Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
Inverted Hammer
แรงขายที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,630 จุด แรงซื้อที่มีเข้ามาในช่วงปลายตลาด ทำให้ดัชนีตลาดลดช่วงลบขึ้นมาปิดที่ 1,633.84 จุด ลดลง 6.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.37 หมื่นล้านบาท ต่างชาติเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวก จะทำให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล สลับกับการปรับตัวขึ้นเพื่อพักฐาน ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก นักลงทุนติดตามความก้าวหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับที่ 1,630 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Inverted Hammer สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นบวกในเขตขายมากเกิน แรงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจะหนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) โดยมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวต้านถัดไป ดัชนีตลาดมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,620 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1,684 จุด แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสจบคลื่น i) ที่ 1,684 จุด และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ที่มีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,620 จุด และมีแนวรับระหว่างทางอยู่ที่ 1,630 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นลบ ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นบวกในเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล นักเก็งกำไรควรรอสัญญาณซื้อรูป W-shape ของสัญญาณ Modified Stochastic
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,639 – 1,645 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,625 – 1,620 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
กรณีที่ดัชนีตลาดปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,650 จุด แนะนำให้ถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรอดูทิศทางตลาดก่อนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "oscillator"
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
วิกฤติสงครามการค้า
เกิดการตื่นขายตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจีนประกาศตอบโต้ทางการค้ากับสหรัฐ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,640.13 จุด ลดลง 8.56 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลสลับกับการปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,620 จุด นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ เศรษฐกิจโลกมีโอกาสชะลอตัวจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ นักวิเคราะห์เริ่มมองว่าเฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ หลังดัชนีตลาดหลุดแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางลงมาทำจุดต่ำที่ 1,634 จุด ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล โดยมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นและเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะกลับมามีสัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,660 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1,684 จุด แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสจบคลื่น i) ที่ 1,684 จุด และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ที่มีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,620 จุด และมีแนวรับระหว่างทางอยู่ที่ 1,630 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล นักเก็งกำไรควรรอสัญญาณซื้อรูป W-shape ของสัญญาณ Modified Stochastic
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,645 – 1,650 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,634 – 1,630 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
กรณีที่ดัชนีตลาดปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,650 จุด แนะนำให้ถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรอดูทิศทางตลาดก่อนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
การต่อรองผลประโยชน์
บรรยากาศการลงในตลาดหุ้นถูกครอบงำด้วยปัญหาการเมืองในประเทศ และข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงปิดส่งท้ายสัปดาห์ที่ 1,648.69 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับลดลง 30.36 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ การปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐ จะเป็นปัจจัยบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1,684 จุด แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสจบคลื่น i) ที่ 1,684 จุด และกำลังพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ที่มีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,620 จุด และมีแนวรับระหว่างทางอยู่ที่ 1,630 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำเป็นวันที่ 4 ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของช่องแนวโน้มระยะกลาง และกำลังปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,630 จุด ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลสลับกับการพักตัวลง การที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้น ทำให้ดัชนีตลาดมีความเสี่ยงทางเทคนิคัลเพิ่มขึ้น
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล นักเก็งกำไรควรรอสัญญาณซื้อรูป W-shape ของสัญญาณ Modified Stochastic
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,654 – 1,660 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,643 – 1,638 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
กรณีที่ดัชนีตลาดปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,650 จุด แนะนำให้ถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรอดูทิศทางตลาดก่อนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
สงครามการค้า
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยรูดลงมาปิดที่ 1,646.80 จุด ลดลง 7.21 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลงต่อหรือเคลื่อนตัวออกด้านข้าง ต่างชาติและสถาบันในประเทศเดินหน้าขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลง นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อรอดูบทสรุปการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีตลาดหลุดแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1,650 จุด ทำให้ดัชนีตลาดมีความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลง ดัชนีตลาดปรับตัวลงแบบมีช่องว่างถึงสองครั้ง ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,650 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลงที่ 1,640 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,640 จุด การที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,650 จุด จะทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงเป็นคลื่น ii) มีความเสี่ยงทางเทคนิคัลเพิ่มมากขึ้น
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไรระยะสั้น หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลระยะสั้น นักเก็งกำไรควรรอสัญญาณซื้อรูป W-shape ของสัญญาณ Modified Stochastic
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,653 – 1,660 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,640 – 1,634 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
กรณีที่ดัชนีตลาดปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,650 จุด แนะนำให้ถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรอดูทิศทางตลาดก่อนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
รอดูบทสรุปการค้าจีน-สหรัฐ
ปัญหาการเมืองภายในประเทศและปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุน แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,654.01 จุด ลดลง 15.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลง ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตลาดเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเล็กน้อยแบบไร้ทิศทาง นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อดูบทสรุปทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐในวันศุกร์นี้ (10/5)
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น โดยดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,650 จุด สัญญาณทางเทคนิคัลชี้ว่าดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวลงหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,650 จุด
ตลาดได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในประเทศ ทางด้านการเมืองและสัญญาณเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัว
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น ii) ในทางเทคนิคัลดัชนีตลาดที่พักตัวลงแบบ a-b-c และไม่ควรปรับลดลงหลุดแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,650 จุด หากดัชนีตลาดปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,650 จุด การนับคลื่นปรับอาจต้องพิจารณาใหม่
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,640 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,660 – 1,666 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,648 – 1,640 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
กรณีที่ดัชนีตลาดปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,650 จุด แนะนำให้ถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรอดูทิศทางตลาดก่อนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผวาสงครามการค้ารอบใหม่
นักลงทุนตื่นข่าวสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐรอบใหม่ ต่างนำหุ้นออกเทขายฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,669.68 จุด ปรับลดลง 9.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.14 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด ต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐส่อเค้าบานปลาย นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงแบบมีช่องว่าง (Gap) หลังดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง และตามด้วยแท่งเทียนลำตัวขาวที่มีขนาดใกล้เคียงกัน (เป็นรูปแบบของสัญญาณขึ้นต่อเนื่อง) แต่ข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทั่วโลกปรับตัวลดลง ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,663 จุด โดบมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับร่วม
หากดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดต้องไม่ปิดลงต่ำกว่าแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,655 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งตัวออกด้านข้างลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) แบบ a-b-c โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับอยู่ที่ 1,655 จุด (ดัชนีตลาดต้องไม่ปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับนี้) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,684 จุด ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นกลับมาเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,163 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,110 – 1,115 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,100 – 1,096 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ยืน 1,684 จุดได้ ไปต่อ
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปแบบไร้ทิศทาง โดยมีบรรยากาศการเมืองในประเทศที่ขาดความชัดเจนเป็นปัจจัยกดดัน ดัชนีตลาดปิดส่งท้ายสัปดาห์ที่ 1,679.05 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.90 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 4.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลที่เป็นบวก จะทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,684 จุด ต่างชาติกลับมาขายสุทธิในช่วงปลายสัปดาห์ ตลาดทุน ตลาดเงินปรับตัวลดลง หลังจีนออกมาตอบโต้คำขู่ของทรัมป์ด้วยการชะลอการเจรจาการค้า
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,684 จุด หากดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,684 จุดด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง จะเป็นการยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) ที่ 1,612 จุด และดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด
จากกราฟรายวัน กรณีที่ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูงและมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น ดัชนีตลาดจะเกิดสัญญาณขึ้นต่อเนื่องรูป Gapping Side-by-Side White Line ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,696 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) และเส้นแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวรับร่วมกัน ดัชนีตลาดไม่ควรปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,654 จุด เพื่อยืนยันทิศทางตลาดขาขึ้น
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,696 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,687 – 1,696 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,673 – 1,663 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,663 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ใกล้สรุปผลการเลือกตั้ง
แรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาดักข่าวผลการเลือกตั้ง แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,679.17 จุด เพิ่มขึ้น 5.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.65 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,684 จุด นักลงทุนทั่วไปและต่างชาติเป็นฝ่ายขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังจากนักลงทุนบางส่วนออกจากตลาดเพื่อรอดูผลการเจรจาการค้าและตัวเลขแรงงานช่วงปลายสัปดาห์
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) แท่งเทียนมีลำตัวเล็กสีขาวและมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,684 จุด มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น หลังดัชนีตลาดอ่อนตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางปรับตัวขึ้นและเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น ดัชนีตลาดต้องยืนปิดเหนือ 1,684 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อ
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น ii) ที่มีเส้นแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นเป้าหมายอยู่ที่ 1,650 จุด ก่อนที่จะซิกแซกขึ้นเป็นคลื่น iii)-iv)-v) เพื่อจบคลื่น (iii),v) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,684 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,684 – 1,690 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,674 – 1,670 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
รอสัญญาณการเมือง
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,673.52 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.48 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,684 จุด นักลงทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยแทนการปรับลดลง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก โดยดัชนีตลาดอยู่ในช่วงพักตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,657 จุด และมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,650 จุด ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดไม่ควรปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 1,650 จุด
ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,684 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น ii) ที่มีเส้นแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นเป้าหมายอยู่ที่ 1,650 จุด ก่อนที่จะซิกแซกขึ้นเป็นคลื่น iii)-iv)-v) เพื่อจบคลื่น (iii),v) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ MACD เป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกันจะทำให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทาง (Trendless)
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,679 – 1,685 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,668 – 1,663 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผลกระทบจากการเมือง
ภาวะการเมืองในประเทศที่ขาดความชัดเจน ส่งผลให้นักลงทุนนำหุ้นออกขายเพื่อความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ดัชนีตลาดปรับลดลงปิดที่ 1,667.15 จุด ลดลง 6.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.08 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาปิดในแดนบวกขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดีเกินคาดและผลประกอบการที่สดใส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางพักตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่ 1,650 จุด หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1,684 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ก่อนที่จะซิกแซกขึ้นเป็นคลื่น iii)-iv)-v) เพื่อจบคลื่น (iii),v) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ หลังดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,655 จุด และมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,650 จุด ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดไม่ควรปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 1,650 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,673 – 1,680 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,660 – 1,655 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระวังเปิดสูงปิดต่ำ
แรงซื้อหุ้นกลุ่มนำตลาดขาดความต่อเนื่อง แรงขายที่มีออกมาในช่วงปลายตลาด กดดัชนีตลาดปรับลดลงปิดที่ 1,673.32 จุด ลดลง 0.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.76 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบ ระยะสั้นจึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำกว่า 1,668 จุด จะทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลง ต่างชาติกลับมาขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดแบบไร้ทิศทางมีทั้งบวกและลบ ดัชนีตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นตัวฉุด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 แท่งเทียนเกิดเป็นกลุ่ม Star และ Doji ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น จึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำกว่า 1,668 จุด เพราะจะเป็นสัญญาณเตือนถึงการปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,655 จุด โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,674 จุด ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,655 จุด (ดัชนีตลาดต้องปรับตัวลงปิดไม่ต่ำกว่าแนวรับนี้) ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ และจะใช้แนวรับนี้เป็นจุดเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,679 – 1,684 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,668 – 1,664 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับฐาน
แรงขายระยะสั้นที่มีออกมา ส่งผลดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆและปิดที่ 1,673.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีความเสี่ยงที่จะพักตัวลง ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 504 ล้านบาท ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงหลังตลาดตอบรับผลประกอบการไตรมาสแรกที่สดใส การที่สหรัฐเข้มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลก
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Doji ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงช่วงปลายตลาดขาขึ้น จึงควรระวังดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ เพราะจะเป็นสัญญาณเตือนถึงการปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,655 จุด โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,674 จุด ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,655 จุด (ดัชนีตลาดต้องปรับตัวลงปิดไม่ต่ำกว่าแนวรับนี้) ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ และจะใช้แนวรับนี้เป็นจุดเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,679 – 1,684 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,668 – 1,664 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,655 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวโน้มพักตัว
แรงขายที่มีออกมาช่วงปลายตลาดกดดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงปิดที่ 1,671.31 จุด ลดลง 2.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.16 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,654 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ผลประกอบการที่แข็งแกร่งและยอดขายบ้านใหม่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นหลังสหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่ราคาทองดิ่งลงทำราคาต่ำในรอบ 4 เดือน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุดแต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ แท่งเทียนปรากฏเงาส่วนบนที่สะท้อนถึงอิทธิพลแนวต้าน หากดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำและแท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick จะเป็นสัญญาณว่าดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,654 จุด โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับถัดไป ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่าแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,674 จุด ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,654 จุด (ดัชนีตลาดต้องปรับตัวลงปิดไม่ต่ำกว่าแนวรับนี้) ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ และจะใช้แนวรับนี้เป็นจุดเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,677 – 1,683 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,100 – 1,096 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,650 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
จับตาผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบ
แรงขายที่มีออกมาในช่วงท้ายตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,673.48 จุด ลดลง 0.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเริ่มกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะส่งผลให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ดัชนีตลาดจึงมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,650 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มการเงิน จับตาราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นหลังสหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเริ่มเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนปรากฏเงาส่วนบน (Upper shadow) หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด แรงขายที่มีออกมาในช่วงปลายตลาดกดดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดในแดนลบ หากดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ จะทำให้ดัชนีตลาดระยะมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,650 จุด โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางเป็นแนวรับร่วม
ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นปิดเหนือแนวต้านที่ 1,674 จุด และเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น จะต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาด พลังงาน สื่อสารและแบงก์ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,674 จุด ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,650 จุด (ดัชนีตลาดต้องปรับตัวลงปิดไม่ต่ำกว่าแนวรับนี้) ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ และจะใช้แนวรับนี้เป็นจุดเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เริ่มกลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,679 – 1,684 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,667 – 1,660 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,650 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ชะลอการซื้อขาย
บรรยากาศการเมืองที่ขาดความชัดเจน ยังเป็นตัวแปรที่คุกคามบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆและปิดลงที่ 1,674.10 จุด ลดลง 0.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการเนื่องในวันกู๊ดฟรายเดย์
ปัจจัยทางเทคนิค
ดัชนีตลาดจากกราฟรายสัปดาห์และรายวันแสดงถึงทิศทางดัชนีตลาดกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,674 จุด ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,648 จุด (ดัชนีตลาดต้องปรับตัวลงปิดไม่ต่ำกว่าแนวรับนี้) ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ และจะใช้แนวรับนี้เป็นจุดเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานเข้าพอร์ต
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆที่แนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Hanging Man และ Shooting Star ในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ หากดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูง มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น จะเป็นสัญญาณปรับตัวขึ้นต่อ แต่ถ้าดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ ดัชนีตลาดจะปรับตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่ 1,648 จุด
ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นปิดเหนือแนวต้านที่ 1,674 จุด และเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น จะต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาด พลังงาน สื่อสารและแบงก์ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,684 – 1,690 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,667 – 1,660 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,648 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้าน 1,674 จุด
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นกลุ่มนำตลาดขาดความต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆในแนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,674 จุด ดัชนีตลาดปิดที่ 1,675.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.80 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 4.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติขายสุทธิกว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกลับมาปิดบวก ขานรับผลประกอบการและตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Hanging Man ในเขตซื้อมากเกิน ปริมาณการซื้อขายลดลง จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่มีการเรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น ดังนั้น ดัชนีตลาดที่ปรับลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น MMA2 (1,648 จุด) จะใช้เป็นจุดเข้าซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐาน
ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นปิดเหนือแนวต้านที่ 1,674 จุด และเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น จะต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาด พลังงาน สื่อสารและแบงก์ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ซึ่งจะยืนยันการจบคลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,674 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,640 จุด โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด (คลื่น (iii) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น (i))
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,680 – 1,685 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,670 – 1,665 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,648 จุด และถือเงินสด 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ยืนเหนือ 1,674 จุดสัญญาณบวก
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์เริ่มกลับมาคึกคัก หลังตลาดหยุดเทศกาลสงกรานต์ แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาดหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,673.20 จุด เพิ่มขึ้น 12.75 จุด มูลค่าการซื้อขายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังดัชนีปรับตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาด ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดกำลังปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด หากดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,674 จุดด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จะเป็นสัญญาณยืนยันว่าดัชนีตลาดกำลังเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวรับ
ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นปิดเหนือแนวต้านที่ 1,674 จุด และเคลื่อนตัวไปตามแนวโน้มขาขึ้น จะต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาด พลังงาน สื่อสารและแบงก์ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ซึ่งจะยืนยันการจบคลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,674 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,640 จุด โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,820 จุด (คลื่น (iii) ยาวเท่ากับ 1.618 เท่าของความยาวของคลื่น (i))
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,678 – 1,685 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,667 – 1,664 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้าน 1,674 จุด
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ช่วงเทศกาลวันหยุดและการเมืองที่ขาดความชัดเจน ส่งผลให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและปิดที่ 1,660.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 3.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน และดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นแต่มูลค่าการซื้อขายลดลง จะทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นมีความเสี่ยงจากปัจจัยทางเทคนิคัล ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังผลประกอบการไตรมาสแรกที่ออกมาดีเกินคาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวรับ หลังดัชนีตลาดปรับตัวลดลงทำจุดต่ำที่ 1,612 จุด และเกิดรูปแบบกลับตัวเป็น Head and Shoulders แต่การที่ปริมาณการซื้อขายลดลง (ช่วงเทศกาลสงกรานต์และการเมืองในประเทศ) จะทำให้สัญญาณกลับตัวมีความความเสี่ยงที่จะเป็นสัญญาณหลอก (False Signal) หรือเป็นการปรับขึ้นเพื่อพักตัว
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ซึ่งจะยืนยันการจบคลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,674 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ดัชนีตลาดไม่ควรปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นที่ 1,635 จุด
ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเข้าหาแนวต้านที่ 1,674 จุด จะต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาด พลังงาน สื่อสารและแบงก์ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน จะทำให้ดัชนีตลาดเผชิญแรงขายออกมาเป็นระยะ
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,668 – 1,614 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,654 – 1,648 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ตลาดถูกกดดันด้วยการเมืองในประเทศ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆในทิศทางพักตัวลง เนื่องจากตลาดยังถูกกดดันด้วยปัญหาการเมืองในประเทศ เนื่องจากยังไม่มีพรรคใดสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ดัชนีตลาดปิดส่งท้ายสัปดาห์ที่ 1,646.18 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.35 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยลดลงเหลือวันละ 3.8 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมันที่ลดลง ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง นักลงทุนกังวลผลประกอบการไตรมาสแรกจะไม่สดใส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งตัวขึ้น ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ดัชนีตลาดจะต้องไม่ปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,630 จุด โดยดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,674 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) และมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,630 จุด หากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ สัญญาณกลับตัวแบบ Inverted Head and Shoulders จะเป็นสัญญาณหลอก (False Signal) และดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,612 จุด
ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นเข้าหาแนวต้านที่ 1,674 จุด จะต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาด พลังงาน สื่อสารและแบงก์ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic กลับมาเป็นลบในเขตซื้อมากเกิน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,653 – 1,660 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,640 – 1,634 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
การเมืองเป็นพิษ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนกังวลถึงปัญหาการเมืองภายในประเทศ ดัชนีตลาดปิดที่ 1,649.06 จุด ปรับตัวลดลง 2.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,655 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก จากมุมมองทางบวกที่มีต่อการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ท่ามกลางตัวเลขการจ้างงานและดัชนีภาคบริการที่ไม่สดใส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ดัชนีตลาดเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Inverted Head and Shoulders แต่การที่มูลค่าการซื้อขายทรงตัวต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท จะทำให้สัญญาณกลับตัวเป็นได้แค่เพียงสัญญาณหลอก (False Signal) และจะทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,625 จุด
ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,655 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 5 หมื่นล้านบาท อย่างต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ดัชนีตลาดจะเดินหน้าปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างน้อย 3 กลุ่ม (พลังงาน แบงก์และสื่อสาร) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,655 – 1,663 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,644 – 1,640 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
การเมืองกดดันตลาด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นแคบๆ ท่ามกลางปัญหาการเมืองในประเทศที่ส่อเค้าวุ่นวาย ฉุดบรรยากาศการลงทุน ดัชนีตลาดปิดที่ 1,651.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุด มูลค่าการซื้อขายทรงตัวอยู่ที่ 4.17 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาด (พลังงาน สื่อสารและแบงก์) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงหลังราคาหุ้น Walgreens ดิ่งลง 13%
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ ดัชนีตลาดปิดเหนือแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) แม้ดัชนีตลาดจะเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Inverted Head and Shoulders ปริมาณการซื้อขายที่ชะลอตัว จะทำให้สัญญาณกลับตัวน้ำหนักการกลับตัวลดลง ระยะสั้นหากดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูงด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น (5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป) ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,674 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ดัชนีตลาดจะเดินหน้าปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างน้อย 3 กลุ่ม (พลังงาน แบงก์และสื่อสาร) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,656 – 1,663 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,645 – 1,640 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผลบวกจากตลาดต่างประเทศ
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดในแดนบวก แม้ตลาดจะต้องเผชิญแรงขายออกมาในช่วงปลายตลาด ดัชนีตลาดปิดที่ 1,644.64 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.45 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อ เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 5 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิออกมาเล็กน้อย ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เกินคาด และการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐคืบหน้า
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเกิดแท่งเทียนเป็น Doji แท่งที่สอง โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวรับ แท่งเทียนสะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายที่มีพละกำลังพอๆกัน และราคาปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไปจะเป็นตัวบอกทิศทาง กรณีที่ดัชนีตลาดเปิดต่ำปิดสูงเหนือ 1,647 จุดและมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น จะเป็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นต่อ แต่ถ้าเปิดสูงปิดต่ำดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,625 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ดัชนีตลาดจะเดินหน้าปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างน้อย 3 กลุ่ม (พลังงาน แบงก์และสื่อสาร) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,820 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,650 – 1,656 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,638 – 1,632 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
รอดูทิศทางการเมือง
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงซบเซา ปัญหาการเมืองในประเทศที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ดัชนีตลาดปิดส่งท้ายสัปดาห์ที่ 1,638.65 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับลดลง 7.64 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 4.28 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังการเจรจาการค้าระหว่างจีน - สหรัฐคืบหน้า
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ดัชนีตลาดจะเดินหน้าปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างน้อย 3 กลุ่ม (พลังงาน แบงก์และสื่อสาร) ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 5.5 หมื่นล้านบาทขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่น (iii) มีเป้าหมาย 161.8% Fibonacci Projection อยู่ที่ 1,820 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆปิดเหนือเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ระยะสั้นหากดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,647 จุด ดัชนีตลาดจะเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Inverted Head and Shoulders ซึ่งต้องอาศัยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นระยะ 5.5 หมื่นล้านบาทและต่อเนื่องเป็นตัวยืนยันการกลับตัว และดัชนีตลาดจะปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,674 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,647 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,643 – 1,650 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,632 – 1,625 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนยังคงแนะนำให้ถือเงินสดอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์