อีคอมเมิร์ซมีความสำคัญมากขึ้น Twitter CFO กล่าวTwitter CFO Ned Segal กล่าวว่าอีคอมเมิร์ซมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับ บริษัท
ในวันอังคารที่ผ่านมา Twitter CFO Ned Segal ได้มีการกล่าวว่าอีคอมเมิร์ซจะมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับบริษัทโซเชียลมีเดียเนื่องจากยังคงมีการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีโฆษณาตอบสนองโดยตรง “ คุณควรจะคลิกและซื้อของบน Twitter ได้” Segal ได้กล่าวในการประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ของ J.P. Morgan Global Technology, Media and Communications ซึ่งมีการพูดถึงอีกว่า "เรารู้สึกขอบคุณที่ผู้คนหาข้อมูลเกี่ยวกับ Twitter เป็นจำนวนมากก่อนที่พวกเขาจะซื้ออะไรบางอย่าง”
Segal ได้มีการอธิบายว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์จะใช้เพื่อฟังผู้เชี่ยวชาญพูดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆซึ่งผู้ใช้อาจจะรู้สึกถูกบังคับในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์นั้นขณะที่มีการสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในรูปแบบเรียวไทม์ผ่าน Twitter ซึ่งได้มีการกล่าวอีกว่า “ นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเราในการเชื่อมต่อผู้โฆษณาที่มีอยู่และผู้ลงโฆษณารายใหม่กับลูกค้าของพวกเขาบน Twitter” “ ดังนั้นการค้าจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับเรา” Segal ได้กล่าวไว้
ทวิตเตอร์ได้มีการอธิบายเกี่ยวกับแผนอีคอมเมิร์ซในเดือนกุมภาพันธ์ในช่วงนั้นนักวิเคราะห์และบริษัท ได้มีการยืนยันเมื่อต้นเดือนมีนาคมว่ามีการทดสอบทวิตประเภทที่มีการกดปุ่มร้านค้าโดยบริษัทยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติอีคอมเมิร์ซเหล่านี้ว่าจะมีการทำงานอย่างไรหรือจะมีการลดขนาดทวิตตอร์จากการขายแต่ละครั้งแต่ CFO ได้มีการกล่าวว่ากำลังให้ความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์กับแบรนด์ที่อาจจะเกิดการต้องการขายทั้งในรูปแบบบริการและสินค้า
ในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่อีคอมเมิร์ซนี้เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทโซเชียลมีเดียต้องเผชิญคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเช่นซอฟต์แวร์ iOS 14.5 ของ Apple ซึ่งทำให้มีการติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาได้ยากมากขึ้น โดยการอำนวยความสะดวกในการขายตรงผ่านแอพพลิเคชั่นผ่านบริษัทโซเชียลมีเดียสามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพของ ผลิตภัณฑ์ต่อผู้ลงโฆษณาได้ในอนาคต
ซึ่งถ้าเกิดมีการ ออกผลิตภัณฑ์นี้อาจจะส่งผลทำให้ราคาหุ้นทวิตเตอร์อาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นดังนั้นในปัจจัยนี้จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดแต่อย่างไรก็ดีจากการแถลงการณ์และการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ส่งผลทำให้ทวิตเตอร์มีการทะยานขึ้นเล็กน้อยดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ซึ่งถ้ามีการขานรับในการแถลงการณ์นี้กรอบแนวต้านที่สำคัญแนวต้านแรกก็คือ 60.03 และแนวต้านที่สองก็คือ 66.96 โดยเฉพาะแนวต้านสุดท้ายก็คือ 72.34
แต่ถ้าขานรับแต่ยังคงมีปัจจัยที่กดดันทำให้หุ้นทวิตเตอร์มีการปรับตัวลงควรติดตามกรอบแนวรับที่หนึ่งที่ 54.02 แนวรับที่สองก็คือ 50.25 แนวรับสุดท้ายก็คือ 45.42
ปัจจัยเสี่ยงของการกดดันของหุ้นทวิตเตอร์ในช่วงนี้ก็คือ : บริษัทสื่อโซเชียลมีเดียอื่นที่เริ่มมีการเข้ามาเป็นส่วนแบ่งการตลาดของทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่องและจำนวนผู้ใช้ของทวิตเตอร์ยังคงไม่ทะลุตามเป้าอาจส่งผลทำให้ตลาดหุ้นทวิตเตอร์ยังคงฟื้นตัวได้ยากในระยะสั้นแต่อย่างไรก็ดีในระยะยาวต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถกระตุ้น ในส่วนของการทำตลาดผ่านอีคอมเมิร์ซได้หรือไม่ถ้าสามารถออกผลิตภัณฑ์นี้และผู้ใช้ตอบรับเป็นอย่างนี้อาจจะส่งผลทำให้ หุ้นทวิตเตอร์อาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นระยะสั้น