟด – ตลาดรอถอดรหัส FOMC Minutes คืนพรุ่งนี้ (9 ก.ค. 02:00 ET) เพื่อหาสัญญาณลดดอกเบี้ยหลังถูกกดดันทางการเมือง
📈 เงินเฟ้อสหรัฐ – CPI เดือน มิ.ย. จะประกาศ 15 ก.ค.; ตัวเลขนี้อาจกำหนดเส้นทางดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง
🌏 ดีมานด์เอเชีย-CB ซื้อทอง – ฤดูกาลอ่อนแรง แต่วิจัย WGC ชี้ธนาคารกลางยังซื้อสุทธิ albeit ช้าลง
มุมมองเทคนิค 🖥️
EMA 21 วัน อยู่บริเวณ $3,320—แนวรับสำคัญ; หลุดอาจเห็น $3,295 / $3,280 (Fib 38.2 %)
ขึ้นเหนือ $3,355 จะเปิดทางทดสอบ $3,380 และ $3,410
RSI H4 แถว 55 สะท้อนโมเมนตัมเริ่มชะลอ แต่ยังไม่กลับตัวลงเต็มรูปแบบ
แผนการลงทุน 🎯
เทรดสั้น (Day-Trade)
รอ Buy on dips โซน $3,310-3,320, SL ใต้ $3,295, TP $3,355 ➜ $3,380
สวิงเทรด (1-2 สัปดาห์)
หากปิดรายวันเหนือ $3,355 ให้ถือ Long เป้า $3,410-3,450; เลื่อน SL ตาม
สะสมระยะยาว
ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาต่ำกว่า $3,300 โดยกันสัดส่วนทองไม่เกิน 10 % ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงเงินเฟ้อและภูมิรัฐศาสตร์
ปฏิทินที่ต้องจับตา ⏰
9 ก.ค. 02:00 ET – FOMC Minutes (ประชุม 17-18 มิ.ย.)
9 ก.ค. – สุนทรพจน์ประธานเฟด บอสตัน & ดัลลัส
10 ก.ค. 20:30 ICT – สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ (WTI link ต่อเงินเฟ้อ)
15 ก.ค. 19:30 ICT – CPI สหรัฐ (มิ.ย.)
สรุป: ตราบใดที่บอนด์ยีลด์ไม่ทะยานเกิน 4.4 % และเฟดไม่ “เหยี่ยว” เกินคาด ทองคำยังมีลุ้นขยับขึ้น โดย $3,355 คือประตูสำคัญสู่คลื่นขาขึ้นใหม่ ⚡
หมายเหตุ: บทวิเคราะห์นี้มิใช่คำแนะนำการลงทุนอย่างเป็นทางการ ผู้ลงทุนควรประเมินความเสี่ยงและใช้ดุลยพินิจของตนเอง
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
Xauusdsell
ลุ้นทดสอบแนวต้าน 3,367 USD—จะพุ่งต่อหรือพักฐานที่ 3,311? 🟡✨ Gold (XAU/USD) H1 Outlook | 4 ก.ค. 2568
🌅 เช้านี้ XAU/USD ยืนเหนือ $3,330 ท่ามกลางตลาดเบาบางวันชาติสหรัฐ 🚀 ลุ้นทดสอบแนวต้าน 3,367 USD—จะพุ่งต่อหรือพักฐานที่ 3,311? 🧐
ราคาทองคำร่วงลง 0.80% จากระดับสูงสุดในรอบวัน 3 วัน ที่ 3,365 ดอลลาร์ หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (NFP) ที่แข็งแกร่งส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ลดลง
ข้อมูลการจ้างงานของเดือนมิถุนายนนั้นดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และยังแซงหน้าตัวเลขของเดือนพฤษภาคมอีกด้วย ซึ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราการว่างงานขยับเข้าใกล้ระดับ 4% ซึ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน รายงานเชิงบวกนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่อ่อนตัวลงในวันพุธ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจ้างงานลดลง 33,000 ตำแหน่ง
🏆 สรุปภาพรวม ณ ราคา ปัจจุบันขณะเขียนทวิเคราะห์นี้ 3,341 USD (H1)
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจากโซน Buy 3311–3305 ตามแผน Demand ภาพใหญ่ ขณะที่ RSI พลิกกลับเหนือเส้นค่าเฉลี่ย ➡️ โมเมนตัมสั้นเริ่มเป็นบวก แต่ยังชนแนวต้าน Supply ด้านบน
🖼️ โครงสร้างราคา & Technical Highlights
BOS → CHoCH → Pullback – หลังเกิด Break of Structure แบบขาขึ้น ราคาย่อลึกจนเกิด CHoCH ขาลง แล้วดีดกลับเหนือ 3311 ชี้ว่าเป็นเพียง “พักฐาน”
ลิ่มขาลง (Falling wedge) ถูกทะลุออกด้านบน ➜ เพิ่มโอกาสรีเทสต์ 3345
RSI Divergence บริเวณ Low วันที่ 29 มิ.ย. ส่งสัญญาณ Bullish ยืนยันด้วย RSI > 50 ในปัจจุบัน
โซนสำคัญบนกราฟ H1
🟥 Supply 3367 / 3345 (จุดเฝ้ารอขาย)
🟩 Demand 3311–3305 (จุดเฝ้ารอซื้อ)
🔻 Stop-hunt zone 3291 & 3281 (แนวรับถัดไป ถ้าหลุด 3305)
💡 แผนการลงทุน (Scenario-Based)
Long ต้นน้ำ (Aggressive Buy)
เข้า: 3311–3305
เป้า: 3345 > 3367
SL: ปิด H1 ต่ำกว่า 3291
Long หลังยืนยัน (Break-&-Retest)
รอราคาปิด H1 เหนือ 3345 แล้วกลับมาทดสอบ 3345 เป็นแนวรับ
เป้า: 3367–3375
SL: 3330
Short บนยอด Supply
เข้า: 3360–3367 (pin-bar / bearish engulfing)
เป้า: 3345 > 3319
SL: 3380
📏 Risk : Reward ควรมากกว่า 1 : 2 และลดขนาดไม้ในช่วงตลาดบางเบาวันหยุดสหรัฐ
📅 ปัจจัยพื้นฐานที่ต้องจับตา
ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ (NFP) ออกแล้วเมื่อ 3 ก.ค. – แรงกระเพื่อมต่อเนื่องอาจเพิ่มความผันผวนก่อนตลาดสหรัฐเปิดอีกครั้งหลังวันชาติ 4 ก.ค.
บรรยากาศพันธบัตรสหรัฐ 10 Y ยืนสูง 4.25% นักลงทุนรอดูผลนโยบายคลังชุดใหญ่ของรัฐบาล ซึ่งกดดันดอลลาร์และหนุนทองคำในภาพรวม
สัปดาห์หน้า: CPI สหรัฐ (10 ก.ค.), FOMC Minutes, ถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟด
จีน & ยุโรป: PMI ภาคบริการ, ความไม่แน่นอนภูมิรัฐศาสตร์ (ยูเครน-รัสเซีย, ตะวันออกกลาง) ช่วยพยุง Safe-haven demand
⚠️ บทสรุป & ความเสี่ยง
โครงสร้างยังเป็น Sideways-Up ตราบใดที่ยืน 3311 ได้ ✔️
การทะลุ 3367 พร้อมวอลุ่ม จะเปลี่ยนภาพเป็น Bull continuation เป้าถัดไป 3385/3400
แต่หากหลุด 3305–3291 ลงมาชัด ๆ โอกาสกลับทดสอบ 3281/3260 จะเปิดกว้าง
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำสะสมและฟื้นตัวที่ระดับ 3,350 วันนี้ไม่มีข่าวสำคัญและเป็นวันหยุดธนาคารในการซื้อขายของสหรัฐฯ การฟื้นตัวในระยะสั้น
จัดการ Money Management เข้มงวดในช่วงข้อมูลเศรษฐกิจใหญ่-ตลาดบางเบา ✨
หมายเหตุ: บทวิเคราะห์นี้จัดทำเพื่อการศึกษามิใช่คำแนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงด้วยตนเอง
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
ทองคำลุ้น NFP! XAUUSD จ่อชนแนวต้าน $3,405💰 Gold (XAU/USD) Daily Outlook — 3 ก.ค. 2568
ทองคำลุ้น NFP! XAUUSD จ่อชนแนวต้าน $3,405 — รับย่อ 3,300 หรือเสี่ยง Sell the Rally?
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงการซื้อขายในอเมริกาเหนือ เนื่องจากนักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่อาจส่งผลต่อการดำเนินการตามนโยบายครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ XAU/USD ซื้อขายอยู่ที่ 3,348 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.29%
ข้อมูลแรงงานล่าสุดจาก ADP เผยให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ กำลังหยุดจ้างพนักงานแทนที่จะเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งสะท้อนถึงความระมัดระวังท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของบริษัทไมโครซอฟต์ที่จะเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คนได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลง
ขณะนี้ นักลงทุนกำลังรอรายงานการจ้างงานอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีจากสำนักงานสถิติแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะมีการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้น 110,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งชะลอตัวลงจาก 139,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม คาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.3% ซึ่งยังคงอยู่ในกรอบที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ที่ 4.4% ตามรายงานสรุปการคาดการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุด
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
ซื้อดี ถือไว้ก่อนที่ข่าว NF. จะออก ดอลลาร์ยังคงถูกกดดันจากนักลงทุน เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรที่ไม่แน่นอนของรัฐบาลทรัมป์
📊 Market Snapshot
ราคาทองคำในกรอบ H1 ยังคงเคลื่อนตัว เป็นขาขึ้นในช่องขนาน (ascending channel) แต่เริ่มเข้าใกล้แนวต้านใหญ่โซน $ 3 393 – 3 405
ค่า RSI 14 ช่วง H1 ยืนเหนือ 60 – ยังไม่เข้าเขต overbought แต่แสดง “แรงซื้อเริ่มชะลอ”
ตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานสหรัฐ (⚠️ NFP) วันนี้เวลา 19:30 น. ตามเวลาไทย / 12:30 GMT ซึ่งเลื่อนขึ้นเพราะวันหยุด 4 ก.ค. พรุ่งนี้
รูปแบบที่ต้องจับตา: ราคาแกว่งสร้าง rising-wedge ย่อย → ความเสี่ยง throwback ลงมายังเส้นล่างของ channel (≈ 3 330) ก่อนดีดขึ้นใหม่ตามเส้นประสีแดงในกราฟ
💡 Daily Trade Plan
Aggressive Scalper
Short ที่ 3 393–3 405 พร้อม Stop 3 410, เป้าหมายสั้น 3 350
Long เมื่อย่อถึง 3 330 (ยืนยันแท่งกลับตัว) เป้าเร็ว 3 360
Swing Trader
รอ Buy ที่กล่องสีเขียว 3 307–3 294 พร้อม Stop 3 279 เพื่อหวัง new high เหนือ 3 405
หาก NFP แย่มาก ราคาอาจทะลุ 3 405 → follow-through long เป้า 3 450 (ใช้ Trailing-stop)
💵Risk-Management
ใช้ขนาด lot ไม่เกิน 1–2 % ของบัญชีต่อความเสี่ยง
ปรับ Stop-loss ทุก 30 ดอลลาร์เมื่อราคาเคลื่อนตามทาง
✨ สรุปสั้น ๆ
โครงสร้าง H1 ยัง “ขาขึ้น” แต่เข้าใกล้แนวต้านใหญ่ ➡️ รอขายโซน 3 393–3 405
หากย่อแรงจากข้อมูล NFP ให้จับตา Buy zone 3 307–3 294
ปัจจัยชี้นำวันนี้คือ รายงานการจ้างงานสหรัฐ — จัดการความเสี่ยงให้ดี, อย่าลืมใช้ Stop-loss!
ขอให้ทุกการเทรดมีแผน มีวินัย แล้วกำไรก็จะตามมา 😉📈
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ต้นสัปดาห์ กระทิงทองกำลังดิ้นรนเพื่อเอา 3,300 คืนมา📊ราคาทองคำ (XAU/USD) ฟื้นตัวขึ้นในช่วงการซื้อขายในเอเชียเช้านี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ และอาจเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ แนวโน้มดังกล่าวส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้โลหะที่ซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์มีความน่าดึงดูดใจสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวดีขึ้นล่าสุดของความเชื่อมั่นต่อความเสี่ยงทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนโดยข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน อาจลดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับคำกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดที่กำลังจะมาถึง โดยคาดว่าจะมีคำกล่าวของนายราฟาเอล บอสทิค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และนายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกในช่วงบ่ายของวันนี้
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำฟื้นตัว โดยสะสมในช่วงต้นสัปดาห์ใหม่บริเวณราคา 3,300 จุด ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงหลัก
📊ภาพรวมทิศทางราคาปัจจุบัน
ราคาทองคำร่วงลงจากโซนแนวต้านสูงบริเวณ 3,334–3,342 ก่อนเกิด Break of Structure (BOS) ลงมาอย่างชัดเจน
ล่าสุดราคาลงมาทดสอบโซนดีมานด์บริเวณ 3,248–3,244 และเกิดแรงดีดตัวขึ้นทันที สะท้อนแรงซื้อกลับในโซนนี้
📈สัญญาณจาก RSI
RSI แสดง Bullish Divergence ที่ระดับต่ำสุดเมื่อราคาร่วงลงมาที่ ~3,248 (RSI ทำต่ำสุดสูงกว่าเดิม ในขณะที่ราคาทำต่ำสุดต่ำกว่าเดิม)
ปัจจุบัน RSI ดีดกลับขึ้นมาที่ประมาณ 57 แสดงแรงซื้อเข้มข้นในระยะสั้น
🚫🔼แนวต้าน และเป้าหมายถัดไป
ราคามีแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 3,297–3,300 (โซน Supply เล็ก) หากผ่านได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบโซนแนวต้านสำคัญที่ 3,315–3,320
การฟอร์มโซน 3,315–3,320 จะเป็นจุดขายกลับสำคัญ (Resistance zone) ตามที่กราฟทำเครื่องหมายไว้
💡 กลยุทธ์การลงทุน
เก็งกำไรระยะสั้น (Scalp/Day Trade)
รอ Long ที่โซน 3,248–3,242 (จังหวะดีดจากแนวรับเดิม)
ตัดขาดทุนหากหลุด 3,240
เป้ากำไรระยะสั้น 3,258–3,270-3,286
Swing Trade (รอทดสอบแนวต้านใหญ่)
รอราคาฟื้นตัวกลับเข้ามาหา 3,300–3,307—หรือ—- 3,315–3,320 และดูสัญญาณกลับตัว (เช่น แท่งเทียนกลับตัว หรือ RSI เกิน 70)
เปิด Short เพื่อลงไปทดสอบ 3,248–3,244 (เป้าหลัก)
ตัดขาดทุนหรือลดการลงทุนหากราคาขึ้นเหนือ 3,320
💵ปัจจัยพื้นฐานควรติดตามเพิ่มเติม
⏺ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี
⏺รายงานตัวเลข CPI / PPI สหรัฐ และถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่ Fed
⏺ความผันผวนตลาดหุ้นสหรัฐ (Risk Sentiment)
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
Gold Outlook 30 มิ.ย.–4 ก.ค รีบาวด์ชั่วคราวหรือหลุดแนวรับต่อ?🪙 วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ (30 มิ.ย.–4 ก.ค. 2568) 🪙
ราคาทองคำร่วงลงกว่า 1.5% ในวันศุกร์ เนื่องจากความต้องการเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจในเชิงบวก ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่คลี่คลายลง ข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน และความพยายามอย่างต่อเนื่องของวอชิงตันในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าใหม่กับพันธมิตรระดับโลก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของตลาดดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำแท่ง ลดลง
ในขณะที่เขียนบทความนี้ XAU/USD ซื้อขายที่ 3,274 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงจากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 3,328 ดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ทำเนียบขาวยืนยันการลงนามในข้อตกลงการค้าที่รอคอยกันมานานกับจีน ซึ่งถือเป็นการยุติสงครามการค้าที่ยืดเยื้ออย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่าอาจมีการสรุปข้อตกลงเพิ่มเติมก่อนเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาค ม
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจาภาษีศุลกากรค่อยๆ มีเสถียรภาพและเอื้ออำนวยมากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่แสดงสัญญาณการเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นของ dxy (ดอลลาร์ )ยังเป็นแรงกดดันชั่วคราวที่ทำให้ราคาทองคำกลับสู่ระดับ 3,200
📊ในทางเทคนิค:
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: $3,315, $3,348, $3,390, $3,450
แนวรับ: $3,243, $3,209, $3,166, $3,117
🔍ภาพรวมทางเทคนิค (4-Hour Chart)
แนวโน้มหลัก: สร้างรูปแบบ Channel Down (สีแดง) ปรับตัวลงต่อเนื่อง
แนวรับสำคัญ:
โซน 3,243–3,220 USD 📉
จุดต่ำสุดเดิม ~3,2011-,209 USD
แนวต้านสำคัญ:
เส้นเทรนด์ไลน์ด้านบน ~3,292 USD 🔥
โซน 3,315–3,348 USD
บริเวณ 3,390 USD หากทะลุขึ้นได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
⚠️RSI: ปรับตัวเข้าโซน oversold (ต่ำกว่า 30) ชี้โอกาสฟื้นตัวระยะสั้น 📈
💵 ติดตามปัจจัยสำคัญ:
รายงาน NFP สหรัฐ (3 ก.ค.)
หากตัวเลขการจ้างงานพุ่ง → ดอลลาร์แข็งค่า → กดดันทองคำ
หากอ่อนแอ → นักลงทุนเข้าสถานะปลอดภัย → หนุนราคาทอง
ประกาศ Beige Book (30 มิ.ย.) & ISM PMI (1 ก.ค.)
ส่งสัญญาณ Fed โอกาสขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่
ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) เบื้องต้น (2 ก.ค.)
สูงเกินคาด → ดอกเบี้ยขาขึ้น → กดดันทอง
ต่ำกว่าคาด → ดอกเบี้ยนิ่ง/ลดความกังวล → หนุนทอง
สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์
ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง/ยุโรป ⚠️ → ส่งเสริมสินทรัพย์ปลอดภัย
ปิดทำการตลาดสหรัฐ (4 ก.ค.)
สภาพคล่องลดลง → ความผันผวนอาจเพิ่ม
💡 สรุป
ราคาทองกำลังทดสอบแนวรับสำคัญ 3,243–3,220 USD
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐช่วงต้นสัปดาห์ ‼️
RSI เข้าภาวะ oversold ส่งสัญญาณซื้อชั่วคราว แต่หากหลุดแนวรับหลัก ควรระวังขาลงต่อ
หวังว่าจะช่วยให้การตัดสินใจเทรดทองคำระหว่างสัปดาห์นี้ชัดเจนขึ้นนะครับ! 🚀
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
H4 ภาพรวมแนวโน้มขาลง ( DownTrend) 💡XAU/USD 🇹🇭,
กราฟ 4H สถานการณ์ปัจุบัน
ภาพรวมแนวโน้ม (Trend)
ราคายังคงเคลื่อนที่ในกรอบ Channel Down ชัดเจน (เส้นสีเหลือง) โดยสร้างจังหวะ Lower High – Lower Low ติดต่อกัน แสดงว่าแรงขายยังคงมีอยู่ และแนวโน้มระยะสั้นยังเป็นขาลง
แนวต้านสำคัญ (Resistance)
3,300 USD: บริเวณเส้นกึ่งกลางช่อง (Median Line) และระดับจิตวิทยา
3,315 USD: เส้นกรอบบนของ Channel Down
3,335 USD – 3,380 USD: โซนแนวต้านจากการเคลื่อนไหวก่อนหน้า
แนวรับสำคัญ (Support)
3,292 USD: แนวรับแรกที่พึ่งหลุดลงมาแล้ว กำลังกลายเป็นแนวต้าน
3,243 USD – 3,221 USD: โซนแนวรับถัดไป (กรอบสีเขียว) หากหลุดลงจะเปิดทางไปยัง
3,211 USD และโซนกึ่งกลางช่องล่าง สู่ระดับ 3,166 USD
🕯ตัวชี้วัดเชิงเทคนิค (RSI)
ปัจจุบัน RSI รอบกราฟ 4 ชั่วโมง แตะโซน Oversold ~30.3 และต่ำกว่าเส้น MA (40.6)
เคยเกิด Bearish Divergence เมื่อปลายเดือน มิ.ย. (ติด “Bear” 2 ครั้ง) ส่งผลให้ราคาเร่งลงอีกครั้ง
💡กลยุทธ์การลงทุน
📉ฝั่ง Sell (ฝั่งหลัก)
รอให้ราคาเด้งกลับขึ้นมาทดสอบกรอบบนของ Channel ลงมาอีกที บริเวณ 3,300–3,315 USD แล้วเปิด Short ด้วย Stop-loss เหนือ 3,335 USD
เป้าหมายรอบแรก 3,243 USD, รอบสอง 3,211 USD (หากหลุดย่อไปต่อ)
📈ฝั่ง Buy (กรณีสวนเทรนด์)
พิจารณาเปิด Long เบาๆ เมื่อราคาเข้าใกล้โซน 3,243–3,221 USD พร้อมสัญญาณกลับตัว (เช่น แท่งเทียน Hammer หรือ Bullish RSI Divergence)
ตั้ง SL ใต้ 3,211 USD, เป้าหมายรีบาวด์รอบแรก 3,292 USD
🔍เงื่อนไขสำคัญที่ต้องติดตาม
หากราคาสามารถปิดเหนือ 3,300 USD ติดกัน 2–3 แท่ง 4H และทะลุ 3,315 USD ได้ จะเป็นสัญญาณว่า Channel Down อ่อนแรง ควรระวังการกลับตัวขึ้นกลางเทรนด์
การทะลุ 3,380 USD พร้อม volume หนักๆ จะเปิดโอกาสให้ราคาฟื้นตัวยาวไปทดสอบโซน 3,460–3,480 USD
สรุปคือ แนวโน้มหลักยังเป็น ขาลง ให้น้ำหนักกับการ Sell on rallies ภาพรวมระยะสั้นมีโอกาสลงต่อจนถึงโซน 3,243–3,221 USD หากโซนนี้ยืนได้ดี อาจมีดีดกลับ แต่หากหลุด จะพิจารณาลงต่อสู่ 3,166 USD ครับ
แรงขายสุดสัปดาห์แข็งแกร่ง หลุดทะลุต่ำกว่า 3,300ราคาทองคำ (XAU/USD) ตกอยู่ภายใต้แรงขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเช้านี้ โดยลดลงต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ หลังจากปรับตัวลดลงในวันก่อนหน้า โลหะมีค่านี้กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่เห็นในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนกำลังรอการประกาศดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ คาดว่าดัชนีเงินเฟ้อที่สำคัญนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอาจส่งผลต่อแนวโน้มระยะสั้นของโลหะสีเหลืองที่ไม่ให้ผลตอบแทน
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
แรงขายในช่วงปลายสัปดาห์ทำให้ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์ โดยยังคงมีแรงขายอยู่ และลดลงในวันนี้
.............
✨ บทวิเคราะห์ราคาทองคำ XAU/USD 27 มิ.ย. 2025 ✨
1. ทิศทางหลัก (Medium-Term)
📉 ราคายังเคลื่อนตัว ใต้เส้นแนวโน้มขาลง (หลุดจากโซน 3,460)
ภาพรวมยังเป็น ขาลง พร้อมแนวต้านหลักที่ 3,335–3,350
2. แนวรับ–แนวต้านสำคัญ
แนวต้าน 1: 3,335 (เส้นแนวโน้ม + โซน Supply สั้น)
แนวต้าน 2: 3,380–3,400 (โซน Supply หลัก)
แนวรับ 1: 3,285–3,278 (โซน Demand แรก)
แนวรับ 2: 3,262–3,250 (โซน Demand ถัดไป)
แนวรับล่างสุด: 3,230–3,220 (หากเบรกโซนบนต่ำลง)
3. สัญญาณทางเทคนิค
📊 RSI ~45 (ต่ำกว่า 50 → Bearish Momentum ยังเด่น)
🔄 พบ Bullish Divergence เล็กน้อย แต่ไม่ผ่านแนวต้าน ทำให้สัญญาณอ่อนตัว
4. กรอบการเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ (Scenario)
.ดีดขึ้นทดสอบ 3,321–3,335
.หากไม่ผ่าน (ยืนต่ำกว่าแนวขาลง) → เปิด Short
เป้าระยะสั้น: 3,278–3,285
หากหลุดต่อ → เป้าถัดไป 3,262–3,250 และอาจย่อลึกถึง 3,230–3,220
ในกรณีทะลุ 3,335 เตือนรีเทสต์โซน 3,380–3,400
📝 สรุป (Summary)
Bias: Bearish
กลยุทธ์: รอจังหวะดีดขึ้นบริเวณ 3,321–3,335 → Short
Stop Loss: เหนือ 3,350
Take Profit: รอบแรก 3,278–3,285, รอบสอง 3,262–3,250
ขอให้เทรดปลอดภัย และบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัดครับ! 🚀
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาเคลื่อนไหวในช่วงสะสมกำลังซื้อขายเหนือ 3,300ทองคำรีบาวด์ ยังต้องระวังทิศทางระยะสั้น มีแนวรับสำคัญเหนือ 3300
ปัจจัยพื้นฐาน:
💵หนี้สิน FOMC และดัชนี PCE สัปดาห์นี้จะมีผลต่อทิศทาง Fed และ USD
💵หากความตึงเครียดในตะวันออกกลางค่อยๆ ผ่อนคลาย จะลดแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
🎯 แนวรับ–แนวต้านสำคัญ (เทคนิควิเคราะห์)
ระดับ (USD/oz) บทบาท
3,365 แนวต้านหลัก
3,344–3,348 โซนจำกัดการแกว่งระยะสั้น (sell zone)
...
3,330–3,320 แนวรับแรก (gap/ล่าง intraday)
3,311–3,300 แนวรับลึก–psychological
💡 แผนการเทรดวันนี้
ในกรณี Sideways Consolidation
Sell the high: Short ในโซน
เน้น “ขายชอร์ต” เมื่อราคาย่อตัวขึ้นติดแนวต้านรอบ 3,344–3,348 / 3,364–3,366
ตั้ง stop-loss เหนือระดับ 3,366–3,372
เป้าหมาย short คือแนวรับบริเวณ 3,330–3,325 / 3,303–3,295
แผนเปิด Long หากมีแรงหนุนชัดเจน
Buy the dip: Long
เข้าซื้อเมื่อราคายืนทดสอบแนวรับ 3,330–3,324 แล้วมีสัญญาณ reversal
Stop-loss ใต้ 3,320
เข้าซื้อเมื่อราคายืนทดสอบแนวรับ 3,303–3,295 แล้วมีสัญญาณ reversal
Stop-loss ใต้ 3,290
เป้าขึ้นทั้งรอบแนวต้านที่ 3,340–3,346 และถ้ายืนได้ จะมุ่งไปถึง 3,355–3,360
หากราคายืนเหนือ 3,355 ได้
เป้าถัดไปอยู่ที่แนว 3,400 ตามนักวิชาการที่คาดว่าจะมีแรง breakout
📊 ความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง Monitor news:
-รายงานเศรษฐกิจสหรัฐ: Core PCE, Durable Goods, Jobless Claims มีผลต่อ USD และราคาทองชัดเจน
-สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์: หากมีความรุนแรงใหม่ระหว่างอิสราเอล–อิหร่าน อาจดันราคาทองขึ้นชั่วคราว
-ความคาดหวัง Fed: หากตลาดเชื่อว่าจะมี rate cut ปีนี้แรงขึ้น จะหนุนทอง แต่หาก Powell ส่งสัญญาณ Hawkish แรงขึ้น ราคาทองอาจอ่อนตัว
จัดการความเสี่ยง: ใช้ stop‑loss รัดกุม, position sizing ให้เหมาะสม
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
GAP 3366 ในช่วงต้นสัปดาห์ แรงกดดันยังคงอยู่📊เช้านี้ราคาทองคำพยายามดึงดูดผู้ซื้อ ดันราคาฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางคลี่คลายลง และชดเชยดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
นายเจฟฟ์ ชมิด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแคนซัสซิตี กล่าวว่า ธนาคารกลางมีเวลาเพียงพอในการประเมินผลกระทบของภาษีศุลกากรต่ออัตราเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย คำพูดของเขาแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ระมัดระวัง และสอดคล้องกับความเห็นของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จากวันก่อนหน้า
ประธานเฟด พาวเวลล์ ยืนยันมุมมองที่ว่าไม่มีความเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยเน้นที่แนวทางที่อดทนและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ขณะที่เฟดติดตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจ น้ำเสียงที่ผ่อนปรนน้อยลงของผู้นำเฟดนี้อาจช่วยลดแรงกดดันด้านลบต่อทองคำในระยะใกล้ได้
ขณะเดียวกัน ตลาดเงินกำลังกำหนดราคาอย่างเต็มที่สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปี 2568 โดยการปรับลดในเดือนกันยายนมีแนวโน้มมากกว่าการปรับลดในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าความคาดหวังต่อการปรับลดในเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
💬ความคิดเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำฟื้นตัวและยังคงสะสมต่อไป ให้ใส่ใจบริเวณ GAP 3366 ในช่วงต้นสัปดาห์ แรงกดดันการขายยังคงอยู่
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำใน H4 เกิดรูปแบบ Triangle ราคารอเลือกข้างรุนแรง📊วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 12/05/2025 - 16/05/2025
🌐 สถานการณ์ล่าสุด:
ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) อ่อนค่าลงหลังจากที่ปรับตัวขึ้ตนติดต่อกัน 2 วัน โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง ความรู้สึกไม่ยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ความต้องการโลหะที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ในขณะที่ซื้อขายที่ระดับ 3,325 ดอลลาร์ก่อนตลาดปิดทำการ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนการประชุมระดับสูงระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯ และจีนในสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้ว่าความหวังในการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้ายังคงสูง แต่ความไม่แน่นอนยังคงครอบงำความรู้สึกดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยังได้จุดชนวนความกังวลด้านการค้าอีกครั้ง โดยระบุบนโซเชียลมีเดียว่า “ภาษีนำเข้าจากจีน 80% ดูเหมาะสมแล้ว! ขึ้นอยู่กับสก็อตต์ บี”
💬 ความเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำชะลอตัวลง เริ่มสะสมมากขึ้น การเจรจาการค้าจะเกิดขึ้นมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำมีแรงกดดันในการขายในอนาคตอันใกล้
🕯 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ตั้งแต่วันที่ 12/05/2025 - 16/05/2025 ระบุได้ดังนี้:
แนวต้าน: 3,402 ดอลลาร์ 3,435 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,282 ดอลลาร์ 3,202 ดอลลาร์
แนวโน้มทางเทคนิค:
📈ราคาทองคำดีดตัวกลับเหนือ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้ง
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากหลุดต่ำกว่าระดับ 3,400 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อบ่งชี้ว่าผู้ซื้อกำลังเข้ามาซื้อ โดยดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บ่งชี้ว่าโลหะที่ไม่คืนตัวนี้อาจทดสอบระดับแนวต้านสำคัญถัดไปที่ 3,350 ดอลลาร์ และกำลังจะไปถึง 3,400 ดอลลาร์
📉ในทางกลับกัน ทองคำอาจปรับตัวลดลงต่อไปอีกหากปิดตลาดรายวันต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเผยให้เห็นจุดต่ำสุดของรอบวันที่ 1 พฤษภาคมที่ 3,202 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
แนวโน้มขาลง - ราคาทองคำจะกลับไปสู่ 3,233 หรือไม่???H1 Gold 9/5/2025
📊 แนวโน้มขาลง - ราคาทองคำจะกลับไปสู่ 3,233 หรือไม่???
ราคาทองคำฟื้นตัวจากภาวะขาดทุนเล็กน้อยใน หลังจากที่ร่วงลงในรอบการซื้อขายเอเชียสู่ระดับ 3,275-3,274 เหรียญสหรัฐฯ และสามารถไต่ระดับเหนือระดับ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายวัน และกลับมายืนเหนือระดับทางจิตวิทยาที่ 3,300 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงชั่วโมงที่ผ่านมา ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่บริเวณชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นดูเหมือนว่าจะถูกจำกัดโดยความรู้สึกด้านความเสี่ยงที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยความหวังใหม่ที่มีต่อข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-อังกฤษ และการเริ่มต้นการเจรจาภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ-จีนในช่วงสุดสัปดาห์
ในขณะเดียวกัน ความหวังว่าสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมกับประเทศอื่นๆ ช่วยบรรเทาความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการแข็งค่าในวันพุธ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน ซึ่งอาจช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวที่มีความหมายของราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนได้ ในขณะนี้ เทรดเดอร์ต่างรอคอยที่จะฟังคำปราศรัยของสมาชิก FOMC ที่มีอิทธิพลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
⌛อย่างไรก็ตามทองคำดูเหมือนว่าจะพร้อมที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
🔽ราคาทองคำจำเป็นต้องอ่อนตัวลงต่ำกว่าบริเวณ 3,262-3,258 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนแนวโน้มขาลงต่อไป
จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายลงของแนวต้านที่ 3,260 ดอลลาร์ในช่วงข้ามคืนและกลายเป็นแนวรับ และร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ในวันศุกร์นั้นส่งผลดีต่อแนวโน้มขาลงของทองคำ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะเริ่มสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้มขาลงนี้ ซึ่งในทางกลับกันก็ควรระมัดระวังก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับตัวลดลง และบ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจพบแนวรับบางส่วนใกล้โซนแนวนอน 3,262-3,258 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การขายตามหลังบางส่วนน่าจะช่วยเปิดทางให้ราคาทองคำร่วงลงสู่แนวรับกลางที่ 3,223-3,222 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์
🔼ในทางกลับกัน ราคาสูงสุดในรอบเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 3,324 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปสรรคทันที การเคลื่อนตัวขึ้นต่อไปอาจดึงดูดผู้ขายบางรายและจำกัดราคาทองคำให้อยู่ใกล้แนวต้านคงที่ 3,360-3,365 ดอลลาร์ หากราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเกินกว่าแนวต้านดังกล่าว จะทำให้กลับมายืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และไต่ระดับขึ้นต่อไปใกล้ระดับ 3,434-3,435 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรายสัปดาห์
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
โมเมนตัมขาขึ้นสะสมกำลัง ราวรอบๆ 3400📊ราคาทองคำ กลับมามีโมเมนตัมขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า โดยดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ในช่วงชั่วโมงที่ผ่านมา และฟื้นตัวจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ได้เป็นอย่างดี ความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในเร็วๆ นี้ โดยระบุว่าเขาไม่รู้สึก "เร่งรีบ" ที่จะสรุปข้อตกลง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ ความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งทางการทหารที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างอินเดียและปากีสถาน ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
💬ความเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงฟื้นตัวได้ดีที่บริเวณ 3400 คำกล่าวของ FED ค่อนข้างปานกลาง ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า ตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ในเชิงบวก
⚙️การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
📊ปัจจัยทางเทคนิคอล
ราคาทองคำอาจมุ่งทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง เมื่อผ่านแนวต้าน 3,438-3,440 ดอลลาร์ไปได้
🔼จากมุมมองทางเทคนิค การเกิดการซื้อใหม่บริเวณแนวต้านที่ 3,260 ดอลลาร์ที่เปลี่ยนเป็นแนวรับและการเคลื่อนตัวขึ้นที่ตามมา ส่งผลดีต่อขาขึ้นของทองคำ นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวันยังคงอยู่ในเขตบวกอย่างสบายๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวต้านที่น้อยที่สุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน การซื้อตามหลังบางส่วนที่เกินระดับ 3,433-3,436 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดรายสัปดาห์ จะช่วยยืนยันแนวโน้มเชิงบวกอีกครั้ง และช่วยให้สินค้าโภคภัณฑ์สามารถทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง และพยายามอีกครั้งเพื่อพิชิตระดับทางจิตวิทยาที่ 3,500 ดอลลาร์
🔽ในทางกลับกัน บริเวณ 3,365-3,360 ดอลลาร์อาจทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งทันที ก่อนที่จะถึงบริเวณ 3,328-3,327 ดอลลาร์ และรอบ 3,300 ดอลลาร์ การทะลุลงต่ำกว่าบริเวณหลังนี้จะทำให้แนวโน้ม เชิงบวกในระยะใกล้หายไป และกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิค แนวโน้มขาลงอาจทำให้ราคาทองคำพุ่งไปที่แนวรับระยะกลางที่ 3,265-3,260 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 3,223-3,222 ดอลลาร์ และจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วที่บริเวณ 3,200 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
ทองคำมีการอ่อนกำลังมาอยู่ในกรอบไซด์เวย์สมสมกำลังต่ำกว่า 33025/7/2525
📊ทองคำมีการอ่อนกำลังมาอยู่ในกรอบไซด์เวย์สมสมกำลังต่ำกว่า 3302
ราคาเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มเชิงบวก โดยพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,272 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายเอเชียของวันนี้ โดยความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยดังกล่าว ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ประกอบกับความตึงเครียดที่ปะทุขึ้นใหม่ในตะวันออกกลาง ยังคงทำให้ความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยงทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับวาระด้านภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทำให้ผู้ลงทุนระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลให้ทองคำยังคงน่าดึงดูดใจในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในช่วงเวลาที่ไม่มั่นคง
💬ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำคงยังคงสะสมกำลังต่อไป แล้วมีแอมพลิฟายเออร์ต่ำในช่วงต้นสัปดาห์ ยังรอข้อมูลอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ก่อน
🕯ปัจจัยทางเทคนิค
หลังทองคำทะลุ 3,263/59 จนไปถึงเป้าหมาย และเจอแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 3,220/3,210 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มผู้ซื้อ ที่ระดับราคา 3220/3210 นั้นก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน เนื่องจากได้บรรลุเป้าหมาย 3 จุดของเราที่ 3233/36 และ 3245/50 และ 3265 เรียบร้อยไปแล้ว
ปัจจุบันเราอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะสั้นเนื่องจากราคาปรับตัวลงสู่สภาวะซื้อมากเกินไป หลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงต้นเดือนเมษายน สัญญาณเตือนก่อนแล้วว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆ
ปัจจุบันแนวต้านแข็งแกร่งที่ 3,270/75 ที่ทดสอบไปเมื่อเช้านี้
แต่การขายในระดับดังกล่าวควรกำหนดจุดตัดขาดทุนระยะสั้นที่ 3,285 / 3310 /3325 (Sl) ตามระดับ
เป้าหมายขาลงยังคงวางไว้ที่ : 3260, 3250, 3240.
แนวรับที่แข็งแกร่งที่ 3215/3202 ในวันนี้ ส่วนผู้ซื้อต้องหยุดซื้อที่ต่ำกว่า 3193
💬อย่างไรก็ตาม การหลุดต่ำกว่า 3,193 ถือเป็นสัญญาณขาย (และมีแนวโน้มว่าเราจะเห็นการทะลุลงต่ำกว่านี้ในช่วงสัปดาห์นี้) โดยมีเป้าหมายเบื้องต้นที่ระดับ 3,170/65
การหลุดต่ำกว่า 3,160 จะเป็นสัญญาณขายครั้งต่อไป และอาจร่วงลงไปถึง 3,125/20 เพื่อทำกำไรจากการขายชอร์ต
ระหว่างแนวรับที่ 3,215/3,205 และแนวต้านที่ 3,270/75 นั้นไม่มีพื้นที่ซื้อขายที่ชัดเจน ดังนั้นเราจึงต้องอดทน
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
ทองคำขาดโมเมนตัมขาขึ้น ราคากำลังอยู่ในช่วงพักฐาน🔜วิเคราะห์ราคาทองคำตั้งแต่วันที่ 05/05/2025 - 05/09/2025
💬ทองคำขาดโมเมนตัมขาขึ้น ราคากำลังอยู่ในช่วงพักฐาน
แรงกดดันต่อทองคำมีความเข้มข้นขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราสังเกตเห็นว่าการปรับฐานในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์มักตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์
ต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงขาขึ้น ในขณะที่สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงขาลงซึ่งกำลังทดสอบระดับ 3,200 ดอลลาร์ การย่อตัวครั้งนี้ทำให้ราคากลับมาอยู่ที่บริเวณการรวมตัวในช่วงกลางเดือนเมษายน หากตลาดยังคงเคลื่อนไหวลงมาในระดับเดียวกัน จุดตัดขาดทุนถัดไปจะเป็นบริเวณ 2,900 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ราคาจะซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเกิดการพังทลายของแนวโน้มขาขึ้น การเร่งขาย(Panic sell)อาจทำให้ราคาปรับตัวลงมาที่บริเวณ 2,600-2,700 ดอลลาร์ได้อย่างรวดเร็ว
🌐สถานการณ์ล่าสุด
ทองคำ (XAU/USD) ร่วงลงมากกว่า 0.35% ในวันศุกร์ และมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ด้วยการร่วงลงมากกว่า 2.5% เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่คลี่คลายลงและข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้ลงทุนมีความอยากเสี่ยงมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนี้ จากการตรวจสอบล่าสุด ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,226 ดอลลาร์ โดยร่วงลงจากระดับสูงสุดระหว่างวัน 3,269 ดอลลาร์
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังยืนยันว่าสหรัฐฯ แสดงความเต็มใจที่จะกลับมาหารือเรื่องภาษีศุลกากรอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ย้ำว่าปักกิ่งยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจา
💵สัปดาห์นี้ผู้ค้าทองคำกำลังจับตาการเผยแพร่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางของสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม
💡มุมมองส่วนตัว:
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงในระยะสั้น โดยยังขาดแรงผลักดันที่จะปรับขึ้นในระยะใกล้ ราคาเคลื่อนไหวภายในกรอบประมาณ 3200 - 3350
⚙️ ในทางเทคนิค:
แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น แต่มีแนวโน้มที่จะลดลงต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์
⌛ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่า 3,250 ดอลลาร์ หลังจากผู้ซื้อขายพยายามจะกลับขึ้นไปที่ระดับ 3,270 ดอลลาร์แต่ไม่สำเร็จ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) แสดงให้เห็นว่าผู้ขายกำลังเร่งตัวขึ้น ดังนั้น ราคาทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะร่วงลงไปต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์
จากผลลัพธ์ดังกล่าว แนวรับถัดไปจะเป็นจุดสูงสุดในวันที่ 3 เมษายน ซึ่งกลายเป็นแนวรับที่ 3,167 ดอลลาร์ เมื่อทะลุแนวรับนี้แล้ว จุดหยุดถัดไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันที่ 3,080 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากผู้ซื้อยกราคาทองคำขึ้นเหนือ 3,300 ดอลลาร์ ก็จะเปิดทางให้ราคาทองคำท้าทาย 3,350 ดอลลาร์ และตามด้วย 3,400 ดอลลาร์
🕯ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุแนวรับสำคัญทางเทคนิคได้ดังนี้:
แนวต้าน: $3285, $3316, $3355
แนวรับ: $3202, $3155, $3100
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอให้โชคดีทุกคน
เส้นแนวโน้มขาลง H4 กำลังแสดง🕯วิเคราะห์ราคาทองคำกัน ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025
การปรับฐานจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จะรุนแรงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลง
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ (XAU/USD) เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มขาขึ้น และทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3,500 ดอลลาร์ในการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อวันอังคาร ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ โดยลบกำไรจากวันพฤหัสบดีและหลุดต่ำกว่าเกณฑ์ 3,300 ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับผลกระทบอย่างหนัก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะลดลงก็ตาม ความตึงเครียดในข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงมากกว่า 1.6%ความคืบหน้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญที่เผยแพร่โดยสหรัฐฯ อาจผลักดันมูลค่าของทองคำในระยะใกล้
อารมณ์ของตลาดยังคงเปราะบาง โดยแกว่งตัวไปมาระหว่างโหมดเสี่ยงและโหมดเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความคิดเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ บลูมเบิร์กรายงานว่าจีนกำลังพิจารณายกเว้นภาษีสินค้าบางรายการของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความหวัง อย่างไรก็ตาม อารมณ์กลับแย่ลงหลังจากที่ทรัมป์ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกภาษีกับจีนหากไม่ประนีประนอมอย่างมีนัยสำคัญ
🙂สัปดาห์นี้นักลงทุนทองคำให้ความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลของสหรัฐฯ
สำนักงานวิเคราะห์ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ (BEA) จะเผยแพร่ประมาณการครั้งแรกเกี่ยวกับ การเติบโตของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรก โดยตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราต่อปี 0.4% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ช้ากว่ามากเมื่อเทียบกับการขยายตัว 2.4% ที่บันทึกไว้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024
ตัวเลข GDP ที่เป็นลบอาจกระตุ้นให้เกิดการเทขาย USD ทันทีและส่งผลให้ XAU/USD ปรับตัวสูงขึ้น ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME ตลาดแทบไม่เห็นโอกาสที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ขณะที่มีโอกาสเกือบ 40% ที่ Fed จะคงนโยบายเดิมในเดือนมิถุนายน ข้อมูลการเติบโตที่น่าผิดหวังอาจส่งผลต่อการคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในเดือนมิถุนายน ในทางกลับกัน USD อาจได้รับประโยชน์จากตัวเลขที่ 1% ขึ้นไป และบังคับให้ค่าเงินคู่นี้ปรับตัวลดลง
ในวันศุกร์ นักลงทุนจะจับตาดูรายงานการจ้างงานเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ผู้กำหนดนโยบายของเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของ ตลาดแรงงาน ประธานเฟดมินนิอาโปลิส นีล คาชคารี กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าเขากังวลว่าธุรกิจต่างๆ อาจเริ่มเลิกจ้างพนักงานเนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากความขัดแย้งทางการค้า ในทำนองเดียวกัน คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด กล่าวกับบลูมเบิร์กว่าเขาจะไม่แปลกใจหากเห็นการเลิกจ้างเพิ่มขึ้นและอัตราการว่างงานสูงขึ้น "วิธีที่ง่ายที่สุดในการชดเชยต้นทุนภาษีศุลกากรคือการลดจำนวนพนักงาน" วอลเลอร์กล่าว
ดังนั้น การที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ออกมาต่ำกว่าหรือต่ำกว่า 100,000 อาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และช่วยให้XAU/USDปรับตัวสูงขึ้นก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในทางกลับกัน อัตราการว่างงานที่ลดลง ประกอบกับตัวเลข NFP ที่แข็งแกร่งที่สูงกว่า 200,000 อาจทำให้ตลาดเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน และส่งผลให้คู่เงินนี้ปรับตัวลดลง
ผู้เข้าร่วมตลาดจะประเมินพัฒนาการใหม่ๆ เกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนด้วยเช่นกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอยกลับและตัดสินใจที่จะหยุดหรือลดภาษี ทองคำอาจต้องดิ้นรนเพื่อหาอุปสงค์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
👀มุมมอง:
ข่าวการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนในสุดสัปดาห์นี้จะยังคงสร้างแรงกดดันการขายให้กับราคาทองคำในสัปดาห์หน้า โดยเคลื่อนตัวตามแนวเส้นแนวโน้มขาลง H4
🕯 ในทางเทคนิค:
ตั้งแต่วันที่ 28/04/2025 - 02/05/2025 จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 เราระบุแนวรับสำคัญทางเทคนิคได้ดังนี้:
แนวต้าน: $3358, $3500, $3600
แนวรับ: $3211, $3150, $3100
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
⚠️คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้เป็นการคาดการณ์โดยใช้ปัจจัยทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนควรรับทราบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำยังมีผลกระทบมาจากด้านปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางรัฐศาสตร์ภูมิศาสตร์ที่สามารถสร้างความผันผวนอย่างสูงต่อราคาทองคำได้ตลอดเวลา ควรติดตามปัจจัยเหล่านี่เพื่อประกอบการลงทุนตลอดเวลา...❤️ขอโชคดีทุกคน
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงกระตุ้นให้ราคาทองคำพุ่งสูง✍️ วิเคราะห์ราคาทองคำประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 21/04/2025 - 25/04/2025
ทองคำ (XAU/USD) เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มขาขึ้น แต่กลับมีโมเมนตัมขาขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์จนแตะระดับสูงสุดใหม่เหนือ 3,350 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และยังปิดสัปดาห์ด้วยฐานที่แข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นกว่า 2.79% โดยโลหะมีค่าพุ่งขึ้นเกือบ 90 ดอลลาร์ ท่ามกลางความอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ (USD) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนของการค้าโลกที่ยังคงมีอยู่ ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ XAU/USD ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,326 ดอลลาร์
แม้จะแตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 3,358 ดอลลาร์ แต่การพุ่งขึ้นก็ค่อนข้างชะลอลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้ซื้อขายล็อกกำไรก่อนวันหยุดอีสเตอร์ที่ยาวนานขึ้น โดยตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ปิดทำการ ในขณะเดียวกัน ผลตอบแทนที่แท้จริงก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้เกิดแรงต้านเล็กน้อย
ในด้านนโยบาย แมรี่ เดลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าบางส่วนจะแสดงสัญญาณชะลอตัว เธอย้ำว่านโยบายการเงินยังคงเข้มงวดเพียงพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อได้ ขณะเดียวกันก็แนะนำว่าอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางอาจเพิ่มขึ้น
🔥 ความเห็นเพิ่มเติม:
ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างมาก การปรับฐานในระยะสั้นทำให้ราคาทองคำสะสมมากขึ้นและยังคงแตะจุด ATH ใหม่ ภาษีศุลกากรตึงเครียด ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง: มุ่งเป้าไปยัง 3383, 3403
📊 ปัจจัยทางเทคนิค ::
ราคาทองปิดสัปดาห์โดยอยู่เหนือระดับสูงสุดของช่องทางการถดถอยแบบขาขึ้นซึ่งมีอายุ 4 เดือนอย่างมาก และตัวบ่งชี้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันยังคงอยู่เหนือระดับ 70 แม้ว่าจะมีการย่อตัวลงในวันพฤหัสบดี ซึ่งเน้นย้ำถึงสภาวะซื้อมากเกินไป
📈ในทางกลับกัน 3,358 ดอลลาร์ (ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์) จะเป็นแนวต้านสำคัญก่อน 3,400 ดอลลาร์ (ระดับรอบ) และ 3,500 ดอลลาร์ (ระดับรอบ)
📉ในกรณีที่ XAU/USD เริ่มปรับตัวลดลงจากอารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น แนวรับแรกอาจอยู่ที่ 3,300 ดอลลาร์ (ระดับรอบ ขีดจำกัดบนของช่องทางขาขึ้น) ก่อน 3,250 ดอลลาร์ (ระดับคงที่ แนวต้านเดิม) และ 3,200 ดอลลาร์ (ระดับรอบ จุดกึ่งกลางของช่องทางขาขึ้น)
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: $3360, $3383, $3403
แนวรับ: $3236, $3155, $3050
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำกำลังทดสอบระดับ 3100 ท่ามกลางความวุ่นวายจากสงครามการค้า✍️วิเคราะห์ราคาทองคำ 31/03/2025 - 04/04/2025
ทองคำพุ่งทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3,100 ดอลลาร์ ท่ามกลางความวุ่นวายจากสงครามการค้า
ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในวันศุกร์ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 3,086 ดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการปรับขึ้นของมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เลือกใช้ หลังจากนั้น ความรู้สึกของตลาดก็บ่งชี้ว่ามั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2025 ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายที่ 3,084 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.81%
บรรยากาศตลาดมีแนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากผู้ค้าเตรียมรับมือกับวันที่ 2 เมษายน ซึ่งตรงกับวันปลดปล่อยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ โดยเขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ทุกคันในอัตรา 25% ต่อรถยนต์ที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคนาดาและสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเริ่มเตรียมการตอบโต้ต่อมาตรการดังกล่าว
ในระหว่างนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงและมีแนวโน้มที่จะปิดสัปดาห์ด้วยการลดลง 0.11% ตามดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาโลหะมีค่า อัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยได้ซื้อทองคำแท่งและเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY)
ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯเปิดเผยว่าดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (PCE) ในเดือนกุมภาพันธ์ส่วนใหญ่สอดคล้องกับที่คาดการณ์ ขณะที่การสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมีนาคมกลับแย่ลงไปอีก
นอกจากนี้ นางแมรี่ เดลีย์ แห่งธนาคารกลาง ซานฟรานซิ สโก กล่าวว่าเธอคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2568 และเมื่อไม่นานนี้ เธอเสริมว่าเธอจะมุ่งเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อ 100% เนื่องจากความคืบหน้ายังคงเท่าเดิม
ในขณะเดียวกัน ตลาดเงินได้กำหนดราคาการผ่อนคลายนโยบายของเฟดที่ 73.5 จุดพื้นฐานในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 จุดพื้นฐานจากวันก่อนหน้า ตามความน่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยใน Prime Market Terminal
สัปดาห์นี้จับตา รายการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะประกอบด้วยการประกาศภาษีของทรัมป์ในวันที่ 2 เมษายน, ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM ประจำเดือนมีนาคม, การเปิดรับสมัครงานแบบ JOLTS และการจ้างงานนอกภาคเกษตร
👀 มุมมองส่วนตัว:
ราคาทองคำขยับขึ้น ต้นเม.ย. มีโอกาสจะระเบิดขึ้นต่อเนื่องเป็น NEW Ath
📊 ปัจจัยทางเทคนิค: :
แนวโน้มทางเทคนิคของราคาทองคำ: หลังจากพุ่งทะลุ 3,050 ดอลลาร์ จับตาแนวต้านถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์
📈ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,086 ดอลลาร์ และเตรียมที่จะทดสอบระดับ 3,100 ดอลลาร์ แนวโน้มดังกล่าวบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยหากราคาทองคำสามารถทะลุแนวรับ 3,150 ดอลลาร์และ 3,200 ดอลลาร์ได้ ราคาทองคำก็จะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป
📉เนื่องจากแนวโน้มขาขึ้นมีความรุนแรงมาก ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) จึงกลายเป็นซื้อมากเกินไป โดยทะลุ 70 อย่างไรก็ตาม การอ่านค่าที่รุนแรงที่สุดจะอยู่ที่ 80 ในทางกลับกัน หากร่วงลงต่ำกว่าระดับสูงสุดของเดือนมีนาคมที่ 3,057 ดอลลาร์ อาจทำให้ราคาปรับตัวลดลงไปที่ 3,000 ดอลลาร์
✍️ราคาทองคำ 31/03/2025 - 04/04/2025
จากแนวต้านและแนวรับของราคา
ทองคำตามกรอบ H4 จะระบุแนวรับและแนวต้านสำคัญดังนี้:
แนวต้าน: $3115, $3171, $3200
แนวรับ: $3002, $2957, $2880
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ความตึงเครียดการค้าโลก ยังกระตุ้นราคาทองคำต่อเนื่อง วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 10/03/2568 - 14/03/2568
🔥 สถานการณ์:
คูเกลอร์เน้นย้ำว่าความไม่แน่นอนเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้เธอกล่าวว่านโยบายการเงินน่าจะทรงตัวไปอีกสักระยะ และมองว่าค่าจ้างเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ยืนยันอีกครั้งว่าธนาคารกลางไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยยอมรับว่าการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% จะเป็นกระบวนการแบบค่อยเป็นค่อยไป และเตือนว่าอย่าตอบสนองมากเกินไปต่อความผันผวนของข้อมูลในระยะสั้น โดยระบุว่าเฟดมีจุดยืนที่ดีในเรื่องนโยบายการเงิน
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับภาษีศุลกากร พาวเวลล์ตั้งข้อสังเกตว่าผลกระทบต่อเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นยังคงไม่แน่นอน
🔥ความเห็น:
การสะสมกำลังเหนือระดับ 2900 เป็นสัญญาณที่ดี อนึ่งความตึงเครียดทางการค้าจะครอบคลุมทั่วโลก พร้อมส่งเสริมราคาทองคำมุ่งหน้าสู่ระดับ 3000+
แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำลดลง ผู้ขายคาดการณ์ไว้ที่ 2,900 ดอลลาร์
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวราบ โดยไม่สามารถทะลุระดับ 2,930 ดอลลาร์ได้ หลังจากที่ พุ่งขึ้น อย่างโดดเด่นกว่า 1.72% ในเดือนนี้ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไป เนื่องจาก RSI ยังคงเป็นขาขึ้น
ดังนั้นแนวต้านถัดไปของ XAU/USD จะอยู่ที่ 2,950 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,956 ดอลลาร์ หากทะลุแนวต้านหลังได้ ราคาจะทะลุ 3,000 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากราคาตกลงต่ำกว่า 2,900 ดอลลาร์ ราคาจะทะลุจุดต่ำสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ 2,832 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุด 2,800 ดอลลาร์
🔥 ในทางเทคนิค: ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 10/03/2568 - 14/03/2568
จากพื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบระบุพื้นที่สำคัญสำคัญดังนี้:
แนวต้าน 2930, 2956 , 3000
แนวรับ 2900, 2832, 2800
XAUUSD (GOLD) H4 (ทองคำโลก)เห็นยังไง วิเคราะห์ไปแบบนั้น
ไม่ยึดติดทฤษฏี มองถึงความได้เปรียบของรูปทรงกราฟที่เกิดขึ้น
นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างผลตอบแทน !!
แต่ถ้าอยากรู้เหตุผลอย่างอื่นเพิ่มเติม
เข้ามารับชมได้ที่เพจ Order Concept
หรือพิมพ์ค้นหาที่ FacebooK : @OrderConceptFX ได้เลย
ไลฟ์วิเคราะห์ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
(เวลา 14:00 น.) เป็นต้นไป สามารถดูย้อนหลังได้ตลอด
ที่นี้เราจะไม่พูดถึงแค่เรื่องกราฟแบบมือใหม่
แต่เราจะพาไปเจาะลึกถึง Macroeconomics (เศรษฐศาสตร์มหภาค)
ทองคำอาจท้าทาย ATH ได้เมื่อผ่านแนวต้าน 2772-2773 ได้เด็ดขาดราคาทองคำอาจมุ่งท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลได้เมื่อสามารถผ่านแนวต้าน 2,772-2,773 ดอลลาร์ได้อย่างเด็ดขาด
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากการเคลื่อนไหวในเชิงบวกของวันก่อนหน้า และแกว่งตัวขึ้นเหนือระดับ 2,760 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายเอเชียในวันนี้ สัญญาณของเสถียรภาพในตลาดหุ้นเป็นปัจจัยต้านโลหะมีค่าที่ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงอีกครั้งและการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ ส่งผลให้ การฟื้นตัวของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ลดลงจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน สิ่งนี้ควบคู่ไปกับความกังวลเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ช่วยหนุนโลหะมีค่าที่ไม่มีผลตอบแทนนี้
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่เต็มใจที่จะเดิมพันอย่างก้าวร้าวเกี่ยวกับราคาทองคำ และเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนที่จะเกิดความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลาง ซึ่งเป็นผลจากการประชุมนโยบายการเงินของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เป็นเวลา 2 วัน เฟดมีกำหนดจะประกาศผลการตัดสินใจในช่วงเซสชั่นอเมริกาเหนือ และคาดว่าจะยังคงยืนหยัดต่อไป แม้ว่าทรัมป์จะเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันทีก็ตาม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนโยบายของเฟดจะมีบทบาทสำคัญในการส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาดอลลาร์สหรัฐในระยะใกล้ และกำหนดขั้นตอนต่อไปของการเคลื่อนไหวในทิศทางของโลหะมีค่า
ในขณะเดียวกัน ความสนใจของตลาดยังคงยึดติดกับการตัดสินใจด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และช่วยผลักดันทองคำใหม่
🕯มุมมองทางเทคนิค
📈จากมุมมองทางเทคนิค การทะลุแนวต้านที่ระดับ 2,720-2,725 ดอลลาร์ล่าสุดและออสซิลเลเตอร์เชิงบวกบนกราฟรายวันบ่งชี้ว่าแนวต้านต่ำสุดสำหรับราคาทองคำยังคงอยู่ด้านบน การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเหนือระดับ 2,772-2,773 ดอลลาร์จะยืนยันแนวโน้มเชิงบวกและผลักดันให้ XAU/USD ทะลุระดับ 2,786 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ที่แตะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยมุ่งสู่จุดสูงสุดตลอดกาล ใกล้กับโซน 2,790 ดอลลาร์ การซื้อตามหลังบางส่วนซึ่งนำไปสู่ความแข็งแกร่งเหนือระดับ 2,800 ดอลลาร์ จะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับเทรดเดอร์ขาขึ้น และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนซึ่งเห็นได้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
📉ในทางกลับกัน การอ่อนตัวลงต่ำกว่าแนวรับทันทีที่ 2,755-2,753 ดอลลาร์อาจยังคงดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนและยังคงอยู่ในขอบเขตจำกัดใกล้จุดต่ำสุดของรอบสัปดาห์ที่บริเวณ 2,730 ดอลลาร์ที่แตะเมื่อวันจันทร์ การขายตามลงมาต่ำกว่าแนวต้านที่ 2,725-2,720 ดอลลาร์ที่กลายเป็นแนวรับอาจเปิดทางให้เกิดการขาดทุนที่รุนแรงขึ้นและลากราคาทองคำไปที่บริเวณ 2,707-2,705 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,684 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
สัปดาห์นี้ทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวลงและหรือมีแนวโน้มไปทางข้าง✍️ วิเคราะห์ราคาทองคำโดยพื้นที่ราคา H4 ระหว่างวันที่ 20/01/2025 - 24/01/2025
ทองคำยืนหยัดมั่นคงเหนือระดับ 2,700 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้ทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวลงและหรือมีแนวโน้มไปทางข้าง(Sideway)
🔥ไฮไลท์สถานการณ์สำคัญ:
⭐️ราคาทองคำร่วงลงในช่วงปลายเซสชันของตลาดอเมริกาเหนือ แต่ยังปิดสัปดาห์ด้วยกำไรมากกว่า 0.40% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดรอพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ว่าจะซื้อขายที่ 2,701 ดอลลาร์ ลดลง 0.44% แต่ผู้ลงทุนยังคงซื้อทองคำต่อไปเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
⭐️ราคายังคงถูกขับเคลื่อนโดยภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองในสหรัฐฯ (US) แม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในระดับโควตาจะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผู้ซื้อทองคำแท่งก็ไม่สามารถดันราคาให้สูงขึ้นเพื่อทำกำไรเพิ่มก่อนสุดสัปดาห์ได้
⭐️ตารางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าการเริ่มก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสองหลัก แม้ว่าใบอนุญาตการก่อสร้างจะหดตัวในเดือนธันวาคมก็ตาม ทองคำแทบไม่ตอบสนองต่อข่าวนี้เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งนำโดยยอดขายปลีกที่นำเสนอในวันพฤหัสบดี บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีความมั่นคง
⭐️ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ(DXY) ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ 6 สกุลที่เป็นคู่กัน พุ่งขึ้น 0.35% สู่ระดับ 109.34
⭐️ข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยในช่วงเซสชั่นเอเชียแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนมีอัตราการเติบโต 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2567 ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
⭐️เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้ว่าการเฟด คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ แสดงท่าทีผ่อนปรนนโยบาย และแสดงความเห็นว่าธนาคารกลางของสหรัฐสามารถลดต้นทุนการกู้ยืมได้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น หากกระบวนการลดภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้น
⭐️ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปี 2568 และจะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน
👀สัปดาห์นี้ มี รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การเปิดเผยข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และข้อมูล PMI
🕯แนวโน้มทางเทคนิค
📈ราคาทองคำลดลงเนื่องจากไม่มีปัจจัยกระตุ้นมากพอก่อนสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ว่าผู้ซื้อต้องรักษาราคาไว้เหนือ 2,700 ดอลลาร์ เพื่อให้สามารถมีความหวังในการผลักดันให้ทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในวันที่ 12 ธันวาคมที่ 2,726 ดอลลาร์ เมื่อทะลุผ่านแล้ว จุดหยุดถัดไปคือ 2,750 ดอลลาร์ ตามด้วยจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,790 ดอลลาร์
📉ในทางกลับกัน หากผู้ซื้อไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่กล่าวไว้ข้างต้นได้ อาจส่งผลให้ราคาทองคำอาจทดสอบจุดต่ำสุดในวันที่ 13 มกราคมที่ 2,656 ดอลลาร์ จากนั้นจึงมาบรรจบกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 และ 100 วันที่ 2,639 - 2,642 ดอลลาร์
🔥 ระบุ:
ทองคำแตะแนวต้านกรอบใหญ่ที่ 2726 อ่อนตัวลงและปรับฐานลงระยะสั้น ตลาดรอรับนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์
🔥 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: 2726, 2750, 2790
แนวรับ: 2656, 2642-2639
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ADP-NF จะกระตุ้นให้ราคาทองคำจะลดลงไปที่ 2605 หรือไม่?ระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่า 2,640 ดอลลาร์ ถือเป็นจุดต่ำสุดใหม่ในแต่ละวัน ก่อนที่ประธานเฟด พาวเวลล์ จะกล่าวสุนทรพจน์ เพื่อพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและแรงกระตุ้นที่สำคัญบางประการ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น
อนึ่ง ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ ความกังวลเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าที่โดนัลด์ ทรัมป์ และความวุ่นวายทางการเมืองในเกาหลีใต้ น่าจะจำกัดขาลงของทองคำได้บางส่วน
📊 ปัจจัยทางเทคนิค:
ราคาทองคำร่วงซ้ำเมือเข้าใกล้ 2,650 ดอลลาร์ ทำให้มีการสนับสนุนแนวโน้มขาลงเพิ่มเติม
📉จากมุมมองทางเทคนิค ราคาที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบล่าสุดอาจยังคงจัดอยู่ในประเภทช่วงการรวมตัวขาลงเมื่อเทียบกับการลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การที่ราคาปรับตัวลงต่ำกว่าช่องทางขาขึ้นที่ดำเนินมาเป็นเวลา 4 วันในสัปดาห์นี้ ส่งผลดีต่อผู้ซื้อขายขาลง อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์ที่เป็นกลางในกราฟรายวันบ่งชี้ว่าหากราคาปรับตัวลงต่อไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดในช่วงข้ามคืนที่บริเวณ 2,622-2,621 ดอลลาร์ อาจยังคงมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 2,605-2,600 ดอลลาร์ต่อไป ในขณะเดียวกัน การขายตามราคาอาจเผยให้เห็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 100 วัน (SMA) ซึ่งขณะนี้บริเวณ 2,575 ดอลลาร์ ซึ่งหากต่ำกว่านี้ ราคาทองคำอาจทดสอบจุดต่ำสุดรายเดือนในเดือนพฤศจิกายนที่บริเวณ 2,536 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน บริเวณ 2,655 ดอลลาร์ ตามด้วยบริเวณ 2,666 ดอลลาร์ อาจทำหน้าที่เป็นอุปสรรคสำคัญในทันที อุปสรรคที่เกี่ยวข้องต่อไปอยู่ที่บริเวณ 2,677 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านบริเวณนั้น ราคาทองคำอาจมุ่งเป้าไปที่การกลับตัวกลับใจเป็น 2,700 ดอลลาร์อีกครั้ง การเคลื่อนตัวขึ้นต่อไปอาจเผชิญกับแรงต้านที่แข็งแกร่งบริเวณ 2,721-2,722 ดอลลาร์ ความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนเหนือบริเวณหลังอาจเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นผู้ซื้อขายขาขึ้น และเปิดทางให้เกิดการเคลื่อนไหวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระยะใกล้
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง