Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะพักตัว
แรงซื้อขายที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆและปิดลงที่ 1,572.92 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับลดลง 0.98 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 5.66 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,582 จุด และจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนเหนือ 1,600 จุด ต่างชาติซื้อขายแบบขาดทิศทาง ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกและสร้างจุดสูงใหม่ตลอดกาล ขานรับนักลงทุนที่มีมุมมองเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำที่ 1,543 จุด ทำให้ไม่สามารถนับคลื่นปรับ (Corrective wave) เป็นคลื่น (ii) เนื่องจากปรับตัวลงต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,546 จุด ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,543 จุด จึงเป็นคลื่น 4,E,(c) และจะยืนยันการจบคลื่น 4 เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง โดยมีคลื่น 3 จบที่ 1,852 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเข้าหาแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,589 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,582 – 1,588 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,563 – 1,555 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "oscillator"
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
Neckline 1,582 จุด
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.47 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์เป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกและปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงใหม่ตลอดกาล มุมมองการเจรจาการค้าเฟสแรกยังบวก และสัญญาณเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) โดยดัชนีตลาดจะต้องปิดไม่ต่ำกว่า 1,546 จุด หากดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,546 จุด การนับคลื่น (i)-(ii) จะถูกยกเลิก และดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,546 จุด จะยังเป็นคลื่นปรับของคลื่น 4 โดยมีคลื่น 3 จบที่ 1,852 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,589 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,579 – 1,585 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,566 – 1,560 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้าน 1,572 จุด
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทาง ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวต้านอยู่ที่ 1,572 จุด และ 1,582 จุด ตามลำดับ ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง ผลกระทบจากผลประกอบการของ FedEx ที่ลดลง และการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ของสภาล่าง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังดัชนีตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 1,543 จุด เกิดรูปแบบเป็น Double Bottom ร่วมกับการเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด ซึ่งมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,605 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) โดยดัชนีตลาดจะต้องปิดไม่ต่ำกว่า 1,546 จุด หากดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,546 จุด การนับคลื่น (i)-(ii) จะถูกยกเลิก และดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,546 จุด จะยังเป็นคลื่นปรับของคลื่น 4 โดยมีคลื่น 3 จบที่ 1,852 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ MACD เป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกัน จะทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,582 จุด ยังขาดทิศทางที่แน่นอน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,569 – 1,575 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,556 – 1,550 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะปรับฐาน
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 กดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,548.65 จุด ลดลง 1.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.95 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,561 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 880 ล้านบาท ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกเล็กน้อย ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,546 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Bottom ในเขตขายมากเกิน โดยมีกึ่งกลางของ Long Bearish Candlestick เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,561 จุด และมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านถัดไป ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,605 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) โดยดัชนีตลาดจะต้องปิดไม่ต่ำกว่า 1,546 จุด หากดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,546 จุด การนับคลื่น (i)-(ii) จะถูกยกเลิก และดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,546 จุด จะยังเป็นคลื่นปรับของคลื่น 4 โดยมีคลื่น 3 จบที่ 1,852 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน สัญญาณทางเทคนิคัลจะกลับมาเป็นบวกเมื่อดัชนีตลาดปิดเหนือ 1,461 จุด แต่ถ้าดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำกว่า 1,543 จุด ดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,435 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,556 – 1,563 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,542 – 1,535 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปัจจัยบวกเริ่มมา
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หลังสถาบันจัดอันดับ S&P ปรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 9 ปี หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,563.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.67 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นกลับมาเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,572 จุด ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังทรัมป์ส่งสัญญาณการเจรจาการค้ากับจีนใกล้ปิดดีล
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (Gap) หลังจากดัชนีตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 1,546 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Bottom ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,572 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านสำคัญ ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง และดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) แบบ (a)-(b)-(c) ลงเป็นคลื่น (ii) เนื่องคลื่น (ii) ต้องปรับลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,546 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ สัญญาณ Modified Stochastic และ RSIปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,572 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,568 – 1,572 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,558 – 1,553 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
หาจังหวะปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน กดดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงปิดที่ 1,551.82 จุด ลดลง 1.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,572 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 10 วัน ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในกรอบแคบๆ หลังเฟดส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยตลอดปี 2563
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำที่ 1,546 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Bottom ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,572 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านสำคัญ ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง และดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) แบบ (a)-(b)-(c) ลงเป็นคลื่น (ii) เนื่องคลื่น (ii) ต้องปรับลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,546 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ สัญญาณ Modified Stochastic และ RSIปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,572 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,556 – 1,561 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,546 – 1,540 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
หาจังหวะปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล
ภาวะตลาดที่ขาดปัจจัยบวก ทำให้เกิดแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มนำตลาด กดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,552.96 จุด ลดลง 6.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด ต่างชาติเดินหน้าขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันอังคารปรับตัวลดลงเล็กน้อย นักลงทุนกังวลถึงการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐใกล้เส้นตายวันที่ 15 ธันวาคม
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,548 จุด ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,572 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านสำคัญ ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐานต่อไปอีกระยะหนึ่ง และดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) แบบ (a)-(b)-(c) ลงเป็นคลื่น (ii) เนื่องคลื่น (ii) ต้องปรับลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,546 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ สัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,559 – 1,565 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,548 – 1,543 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
หาจังหวะปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
อยู่ในช่วงปรับฐาน
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาดฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,558.99 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับลดลง 31.60 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 4.6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด ต่างชาติเดินหน้าขายสุทธิต่อเนื่อง ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขานรับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งและอัตราคนว่างงานต่ำสุดในรอบ 50 ปี
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) แบบ (a)-(b)-(c) ลงเป็นคลื่น (ii) เนื่องคลื่น (ii) ต้องปรับลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,546 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำหลังดัชนีตลาดปรับตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,556 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Bottom ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง ความลาดชันของเส้น MMA2 ที่เพิ่มขึ้น ชี้ว่าดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ สัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,565 – 1,572 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,550 – 1,543 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
หาจังหวะปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ตลาดแปรปรวนตามอารมณ์ทรัมป์
ภาวะขายมากเกินกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวปิดที่ 1,565.45 จุด ลดลง 2.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด โดยดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลงหรือปรับฐาน ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาเป็นในแดนบวกเล็กน้อย จากความหวังว่าจีนและสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงทางการค้า ท่ามกลางความตึงเครียดในกรณีฮ่องกงและซินเจียง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับลดลงทำจุดต่ำที่ 1,556 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning Bottom ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง ความลาดชันของเส้น MMA2 ที่เพิ่มขึ้น ชี้ว่าดัชนีตลาดยังเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) แบบ (a)-(b)-(c) ลงเป็นคลื่น (ii) เนื่องคลื่น (ii) ต้องปรับลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ สัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,579 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,572 – 1,579 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,558 – 1,550 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนไม่ควรเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
วาจาทรัมป์เป็นเหตุ
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร พลังงานทดแทนและธนาคารพาณิชย์ หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นในแดนบวก แต่แรงขายที่มีออกมาในช่วงท้ายตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงปิดที่ 1,567.63 จุด ลดลง 1.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,546 จุด ต่างชาติขายสุทธิ 1,524 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังทรัมป์แจงการเจรจาการค้าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในปีนี้
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆหลังดัชนีตลาดหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มที่ 1,573 จุด ซึ่งจากนี้ไปจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น และมีกึ่งกลางลตัวของ Long Bearish Candlestick ทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,579 จุด ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลสลับกับการปรับตัวลง
การเรียงตัวของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงและความลาดชันเพิ่มขึ้น แสดงถึงภาวะตลาดหมี (Bear Market)
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับลดลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) แบบ (a)-(b)-(c) ลงเป็นคลื่น (ii) เนื่องคลื่น (ii) ต้องปรับลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i)
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มพักตัวลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,574 – 1,580 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,561 – 1,556 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนไม่ควรเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ลดพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงมาปิดที่ 1,569.53 จุด ลดลง 21.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.47 หมื่นล้านบาทบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,546 จุด ต่างชาติขายสุทธิ 2,351 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังตัวเลขภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์และการเจรจาการค้ากับจีนส่อแววยืดเยื้อ หลังทรัมป์ลงนามกฎหมายหนุนม็อบฮ่องกง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Long Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,579 จุด ดัชนีตลาดทรุดตัวลงหลุดแนวรับกรอบล่างของสามเหลี่ยม ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,546 จุด ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัลสลับกับการปรับตัวลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,579 จุด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่เคยนับ การปรับตัวลงเช่นนี้ แสดงว่าดัชนีตลาดยังปรับตัวลดลงอยู่ในคลื่น (ii) ที่มีคลื่น (i) อยู่ที่ 1,748 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มพักตัวลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,576 – 1,583 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,563 – 1,556 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนไม่ควรเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ระยะพักตัว
ดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนแรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดที่ 1,590.59 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับลดลง 17.13 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 5.6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในพักตัว ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง นักลงทุนกังวลว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอาจไม่ราบรื่นหลังทรัมป์ลงนามหนุนม็อบฮ่องกง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการคลื่น ii) จะต้องปรับตัวลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น i) ที่ 1,579 จุด และจะยืนยันการจบคลื่นปรับคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,642 จุด
ในกรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด แสดงดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงยังไม่จบคลื่น (ii)
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางลง ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงหลังปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงโดยมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,579 จุด แรงซื้อที่มีกลับเข้ามาทำให้แท่งเทียนเกิดเป็น Hammer ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางแกว่งตัวเข้าหาปลายยอดของสามเหลี่ยม ดัชนีตลาดกำลังเข้าสู่จุดวิกฤติ ดัชนีตลาดมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นแรงหรือลงแรงตามมา
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มพักตัวลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,595 – 1,603 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,583 – 1,579 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
Dark Three Crows
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,597.68 จุด ลดลง 9.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ แท่งเทียนเกิดเป็น Dark Three Crows สะท้อนถึงข่าวร้ายที่เข้ามาในตลาด ต่างชาติขายสุทธิ 1,703 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียปิดตลาดในแดนลบ นักลงทุนกังวลว่าจีนจะตอบโต้สหรัฐหลังทรัมป์ลงนามหนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง โดยมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ 1,622 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Dark Three Crows สะท้อนถึงข่าวร้ายที่มีเข้ามา ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,583 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการปรับตัวลงเป็นคลื่น ii) ดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของ (i) ที่ 1,579 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,579 จุด แสดงว่าดัชนีตลาดปรับตัวลงคลื่น (ii) ยังไม่จบ
ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ คลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,642 จุด และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มพักตัวลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,602 – 1,609 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,592 – 1,585 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ขาดปัจจัยบวก
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มสื่อสารและพลังงานทดแทน ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงปิดที่ 1,607.27 จุด ลดลง 2.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง ต่างชาติเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ 1,072 ล้านบาท ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพาเหรดขึ้นทำจุดสูงตลอดกาล หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีเกินคาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ 1,625 จุด และมีจุดต่ำเก่าทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,583 จุด ดัชนีตลาดกำลังเคลื่อนตัวเข้าปลายยอดของสามเหลี่ยม ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,642 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการปรับตัวลงเป็นคลื่น ii) ดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของ (i) ที่ 1,579 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,579 จุด แสดงว่าดัชนีตลาดปรับตัวลงคลื่น (ii) ยังไม่จบ
ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ คลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,642 จุด และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,612 – 1,618 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,602 – 1,596 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
เข้าใกล้จุดวิกฤติ
แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาดช่วงท้ายตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,609.38 จุด ลดลง 5.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.79 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงปรับฐานอยู่ในกรอบ 1,579 – 1,625 จุด ต่างชาติขายสุทธิ 2,027 ล้านบาท ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในกรอบแคบๆ หลังทรัมป์แจงการเจรจาการค้าใกล้บรรลุข้อตกลง แต่ทิ้งท้ายหนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นเปิดสูงปิดต่ำ แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick หลังดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง และมีเส้นแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ 1,625 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงและมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น จะทำให้สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ จะทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,642 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการปรับตัวลงเป็นคลื่น ii) ดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของ (i) ที่ 1,579 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,579 จุด แสดงว่าดัชนีตลาดปรับตัวลงคลื่น (ii) ยังไม่จบ
ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ คลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,642 จุด และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่ระยะยาวยังไม่แน่นอน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,614 – 1,620 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,603 – 1,597 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้านทางเทคนิคัล
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ สื่อสารและพลังงานทดแทน หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,614.80 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 17.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นบวก สัญญาณทางเทคนิคัลจะกลับมาเป็นบวกเพิ่มขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,625 จุด นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังมีสัญญาณว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นแบบมีช่องว่าง (Breakaway gap) หลังดัชนีตลาดพักตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,579 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Hammer ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นแต่มูลค่าการซื้อขายชะลอตัว จะทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวขึ้นยังมีโอกาสพักตัวลง ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,642 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการปรับตัวลงเป็นคลื่น ii) ดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของ (i) ที่ 1,579 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,579 จุด แสดงว่าดัชนีตลาดปรับตัวลงคลื่น (ii) ยังไม่จบ
ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ คลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,642 จุด และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นบวก ขณะที่สัญญาณ MACD เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่ระยะยาวยังไม่แน่นอน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,619 – 1,625 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,609 – 1,603 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวรับ 1,579 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีแรงซื้อกลับมาในหุ้นกลุ่มแบงก์และปิโตรเคมี แรงซื้อที่มีเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์หนุนดัชนีตลาดปิดส่งท้ายปลายสัปดาห์ที่ 1,597.72 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับลดลง 4.51 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 4.57 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,579 จุด ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากปรับตัวลดลง 3 วันต่อเนื่อง นักลงทุนขานรับการเจรจาการค้ากับจีนใกล้ปิดดีล
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการปรับตัวลงเป็นคลื่น ii) ดัชนีตลาดจะต้องปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของ (i) ที่ 1,579 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,579 จุด แสดงว่าดัชนีตลาดปรับตัวลงคลื่น (ii) ยังไม่จบ
ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ คลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,642 จุด และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,579 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Hammer ที่สะท้อนถึงการเกิดแนวรับ แรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามาจะหนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นต้านอยู่ที่ 1,614 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดจึงมีทิศทางเคลื่อนตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,579 – 1,614 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล โดยดัชนีตลาดมีทิศทางพักตัวลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำกว่าที่ 1,579 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดไม่ควรปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับนี้
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,603 – 1,610 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,591 – 1,586 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวรับ 1,579 จุด
การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐไม่คืบหน้า ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในทางลบ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,591.86 จุด ลดลง 4.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,579 จุด ต่างกลับมาซื้อสุทธิ 360 ล้านบาท สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง นักลงทุนหวั่นการเจรจาการค้ากับจีนไม่ราบรื่น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,579 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Hammer ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวเข้าหาแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลง หากเส้น MMA2 มีความลาดชันเพิ่มขึ้น จะตอกย้ำถึงสภาวะตลาดหมี (Bear Market) ซึ่งจะทำให้ดัชนีตลาดมีความเสี่ยงทางเทคนิคัลเพิ่มมากขึ้น
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการ คลื่น ii) จะต้องหลักการดัชนีตลาดต้องปรับตัวลดลงปิดไม่ต่ำกว่า 1,579 จุด หากดัชนีตลาดปิดลงต่ำกว่าจุดนี้จะต้องนับคลื่น (ii) ใหม่ ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,642 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร ส่งผลให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่ยังมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,579 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,597 – 1,602 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,586 – 1,580 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทรัมป์อีกแล้ว
ข่าวทรัมป์ไม่ยกเลิกการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน และพร้อมจะเรียกเก็บเพิ่มหากไม่สามารถปิดดีลการเจรจาการค้ากับจีน ส่งผลให้ตลาดทั่วโลกปรับตัวลดลง ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,596.83 จุด ลดลง 10.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,579 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย ขณะที่สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ ดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 112 จุด นักลงทุนหวั่นการเจรจาการค้ากับจีนขั้นต้นอาจไม่บรรลุข้อตกลงในปีนี้
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดต่ำแบบมีช่องว่าง (Breakaway gap หรือ Low price gapping play ซึ่งเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง) เส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) จะทำหน้าที่เป็นแนวต้าน และหากความลาดชันเพิ่มขึ้น ภาวะตลาดหมี (Bear Market) จะกลับมา ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,579 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการ คลื่น ii) จะต้องหลักการดัชนีตลาดต้องปรับตัวลดลงปิดไม่ต่ำกว่า 1,579 จุด หากดัชนีตลาดปิดลงต่ำกว่าจุดนี้จะต้องนับคลื่น (ii) ใหม่ ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,642 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,589 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,602 – 1,608 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,591 – 1,586 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทรัมป์ป่วนตลาดหุ้น
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆและปิดลงที่ 1,607.25 จุด เปลี่ยนแปลงลดลงเล็กน้อย 0.75 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 4.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,600 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล้กน้อย 43 ล้านบาท ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจากการปรับตัวลดลงของหุ้น Home Depot นักลงทุนหวั่นการเจรจาการค้ากับจีนไม่ราบรื่น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) แท่งเทียนเกิดเป็น Hammer แท่งที่สอง โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้าน และมีจุดต่ำเก่าทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,579 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือเส้น MMA2 ที่ 1,628 จุด ดัชนีตลาดระยะสั้นไม่ควรปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,579 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการ คลื่น ii) จะต้องหลักการดัชนีตลาดต้องปรับตัวลดลงปิดไม่ต่ำกว่า 1,579 จุด หากดัชนีตลาดปิดลงต่ำกว่าจุดนี้จะต้องนับคลื่น (ii) ใหม่ ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,642 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัว
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,613 – 1,620 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,602 – 1,596 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
Hammer
แรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆและปิดที่ 1,608.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.29 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิเล็กน้อย ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกและทำจุดสูงสุดตลอดกาล นักลงทุนมองการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐในทางบวก
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) แท่งเทียนเกิดเป็น Hammer โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้าน เส้น MMA2 มีความลาดชันลดลง สะท้อนถึงตลาดขาลงเริ่มอ่อนแรง ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือเส้น MMA2 ที่ 1,628 จุด และมีจุดต่ำเก่าที่ 1,579 จุดเป็นแนวรับ ดัชนีตลาดระยะสั้นไม่ควรปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับนี้
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการ คลื่น ii) จะต้องหลักการดัชนีตลาดต้องปรับตัวลดลงปิดไม่ต่ำกว่า 1,579 จุด หากดัชนีตลาดปิดลงต่ำกว่าจุดนี้จะต้องนับคลื่น (ii) ใหม่ ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,642 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัว
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,613 – 1,620 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,602 – 1,596 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
สงครามการค้าภัยคุกคามตลาดทุน
แรงเทขายที่มีอออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,602.23 จุด ลดลง 7.24 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับตัวลดลง 35.62 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 4.77 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในพักตัวลง ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตลาดในแดนบวก ขานรับการเจรจาการค้ากับจีนราบรื่น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) ตามหลักการ คลื่น ii) จะต้องหลักการดัชนีตลาดต้องปรับตัวลดลงปิดไม่ต่ำกว่า 1,579 จุด หากดัชนีตลาดปิดลงต่ำกว่าจุดนี้จะต้องนับคลื่น (ii) ใหม่ ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่น ii) เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,642 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด โดยมีจุดต่ำเก่าทำหน้าที่เป็นแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,579 จุด และเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวต้านเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น
ดัชนีตลาดมีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,643 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัว
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,609 – 1,615 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,596 – 1,590 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,579 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ขาดปัจจัยบวก
แรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หลังทรัมป์ส่งสัญญาณสับสนเรื่องการเจรจาการค้ากับจีน ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,609.47 จุด ปรับลดลง 5.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.58 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ขณะที่สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มนำขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง นักลงทุนไม่แน่ใจถึงการปิดดีลเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ดัชนีตลาดปรับตัวหลุดแนวรับของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ซึ่งจากนี้ไปจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือแนวรับนี้ได้ ความเสี่ยงจากปัจจัยทางเทคนิคัลจะเพิ่มขึ้น นักลงทุนอาจต้องปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดสามารถปิดยืนเหนือ 1,632 จุด (มูลค่าการซื้อขายต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท) และเกิดสัญญาณกลับตัวรูป Tower Bottom จึงเป็นเสมือนสัญญาณยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น (ii) ที่ 1,579 จุด ดัชนีกำลังมีทิศทางปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น (iii) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ 1,905 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัว
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,615 – 1,620 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,605 – 1,600 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต กรณีที่ดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ให้ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์