Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวรับทางจิตวิทยา 1,500 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนจากแรงซื้อและแรงขายที่มีเข้ามา แรงขายในช่วงปลายตลาดกดดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดที่ 1,513.26 จุด ลดลง 10.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล โดยดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,500 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น บวกกับแรงหนุนของหุ้น Apple, Intel และ Microsoft
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,510 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Inverted Hammer ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ช่องว่าง (Low Price Gapping Play) ที่ 1,546 – 1,569 จุด จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น สัญญาณช่องว่างขาลงเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง ดังนั้น ดัชนีระยะสั้นจะปรับตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) เพื่อลงต่อ
ดัชนีตลาดทรุดตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,507 จุด กึ่งกลางลำตัวของแท่งเทียน Bearish Candlestick จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,536 จุด ดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,500 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น 4) ตามหลักการ คลื่น 4) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1) ตามกฎ Overlapping วิกฤติเศรษฐกิจ งบประมาณที่ล่าช้า และการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้รูปแบบของคลื่นเอลเลียตขาดความชัดเจนและแน่นอน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic และ RSI ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐานเนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,528 – 1,533 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,500 – 1,486 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และถือเงินสด 90 เปอร์เซ็นต์
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "oscillator"
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ตื่นโคโรนาไวรัสกระจายวงกว้าง
นักลงทุนตื่นโคโรนาไวรัสระบาดในวงกว้าง สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและเศรษฐกิจ นักลงทุนต่างนำหุ้นออกเทขาย ดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,524.15 จุด ทรุดตัวลง 45.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,500 จุด นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงตามแรงเทขายที่มีออกมา นักลงทุนหวั่นการระบาดของโคโรนาไวรัสบานปลาย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดทรุดตัวลงแบบมีช่องว่าง (Low Price Gapping Play) ซึ่งเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง (Continuation pattern) และภาวะขายมากเกิน จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล เพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ
ดัชนีตลาดทรุดตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,519 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,536 จุด ระยะสั้นดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,500 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น 4) ตามหลักการ คลื่น 4) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1) ตามกฎ Overlapping วิกฤติเศรษฐกิจ งบประมาณที่ล่าช้า และการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้รูปแบบของคลื่นเอลเลียตขาดความชัดเจนและแน่นอน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic เริ่มเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,536 – 1,546 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,510 – 1,500 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และถือเงินสด 90 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผวาโคโรนาไวรัสด
ข่าวการระบาดของโคโรนาไวรัสจากเมืองอู่ฮั่น ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและอุปสงค์น้ำมัน ฉุดราคาหุ้นโรงกลั่นน้ำมันทรุดตัวลง ดัชนีตลาดประจำวันศุกร์ปิดที่ 1,569.55 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดรูดลง 30.93 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 6.3 หมื่นล้านบาท ต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิ หวั่นงบประมาณล่าช้าฉุดเศรษฐกิจประเทศ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,555 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐเป็นรายที่สอง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวออกด้านข้างในทิศทางลง (Sideways down) ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,565 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ระยะสั้นดัชนีตลาดยืนยันทิศทางปรับตัวลงหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,565 จุด และดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,555 จุด
ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,555 – 1,604 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,555 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,576 – 1,584 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,562 – 1,555 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ กรณีทีดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,565 จุด แนะนำให้ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์
สุขสันต์วันตรุษจีน 2563ตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผวาโคโรนาไวรัส
การระบาดโคโรนาไวรัสที่เมืองอู๋ฮั่นประเทศจีน ส่งกระทบต่อหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยว เดินทางและที่พัก แรงขายที่มีกดดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงปิดที่ 1,573.70 จุด ลดลง 0.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัว ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 697 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพฤหัสบดี (23/1) ปิดตลาดเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเล็กน้อย บรรยากาศการลงทุนถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเหนือแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,565 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ระยะสั้นหากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,565 จุด ดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,555 จุด
ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้างภายในกรอบ 1,555 – 1,604 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านกรอบบนของสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นจึงอยู่ในช่วงปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,579 – 1,585 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,567 – 1,560 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ กรณีทีดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,565 จุด แนะนำให้ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ขาดปัจจัยบวก
ปัญหาการขาดความรับผิดชอบของนักการเมือง อาจส่งผลกระทบต่อพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ล่าช้าออกไป ทำให้เศรษฐกิจในประเทศขาดการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์เครื่องสุดท้าย ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,574.59 จุด ลดลง 0.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,555 จุด สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ขณะที่ต่างชาติกลับซื้อสุทธิเล็กน้อย 92 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กประจำวันพุธปิดตลาดเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเล็กน้อย
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,565 จุด และมีเส้น MMA2 ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน หากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,565 จุด ดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,543 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านกรอบบนของสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,565 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,580 – 1,585 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,568 – 1,564 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ กรณีทีดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,565 จุด แนะนำให้ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผวาการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส
ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องเป็นวันที่สอง การระบาดของโคโรนาไวรัสในจีน ทำให้เกิดแรงขายออกมาในหุ้นโรงแรมและการท่องเที่ยว ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,574.94 จุด ลดลง 14.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเริ่มกลับมาเป็นลบ ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,564 จุด สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 631 ล้านบาท การระบาดของโคโรนาไวรัสเริ่มลุกลามเข้าสหรัฐ เกิดแรงเทขายออกมาในหุ้นกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick โดยดัชนีตลาดปรับตัวลดลงแบบมีช่องว่าง (Gap) ในทางเทคนิคัลดัชนีตลาดจะปรับตัวขึ้นปิดช่องว่าง (Filling the gap) ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ สัญญาณทางเทคนิคัลที่เริ่มกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,564 จุด เส้น MMA2 กลับมาทำหน้าที่เป็นแนวต้าน
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านกรอบบนของสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,564 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,580 – 1,585 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,568 – 1,564 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ กรณีทีดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,563 จุด แนะนำให้ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทุบหุ้นกลุ่มแบงก์
นักลงทุนผวาหุ้นกลุ่มจะได้รับผลกระทบจาก NPL ที่สูงขึ้น กระทบต่อกำไรในอนาคต แรงเทขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่ม ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลงปิดที่ 1,589.11 จุด ลดลง 11.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.79 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นแกว่งตัวแบบไร้ทิศทาง นักลงทุนทั่วไปเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายในวันจันทร์ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์คิง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ หลังดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,604 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Evening Star ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของเส้น MMA2 โดยมีกรอบบนของช่องแนวโน้มขาลงเป็นแนวรับร่วม หากดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,580 จุด ดัชนีตลาดจะปรับลดลงเข้าหาแนวรับกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,564 จุด
ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านกรอบบนของสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI เป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกันจะทำให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างแบบไร้ทิศทาง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,595 – 1,600 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,584 – 1,579 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุน 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,604 จุด และพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
จะเดินหน้าต้องยืนเหนือ 1,604 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวจากแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ รับเหมาก่อสร้างและกลุ่มอาหาร ดัชนีตลาดปิดที่ 1,600.48 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.85 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 6.27 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,604 จุด ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกและสร้างจุดสูงใหม่ตลอดกาล ขานรับผลประกอบการที่สดใสและตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดปรับตัวทะลุผ่านแนวต้านกรอบบนของสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆปิดเหนือแนวรับของเส้น MMA2 แท่งเทียนเกิดเป็น Spinning และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านของจุดสูงเก่าที่ 1,604 จุด และมีกรอบบนของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,614 จุด เมื่อนำจุดสูงที่ 1,748 จุด และจุดต่ำที่ 1,543 จุด มาวิเคราะห์แนวต้านด้วยหลักการ Fibonacci Retracement อยู่ที่ 1,621 จุด, 1,645 จุด และ 1,669 จุด ตามลำดับ
ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,604 – 1,614 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,592 – 1,588 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุน 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,604 จุด และพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้าน 1,604 จุด
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร โรงไฟฟ้า และรับเหมาก่อสร้าง หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,595.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,604 จุด ต่างชาติเดินหน้าขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก การลงนามทางการค้า รายได้และข้อมูลทางเศรษฐกิจ หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงตลอดกาล
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวทะลุผ่านแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงและปรับตัวขึ้นปิดเหนือเส้น MMA2 ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ดัชนีตลาดจะแกว่งตัวขึ้นไปตามช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นที่มีแนวต้านอยู่ที่ 1,614 จุด และมีแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement (คำนวณระหว่าง 1,748/1,543) อยู่ที่ 1,621 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นจุดที่นักลงทุนจะต้องกลับเข้าตลาดเพื่อเข้าซื้อหุ้นเพื่อการลงทุน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,604 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,600 – 1,604 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,588 – 1,582 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
เพิ่มพอร์ตการลงทุน 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,604 จุด และพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ขายเมื่อข่าวปรากฏ
แรงขายทำกำไรระยะสั้นที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,581.05 จุด ลดลง 5.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.54 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในพักตัว และมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,555 จุด ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นทำจุดสูง ก่อนที่จะลดช่วงบวกหลังทรัมป์ลงนามการค้ากับจีน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆ หลังดัชนีตลาดปรับตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลง ซึ่งมีเส้น MMA2 เป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดไม่สามารถผ่านแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลง ทำให้ดัชนีตลาดกลับมาแกว่งตัวลงไปตามช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,555 จุด
ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นจุดที่นักลงทุนจะต้องกลับเข้าตลาดเพื่อเข้าซื้อหุ้นเพื่อการลงทุน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ Modified Stochastic และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ RSI เป็นลบ สัญญาณทางเทคนิคัลที่ขัดแย้งกัน จะทำให้ดัชนีตลาดแกว่งตัวแบบไร้ทิศทาง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,587 – 1,592 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,575 – 1,570 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ และจะกลับเข้าซื้อหุ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทรัมป์กลับมาป่วนตลาด
แรงขายทำกำไรระยะสั้น ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงปิดที่ 1,586.90 จุด เพิ่มขึ้น 0.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้น เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดแบบไร้ทิศทาง ดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวก ขณะที่แนสแดคและเอส แอนด์ พี 500 ปรับลดลง หลังสหรัฐเดินหน้าเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไปจนถึงเลือกตั้งปี 2020
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น MMA2 โดยมีช่องแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วม แท่งเทียนเกิดเป็น Hanging Man สะท้อนถึงการเกิดแนวต้าน ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง แต่ถ้าดัชนีตลาดปรับลดลงปิดต่ำกว่า 1,579 จุด ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,555 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นจุดที่นักลงทุนจะต้องกลับเข้าตลาดเพื่อเข้าซื้อหุ้นเพื่อการลงทุน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,592 – 1,597 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,580 – 1,574 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ และจะกลับเข้าซื้อหุ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
กลับเข้าตลาดเมื่อดัชนียืนปิดเหนือ 1,604 จุด
แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวกที่ 1,586.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,589 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวก ขานรับข่าวสหรัฐจะถอนจีนออกจากบัญชีประเทศที่แซกแทรงค่าเงิน
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น MMA2 โดยมีช่องแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนเหนือ 1,589 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป แต่ถ้าดัชนีตลาดไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,568 จุด
กลับเข้าตลาดเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด มูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E โดยดัชนีแกว่งตัวลงในกรอบของรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นจุดที่นักลงทุนจะต้องกลับเข้าตลาดเพื่อเข้าซื้อหุ้นเพื่อการลงทุน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,592 – 1,597 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,580 – 1,574 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ และจะกลับเข้าซื้อหุ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
กลับเข้าตลาดเมื่อดัชนีตลาดยืนเหนือ 1,591 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนตามข่าวความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ดัชนีตลาดปิดส่งท้ายสัปดาห์ที่ 1,580.63 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับลดลง 14.34 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 6.3 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นเป็นลบ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,568 จุด ต่างชาติกลับมาขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าที่คาด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E โดยดัชนีแกว่งตัวลงในกรอบของรูปลิ่ม (Wedge) ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นจุดที่นักลงทุนจะต้องกลับเข้าตลาดเพื่อเข้าซื้อหุ้นเพื่อการลงทุน
หลังจากงบประมาณปี 2563 ได้ผ่านรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย จะทำให้รัฐบาลสามารถทำงานได้ดีเงิน การลงทุนภาครัฐบาลจะเดิน และช่วยให้เศรษฐกิจประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น จากนั้นคาดว่า สถาบันจัดอันดับจะเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น
หุ้นที่น่าสนใจเพื่อการลงทุน กลุ่มโรงงานไฟฟ้า (ราคาค่อนข้างแพง ควรเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงแรง) หุ้นรถไฟฟ้า (เป็นหุ้นที่จำเป็นสำหรับการขนส่งมวลชนในกรุงเทพและปริมณฑล การเมื่องยังเป็นตัวแปร) หุ้นกลุ่มโรงพยาล และหุ้นที่จ่ายเงินปันผล (3%) ต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดแกว่งเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่มีเส้น MMA2 เป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนเหนือ 1,561 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป แต่ถ้าดัชนีตลาดไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ ดัชนีตลาดจะพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,568 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,568 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,591 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,585 – 1,561 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,573 – 1,568 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ระดับพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือล้างพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,590 จุด
นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้น หลังมีสัญญาณในทางบวกในปัญหาตะวันออกกลาง แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ดันดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นปิดที่ 1,579.64 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.65 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางเป็นตลาดขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,590 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป ต่างชาติกลับมาขายสุทธิในรอบ 5 วัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาสดใส ดาวโจนส์บวกกว่า 200 จุด โดยมีหุ้น Apple เป็นตัวขับเคลื่อน นักลงทุนคลายความกังวลจากปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน วิกฤติตะวันออกกลางสร้างความปั่นให้กับตลาดทุน ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง ดัชนีกำลังทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) โดยมีช่องแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทางเป็นตลาดขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,590 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,590 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E,(c) ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก สัญญาณทางเทคนิคัลขาดทิศทางที่แน่นอน จะส่งผลให้ดัชนีตลาดแกว่งผันผวนออกด้านข้าง ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,590 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,585 – 1,590 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,571 – 1,566 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ระดับพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือล้างพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ปัญหายังมี
ปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง กดดันให้เกิดแรงขายออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงปิดที่ 1,559.27 จุด ลดลง 25.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,543 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวก หลังนักลงทุนคลายความวิตกกับปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน วิกฤติตะวันออกกลาง กดดันให้เกิดแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มนำตลาด ฉุดดัชนีตลาดเปิดสูงปิดต่ำ ดัชนีตลาดเปิดลงแบบมีช่องว่าง (Gap) ซึ่งจากนี้ไปจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,569 – 1,578 จุด ดัชนีตลาดปรับขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้น MMA2 แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ สัญญาณทางเทคนิคัลที่กลับมาเป็นลบ ดัชนีเคลื่อนตัวไปตามช่องแนวโน้มขาลง ตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,543 จุด
ดัชนีตลาดมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) ระหว่างการซื้อขาย ก่อนที่ดัชนีตลาดจะปรับตัวลงต่อ
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง โดยดัชนีตลาดแกว่งตัวลงและเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) และมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,600 จุดเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,543 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,566 – 1,574 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,552 – 1,543 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
คำแนะเมื่อวานก่อนเปิดตลาด ข่าวความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ได้แนะนำให้ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์ หรือล้างพอร์ตออกจากตลาดไปก่อน
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
แรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นที่กลับเข้ามา หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,585.23 จุด เพิ่มขึ้น 16.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นยังเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,553 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย บรรยากาศการลงทุนเริ่มกลับมาตึงเครียด หลังอิหร่านยิงมิสไซล์ 9 ลูก ถล่มฐานทัพสหรัฐในอิรัก ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดิ่งลงกว่า 400 จุด
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน แรงซื้อที่กลับเข้ามา หนุนดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นปิดช่องว่างขาลงที่ 1,584 – 1,594 จุด (Filling the gap) ตามหลักการเมื่อปิดช่องว่างแล้ว ดัชนีตลาดจะมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,553 จุด ขณะที่เส้นแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,591 จุด และมีเส้น MMA2 เป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,591 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
ดัชนีตลาดมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง โดยดัชนีตลาดแกว่งตัวลงและเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) และมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,600 จุดเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,592 – 1,598 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,579 – 1,573 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ปรับพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
“ทรัมป์” ตัวแปรที่คอยก่อกวนตลาด
ปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง กดดันบรรยากาศการลงทุน ส่งผลให้เกิดแรงขายที่มีออกมาในหุ้นกลุ่มนำตลาดอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลงปิดที่ 1,568.50 จุด ลดลง 26.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลกลับมาเป็นลบ ส่งผลให้ดัชนีตลาดระยะสั้นพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,553 จุด สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังนักลงทุนคลายความวิตกกังวลในสงครามตะวันออกกลาง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มลงที่ 1,597 จุด แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ แรงเทขายที่มีออกมาฉุดดัชนีตลาดเปิดลงแบบมีช่องว่าง (Gap) แท่งเทียนเกิดเป็น Bearish Candlestick ที่มีกึ่งกลางลำตัวทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,576 จุด โดยมีเส้น MMA2 เป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลงและมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,553 จุด
ระหว่างการซื้อขายดัชนีตลาดมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) ก่อนที่จะปรับตัวลงต่อ
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง โดยดัชนีตลาดแกว่งตัวลงและเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) และมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,600 จุดเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI กลับมาเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,553 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,576 – 1,582 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,562 – 1,553 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ระหว่างการซื้อขาย เมื่อดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่สามารถยืนเหนือ 1,582 จุด แนะนำให้ปรับพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์ พอร์ตการลงทุนจึงเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ผวากลิ่นไอสงคราม
ความตึงเครียดในตะวันออกลาง กดดันบรรยากาศการลงทุน แรงขายทำกำไรที่มีออกมาฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงปิดที่ 1,594.97 จุด ทั้งสัปดาห์ดัชนีตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.75 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 4.8 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ซึ่งจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ สถาบันภายในประเทศยังเป็นกลุ่มนำซื้อสุทธิ ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงหลังจากปรับตัวขึ้นทำจุดสูงใหม่ตลอดกาล ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบถีบตัวสูงขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง โดยดัชนีตลาดแกว่งตัวลงและเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมรูปลิ่ม (Wedge) และมีแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,600 จุดเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงและปรับตัวขึ้นทำจุดสูงที่ 1,604 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Shooting Star ในเขตซื้อมากเกิน จะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีตลาดมีแนวโน้มพักตัวลงเข้าหาแนวรับของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,600 จุดซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยา
ดัชนีตลาดมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,621 จุด เป็นแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่คำนวณระหว่างจุดต่ำที่ 1,543 จุด กับจุดสูงที่ 1,748 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายสัปดาห์ สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีระยะสั้นมีโอกาสพักตัว
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,600 – 1,608 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,587 – 1,581 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
New Year Rally
แรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นปิดที่ 1,595.82 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 15.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวกในเขตซื้อมากเกิน ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,600 จุด และมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,621 จุด สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสงครามการค้าที่มีแนวโน้มในทางบวก
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดดีดตัวขึ้นปิดเหนือเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) และกำลังปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,597 จุด โดยมีแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุดเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1,621 จุด (เป็นแนวต้าน 38.2% Fibonacci Retracement ที่คำนวณระหว่างจุดต่ำที่ 1,543 จุด กับจุดสูงที่ 1,748 จุด)
ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E เป็นรูปลิ่ม (Wedge) และดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก โดยสัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน ภาวะซื้อมากเกินจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีระยะสั้นมีโอกาสพักตัว
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,602 – 1,608 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,589 – 1,584 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
สวัสดีปี “หนู”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดส่งท้ายปีเก่า 2562 ที่ 1,579.84 จุด ทั้งปีดัชนีตลาดปรับเพิ่มขึ้น 15.96 จุด หรือ 1.02% ครึ่งปีแรกดัชนีตลาดปรับเพิ่มขึ้น 11.78% ต่างชาติมีแนวโน้มขาสุทธิต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุด 30 บาท/ดอลลาร์ส่งท้ายปลายปี ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง จากแรงขายที่มีออกมาหลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นทำจุดสูงตลาดกาล สงครามการค้าจะยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2563
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E เป็นรูปลิ่ม (Wedge) และดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถกลับขึ้นยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆขึ้นทดสอบแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
ดัชนีตลาดจะมีทิศทางพักตัวลดลงเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,568 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก สัญญาณ Modified Stochastic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกิน ซึ่งจะกระตุ้นแรงขายออกมาเป็นระยะ ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีสามารถยืนปิดเหนือ 1,596 จุด และหากดัชนีตลาดปรับลดลงต่ำกว่า 1,568 จุด ควรปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่ม
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,583 – 1,590 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,573 – 1,568 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ปรับพอร์ตเพื่อถือเงินสดเพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์ หากดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,568 จุด พอร์ตการลงทุนจะเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทดสอบแนวต้าน 1,582 จุด
บรรยากาศการซื้อขายหลักเมื่อวาน (25/12) ดำเนินไปอย่างซบเซา ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆและปิดที่ 1,573.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเหลือเพียง 2.1 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,582 จุด ต่างชาติขายสุทธิ ขณะที่สถาบันภายในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ เนื่องในวันคริสต์มาส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเข้าหาแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำที่ 1,543 จุด ทำให้ไม่สามารถนับคลื่นปรับ (Corrective wave) เป็นคลื่น (ii) เนื่องจากปรับตัวลงต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,546 จุด ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,543 จุด จึงเป็นคลื่น 4,E,(c) และจะยืนยันการจบคลื่น 4 เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง โดยมีคลื่น 3 จบที่ 1,852 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,589 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,579 – 1,583 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,568 – 1,563 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
เทศกาลคริสต์มาส
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นประจำวันอังคาร (24/12) เริ่มซบเซา นักลงทุนเริ่มออกจากตลาดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,568.63 จุด ลดลง 4.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.95 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,582 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางขาขึ้นเมื่อดัชนียืนปิดเหนือ 1,600 จุด ต่างชาติขายสุทธิ 1,158 ล้านบาท ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตลาดเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเล็กน้อย มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆเข้าหาแนวต้านของเส้นคอ (Neck line) ที่ 1,582 จุด โดยมีเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) ที่เรียงตัวแบบตลาดขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำที่ 1,543 จุด ทำให้ไม่สามารถนับคลื่นปรับ (Corrective wave) เป็นคลื่น (ii) เนื่องจากปรับตัวลงต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่น (i) ที่ 1,546 จุด ทำให้ดัชนีตลาดที่ปรับตัวลงมาทำจุดต่ำที่ 1,543 จุด จึงเป็นคลื่น 4,E,(c) และจะยืนยันการจบคลื่น 4 เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง โดยมีคลื่น 3 จบที่ 1,852 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,582 จุด ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดยืนปิดเหนือ 1,600 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,573 – 1,579 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,563 – 1,558 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์