Elon Musk ไม่แน่ใจซื้อ TwitterElon Musk กล่าวว่าเขา 'ไม่แน่ใจ' ว่าเขาจะสามารถซื้อ Twitter ได้หลังจากเสนอราคา $43 พันล้านล้อเลียนแผน B
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
Elon Musk มหาเศรษฐีของ Tesla ยอมรับเมื่อวันพฤหัสบดีที่การประชุม TED2022 ในแวนคูเวอร์ว่าเขา "ไม่แน่ใจ" ว่าเขาจะสามารถซื้อ Twitter ได้จริงๆ ความคิดเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการยื่นเรื่องตามกฎข้อบังคับเปิดเผยว่าเขาเสนอซื้อบริษัทในราคา 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือประมาณ 43 พันล้านดอลลาร์
Twitter ยืนยันว่าได้รับการเสนอราคาแล้ว แต่คณะกรรมการยังคงต้องตรวจสอบข้อเสนอ ซึ่งให้มูลค่าหุ้นที่ต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ที่พวกเขาไปถึงเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว แต่มัสค์กล่าวว่าข้อเสนอนี้จะเป็นข้อเสนอที่ "ดีที่สุดและสุดท้าย" ของเขา
ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ Twitter CEO Parag Agrawal บอกพนักงานในการประชุมพนักงานว่า บริษัท กำลังประเมินข้อเสนอ
คริส แอนเดอร์สัน แห่ง TED ถามขึ้นว่ามี "แผน B" หรือไม่ หากข้อเสนอปัจจุบันของเขาถูกปฏิเสธ มัสก์กล่าวว่า "มี"
การคาดหวังในครั้งนี้?
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 ก.ล.ต. ตั้งข้อหา Musk ด้วยการสร้างแถลงการณ์ "เท็จและทำให้เข้าใจผิด" แก่นักลงทุนเมื่อเขาประกาศผ่าน Twitter ในเดือนสิงหาคมปีนั้นว่าเขากำลังพิจารณาที่จะให้ Tesla ส่วนตัวในราคา 420 ดอลลาร์ต่อหุ้นและมีเงินทุนค้ำประกัน ในที่สุด Musk และ Tesla ก็ตกลงที่จะทำข้อตกลงกับรัฐบาลและแก้ไขในปี 2019
ภายใต้เงื่อนไข มัสค์และเทสลาต่างต้องจ่ายค่าปรับ 20 ล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. และมัสค์ต้องสละบทบาทของเขาในฐานะประธานคณะกรรมการของบริษัทชั่วคราว
การวิเคราะห์ของราคา
โดยธรรมชาติปัจจัยนี้อาจจะทำให้หุ้นทวิตเตอร์เกิดความมันส์หวนโดยเฉพาะหลังจากที่เกิดกระแสจากข่าวนี้ดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านของหุ้นทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 43.46 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับที่สองก็คือ 42.13 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับสุดท้ายก็คือ 41.31 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 45.79 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวต้านที่สองก็คือ 46.9 2.02 ดอลล่าร์หกแนวต้านสุดท้ายก็คือ 48.39 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
Elon Musk ใช้เงิน 2.64 พันล้านดอลลาร์ใน TwitterElon Musk ใช้เงิน 2.64 พันล้านดอลลาร์ในหุ้น Twitter จนถึงปีนี้ แสดงรายการใหม่
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ซื้อหุ้น Twitter เกือบทุกวันตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ใช้เงิน 2.64 พันล้านดอลลาร์สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นปัจจุบันของเขาใน บริษัท ตามการยื่นฟ้องของ SEC เมื่อวันอังคาร
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านการยื่นแบบ 13D ซึ่งยืนยันว่า Musk มีความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในธุรกิจของ Twitter มากขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทระบุว่า Musk มีกรรมสิทธิ์ 9.2% ในบริษัท แต่เป็นการยื่นแบบ 13G ซึ่งชี้ไปที่สัดส่วนการถือหุ้นแบบพาสซีฟสำหรับผู้ถือที่ไม่ได้พยายามควบคุมหรือโน้มน้าว
การยื่นฟ้องของวันอังคารกล่าวว่าเขาเป็นเจ้าของ 73,115,038 หุ้น Twitter หรือ 9.1% ของ บริษัท เมื่อปิดการซื้อขาย หุ้นเหล่านั้นมีมูลค่า 3.73 พันล้านดอลลาร์
การพลิกผันสู่การเป็นนักลงทุนอย่างแข็งขันนั้นเกิดขึ้นจากการประกาศของ Twitter และ CEO Parag Agrawal เมื่อวันอังคารว่าบริษัทจะแต่งตั้ง Musk เป็นคณะกรรมการบริหาร
ตามการยื่นฟ้องล่าสุด Musk ได้ซื้อหุ้นในบริษัทโซเชียลมีเดียที่เขาต้องการตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม และขยายไปจนถึง 1 เมษายน
การคาดหวังในครั้งนี้?
การซื้อที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เมื่อเขาซื้อหุ้นมากกว่า 4.8 ล้านหุ้น มูลค่า 176 ล้านดอลลาร์ หุ้น Twitter ปิดที่จุดต่ำสุดสำหรับปีในวันที่ 7 มีนาคมที่ 32.42 ดอลลาร์ พวกเขาสิ้นสุดในเดือนมกราคมที่ 37.51 ดอลลาร์
ตราบใดที่มัสค์ยังอยู่ในบอร์ดบริหาร หรือหลังจากนั้น 90 วัน เขาก็ไม่สามารถเป็นเจ้าของหุ้นของ Twitter ได้มากกว่า 14.9% ไม่ว่าจะในฐานะบุคคลหรือในฐานะสมาชิกของกลุ่ม ตามเอกสารที่ยื่นเมื่อวันจันทร์
ไม่กี่นาทีหลังจากการยื่นฟ้องของ Musk ปรากฏทางออนไลน์ Twitter กล่าวว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะทดสอบ "คุณลักษณะการแก้ไข" ที่ใช้งานได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Musk ได้โพสต์โพล Twitter ที่ถามว่าผู้ใช้ “ต้องการปุ่มแก้ไข” หรือไม่ ซึ่งเป็นคำขอที่ยาวนานในหมู่ผู้ถือบัญชี จากผู้ตอบแบบสอบถาม 4 ล้านคน 74% โหวตใช่
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ก่อนที่ Musk จะเปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้นใน Twitter เขาถามผู้ติดตามหลายสิบล้านคนบนแพลตฟอร์มว่า "การพูดโดยเสรีมีความสำคัญต่อระบอบประชาธิปไตยที่ใช้งานได้ คุณเชื่อหรือไม่ว่า Twitter ปฏิบัติตามหลักการนี้อย่างเคร่งครัด” นอกจากนี้เขายังแนะนำว่าเขาอาจสร้างเครือข่ายโซเชียลของตัวเองหากผู้ติดตามเชื่อว่าอาจมีความจำเป็น
การวิเคราะห์ของราคา
จับตาปัจจัยนี้จะส่งผลกระทบให้หุ้นทวิตเตอร์หรือไม่จึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ายังคงมีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 49.84 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับที่สองก็คือ 46.95 ดอลล่าร์ต่อหุ้นเดี๋ยวรับสุดท้ายก็คือ 44.41 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 54.98 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวต้านที่สองก็คือ 58.37 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวต้านสุดท้ายก็คือ 62.55 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
ปัจจัยเชิงเทคนิคกับ หุ้น Twitterหุ้นทวิตเตอร์มีการฟื้นตัวขึ้นตามการคลายความกังวลของวิกฤติ Evergrande
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
หุ้นทวิตเตอร์มีการฟื้นตัวขึ้นในรอบวัน +0.13% อยู่ในระดับ 62.97 ดอลล่าร์ต่อหุ้นโดยมีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่การคลายความกังวลของวิกฤติ Evergrande ที่เริ่มมีการคลายความกังวลในระยะสั้นแต่ต้องจับตาดูในวันที่ 23 กันยายนและวันที่ 29 กันยายนนี้เช่นเดียวกัน
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ตามในวันที่ 23 กันยายนและวันที่ 29 กันยายนที่จะถึงนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยและอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่จำเป็นที่จะต้องติดตามว่าดัชนี Nasdaq อาจจะมีการขยับตัวในทิศทางไหนเพราะอาจจะเป็นการชีวัดว่าในฝั่งของ Evergrande จะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่และนักลงทุนจะมีความกังวลอีกครั้งหรือไม่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
การวิเคราะห์ของราคา
โดยในส่วนของหุ้นทวิตเตอร์นั้นมีการฟื้นตัวขึ้นตามดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์ถ้ามีการผิดนัดชำระหนี้อาจจะมีการปรับตัวร่วงลงดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 62.40 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับที่สองก็คือ 61.27 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวรับสุดท้ายก็คือ 59.97 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 63.25 ดอลล่าร์ต่อหุ้นแนวต้านที่สองก็คือ 64.97 ดอลล่าร์ต่อหุ้นและแนวต้านสุดท้ายก็คือ 65.79 ดอลล่าร์ต่อหุ้น
อีคอมเมิร์ซมีความสำคัญมากขึ้น Twitter CFO กล่าวTwitter CFO Ned Segal กล่าวว่าอีคอมเมิร์ซมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับ บริษัท
ในวันอังคารที่ผ่านมา Twitter CFO Ned Segal ได้มีการกล่าวว่าอีคอมเมิร์ซจะมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับบริษัทโซเชียลมีเดียเนื่องจากยังคงมีการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีโฆษณาตอบสนองโดยตรง “ คุณควรจะคลิกและซื้อของบน Twitter ได้” Segal ได้กล่าวในการประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ของ J.P. Morgan Global Technology, Media and Communications ซึ่งมีการพูดถึงอีกว่า "เรารู้สึกขอบคุณที่ผู้คนหาข้อมูลเกี่ยวกับ Twitter เป็นจำนวนมากก่อนที่พวกเขาจะซื้ออะไรบางอย่าง”
Segal ได้มีการอธิบายว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์จะใช้เพื่อฟังผู้เชี่ยวชาญพูดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆซึ่งผู้ใช้อาจจะรู้สึกถูกบังคับในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์นั้นขณะที่มีการสนทนาเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในรูปแบบเรียวไทม์ผ่าน Twitter ซึ่งได้มีการกล่าวอีกว่า “ นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเราในการเชื่อมต่อผู้โฆษณาที่มีอยู่และผู้ลงโฆษณารายใหม่กับลูกค้าของพวกเขาบน Twitter” “ ดังนั้นการค้าจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับเรา” Segal ได้กล่าวไว้
ทวิตเตอร์ได้มีการอธิบายเกี่ยวกับแผนอีคอมเมิร์ซในเดือนกุมภาพันธ์ในช่วงนั้นนักวิเคราะห์และบริษัท ได้มีการยืนยันเมื่อต้นเดือนมีนาคมว่ามีการทดสอบทวิตประเภทที่มีการกดปุ่มร้านค้าโดยบริษัทยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติอีคอมเมิร์ซเหล่านี้ว่าจะมีการทำงานอย่างไรหรือจะมีการลดขนาดทวิตตอร์จากการขายแต่ละครั้งแต่ CFO ได้มีการกล่าวว่ากำลังให้ความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์กับแบรนด์ที่อาจจะเกิดการต้องการขายทั้งในรูปแบบบริการและสินค้า
ในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่อีคอมเมิร์ซนี้เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทโซเชียลมีเดียต้องเผชิญคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเช่นซอฟต์แวร์ iOS 14.5 ของ Apple ซึ่งทำให้มีการติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาได้ยากมากขึ้น โดยการอำนวยความสะดวกในการขายตรงผ่านแอพพลิเคชั่นผ่านบริษัทโซเชียลมีเดียสามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพของ ผลิตภัณฑ์ต่อผู้ลงโฆษณาได้ในอนาคต
ซึ่งถ้าเกิดมีการ ออกผลิตภัณฑ์นี้อาจจะส่งผลทำให้ราคาหุ้นทวิตเตอร์อาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นดังนั้นในปัจจัยนี้จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดแต่อย่างไรก็ดีจากการแถลงการณ์และการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ส่งผลทำให้ทวิตเตอร์มีการทะยานขึ้นเล็กน้อยดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ซึ่งถ้ามีการขานรับในการแถลงการณ์นี้กรอบแนวต้านที่สำคัญแนวต้านแรกก็คือ 60.03 และแนวต้านที่สองก็คือ 66.96 โดยเฉพาะแนวต้านสุดท้ายก็คือ 72.34
แต่ถ้าขานรับแต่ยังคงมีปัจจัยที่กดดันทำให้หุ้นทวิตเตอร์มีการปรับตัวลงควรติดตามกรอบแนวรับที่หนึ่งที่ 54.02 แนวรับที่สองก็คือ 50.25 แนวรับสุดท้ายก็คือ 45.42
ปัจจัยเสี่ยงของการกดดันของหุ้นทวิตเตอร์ในช่วงนี้ก็คือ : บริษัทสื่อโซเชียลมีเดียอื่นที่เริ่มมีการเข้ามาเป็นส่วนแบ่งการตลาดของทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่องและจำนวนผู้ใช้ของทวิตเตอร์ยังคงไม่ทะลุตามเป้าอาจส่งผลทำให้ตลาดหุ้นทวิตเตอร์ยังคงฟื้นตัวได้ยากในระยะสั้นแต่อย่างไรก็ดีในระยะยาวต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถกระตุ้น ในส่วนของการทำตลาดผ่านอีคอมเมิร์ซได้หรือไม่ถ้าสามารถออกผลิตภัณฑ์นี้และผู้ใช้ตอบรับเป็นอย่างนี้อาจจะส่งผลทำให้ หุ้นทวิตเตอร์อาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นระยะสั้น