(Trade ตาม Trend) NASDAQ 100 Swing BuyTrade ตามเทรนด์
NASDAQ 100 Swing Buy
ราคาเป็น Up Trend แข็งแรง
ใช้ EMA และแนวสำคัญ เป็นจุดรับย่อซื้อ
ราคาได้เทสกึ่งกลางของ Fair Value Gap ไปแล้ว 1 ครั้ง
ซึ่งอยู่บริเวณ EMA21 หากราคาย่อเข้าโซน 1 และ 2 จะเป็นจุดรับ BUY (22000-21900)
และถ้าหากหลุดไปจนถึง FVG ตรงนี้ควรจะรอการกลับตัวก่อน และไม่ควรหลุด Low ล่าสุด (21900)
หากหลุดลงไปจะเป็นจุด Stop Loss
ราคาเป็น All Time High ไม่มีแนวต้าน
ใช้ Fibonacci เป็นจุดล็อคกำไรที่
161.8 (22300)
Trendfollowing
BTC Swing Buy ขา 2BTC Swing Buy ขา 2
TF4H
BTC เบรค Pattern กรอบสะสมประมาณ 2 ร้อยกว่าวัน
ขาแรกผ่านไปแล้วบริเวณ 74000-76000
จังหวะนี้เป็นขา 2 พักตัว TF4H Volume ลดลง
และมีแท่งกลับตัว เป็นจุดเข้า Swing Buy
โดยวาง SL ไว้ที่หลุด Low ที่ราคา 84800
และ TP1 หัว High ก่อนหน้า 93200
TP2 Fibonacci 161.8 ที่ราคา 97296
ตามลำดับ
แผนทองคำรอบใหญ่ (ต่อ)แผนทองคำรอบใหญ่ (ต่อ)
ราคาทองคำทะลุเป้าที่ให้ไว้คราวก่อนและเบรค All Time High อีกครั้ง
ยังคงมุมมองขึ้นต่อตามภาพ
Primary Up Trend
Secondary Up Trend
Minor Up trend
มองย่อรับที่แนว Fair Value Gap 4H บริเวณ 2760-2770
โดยมีแนวรับถัดไปที่ Order Block 4H บริเวณ 2750 ที่เป็นแนว OI ด้วย
เป้าหมายราคาต่อไปที่ Fibonacci 261.8 บริเวณ 2840
หุ้นต้นเทรนด์ HANSOH หุ้นต้นเทรนด์ เบรคกรอบสะสม
HANSOH Listed อยู่ในตลาดฮั่งเส็ง รหัส 3692
ผลประกอบการพลิกฟื้นกลับมา H2 2023 และต่อเนื่อง 2024 H1
PE 23.9
เงินปันผล 0.2 ต่อหุ้น
Free Float 18.07%
Technical Analysis
ฟอร์มกรอบสะสม Accumulation Phase ประมาณ 2 ปี มี Volume Normal Distribution
เบรคกรอบสะสมพร้อม Volume on chart
แนวต้าน 22 HKD ด้านบนมีแนวต้าน Volume น้อย ทำให้มี Upside เปิด จนถึงบริเวณ 30 HKD
MACD Day-Week = Up Trend
MACD Month = Just Up Trend
แนวสะสม Buy on Dip บริเวณ 18 - 20 HKD
แนวควบคุม Position เพื่อ Stop Loss บริเวณ 16 HKD ที่เป็นการทำลายโครงสร้างราคาภาพย่อย
หากหลุดก็รอการดึงกลับค่อยกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง เพียงแต่จะเสีย Momentum ทางขึ้นที่ดีไป
เป็นหุ้นที่ต้องซื้อขั้นต่ำ 2000 หุ้น
วงเงินทุนควรจะมี 3-5 แสนบาทขึ้นไป
ติดตามผลประกอบการต่อเนื่อง เพราะว่าถ้าผลประกอบการออกมาไม่ดี ราคาหุ้นอาจกลับลงไปเข้ากรอบสะสมอีกครั้งได้ เทรดด้วยความระมัดระวังครับ
Swing SELL in XAU/USD Swing SELL in XAU/USD รอบเล็ก
Entry : 2505
Stop Loss : 2512
Take Profit : 2480
โพสก่อนหน้าเป็นการรอย่อ BUY ทองคำ ที่โซนแนวรับ ในภาพใหญ่
ในระหว่างที่รอ เราสามารถจับเทรนด์เล็ก เพื่อเล่น SELL ลงมาได้
โดยอาศัยจังหวะเด้งขึ้นมาที่ FVG และทำการเปิด SELL ที่บริเวณ 2503 - 2505
แต่เนื่องจากเป็นการจับเทรนด์ภาพเล็ก จึงมีจุด Take Profit ไม่ไกล
ที่แนวรับบริเวณ 2480 เป็นจุดแบ่งล็อคกำไรออก
แต่หากราคาไปไม่ถึงเป้าหมายและย้อนกลับขึ้นไป ให้กันหน้าทุนไว้
หรือ Trailing ออกด้วยแท่งเทียน Reversal ก็ได้เช่นกันครับ
ชุดนี้เป็นชุด Swing Sell รอบสองที่ เอากำไรชุดแรกด้านบนมาเบทต่อนะครับ จึงต้องทำการวาง Stop Loss สั้นๆ ถ้าราคามีการเบรค Supply Zone บริเวณ 2510 ออกมาก่อน
มุมมองส่วนตัว ทองคำยังมองเป็นขาขึ้นนะคะ ต้านสำคัญ 1954.68-1962 Highlight ปัจจัยพื้นฐาน
• ทองบวกต่อ $5.49 !! อานิสงส์ Revised GDP Q2 ลง!! จ้างงาน ADP ต่ำ!!
• สหรัฐเผยประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ไตรมาส 2/23 ปรับลดการขยายตัว ลงสู่ 2.1% จากเดิมประมาณการตัวเลขครั้งที่ 1 ไว้ที่ 2.4% และต่ําคาดที่ 2.4%
• การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตําแหน่ง ต่ํากว่าที่คาดว่าจะลดจาก เดือนก.ค. 371,000 ตําแหน่ง สู่ 194,000 ตําแหน่ง
• ข้อมูลที่ซบเซาในสัปดาห์นี้ ยิ่งกระตุ้นเฟดเบรกขึ้นดบ.หนุนทอง High $1,948
• ทั้งนี้ ทองคําถูกสกัดช่วงบวกจาก ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย สูงคาดสู่ 0.9%
📌มุHighlight ปัจจัยพื้นฐาน
• ทองบวกต่อ $5.49 !! อานิสงส์ Revised GDP Q2 ลง!! จ้างงาน ADP ต่ำ!!
• สหรัฐเผยประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ไตรมาส 2/23 ปรับลดการขยายตัว ลงสู่ 2.1% จากเดิมประมาณการตัวเลขครั้งที่ 1 ไว้ที่ 2.4% และต่ําคาดที่ 2.4%
• การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตําแหน่ง ต่ํากว่าที่คาดว่าจะลดจาก เดือนก.ค. 371,000 ตําแหน่ง สู่ 194,000 ตําแหน่ง
• ข้อมูลที่ซบเซาในสัปดาห์นี้ ยิ่งกระตุ้นเฟดเบรกขึ้นดบ.หนุนทอง High $1,948
• ทั้งนี้ ทองคําถูกสกัดช่วงบวกจาก ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย สูงคาดสู่ 0.9%
📌มุมมองส่วนตัว
ทองคำยังมองเป็นขาขึ้นนะคะ ต้านสำคัญ 1954.68-1962
จาก ข่าววันนี้ 19:30น. ถ้าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมามากกว่าคาดการณ์ ทองคำบินต่อ #กดดันดอลลาร์
#หนุนทองคำ ทองคำอาจทำไฮใหม่ ที่ 1960ได้
แต่ถ้าออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ หนุนดอลลาร์กดดันทองคำ อาจสามารถลงมาเทสที่ราคา 1931 ได้
(ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอให้ข่าวคอนเฟิร์มและดูวอลุ่มตลาด แต่โดยปกติแล้วข่าววันพฤหัสอาจเป็นข่าวแกง ก็เป็นได้ แนะนำให้นักลงทุนบริหารพอร์ตให้ดี)
นอกจากนี้ ทองคำยังเพิ่มขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่ข้อมูลเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างลดลงสู่ระดับต่ำสุดเกือบ 2.5 ปีในเดือนกรกฎาคม
📌โดยส่วนตัวให้น้ำหนักไปทางค่ะ BUY
ZONE พิจารณา SELL 1954.68-1960.62
ZONE พิจารณา BUY 1938.95-1934.48
ตลาดทองมีความแข็งสูงแนะนำให้ผู้เทรดควรบริหารทุน มีสุดยอมในใจ ที่ชัดเจน ผิดพลาดเซ็ตซีโร่เริ่มใหม่
จาก ข่าววันนี้ 19:30น. ถ้าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมามากกว่าคาดการณ์ ทองคำบินต่อ #กดดันดอลลาร์
#หนุนทองคำ ทองคำอาจทำไฮใหม่ ที่ 1960ได้
แต่ถ้าออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ หนุนดอลลาร์กดดันทองคำ อาจสามารถลงมาเทสที่ราคา 1931 ได้
(ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอให้ข่าวคอนเฟิร์มและดูวอลุ่มตลาด แต่โดยปกติแล้วข่าววันพฤหัสอาจเป็นข่าวแกง ก็เป็นได้ แนะนำให้นักลงทุนบริหารพอร์ตให้ดี)
นอกจากนี้ ทองคำยังเพิ่มขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่ข้อมูลเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างลดลงสู่ระดับต่ำสุดเกือบ 2.5 ปีในเดือนกรกฎาคม
📌โดยส่วนตัวให้น้ำหนักไปทางค่ะ BUY
ZONE พิจารณา SELL 1954.68-1960.62
ZONE พิจารณา BUY 1938.95-1934.48
ตลาดทองมีความแข็งสูงแนะนำให้ผู้เทรดควรบริหารทุน มีสุดยอมในใจ ที่ชัดเจน ผิดพลาดเซ็ตซีโร่เริ่มใหม่
สิ่งที่ยากที่สุด ในการเทรดตามระบบ Trend Following 10 ข้อสิ่งที่ยากที่สุด ในการเทรดตามระบบ Trend Following 10 ข้อ
======================
* จากการที่ผมพยายามเทรด Bitcoin โดยใช้ระบบ Trend Following เช่น Action Zone ( MACD ตัดศูนย์ ) หรือเอาง่ายๆ แค่ EMA Cross ในระดับ Daily
* พบว่า สิ่งที่ยากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่สุด ในการเทรด ตามระบบ ก็คือ การ "ทำตามระบบให้ได้" ของเราเองนี่แหละครับ
* พิมพ์แล้วก็เหมือนจะย้อนแย้ง เรามาดูตัวอย่างสถานการณ์จริงกันดีกว่าครับ
---------------------
1) ระบบแดงมานาน และเพิ่งเขียวแรกในรอบหลายเดือน
---------------------
* ข้อนี้จะเป็นจุดตายของมือใหม่ที่ไม่ได้ติดตามตลาดทุกวันครับ เพราะ ถ้าระบบแดงมานาน หมายความว่า ตลาดช่วงนั้นๆ "น่าเบื่อ" มากๆ คือมีแต่ซึมๆ ทรงๆ เหี่ยวๆ สื่อต่างๆ ก็ไม่พูดถึง เพื่อนๆ รอบตัวก็ไม่มีใครเล่น เพราะมันไม่ได้ตัง
* แต่จริงๆ แล้ว ข้อนี้ เป็นข้อที่สำคัญมาก ที่จะทำให้เรา "ได้ตังก้อนใหญ่" กันง่ายๆ เลยครับ เพราะ ส่วนใหญ่ มันมักจะมีโอกาสสูงที่ ระบบเขียวรอบนี้ อาจจะเป็นการ "กลับตัวใหญ่" ของกราฟ และเริ่มเทรนขาขึ้นรอบใหม่เลยก็ได้
-- วิธีแก้ --
* ดังนั้น ถ้าเราเห็นเหรียญ เห็นหุ้นตัวไหน ระบบแดงมานาน ก็อย่าไปรังเกียจมันครับ จับมันใส่เข้า watchlist ใน traindingview แล้วก็นั่งกดดูมันทุกวัน วันละครั้ง พอวันไหนมันเริ่มเขียว ก็ให้รอจนมันปิดแท่งก่อน เพื่อ confirm สัญญาณ ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยซื้อตอนเปิดแท่งถัดไปครับ
---------------------
2) ระบบทำเขียวหลอกบ่อย บ่อยจนหลอน และพอเขียวอีกทีก็ไม่กล้าเข้า
---------------------
* เคสนี้จะเป็นกับสินทรัพย์ที่อยู่ระหว่างช่วง sideway down คือ เป็นขาลง ที่ไม่ได้ลงแบบโหดๆ แต่เป็นการลงแบบเนิบๆ ช้าๆ ห่วยๆ กากๆ
* ถ้าให้ยกตัวอย่างก็จะเป็นเคสของ Bitcoin ช่วงปี 2018 ทั้งปีครับ ช่วงนั้น ใครที่ใช้ระบบ Trend Following ไม่ว่าระบบไหน จะต้องเจอสัญญาณหลอกกันตลอดทั้งปี เขียวที่ยอด แดงที่ก้น เสมอ
* เจอครั้งสองครั้งแรก ก็อาจจะยังพอทำใจ แต่พอเริ่มเจอครั้งที่สาม ที่สี่ ที่ห้า อันนี้ก็จะเริ่มถอดใจแล้วครับ เพราะ ถ้าใครไม่ยอมทำ Position Sizing ดีๆ วางความเสี่ยงต่อการเทรดดีๆ เจอ consecutive losses แบบนี้ พอร์ตพังแน่นอน
* และส่วนใหญ่ ... เมื่อไหร่ที่เราเริ่มถอดใจ...เมื่อนั้นแหละ มันคือสัญญาณขึ้นจริง 5555
-- วิธีแก้ --
* เคสนี้สามารถแก้ได้ ด้วยการที่เราต้องกำหนด Risk per Trade ไม่ให้มากจนเกินไป โดย ถ้าใช้ตามหลักการที่กูรูหุ้น หรือเทรดเดอร์ระดับ Market Wizard ชอบแนะนำกัน ก็คือ 2% Risk per trade ครับ .. หมายความว่า ใน 1 ครั้งที่ระบบเราเขียว เราจะวางความเสี่ยง ให้เราเสียตัง -2% ของพอร์ต ถ้ามันเป็นเขียวหลอก ไม่ไปต่อ และย่อลงมาชน Stop Loss ของเราครับ
* การใช้ 2% Risk per trade หมายความว่า ใน worse case scenario เราสามารถเจอ consecutive losses ประมาณ 5-6 ครั้ง พอร์ตเราก็จะขาดทุนเพียงแค่ -10% ถึง -12% เท่านั้นเองครับ ซึ่ง การขาดทุนระดับนี้ ถ้าเทรนมา สามารถได้คืนได้อย่างง่ายดายครับ
---------------------
3) ระบบเพิ่งแดงมาได้ไม่นาน และกราฟเริ่มเด้งกลับแรง แต่ยังไม่ confirm เขียว
---------------------
* เคสนี้ประมาณว่า เราเพิ่ง Take Profit/Cutloss ไปตามระบบแดงขาย แต่พอเรานั่งเฉยๆ รอให้กราฟมันถล่ม เพราะระบบแดงแล้วนี่ .. มันกลับลากกลับเฉยเลย แถมลากไปสูงกว่าจุดที่เราเพิ่ง TP/SL ออกไปซะด้วยสิ...แต่การลากกลับของมัน ก็ยังไม่ทำให้ระบบเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียวได้
* การเคลื่อนตัวของราคาแบบนี้ ทำให้เราคิดว่า "โห รู้งี้ ไม่คัทก็ดีหรอก เพราะสุดท้าย มันก็กลับมา คัทไปแล้วก็เสียจังหวะหมด"
* และถ้าเราไปอยู่ในเฟส หรือห้องแชท ก็จะมีคนที่ไปช้อนซื้อตอนที่ระบบแดง ราคารูดหนัก มาอวดกำไรโชว์ว่า เห็นมะ ที่ช้อนตะกี้ มีกำไรแล้ว .. ยิ่งทำให้เราเกิดอาการ อิจฉาริษยา อยากได้ อยากมี อย่างเขาบ้าง รวมถึง เริ่มมีความสงสัยในระบบเทรดที่เราใช้อยู่ ว่า จริงๆ แล้วมันเวิร์คหรือเปล่าเนี้ย?
* สุดท้าย พอคิดมากเข้าๆ ก็จะนำพาไปสู่การ "มือลั่น" นั่นก็คือการเข้าซื้อ โดยไม่รอสัญญาณ confirm ระบบเขียวครับ ( แหกระบบนั่นเอง )
* ซึ่ง อาการเหล่านี้จะไม่เกิดเลย ถ้าระบบมันแดง แล้วมันลงต่อไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ใครไปยิ่งช้อนก็ยิ่งพัง .. ถ้ามันลงต่อ เราก็จะได้แต่รำพึงกับตัวเองว่า "ดีแล้วที่ทำตามระบบ"
-- วิธีแก้ --
* เคสแบบนี้ ต้องให้เราทำใจร่มๆ แล้วท่องไว้เสมอครับว่า "เดี๋ยวถ้ามันเขียวใหม่ ก็เข้าใหม่ แค่นั้นแหละ อย่าไปคิดมาก"
* และให้พยายามเปิดเคสเก่าๆ ย้อนหลัง หรือเปิดดูเทรดไดอารี่ ของเราเอง ที่เคยรีบไปเข้า ตอนระบบยังไม่เขียว แล้วมันลงต่อแรงจนขาดทุน แล้วก็หยิบมาเตือนสติตัวเองบ่อยๆ ว่า "เห็นไหม ไม่ทำตามระบบ สุดท้าย ก็เสียตังฟรี"
* ส่วน เรื่องคนที่อวดกำไร ถ้ามันทำให้การตัดสินใจ หรืออารมณ์ของเราขุ่นมัว วิธีแก้ง่ายๆ ก็คือ เอาตัวเราเอง ออกมาจากคนเหล่านั้นซะครับ จบ 555
---------------------
4) เข้าไปแล้วตอนระบบเขียว แต่ก็เจอเขียวหลอก ทำให้รู้สึกว่า ระบบมันห่วย
---------------------
* เคสนี้ก็เป็นอีกเคสที่สุดแสนจะคลาสสิค โดยเฉพาะคนที่เพิ่งใช้ระบบ หรือทำตามระบบใหม่ๆ จะเจอกันมาก
* เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่า ระบบเขียวแล้ว มันจะต้องวิ่งต่อไปเลย ... ซึ่ง... ไม่จริงเลยครับ
* ถ้าไปดูข้อมูลผล Backtest ก็จะพบว่า win rate ของระบบ Trend Following มีโอกาสถูกแค่ประมาณ 40% เท่านั้นเองครับ ( แถมน้อยกว่านี้อีก ในบางสินทรัพย์ และ บางอันก็ใช้ระบบนี้ไม่ได้อีกนะ )
* นั่นก็หมายความว่า ทุกครั้งที่ระบบ "เขียว" เราจะมีโอกาส "เกินครึ่ง" ที่ มันจะเป็น "เขียวหลอก"
* แต่ถ้ามันเป็น "เขียวจริง" เทรนมันก็จะวิ่งสร้างกำไรให้เราไปได้อีกไกลครับ
-- วิธีแก้ --
* วิธีแก้เคสนี้ก็จะเหมือนกับเคสข้อ 2 นั่นก็คือ ต้องวาง Risk per Trade ให้เหมาะสม ไม่ให้เราขาดทุนหนัก ตอนที่เราเจอเขียวหลอก
* เอาจริงๆ ปัญหาของเคสนี้อีกเรื่องก็คือ การเข้าด้วย Position Size ที่ใหญ่จนเกินไป เพราะยังไม่มีความเข้าใจเรื่องการทำ Risk per trade + position size พอเห็นระบบเขียวทีก็กด all-in กันไป บางคนร้ายกว่านั้น ก็ไป all-in ตามด้วยอัด leverage อีก พอเจอเขียวหลอก ก็พอร์ตพังเกินเยียวยา
* ดังนั้น แก้ได้ง่ายๆ นิดเดียว คือ วาง Position Size ด้วยขนาด Risk ที่เหมาะสม และยอมรับว่า เรามีโอกาสเจอ "เขียวหลอก" ติดๆ กันไปหลายครั้ง แต่ ต้องเชื่อมั่นว่า เมื่อมันเขียวจริง เทรนมา เราจะมีกำไรมา cover loss เล็กๆ น้อยๆ ที่เสียไปได้จนหมด ครับ
---------------------
5) เข้าไปแล้วตอนระบบเขียว แต่พอมันเริ่มย่อต่ำกว่าจุดที่เข้าไว้ ก็เริ่มหลอน หลอนมากๆ ก็ไปคัท
---------------------
* เคสนี้ผมก็เจอบ่อยอีกเช่นกัน จริงๆ ปัญหานี้ หลักๆ ก็คงเกิดขึ้นมาจากการไม่เข้าใจในระบบดีพอ และไปเข้าด้วย Position ที่มีขนาดใหญ่มากๆ เช่น all-in ตอนระบบเขียว หรือไปใช้ leverage เยอะๆ
* พอมันเริ่มย่อ เข้ามาต่ำกว่าจุดเข้า แต่ยังไม่ถึงจุด Stop Loss ก็จะทน loss ตรงนั้นไม่ค่อยจะได้ และสุดท้าย พอมันย่ำมากๆ ก็มือลั่น กดขายออกไป โดยไม่รอให้มันชน SL หรือระบบแดงก่อน
* พอขายเสร็จ ก็ตามคาด ครับ ราคาก็วิ่งต่อไปอีกไกล ทำให้ เราตกรถ จะเข้าอีกทีก็ไม่กล้าแล้ว เพราะกลัวโดนมันหลอกอีก .. มัวรอไปรอมา สุดท้ายก็ไม่กล้า และไปกล้าอีกทีตอนที่ราคาวิ่งไปถึงจุดพีคแล้วนั่นเอง 555
-- วิธีแก้ --
* เคสนี้ จะแก้ได้ จะต้องห้ามเข้าแบบ all-in จัดหนักจัดเต็ม เพราะ มันจะทำให้เราทนแกว่งได้ ตอนที่กราฟอาจจะยังพักตัว อยู่ในช่วงแรกๆ
* วิธีแก้ ก็เหมือนข้ออื่นๆ น่ะแหละ นั่นก็คือ ต้องเข้าด้วยความเสี่ยงที่ไม่เยอะจนเกินไป ถ้าจะให้ดีก็เน้นแค่ 2% Risk per trade
* เพราะถ้าเราเข้าด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มาก ตอนมันย่อ เราก็จะไม่รู้สึกหลอน พอไม่หลอน เราก็ทนย่อได้ พอทนย่อได้ มันย่อเสร็จ แล้วมันวิ่งต่อ เราก็รันเทรนกันไปยาวๆ ครับ
---------------------
6) รันเทรนระบบเขียว มีกำไร แต่นอนไม่หลับทุกวัน อยากขายเหลือเกิน
---------------------
* นี่ก็เป็นเคสสุดคลาสสิค เช่นกัน เป็นกันมากสำหรับมือใหม่ เพราะ พอมีกำไร ตามสัญชาติญาณของมนุษย์พื้นฐาน เราก็จะไม่อยากเสียกำไรก้อนนี้ไป ทำให้ คันมือ สุดๆๆ และถ้าใจไม่แข็งพอ ก็จะไปขายเก็บกำไรออกมาทั้งหมด โดยระบบยังไม่แดง ยังไม่มีสัญญาณขาย
* และพอขายออกไปทั้งหมดแล้ว ทีนี้ ยุ่งเลย เพราะ ถ้ามันไปต่อขึ้นมา เราก็ได้แต่นั่งตกรถ มองตาปริบๆ จะเข้าใหม่ก็ไม่กล้าเข้า เพราะกลัวมันย่อ กลัวดอย .. แต่จะไม่เข้าเลยก็กลัวตกรถ
* มัวแต่ลังเลไปๆ มาๆ สุดท้าย ก็จะไปเข้าที่ยอดอยู่ดี ตอนสื่อต่างๆ เริ่มลงเริ่มเชียร์ และเพื่อนๆ เราเริ่มอวดกำไรครับ 5555
-- วิธีแก้ --
* วิธีแก้เคสนี้ มันก็แอบ Tricky และยากพอสมควร โดยจาก ปสก ที่ผมรันเทรนมา ก็ขอเสนอวิธีแก้ดังนี้ครับ
** 6.1) ทยอยขายออกไปเรื่อยๆ ตามเป้า key fibo : สำหรับวิธีนี้ เราต้องลากพวก fibo projection เพื่อหาเป้าให้เป็นกันก่อน และพอราคามันวิ่งมาถึงเป้าที่เราต้องการ ก็ค่อยๆ ทยอยขายออกไปครับ แต่อย่าขายหมด ให้เหลือไม้ปลายนวมติดมือไว้ด้วย เพื่อไว้เตรียมออกตอนระบบแดง.. วิธีนี้ ข้อดีคือ เราจะสามารถลดความเสี่ยงของการถือได้เยอะเลย แต่ มันก็มีข้อเสียคือ มันจะทำให้เราได้กำไรไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นเองครับ
** 6.2) อย่าไปดูมันเยอะ ให้หาอย่างอื่นทำไป หรือแยกพอร์ตให้เราดูวันละครั้งพอ เพราะยิ่งดูเยอะ เรายิ่งหลอน พอยิ่งหลอน ก็จะมีโอกาสมือลั่นมากขึ้นครับ นั่งทับมือ ทนรวย เอาไว้ครับ 555
---------------------
7) รันเทรนมานาน กำไรเยอะมาก พอระบบแดงแล้วก็ไม่อยากขาย เพราะเสียดาย กลัวว่ามันจะไปต่อ
---------------------
* เคสนี้ จะเป็นเคสกลับกันกับเคสก่อนหน้า 555 โดยจะเป็นกับคนที่มือเก๋าๆ และรันเทรนกันมานานพอสมควร และมีกำไรหลาย x ไปแล้ว
* โดย พอเราเริ่มมีกำไรเยอะ เราจะโลภต่อ และคิดว่า "ถือมาขนาดนี้แล้ว ถ้ามาขายตอนนี้ แล้วมันไปต่ออีก โห เสียดายแย่เลย ระบบแดงแล้ว ไม่ขายดีกว่า ไหนๆ ทุนเราก็ต่ำขนาดนี้แล้ว"
* เคสนี้ พอเราเจอแดงหลอก ( แดงแล้วกลับมาเขียวใหม่ ) มันก็จะยิ่งฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความหายนะ ฝังเข้าไปในจิตใจเราอีก ว่า "เห็นมั้ย ดีนะ ที่ไม่ขาย ไปต่ออีกไกลเล้ยยย รวยๆๆ"
* และ คนที่ตกในข้อนี้ พอไปเจอ "แดงจริง" ลงจริงจัง ก็จะเจอสภาพการคืนกำไร จนหมดครับ เพราะ พอเขาไม่ออกตอนแดงแรก ทีนี้ เขาก็จะไม่มีจุด "เก็บกำไร" อื่นๆ อยู่ในแผน เพราะเขาไม่เคยมอง downside risk ละ มองแต่ upside gain
* พอคืนกำไรหมด จนเหลือเท่าทุน ทีนี้ก็จะเข้าโหมดว่า "ไม่เป็นไรน่า ถือๆ ไว้ เดี๋ยวมันก็กลับไปเองแหละ ก่อนหน้านี้มันยังกลับไปเลย"
* พออยู่มาจนถึงจุดนี้ นอกจากคืนกำไรแล้ว ก็จะกลายเป็นขาดทุนหนักไปด้วยนั่นเองครับ 5555
-- วิธีแก้ --
* ง่ายนิดเดียว ระบบแดงก็ขายสิครับ อย่าไปคิดไรมาก! ถ้ามันแดงหลอก เขียวเราก็เข้าใหม่ แค่นั้นเอง
---------------------
8) ตกรถ ระบบเขียวมานานแล้ว แต่รอไม่เป็น แล้วก็ไปเข้าที่ยอด
---------------------
* เคสนี้ เป็นได้ทั้งมือใหม่ และมือเก่า หรือคนที่ขายหมูออกไปหมดแล้ว หรือคนที่กลัวมากๆ มองลงมาตลอด ว่ามันขึ้นไม่จริงหร๊อก .. สุดท้าย พอสื่อลงเยอะๆ เพื่อนอวดกำไรมากๆ ก็ไปเข้าที่ยอดดอย
* พอเข้าเสร็จ ราคาก็อาจจะไปต่ออีกสักพัก แต่สุดท้าย มันก็จะจบรอบ และรูดหนัก ในท้ายที่สุด
-- วิธีแก้ --
* เคสนี้แก้ง่ายครับ ถ้าเราตกรถ เราก็ตกรถ แค่นั้นแหละ อย่าไปไล่ราคา ให้นั่งดูเฉยๆ ไป และนั่งคิดว่า ทำไม รอบที่ผ่านมา เราถึงตกรถนะ และ จะทำยังไง ไม่ให้ตกรถอีกในรอบหน้า
* ถ้าเราวางแผนให้เรียบร้อยได้ และรอให้เป็น เดี๋ยวท้ายที่สุด ระบบมันก็จะเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง เองแหละครับ และนั่นแหละ คือจุดที่คุณจะได้ใช้การวิเคราะห์ปัญหา ที่คุณทำมาตะกี้ เพื่อหาจังหวะเข้าใหม่ ตอนเขียวแรกนั่นเอง
---------------------
9) ระบบแดง แต่ไปคิดว่า มันน่าจะย่อแล้วไปต่อ ก็เลยไปย่อซื้อย่อซื้อ กัน
---------------------
* จริงๆ เคสนี้มันก็ไม่เชิงเกี่ยวกับการทำตามระบบเท่าไหร่ จะให้พูด ก็คงหมายถึงแมงเม่าที่ดูเทรนกันไม่เป็นมากกว่า 555
* โดยมือใหม่ ส่วนใหญ่ จะเป็นอารมณ์ต่อเนื่องมาจากข้อ 8 คือ ตกรถ เทรนขาขึ้นรอบใหญ่ แต่ เขาเห็นเหรียญ เห็นหุ้นตัวนี้ละ
* สิ่งที่เขาจะทำกัน ก็คือ การ "รอย่อ แล้วค่อยซื้อ" เพราะคิดว่า "เดี๋ยวมันก็คงจะไปต่อเรื่อยๆ เหมือนที่กูรูเขาว่าไว้"
* แต่ปัญหาของการ "ย่อซื้อ" ของมือใหม่ มันมีจุดอ่อนสำคัญมากคือ.. ปกติแล้ว กราฟ มันจะมีสองรูปแบบคือ
(1) ย่อ แล้วไปต่อ : เคสนี้จะเกิดในเทรนขาขึ้น ส่วนใหญ่ จะเป็นตอนที่ระบบยังเขียวอยู่
(2) ย่อแล้ว ย่ออีก ก็ไม่ขึ้นซะที : เคสนี้ มักจะเกิดในเทรนขาลง ตอนที่มันจบรอบไปแล้ว และระบบแดง
* พอไปใช้ท่า ย่อซื้อ กลายเป็นว่า พอเทรนมันเปลี่ยน เป็นขาลงแล้ว ยิ่งย่อ ยิ่งซื้อ ก็ยิ่งขาดทุน นั่นเอง
-- วิธีแก้ --
* ง่ายนิดเดียวครับ ถ้าระบบแดง ก็อย่าไปใช้วิธีย่อซื้อ นั่งกันเฉยๆ รอระบบเขียวกันไปครับ
---------------------
10) ระบบแดง แล้วคิดว่าจะต้องลง "แน่ๆ" แล้วก็ไป Short จัดหนักจัดเต็ม
---------------------
* เคสนี้ก็เป็นอีกเคสที่สุดแสนจะคลาสสิค โดยจะเป็นกับมือใหม่ที่พอมีความรู้มากขึ้นละ เริ่มค้นพบว่า ในการเทรด นั้น เราสามารถ "Short" เพื่อหากำไรตอนขาลงได้อีกด้วย
* ทีนี้ พอได้วิชามาแล้ว ก็ร้อนวิชาละ ต้องลองจัด...เฮ้ย ระบบแดงแล้วนี่นา มันต้องลง "แน่ๆ" แล้วล่ะ ไม่ได้แล้ว แบบนี้ จัดเลย short 20x all-in รวยแน่นอน
* กลายเป็นว่า ตอนแรก มันก็อาจจะลงจริงนะ เก็บกำไรได้ทีสองที เริ่มดีใจ ..เข้าโหมดไล่ราคา ไม่ได้ละรอบนี้ กูรูบอกลงไปไร้ค่าแน่ วิกฤติการเงินโลกมาแน่นอน เพราะร้อดชายบอกผมมา
* จัดเลย Short แนวรับ จัดหนักจัดเต็ม snowball กับกำไรที่ได้มาก่อนหน้า รอบนี้ รวยแน่ๆ
* ... สุดท้าย เจอแท่งสวนขึ้นมาแรงๆ หนึ่งดอก ล้างพอร์ต หมดตัว หายหมด ทั้งทุน และกำไร 5555 จบข่าว
-- วิธีแก้ --
* อย่าไป short เลยครับ นั่งถือเงินสดเฉยๆ ดีกว่า
* เพราะ การถือเงินสด เอาจริงๆ มันก็คือการ short 1x แล้วนะ ยกตัวอย่างเช่น เงิน 2 ล้าน ตอนที่ยอด 60k อาจจะซื้อได้แค่ 1 BTC แต่พอ BTC ลงไปเหลือ 30k เราจะซื้อ BTC ได้ถึง 2 BTC แล้วนะครับ .. เห็นไหมว่า 1 BTC = 2 BTC เฉยเลยนะ 5555
---------------------
สรุป
---------------------
* ระบบ Trend Following มันเป็นเพียงแค่ส่วนนึงในการเทรดตามระบบเท่านั้นนะครับ ซึ่ง หลายๆ คนก็อาจจะไม่ชอบวิธีนี้ และอาจจะมีวิธีหาตังจากตลาด วิธีอื่น ที่เหมาะสมกับตัวเองก็ได้
* แต่สิ่งที่ผมต้องการสื่อในบทความนี้ หลักๆ ก็ อยากจะแชร์ สิ่งที่ผมเจอมากะตัว หรือเห็นมือใหม่คนอื่นๆ ทำ หลังจากพยายามใช้ระบบนี้ มาตลอดช่วงหลายปี
* บางอย่าง อาจจะถูก อาจจะผิด อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่คุณเชื่ออยู่ ถืออยู่ และอ่านแล้วอาจจะหงุดหงิด ก็ขอให้ทำใจร่มๆ แล้วก็ปล่อยผ่านไปนะ 555
* ส่วนใครอ่านแล้วโดนใจ เฮ้ย นี่มันตัวฉันเลยนี่หว่า ก็ลองเอาไปปรับแก้กันดู เพราะจริงๆ แล้ว การเทรด เนื้อแท้แล้ว จริงๆ มันคือการเรียนรู้ และปรับปรุงตัวเอง ในทุกๆ วัน
* ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คนที่ กำลังอยู่ระหว่างการเรียนรู้ นะครับ
Gold จังหวะ Buy ของการเทรดระยะสั้นแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1300
แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1350
เทรนด์ในภาพใหญ่คือขาขึ้น การซื้อตอนนี้คือคาดหวังการกลับตัวขึ้นในกรอบ sideway และตามเทรนด์ขึ้นต่อ
สำหรับนักลงทุนระยะยาว อาจยังไม่ใช่จุดเข้า (คือรอสะสมเมื่อราคาต่ำ)
สำหรับเทรดเดอร์ / scalping - เทรดแบบระยะสั้น ฺBuy วาง SL ต่ำกว่า 1300 TP ที่ 1350 หรือก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
หาก SL < TP คือเทรดนั้นมีรูปแบบ RRR ที่ได้เปรียบ โดยพิจารณาจุด SL ตามแนวรับ TP ตามแนวต้าน