ค้นหาในไอเดียสำหรับ "FOREX"
XAUUSD ทะยานขึ้น รอฝ่ากำแพงที่ระดับ 2,714 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำโลกพุ่งทะลุระดับ 2,700 USD ขึ้นมาแล้ว XAUUSD วันนี้ทะยานขึ้นจาก “กรอบขาลง” และเคลื่อนไหวที่ระดับ 2,701.655 ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจาก EMA 34 (2,657.615) และ EMA 89 (2,654.979)
อย่างไรก็ตาม ข้างหน้ายังมี “กำแพง” ที่ระดับ 2,714 หากฝ่าขึ้นไปได้ เส้นทางสู่เป้าหมายใหม่ที่ระดับ 2,731 จะเปิดออก แต่หากไม่สามารถฝ่าด่านนี้ได้ ราคาทองคำอาจ “พักตัว” ที่ระดับแนวรับ 2,660 ก่อนเริ่มการขยับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยแนวรับดังกล่าวยังเป็นจุดที่ EMA 34 และ EMA 89 ตัดกัน ช่วยเสริมแรงหนุนการปรับตัวขึ้น
ภายใต้แรงกดดันจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และท่าทีระมัดระวังของ Fed ทองคำยังคงเป็น “ที่พึ่ง” สำหรับนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะนี้ การติดตามความเคลื่อนไหวของราคาบริเวณระดับสำคัญเป็นสิ่งที่นักเทรดไม่ควรพลาด
EURUSD: ทะลุแนวต้านหรือกลับตัว?คู่เงิน EURUSD กำลังฟื้นตัวทีละเล็กทีละน้อย โดยปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.0588 หลังจากเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังไม่ควรดีใจเร็วเกินไป เพราะ "กำแพงแนวต้าน" EMA 34 และ EMA 89 กำลังตั้งอยู่ในช่วง 1.0600 – 1.0620 ซึ่งอาจทำให้ราคาชะลอตัวลงได้
ภาพรวมทางเทคนิคชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่น่าสนใจ เมื่อเส้นแนวโน้มกำลังส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้น หากราคาทะลุแนวต้านบริเวณ 1.0620 ได้ เป้าหมายถัดไปที่ระดับ 1.0650 จะเป็นที่จับตามอง แต่หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ การปรับตัวลงมาที่ระดับแนวรับ 1.0550 อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
จุดเด่นในสัปดาห์นี้คือข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ที่จะมีบทบาทสำคัญ! ข้อมูลเงินเฟ้อจะยังคงหนุนค่าเงินดอลลาร์ต่อไปหรือไม่? หรือยุโรปจะกลับมาสร้างความเปลี่ยนแปลง? เตรียมตัวให้พร้อม เพราะตลาดอาจสร้างเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครคาดถึง!
XAUUSD: ท้าทาย EMA 89, โอกาสหรือความเสี่ยง?XAUUSD กำลังฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง โดยซื้อขายที่ระดับ 2,644 USD หลังจากทะลุกรอบขาลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางขึ้นของราคาทองคำกำลังเผชิญกับ "กำแพงเหล็ก" คือเส้น EMA 89 ที่ระดับ 2,657 USD ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่อาจลดแรงขาขึ้นในปัจจุบัน
กรณีเชิงบวก: หากราคาทะลุผ่านโซน 2,644-2,650 USD แรงซื้อที่แข็งแกร่งอาจผลักดัน XAUUSD ไปถึงระดับ 2,657 USD ซึ่งเป็นจุดที่นักเทรดหลายคนกำลังรอคอย
กรณีเชิงลบ: หากไม่สามารถทะลุได้ ราคาทองคำอาจย้อนกลับลงไปที่ระดับแนวรับสำคัญ 2,580 USD ซึ่งเป็นจุดชี้ขาดว่าทิศทางขาขึ้นยังคงมั่นคงหรือไม่
ปัจจุบัน "กระแสลม" จากตลาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อราคาทองคำ เนื่องจากข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าดอลลาร์สหรัฐสูญเสียข้อได้เปรียบบางส่วน อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ที่กำลังจะมาถึง ทุกสถานการณ์อาจเกิดขึ้นได้ นักลงทุนควรเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนที่ไม่คาดคิด
"GBP/JPY พุ่งแรง! ทะลุ 196.00 ก่อนเผยตัวเลข CPI สหราชอาณาจักร"**GBP/JPY พุ่งทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 แตะจุดสูงสุดรายสัปดาห์ใหม่ก่อนการเปิดเผยตัวเลข CPI ของสหราชอาณาจักร**
📈 *GBP/JPY ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากจุดต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางการขาย JPY ที่กลับมาอีกครั้ง*
🌍 *ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง ประกอบกับความไม่แน่นอนของ BoJ กดดันค่าเงินเยน (JPY)*
💡 *การวิเคราะห์ทางเทคนิคแนะนำให้ระมัดระวังสำหรับนักลงทุนฝั่งซื้อ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร*
คู่เงิน **GBP/JPY** ยังคงแรง rebound จากระดับ 193.60-193.55 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม และยังคงเพิ่มแรงดึงดูดเชิงบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สามในวันพุธ การฟื้นตัวนี้ส่งผลให้ราคาสปอตทะยานเหนือระดับกลาง 196.00 ในช่วงตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากแรงขายใหม่ในฝั่งเงินเยน (JPY) 😲📊
💬 *คำแถลงจากเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ* อีกทั้ง *ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ)* กดดันค่าเงินเยนที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 😅✨ ในขณะเดียวกัน *ความคาดหวังที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหราชอาณาจักรอาจกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อ* และชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ส่งผลให้เงินปอนด์ (GBP) ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม 💷💪
🔍 *อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้ามาแทรกแซงตลาด FX เพื่อหนุนค่าเงินเยน รวมถึงความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ อาจทำให้นักลงทุนฝั่งขาย JPY ยับยั้งการลงเดิมพันที่รุนแรง* นักลงทุนยังอาจเลือกที่จะรอข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคล่าสุดของสหราชอาณาจักรก่อนตัดสินใจวางเดิมพันเชิงทิศทางอย่างจริงจัง 🎯📉
**มุมมองทางเทคนิค**
จากมุมมองทางเทคนิค คู่เงิน **GBP/JPY** แสดงความแข็งแกร่งที่ระดับต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (SMA) ในวันอังคารที่ผ่านมา และแรงซื้อที่เกิดขึ้นตามมาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนฝั่งซื้อ ✨📈 นอกจากนี้ เครื่องมือ Oscillators ในกราฟรายวันเริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำ แต่ยังไม่ยืนยันแนวโน้มเชิงบวก 📊
- หากราคาสามารถทะลุระดับ **197.00** ได้สำเร็จ อาจเผชิญแรงต้านสำคัญที่โซน **197.70-197.80**
- การซื้อที่ตามมาทะลุระดับ **198.00** อาจเป็นการเปิดทางสำหรับกำไรระยะสั้นเพิ่มเติม 🚀💹
ในทางกลับกัน ระดับ **196.00** ดูเหมือนจะเป็นแนวรับสำคัญทันที ซึ่งหากหลุดไป ราคาคู่อาจลดลงไปที่แนวรับ **195.40-195.35** และต่ำกว่าระดับ **195.00** ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเส้น SMA 200 วัน การหลุดระดับนี้อาจดึงราคากลับไปยังจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้าใกล้โซน **193.60-193.55** โดยมีแนวรับระหว่างทางใกล้ระดับ **194.00** 🎯📉
#GBPJPY #คู่เงิน #เงินเยน #เงินปอนด์ #CPI #วิเคราะห์กราฟ #ตลาดการเงิน #เทรดเดอร์
**"EUR/USD ใกล้โซนวิกฤต ลุ้นทะลุแนวต้านหรือดิ่งลงต่อ"**### **การวิเคราะห์ EUR/USD อย่างละเอียดและรอบด้าน**
---
### **1. การวิเคราะห์ Fibonacci Retracement และแนวโน้มระยะยาว**
- **โซนสำคัญ (Key Levels)**:
- แนวรับ: **1.01475 (Fibonacci 0.786)** และ **1.04515 (Fibonacci 0.618)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มดีดกลับจากแรงซื้อ (Demand Zone) หากราคาลงมาทดสอบ.
- แนวต้าน: **1.06803 (Fibonacci 0.382)** และ **1.08465 (Fibonacci 0.236)** เป็นจุดที่ราคามีแนวโน้มเผชิญแรงขาย (Supply Zone) หากราคาฟื้นตัวขึ้น.
- **การตีความ**:
- หากราคาทะลุแนวต้านที่ 1.06803 อาจพุ่งต่อเนื่องไปยังโซน 1.08465.
- หากราคาหลุดแนวรับ 1.05982 อาจปรับตัวลงไปยังระดับ 1.04515 หรือ 1.02478.
---
### **2. การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยเส้น EMA**
- **EMA 20/50/100/200**:
- EMA 200 อยู่ด้านบนของกราฟ บ่งบอกว่าแนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาลงที่ชัดเจน.
- ราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า EMA 20 และ 50 แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังไม่หมด.
- **กลยุทธ์**:
- หากราคายืนเหนือ EMA 20 ได้อีกครั้ง อาจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในระยะสั้น.
- หากราคายังอยู่ต่ำกว่า EMA 50 ให้พิจารณาตามแนวโน้มขาลงต่อไป.
---
### **3. การวิเคราะห์พฤติกรรมตลาด (RSI และ MACD)**
- **RSI (Relative Strength Index)**:
- RSI อยู่ที่ **35.85** ใกล้โซน Oversold แสดงถึงแรงขายที่เริ่มอ่อนแรง.
- หาก RSI ลงไปต่ำกว่า 30 จะเป็นสัญญาณ Oversold ที่ชัดเจน และอาจเกิดการดีดกลับของราคา.
- **MACD (Moving Average Convergence Divergence)**:
- เส้น MACD ยังคงต่ำกว่าเส้น Signal Line และอยู่ในแดนลบ แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังเด่นชัด.
- หากเกิด Bullish Divergence (MACD เริ่มกลับขึ้นขณะที่ราคายังลง) จะเป็นสัญญาณกลับตัวที่น่าเชื่อถือ.
---
### **4. การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)**
#### **Descending Triangle**:
- **ลักษณะของกราฟ**:
- ราคาสร้างรูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง (Descending Triangle) โดยมีแนวรับที่ 1.05982 และแนวต้านลาดลง.
- รูปแบบนี้มักเป็นสัญญาณของการ Breakout ขาลง หากราคาหลุดแนวรับ.
- **โอกาส**:
- หากราคาหลุดแนวรับที่ 1.05982 อาจปรับตัวลงต่อไปยังเป้าหมายที่ 1.04515 หรือ 1.02478.
- หากราคาทะลุแนวต้านด้านบนของสามเหลี่ยม อาจฟื้นตัวขึ้นสู่ 1.08465.
#### **Descending Channel**:
- ราคากำลังเคลื่อนที่ใน **Descending Channel**:
- ขอบล่างของ Channel ใกล้ 1.04515 อาจเป็นจุดดีดกลับ (Rebound Zone).
- ขอบบนของ Channel ใกล้ 1.08700 เป็นแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตา.
---
### **5. การวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)**
- **Bearish Engulfing**:
- รูปแบบแท่งเทียนขาลงที่กลืนแท่งก่อนหน้า (Bearish Engulfing) บ่งบอกถึงแรงขายเด่นชัดในแนวต้าน.
- **Doji Candlestick**:
- การเกิด Doji ในโซนสำคัญ เช่น Fibonacci 0.618 อาจสะท้อนการลังเลของตลาดและการพักฐาน.
---
### **6. Harmonic Patterns**
- **Gartley Pattern**:
- หากราคาย่อตัวลงไปที่โซน 1.04515 (Fibonacci 78.6%) และเด้งกลับ จะยืนยันการสร้าง Bullish Gartley Pattern.
- หากราคาหลุดต่ำกว่า 1.04515 และแตะ 1.02478 (Fibonacci 88.6%) โอกาสเด้งกลับมีสูง.
---
### **7. การวิเคราะห์โซนอุปสงค์-อุปทาน (Supply and Demand Zones)**
- **Demand Zones**:
- โซน 1.04515 และ 1.02478 เป็นจุดที่ราคามีโอกาสเด้งกลับจากแรงซื้อ.
- **Supply Zones**:
- โซน 1.08773 เป็นพื้นที่ที่แรงขายมีโอกาสเกิดขึ้นมาก หากราคาฟื้นตัวขึ้นมา.
---
### **สรุปแผนการเทรด**
1. **กลยุทธ์ขาลง (Bearish Strategy)**:
- หากราคาหลุดแนว 1.05982:
- Short ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.04515.
- ติดตาม RSI และ MACD เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาลง.
2. **กลยุทธ์ขาขึ้น (Bullish Strategy)**:
- หากราคายืนเหนือ 1.06803:
- Buy ที่บริเวณนี้ ตั้งเป้าหมายที่ 1.08465.
- ใช้ RSI และรูปแบบแท่งเทียนเพื่อคอนเฟิร์ม.
3. **เฝ้าดูพฤติกรรมราคา**:
- หากราคาลงมาทดสอบโซน Demand (1.04515 หรือ 1.02478) พร้อมเกิด Bullish Candlestick เช่น Hammer หรือ Bullish Engulfing ให้มองหาจังหวะเข้าซื้อ.
4. **การบริหารความเสี่ยง**:
- ใช้ Stop Loss ที่ต่ำกว่า Demand Zone สำหรับการตั้งสถานะซื้อ และเหนือ Supply Zone สำหรับการตั้งสถานะขาย.
- ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดหวัง.
---
**หมายเหตุ**: ควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยหรือดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อปรับแผนการเทรดให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน. 📊📈📉
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 19 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำดึงดูดกระแสน้ำบางส่วน หลังจากที่ร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 3 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว และยุติการแพ้ติดต่อกัน 6 วันในวันจันทร์ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงยังกระตุ้นให้มีการเทกำไรในสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) ภายหลังการเลือกตั้งหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ สู่ระดับใหม่สำหรับปีที่กลายเป็นปัจจัยลบอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนโลหะสีเหลืองที่ไม่ทำกำไร
ภาวะกระทิงของ USD ยังคงเป็นแนวรับในช่วงเซสชั่นเอเชียในวันอังคาร และสนับสนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวเพิ่มเติมจากระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ความคาดหวังก็คือนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะจุดชนวนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและจำกัดขอบเขตของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม สิ่งนี้น่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ สูงและเป็นประโยชน์ต่อนักเก็งกำไร USD ซึ่งอาจจำกัด XAU/USD
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ระดับแนวต้านทางเทคนิคที่ 2,624 ที่ทองคำเผชิญอยู่จะมีความสำคัญมากในช่วงการซื้อขายของยุโรปในปัจจุบัน แนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งและไม่มีการฟื้นตัวของราคามากนัก ปัจจุบันพื้นที่ปี 2595 ถือเป็นเป้าหมายคลื่นขาลงทั้งหมด โซน 2648-2650 ถือเป็นแนวต้านหลักวันนี้ ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง คุณควรจัดลำดับความสำคัญของสัญญาณซื้อ 2615 ที่จุดทะลุเก่าเพื่อให้มีกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
ทองร่วงต่อเนื่อง 6 วันติดกัน ดูเหมือนจะปรับลงได้อีกทองคำร่วงต่อเนื่องติดต่อเป็นเวลา 6 วัน ดูเหมือนถ้อยแถลงที่ค่อนข้างแข็งกร้าวของพาวเวลล์ยังสกัดช่วงบวกเอาไว้
✨ไฮไลท์ปัจจัยพื้นฐาน
😃ราคาทองคำร่วงลงปิดตลาดต่ำกว่า 2,570 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาซื้อขายล่าสุด 2,562 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือลดลงกว่า 4% ในรายสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023
😃เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าเฟดมีความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีสัญญาณบวกก็ตาม ท่าที "แข็งกร้าว" ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ความต้องการทองคำลดลง
😃นักลงทุนปรับคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมปีนี้ โดยโอกาสลดลงเหลือ 62% หลังจากมีความเห็นของพาวเวลล์ นักลงทุนได้ลดโอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน (bps) ในการประชุมเดือนธันวาคม โดยโอกาสลดลงจาก 72% เหลือ 62%
😃ยอดขายปลีกของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการเติบโต ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ
💬บทวิเคราะห์ราคาทองคำระหว่าง 18-22 พ.ย 2567
สัปดาห์นี้ รักลงทุนรอดูข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยจากธนาคารกลางสหรัฐ ข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และการเปิดเผย S&P Global Flash PMI
🕯แนวโน้มทางเทคนิค TF H4
: แนวโน้มยังคงเป็นขาลง แนวรับใกล้สุดยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 2,550 ดอลลาร์
📉หลังจากราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ 2,603 ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักต่อเนื่องท้าทายเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ และร่วงลงต่ออย่างรวดเร็วจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 2,536 ดอลลาร์ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 100 วันที่ 2,545 ดอลลาร์
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) เคลื่อนตัวออกจากเส้นกลาง ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่อาจส่งผลให้ ลดลงต่อไปอีก
📈อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ขายต้องการดันราคาให้ไปที่ 2,500 ดอลลาร์ แต่อาจยังไม่ดีพอ ทำให้ยังมีผู้ซื้อที่สามารถทำให้เกิดการฟื้นตัวได้ ระดับแนวต้านแรก(H4) อยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์ หากผู้ซื้อกลับมายืนเหนือระดับนี้ พวกเขาอาจกำหนดเป้าหมาย SMA 50 วันที่ 2,651 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านเพิ่มเติมที่ 2,700 ดอลลาร์ หากทะลุผ่านระดับนี้ไปได้ อาจนำไปสู่จุดสูงสุดในวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ 2,710 ดอลลาร์ ตามลำดับ
คาดการณ์พื้นที่ราคาระหว่าง 18-22 พ.ย 2567
แนวต้าน 2600, 2651, 2710
แนวรับ 2525, 2472, 2425
ราคาทองคำร่วงต่ำกว่า $2,600 ต่อเนื่อง!ราคาทองคำร่วงต่ำกว่า $2,600 ต่อเนื่อง! 📉💰
* ทองคำลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 📅
การปรับตัวลงของทองคำยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ โดยราคากำลังแตะระดับที่น่าสนใจอยู่ในขณะนี้ ราคาต่ำสุดของเดือนตุลาคมที่ $2,604 กำลังถูกจับตามองในกราฟรายวัน โดยราคาลงต่ำกว่า $2,600 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ช่วงหลังเลือกตั้งนี้ดูเหมือนจะเอื้ออำนวยให้สินทรัพย์อื่นมากกว่าทองคำเสียอีก 🗳️📊
ในภาพรวมแล้ว ผมยังคงเชื่อมั่นในทองคำ 🌟 และยอมรับการปรับฐานล่าสุดนี้อย่างเต็มใจ การขึ้นของราคาทองคำในปีนี้อาจเรียกได้ว่ามีแต่ขึ้นฝ่ายเดียว ดังนั้นการปรับตัวลงในช่วงนี้อาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดในระยะยาวครับ 📈💪
ในขณะนี้ ราคาต่ำสุดของเดือนตุลาคมถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยหากราคาต่ำกว่า $2,600 อย่างชัดเจน จะเป็นสัญญาณให้ทองคำทดสอบแนวเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (เส้นสีแดง) ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ $2,538 📉 การที่ทองคำไม่เคยลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรายวันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วนั้นสะท้อนถึงแรงขาขึ้นที่เราได้เห็นมาตลอดปีนี้ 🔥💹
นั่นจะเป็นแนวรับแรกที่นักลงทุนอาจเริ่มเข้ามาซื้อในจังหวะที่ราคาลดลง แต่หากแนวนี้ไม่สามารถยืนได้ ราคาทองคำอาจมุ่งไปยังเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (เส้นสีน้ำเงิน) ที่อยู่ใกล้ $2,400 ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญที่นักลงทุนอาจพิจารณาเข้ามาซื้อเพิ่มครับ 💙🛑 #ราคาทองคำ #ตลาดทอง #การลงทุนทองคำ #วิเคราะห์ทองคำ #ทองคำ #เศรษฐกิจ
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 11 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำคงราคาเสนอไว้ประมาณ 2,672-2,670 ดอลลาร์เข้าสู่ช่วงยุโรปในวันจันทร์ และดูเสี่ยงต่อการปรับฐานล่าสุดจากระดับสูงสุดตลอดกาลในวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงทรงตัวต่ำกว่าสี่จุดเล็กน้อย - จุดสูงสุดของเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับนโยบายการขยายตัวของสหรัฐฯ ที่คาดไว้ โดนัลด์ ทรัมป์ ปัจจัยหลักที่สร้างแรงกดดันต่อสินค้าโภคภัณฑ์เป็นวันที่สองติดต่อกัน
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนดูเหมือนจะเชื่อว่านโยบายของทรัมป์สามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มอัตราเงินเฟ้อได้ ขณะเดียวกันก็จำกัดความสามารถของ Federal Reserve ในการผ่อนปรนอย่างจริงจัง สิ่งนี้ช่วยให้อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง และมีส่วนผลักดันให้เงินไหลออกจากราคาทองคำที่ไม่ได้ผลกำไร อย่างไรก็ตาม โปรไฟล์ความเสี่ยงที่อ่อนลงอาจจำกัดการขาดทุนสำหรับสกุลเงินที่ปลอดภัย XAU/USD เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังรอตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคในสหรัฐฯ และคำปราศรัยของประธานาธิบดี Fed Jerome Powell ในสุดสัปดาห์นี้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
โซนแยกที่สำคัญ 2663-2665 มีบทบาทสนับสนุนทันทีในช่วงตลาดยุโรปในวันที่สองของการซื้อขาย เมื่อโซนนี้ทะลุ เราไม่ควรซื้อครึ่งหนึ่งและรอการทดสอบใหม่เพื่อขายและทะลุโซน 2643 เมื่อใด ราคาดีดตัวขึ้นมาแข็งแกร่งจากบริเวณ 2670 แนวโน้มคือเราจะจับตาซื้อเมื่อมีจุดทะลุดาวโจนส์ เป้าหมายของเราคือประมาณ 2,706 และ 2,726 สำหรับแผนการขาย
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 7 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำ (XAU/USD) ขยายตัวลดลงเป็นครั้งที่สองติดต่อกันในวันพฤหัสบดี โลหะมีค่าที่มีราคาเป็นดอลลาร์เผชิญกับแรงกดดันลดลงจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ราคาทองคำอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากกระแสสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงท่ามกลางการมองในแง่ดีของตลาดและ "การค้าของทรัมป์" การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากชัยชนะที่ชัดเจนของประธานาธิบดี ในขณะที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
การตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเน้นไปที่วันพฤหัสบดีนี้ ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยที่ 25 จุดในสัปดาห์นี้ สิ่งนี้อาจช่วยหนุนทองคำได้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน เครื่องมือ FedWatch ของ CME แสดงให้เห็นว่ามีโอกาส 98.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0.25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
หลังจากการลดลงอย่างรวดเร็วของเมื่อวาน ทองคำมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้นของเซสชั่นการซื้อขายในเอเชียในวันนี้ โปรดให้ความสนใจกับบริเวณท่าเรือ 2677 เพื่อใช้กลยุทธ์การขายในช่วงเอเชียและยุโรป โซนแนวรับ 2625 และ 2603 กลายเป็นระดับแนวรับหลักและยังกลายเป็นโซน TP สำหรับสัญญาณขายอีกด้วย โซนทะลุแนวจิตวิทยาที่ 2700 ได้กลายเป็นโซนแนวต้านที่สำคัญในปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาทองคำมีการทดสอบซ้ำ
เงินปอนด์แข็งค่า รับการเลือกตั้งสหรัฐฯ และ BoE ลดดอกเบี้ยเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ และการตัดสินใจของ Fed-BoE 💷💪
* เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขณะที่ใกล้เข้ามาถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ 🗳️ นักลงทุนคาดหวังว่า Fed และ BoE จะลดดอกเบี้ยลง 25 จุดในวันพฤหัสบดีนี้ 📉
* ผู้เข้าร่วมตลาดยังประเมินผลกระทบของการประกาศงบประมาณของสหราชอาณาจักรที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของประเทศ 🏦
เงินปอนด์ (GBP) ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับคู่ค้าหลัก โดยนักลงทุนจับตามองการประชุมของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25 จุด มาอยู่ที่ 4.75% 📉 นับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่สองของปีนี้ โดยคาดว่ากรรมการ MPC เจ็ดคนจะลงมติสนับสนุนให้ผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่อีกสองคนคาดว่าจะสนับสนุนให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 📊
#เลือกตั้งสหรัฐ #การเงิน #การลงทุน #BoE #GBPUSD
สมาชิกภายนอกของ BoE, Catherine Mann คาดว่าจะเป็นหนึ่งในสองคนที่โหวตให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิม 📈 ในการอภิปรายที่จัดขึ้นในระหว่างการประชุม IMF เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม Mann ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสายเหยี่ยวที่ชัดเจน ชื่นชมการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลง แต่เน้นถึงความจำเป็นในการชะลอตัวมากขึ้น 📉 เธอกล่าวว่า "เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ด้านบริการ (เงินเฟ้อ) ยังต้องลดลงอีกมาก" เมื่อถามถึงจุดยืนเรื่องอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน Mann ระบุว่าการลดดอกเบี้ยยังเร็วเกินไปในขณะนี้ 📊
นอกจากการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย นักลงทุนยังคาดหวังความเห็นจาก BoE เกี่ยวกับผลกระทบจากคำแถลงฤดูใบไม้ร่วงของสหราชอาณาจักร ซึ่งเปิดเผยโดยรัฐมนตรีการคลัง Rachel Reeves เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 📈 หลังการประกาศงบประมาณ สำนักงานความรับผิดชอบทางธุรกิจ (OBR) ระบุว่ามาตรการทางการคลังที่ประกาศออกมามีลักษณะสนับสนุนการเติบโตและอาจสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อ 📊
#เงินปอนด์ #การเงินอังกฤษ #ดอกเบี้ย #เงินเฟ้อ #OBR
สรุปเหตุการณ์ประจำวันที่ส่งผลต่อตลาด: เงินปอนด์จะได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์หลายอย่าง 💹
* เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยใกล้ระดับ 1.2980 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในช่วงการซื้อขายที่ลอนดอนเมื่อวันอังคาร ก่อนเริ่มการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเช้าของทวีปอเมริกาเหนือ 📊 ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักหกสกุล ลดลงเล็กน้อยใกล้ระดับ 103.80 📉
* ดอลลาร์สหรัฐได้ประสบกับการลดการถือครองสัญญายาวอย่างมาก หลังจากผลสำรวจของ Des Moines Register/Mediacom ระบุว่ารองประธานาธิบดี Kamala Harris นำหน้าอดีตประธานาธิบดี Donald Trump สามคะแนนในรัฐไอโอวา รัฐที่ Trump เคยชนะอย่างชัดเจนในปี 2016 และ 2020 📉
* Trump สัญญาจะเก็บภาษีอัตรารวม 10% กับเศรษฐกิจทั้งหมด ยกเว้นจีนซึ่งคาดว่าจะเผชิญภาษีที่สูงกว่า รวมถึงสัญญาลดภาษีนิติบุคคลที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูง 📈
#การเลือกตั้งสหรัฐ #ดอลลาร์สหรัฐ #นโยบายการค้า #USD
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการตัดสินใจนโยบายการเงินของ Federal Reserve (Fed) ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดี 🏦 ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Fed คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25 จุด มาที่ 4.50%-4.75% นับเป็นการลดครั้งที่สองต่อเนื่อง โดยขนาดของการลดครั้งนี้จะน้อยกว่าเดือนกันยายนที่ลดลง 50 จุด 📉
#Fed #อัตราดอกเบี้ย #การลงทุน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: เงินปอนด์พยายามขยับสูงกว่าระดับ 1.3000 💹
เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมาใกล้ระดับ 1.2980 โดยคู่ GBP/USD เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของวันจันทร์ก่อนการเปิดให้ลงคะแนนเสียงในสหรัฐฯ 📈 แนวโน้มระยะสั้นของคู่ GBP/USD ยังคงเป็นขาลงเนื่องจากยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 1.3060 แต่ได้รับแรงสนับสนุนใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ระดับ 1.2850 📉
ตัวชี้วัด RSI 14 วันยังคงอยู่เหนือระดับ 40.00 แสดงถึงความสนใจในการซื้อเมื่อราคาต่ำลง 📊 โดยแนวรับสำคัญที่ 1.2800 จะเป็นจุดที่สำคัญสำหรับนักเก็งกำไรฝั่งขาขึ้น ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ 1.3060 🔼
#การวิเคราะห์ทางเทคนิค #เงินปอนด์ #GBPUSD #ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐเตรียมร่วง หากหลุดแนวรับสำคัญ 151.05! USD/JPY: มีแนวโน้มจะลดลงหากหลุดต่ำกว่า 151.05 – UOB Group 📉💸
ดอลลาร์สหรัฐ (USD) คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 151.75 และ 152.75 📊 อย่างไรก็ตามในระยะยาว แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของดอลลาร์ที่เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยต้องหลุดต่ำกว่า 151.05 และรักษาระดับไว้ต่ำกว่าจุดนี้ก่อนจึงจะเกิดการปรับฐานลงที่มั่นคงได้ 📉 นักวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนของ UOB Group, Quek Ser Leang และ Lee Sue Ann กล่าว 🧐
USD/JPY คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 151.75 และ 152.75 💹
**มุมมอง 24 ชั่วโมง:** “เมื่อวานนี้ ขณะที่ USD อยู่ที่ 152.10 เราคาดว่าจะมี ‘แนวโน้มขาลง’ 🐻 แต่เราชี้ให้เห็นว่า ‘เนื่องจากโมเมนตัมไม่แข็งแรง การลดลงจึงไม่น่าจะหลุดต่ำกว่า 151.50 ได้ชัดเจน’ นอกจากนี้ เรายังระบุว่า ‘แนวรับหลักที่ 151.05 ไม่น่าจะถูกท้าทาย’ ท้ายที่สุด USD ร่วงลงมาถึง 151.54 และกลับมาอยู่ที่ 152.13 การฟื้นตัวในโมเมนตัมที่ช้าลงแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงได้ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว วันนี้เราคาดว่า USD จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 151.75 และ 152.75” 📈🔄
**มุมมอง 1-3 สัปดาห์:** “เราได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (01 พ.ย. อยู่ที่ 152.05) ว่า ‘การเพิ่มขึ้นของ USD ตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วได้สิ้นสุดลงแล้ว’ 🛑 เราเสริมว่า ‘โมเมนตัมขาลงเริ่มก่อตัว แต่ USD ต้องหลุดต่ำกว่า 151.05 และรักษาระดับไว้ต่ำกว่าจุดนี้ก่อนถึงจะเกิดการปรับตัวลงที่มั่นคงได้’ 🕰 เมื่อวานนี้ (วันจันทร์) USD ร่วงถึงระดับต่ำสุดที่ 151.54 แต่โมเมนตัมยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นยังต้องรอดูว่า USD จะหลุดต่ำกว่า 151.05 ได้ชัดเจนหรือไม่ โดยภาพรวมแล้ว หากไม่หลุดที่แนวต้านแข็งแกร่งที่ 153.35 (แนวต้านไม่เปลี่ยนแปลง) โอกาสที่จะหลุดต่ำกว่า 151.05 จะยังคงมีอยู่” 🔥
#USDJPY #อัตราแลกเปลี่ยน #ดอลลาร์สหรัฐ #การลงทุน #การวิเคราะห์
BTC ทะลุ $70K! ลุ้นตลาดคริปโตพุ่งแรงรับเลือกตั้งสหรัฐ **BTC ทะลุ $70,000! นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน** 🚀🇺🇸
* 💰 BTC พุ่งทะลุ $70,000 ขณะที่การเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
* 📈 **แมทธิว ซิเกล** จาก VanEck ชี้ว่าแนวโน้ม Bitcoin ยังคงเป็นขาขึ้นก่อนถึงการเลือกตั้ง
* 🪙 กองทุน ETF สินทรัพย์ดิจิทัลมีเงินไหลเข้า **901 ล้านดอลลาร์** โดย Bitcoin ETFs เป็นผู้นำตลาด
---
**BTC พุ่งแรงรับต้นสัปดาห์ ขึ้นเหนือ $70,000 ตามแรงหนุนการเลือกตั้งสหรัฐ** 🌐📊
Bitcoin เปิดสัปดาห์ด้วยการทะยานขึ้นเกิน $70,000 โดยราคาบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมโยงกับการเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามา ตามรายงานของ **แมทธิว ซิเกล** หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck 📋
นักลงทุนสถาบันแสดงความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิในสัปดาห์ที่แล้ว **901 ล้านดอลลาร์** 🏦
---
**BTC ใกล้จุดสูงสุดใหม่ ขณะทรัมป์เพิ่มคะแนนนำก่อนเลือกตั้ง** 🔥🏛️
Bitcoin ทะยานแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันจันทร์ โดยพุ่งทะลุ $70,000 ไปช่วงสั้น ๆ และใกล้แตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ **$73,700** 📉
ราคา BTC ปรับขึ้น **2.7% ใน 24 ชั่วโมง** ที่ผ่านมา และขณะที่เขียนนี้ซื้อขายอยู่ราว ๆ **$69,900**
ซิเกลกล่าวในบทสัมภาษณ์กับ CNBC ว่า **"โครงสร้างตลาดของ Bitcoin ก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้คล้ายกับช่วงปลายปี 2020"** ซึ่ง BTC พุ่งขึ้น **120% ในสองเดือน** หลังจากนั้น 📈
ซิเกลคาดว่า BTC จะยังมีโอกาสปรับขึ้นหลังการเลือกตั้ง เช่นเดียวกับปี 2020 และยังทำนายว่า **Bitcoin จะกลายเป็นสินทรัพย์สำรองระดับโลกในปี 2050 ด้วยมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์** 💎🌍
---
**ทรัมป์สนับสนุนคริปโต ชี้นำความหวังใหม่ให้กับตลาด** 🗳️💼
ซิเกลระบุว่า **โดนัลด์ ทรัมป์** ดูจะเป็นผู้สมัครที่เป็นมิตรกับคริปโตมากกว่าระหว่างผู้ท้าชิงทั้งสอง โดยทรัมป์แสดงท่าทีสนับสนุนคริปโตและ Bitcoin ต่อเนื่อง ขณะที่ **กมลา แฮร์ริส** ยังไม่เคยกล่าวถึงคริปโตโดยตรง
จากข้อมูลของ **Polymarket** ทรัมป์มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูงถึง **65%** เมื่อเทียบกับแฮร์ริสที่มีเพียง **34%** ซึ่งบ่งชี้ว่านักพนันคาดหวังชัยชนะของพรรครีพับลิกันในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ 🎯
การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาด Bitcoin เพราะนักลงทุนมองว่าหากทรัมป์ชนะ การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในอุตสาหกรรมคริปโตอาจเกิดขึ้น 🚀
---
**กระแสเงินไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF พุ่งแรงในเดือนตุลาคม** 📊💰
เงินไหลเข้าสุทธิสู่กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ETF รวมกันกว่า **901 ล้านดอลลาร์** ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยอดรวมเงินลงทุนใน ETF ทั้งหมดในเดือนตุลาคมสูงเกิน **3 พันล้านดอลลาร์**
Bitcoin ETF เป็นผู้นำด้วยเงินไหลเข้ากว่า **920 ล้านดอลลาร์** ซึ่ง **906 ล้านดอลลาร์** มาจากนักลงทุนในสหรัฐ 🇺🇸
อย่างไรก็ตาม กองทุน Ethereum ETF กลับมีเงินไหลออกอีกครั้ง รวมมูลค่า **35 ล้านดอลลาร์** แม้ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะเริ่มกลับมา 🪙
---
#Bitcoin #BTC #เลือกตั้งสหรัฐ #คริปโต #CryptoETFs #การลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 25 ตุลาคมการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำรักษาระดับอุปทานให้ใกล้กับจุดต่ำสุดของช่วงรายวันในช่วงครึ่งแรกของเซสชั่นยุโรป และอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยหลายประการรวมกัน สำหรับตอนนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดูเหมือนจะหยุดการปรับฐานขาลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงน้อยลง เมื่อประกอบกับระดับความเสี่ยงเชิงบวกโดยทั่วไป เชื่อว่าจะทำให้โลหะมีค่าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัวลง
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว การที่ผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ลดลงอีก กำลังขัดขวางนักเก็งกำไร USD จากการเดิมพันเชิงรุก นอกจากนี้ ความไม่มั่นคงทางการเมืองของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางอาจช่วยหนุนราคาทองคำได้บ้าง ขณะนี้ผู้ค้าตั้งตารอข้อมูลมหภาคของสหรัฐฯ - คำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในมิชิแกนที่แก้ไขแล้วสำหรับโอกาสในระยะสั้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ทองคำทะลุโครงสร้างขาขึ้นของเซสชั่นเอเชียและร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงยุโรปโดยทะลุโซนแนวรับที่สำคัญที่ 2720 ทองคำมุ่งหน้าไปที่ 2710 และ 2700 โปรดให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของราคาในโซนนี้เพื่อใช้กลยุทธ์การซื้อระยะยาว . ภาคเรียน. สัญญาณขายถูกสร้างขึ้นพร้อมกับระดับกำไรตามที่วิเคราะห์ ขอให้คุณมีวันซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ
ราคาทองคำในกราฟ Time Frame H4 แสดงสัญญาณการปรับตัวลงเนื่องจากการ📌มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์
วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2024
🏦ราคาทองคำในกราฟ Time Frame H4 แสดงสัญญาณการปรับตัวลงเนื่องจากการเกิดแท่งเทียน Bearish Engulfing ซึ่งเป็นสัญญาณการขายสำคัญ หากราคาทำลายโครงสร้างขาลงได้ จะมีโอกาสปรับตัวไปตามกรอบที่วิเคราะห์ไว้ จุดที่ควรเฝ้าระวังในช่วงนี้คือแนวรับสำคัญที่ระดับ 2737. หากราคาหลุดระดับนี้ไป อาจเห็นการปรับตัวลงไปสู่ระดับแนวรับถัดไปที่ 2718/2707/2695 ตามลำดับ สำหรับกลยุทธ์ที่ควรพิจารณาคือรอดูความชัดเจนของแนวโน้ม ถ้าเกิดการปรับตัวขึ้นสามารถวางจุดขายหรือ Stop Loss ที่ระดับแนวต้าน 2747
🍀ข่าวสำคัญที่ส่งผลต่อทองคำ:
1. เศรษฐกิจสหรัฐฯ: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ดัชนี PMI, การประชุม FOMC, และรายงานการว่างงาน มีผลโดยตรงต่อราคาทองคำ เนื่องจากมีผลกระทบต่อทิศทางดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ย
2. เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์: ความตึงเครียดหรือความไม่แน่นอนระดับโลกมักทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
3. แนวโน้มการปรับดอกเบี้ย: การคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนราคา
📌นักลงทุนควรจับตาดูข้อมูลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลต่อความผันผวนของราคาทองคำ
( ระวังข่าวนอกตารางและวันนี้ ศุกร์อาจจะหรรษาก็ได้ )
Candlestick H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เ....🛑#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ 📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลาย
โครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2672 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบายได้. มุ่งหวังที่ 2685/2698/2703
............
#มุมมองส่วนตัวและ นักวิเคราะห์ การวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ประจำวัน 17 ตุลาคม 2567
🍀1.แนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
จากกราฟในภาพ:
• แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ระดับ 2,666.83 และ 2,661.61 ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci retracement ที่ 61.8% และ 50.0% ตามลำดับ
• แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 2,685.29 และ 2,703 หากราคาทองคำผ่านระดับนี้ได้ คาดว่าจะไปทดสอบระดับสูงกว่า Fibonacci extension ที่ 1.618 (ประมาณ 2,715.15)
🍀2.สัญญาณเชิงเทคนิค
• กราฟ H4 ปิดแท่งเทียนรูปแบบ Bullish Engulfing ซึ่งเป็นสัญญาณบวก บ่งบอกว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น
• ค่า Stochastic อยู่ในโซน overbought (80.76) บ่งชี้ว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำอาจมีการปรับฐานลงในระยะสั้น
💥3. ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
• 19:15 น. ประกาศ Main Refinancing Rate ของยูโรโซน: คาดว่าจะส่งผลต่อค่าเงินยูโร หากมีการปรับดอกเบี้ย อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าหรืออ่อนลง ซึ่งมีผลกระทบต่อราคาทองคำ
• 19:30 น. ประกาศข้อมูล Core Retail Sales และ Retail Sales m/m ของสหรัฐฯ: ตัวเลขนี้จะบ่งชี้ถึงการจับจ่ายของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์
• 19:45 น. การแถลงข่าวของ ECB: ควรจับตาดูนโยบายการเงินเพิ่มเติมที่อาจส่งผลต่อค่าเงินยูโรและทองคำ
💥4. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ราคาทองคำยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น ดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางและการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจหลักๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้ทองคำผันผวน
📌📌📌ข้อควรระวังในการเทรดทองคำ (XAUUSD)
1. การผันผวนจากข่าวเศรษฐกิจ: การประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญอย่างการประกาศดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) และการประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำ ทองคำมีโอกาสผันผวนรุนแรงระหว่างการประกาศข่าว ดังนั้นควรระวังการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดในช่วงเวลานี้
2. แนวโน้มตลาดการเงินโลก: สภาวะเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลให้ตลาดทองคำเคลื่อนไหวไม่แน่นอน เช่น การตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการปรับดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาทองคำในระยะสั้น
3. ภาวะ Overbought: จากการวิเคราะห์เชิงเทคนิค ค่า Stochastic ของกราฟ H4 ที่อยู่ในเขต overbought บ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับฐานของราคาทองคำในระยะสั้น ควรติดตามการยืนยันสัญญาณขาลงเพิ่มเติมจากกราฟและอินดิเคเตอร์อื่น ๆ
มุมมองนักวิเคราะห์
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิค ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะกลาง โดยเฉพาะหากสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 2,685-2,703 ขึ้นไปได้
• นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ บางคนเตือนว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมักถือทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
• การปรับฐานในระยะสั้น: อย่างไรก็ตาม มีมุมมองที่ว่าหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ อาจมีการปรับฐานลงมาตามแนวรับสำคัญที่ 2,666.83 และ 2,661.61
สรุป: นักลงทุนควรระมัดระวังในการเทรดช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญและใช้สัญญาณเทคนิคช่วยในการยืนยันการเข้าออกคำสั่ง เทรดควรมีจุดยอมที่ชัดเจนอย่าปล่อยลาก ย้ำตลาดนัดปัจจุบันไม่เหมาะกับการถือยาวควรทำกำไรระยะสั้น
เงินเฟ้อ UK ร่วงต่ำกว่าเป้า 2%# เงินเฟ้อ UK ร่วงต่ำกว่าเป้า 2%! เปิดช่อง BOE ลดดอกเบี้ย 🚪📉
เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร (UK) เดือนกันยายน ชะลอตัวลงสู่ **1.7%** ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เป็นครั้งแรกในรอบกว่า **3 ปี**! ✨ แนวโน้มนี้กระตุ้นการคาดการณ์ว่า BOE อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า 🏦💼
---
### เงินเฟ้อชะลอตัวสุดในรอบ 3 ปี
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) รายงานว่า **ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)** เดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งลดลงจาก 2.2% ในเดือนสิงหาคม 📊 ตัวเลขนี้เป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เมษายน 2564 🌧️
นักเศรษฐศาสตร์จาก **Wall Street Journal (WSJ)** คาดการณ์ไว้ที่ **1.9%** และแม้แต่ BOE เองก็เคยประมาณไว้ในเดือนสิงหาคมที่ **2.1%** จึงถือว่าผลที่ออกมาสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด 🧐
---
### ภาคบริการก็ชะลอตัว 📉
แม้แต่ภาคบริการที่มักจะมีการปรับตัวช้าก็เริ่มส่งสัญญาณลดความร้อนแรงลง ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจว่า **BOE อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ย** ในการประชุมครั้งหน้า โดย **เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา BOE เพิ่งลดดอกเบี้ย** เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 ก่อนจะหยุดการปรับในเดือนกันยายน 🛑
ธนาคารกลางสำคัญอื่น ๆ เช่น **เฟด (Fed)** และ **ธนาคารกลางยุโรป (ECB)** ก็มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเช่นกัน ซึ่งกดดันให้ BOE อาจต้องดำเนินนโยบายในทิศทางเดียวกัน 💸
---
### เงินปอนด์อ่อนค่าหนัก 🏴💷
ท่ามกลางความคาดหวังการลดดอกเบี้ย ค่าเงินปอนด์ (GBP) อ่อนค่าลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในตลาด **GBP/USD** ที่ร่วงลง **-0.59%** ต่อวัน 📉 มีแนวโน้มอ่อนตัวเพิ่มเติมในอนาคตหากปัจจัยภายนอกยังคงกดดัน 🌀
---
📌 **ติดตามต่อไป:**
ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประชุมของ BOE ในเดือนหน้า การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร 🌍🏦
---
#เงินเฟ้อ #ธนาคารกลาง #ดอกเบี้ย #BOE #เงินปอนด์ #GBP
XAUUSD Daily Analysis 16/10/2024 by Trader JTrading note: XAUUSD
หลังจากวานนี้ ราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ บ่งชี้ Momentum ที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยในเช้าวันนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ New High ในรายวันได้ ที่ระดับ 2,670 ดอลลาร์ ในขณะที่ แรงขายยังสลับเข้ามากดดันอย่างจำกัด เนื่องจาก ดอลลาร์-บอนยีลด์สหรัฐ เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างจำกัดเช่นกัน เพื่อรอจับตาข้อมูลทางเศรษฐกิจต่อ ทั้งนี้ในส่วน ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์
นอกจากโซนตะวันออกกลางที่ตลาดกำลังจับตาอยู่แล้ว ในฝั่งของเกาหลีเหนือ มีรายงานข่าวว่า มีการส่งทหารไปช่วยทางรัสเซีย
Buy : 2665-2668
TP : 2680-2690
SL : 2655
เหตุผลในการเข้าเทรด:
Trendline Swing higher lows
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบTF M30
รอกราฟย่อเทสเเนว Break out follow ตามเเนวโน้ม
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้สัญญาณแท่งเทียนจากการปิดแท่งคู่จากกราฟ M30 เข้า Buy ตามเเนวโน้ม
RSI : ยืนเหนือ 50 ในกรอบ H1 H4 สะท้อนเเรงซื้อ Buyer
เทรนหลักยังเป็นขาขึ้น
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลายโครง...🛑#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ 📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลาย
โครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2661 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบวนได้. มุ่งหวังที่ 2673/2678/268
🏦#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ สำหรับการวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ในสัปดาห์นี้ (14-18 ตุลาคม 2024) จากข้อมูลในกราฟและแนวโน้มปัจจุบัน:
🍀1. แนวรับสำคัญ: บริเวณที่น่าสนใจเป็นพิเศษในกราฟจะอยู่ที่ระดับ $2,633.79 ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 0.618 โดยหากราคาทองคำไม่สามารถทะลุลงต่ำกว่าจุดนี้ได้ จะเป็นการยืนยันแนวรับที่สำคัญ นอกจากนี้บริเวณ $2,643.81 (Fibonacci 0.51) ก็เป็นแนวรับรองลงมา
🍀2. แนวต้านสำคัญ: แนวต้านที่น่าสังเกตคือบริเวณ $2,686.22 ซึ่งหากราคาสามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้นไปต่อในทิศทางขาขึ้น
🍀3. อินดิเคเตอร์ Stochastic: ข้อมูลในกราฟแสดงว่า Stochastic ใกล้เคียงกับโซน overbought ที่ประมาณ 80.76 ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีแรงขายเกิดขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากไม่มีแรงกดดันจากข่าวหรือปัจจัยพื้นฐาน อาจเห็นการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนการย่อตัว
📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลายโครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2661 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบวนได้. มุ่งหวังที่ 2673/2678/2685
✅#ข่าวที่ต้องติดตาม
4. วันที่ 16 ตุลาคม 2567 มีข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ (XAUUSD) ได้แก่:
1. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ: ประกาศในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ข้อมูล PPI นี้จะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง ซึ่งหากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาด จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
2. ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ: คาดว่าจะประกาศเวลา 20:15 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตัวเลขนี้สามารถบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ หากการผลิตลดลง จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และสนับสนุนให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น
💥ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางการเมือง เช่น สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
💥ดังนั้น จากกราฟและข้อมูลทางเทคนิคปัจจุบัน ราคาทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหากผ่านแนวต้านสำคัญ แต่ในระยะสั้น อาจเห็นการย่อตัวหากมีแรงขายจากระดับ overbought ของ Stochastic
🏦สำหรับผู้ที่ถือทองคำควรติดตามข่าวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาทองคำในตลาดระยะสั้นถึงระยะกลางได้อย่างมีนัยสำคัญ  .
#เทรดควรมีจุดยอมอย่างชัดเจน และบริหารส่วนกำไรพักพอ ไม่ต้องโลภค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดนัดปัจจุบันไม่เหมาะกับการเทรดระยะยาวควรเหมาะกับการเทรดทำกำไรระยะสั้น