BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 24/2/2022 by TraderTanBitcoin ดิ่งลงอย่างหนักในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่แน่นอนของวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
ส่งผลให้อุปทาน Bitcoin ลดดลงกว่า 4.7 ล้าน BTC
แม้ราคาจะร่วงลงเป็นอย่างมาก แต่นักวิเคราะห์ Bitcoin ก็มีข่าวดีเช่นเดียวกัน
โดย Mike McGlone นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของ Bloomberg
ได้โพสต์ทวีตที่แสดงภาพถึงโอกาสในการซื้อ BTC
“ปัจจุบัน Bitcoin กำลังลดราคาเมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดในปี 2018 และ 2020”
แนวรับ 34471
แนวรับ 32972
แนวรับ 29341
แนวต้าน 36432
แนวต้าน 38252
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
--เป็นขาลง แต่เริ่มมีสํญญาณกลับตัวขึ้น
จากกราฟ ราคายังคงร่วงลงต่อเนื่อง แม้จะมีสัญญาณการกลับตัแต่อาจเป็นเพียงการขึ้นเพื่อลงต่อ
โดยราคากำลังจะลงไปทดสอบแนวรับเก่าที่ 32972 อีกครั้ง โดยหากราคายังไม่หลุดต่ำลงกว่าแนวรับเดิมนี้
อาจได้เห็นการกลับตัวขึ้นอีกครั้ง แต่หากไม่ใช่ หากราคาหลุดลงต่ำกว่านี้
อาจได้เห็นราคาต่ำกว่า 30000 ให้รอสัญญาณที่ชัดเจน และเล่นตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 32972 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 34471 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 34471 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 32972 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "BITCOIN"
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 16/2/2022 by TraderTanหนึ่งในเจ้ามือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดของโลกได้เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ด้วยการย้าย BTC
มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ตลาด crypto ยังคงมีความผันผวนสูงในช่วงสุดสัปดาห์
BTC กว่า 44,979 BTC หรือตีเป็นมูลค่าประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ไปยังกระเป๋าเงินนิรนาม
ซึ่งส่งผลให้กระเป๋าเงินดังกล่าวได้พุ่งขึ้นกลายเป็นกระเป๋าเงินที่มี Bitcoin มูลค่ามากที่สุดของโลกอันดับที่ 14
ตามข้อมูลของ BitInfoChart ธุรกรรม Bitcoin มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์นั้นมีค่าธรรมเนียมเพียง
0.00008496 BTC หรือ 3.56 ดอลลาร์ หรือแค่ 115 บาทเท่านั้น
แนวรับ 43029
แนวรับ 41864
แนวรับ 39046
แนวต้าน 44578
แนวต้าน 45682
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
--เป็นกลาง
จากกราฟ ราคาเกิดสัญญาณแท่งคู่บ่งบอกถึงการกลับตัวลง แต่ยังติดแนวรับเส้นEMA200 อยู่
ทำให้ราคายังคงมีลุ้นในเทรนขาขึ้นมากกว่าลง อาจมีการปรับฐานราคาโดยพักตัวและวิ่งเป็นไซด์เวย์ก่อนได้
เพื่อรอเวลาและเลือกทางที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดลงต่ำกว่าเส้น VWAP และยืนต่ำกว่าราคา 41864
จะส่งผลให้ขาลงกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง ให้หาจังหวะเล่นในกรอบสั้นๆ หรือรอดูการวิ่งในกรอบไซด์เวย์
รอสัญญาณที่ชัดเจน และเล่นตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 44578 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 45682 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 44578 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 41864 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 10/2/2022 by TraderTanตัวชี้วัดใหม่เผยช่วงขาขึ้นรอบใหม่ของ Bitcoin อาจมาถึงเร็วกว่าที่คาดตามข้อมูลใหม่ที่จัดทำโดย
ผู้ให้บริการวิเคราะห์บล็อคเชน Santiment เปิดเผยว่า ข้อมูลของ Santiment กระเป๋าเงิน USDT
ที่มีการใช้งานรายวันบนเครือข่ายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปกติแล้วกิจกรรมการใช้งานกระเป๋าเงิน USDT
บนเครือข่ายนั้น มักจะมีความสัมพันธ์ที่ผกผันกับราคา Bitcoin ในทิศทางตรงกันข้ามเสมอ
เปรียบเทียบจากสถิติในอดีตที่ผ่าน ๆ มา ดังนั้นเป็นไปได้ว่าช่วงขาขึ้นรอบใหม่ของ Bitcoin อาจกำลังเตรียมที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
แนวรับ 43042
แนวรับ 41864
แนวรับ 39046
แนวต้าน 44842
แนวต้าน 45682
แนวต้าน 48137
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
--เริ่มเกิดการกลับตัวเป็นขาลง
หลังจากที่ราคาขึ้นไปเทสแนวต้านหลักบริเวณ 44276 และทำราคาสูงสุดใหม่ไว้ที่ 44842
ได้ขยับราคาลงมาพักตัวในกรอบแคบๆ เพื่อหาแรงซื้อเพิ่มเติม หากราคาหลุดลงต่ำกว่า 43000
เป็นไปได้ที่ราคาจะย่อลงมาก่อน อาจมีการเทขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น ให้ใช้กรออบเส้นเทรนไลน์
เป็นแนวรับแนวต้านและกรอบในการเล่น เข้า ออก ออเดอร์ ให้หาจังหวะย่อแล้วบาย
หรือเซลส้นๆตามกรอบเทรนไลน์ จะปลอดภัยที่สุด รอสัญญาณที่ชัดเจน และเล่น
ตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 39046 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 45682 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 43000 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 39046 หรือตามแนวรับต้าน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 17/1/2022 by TraderTan เห็นได้ชัดเจนเลยว่า Bitcoin นั้นได้มีการไหลออกเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตามข้อมูลล่าสุดโดย Cryptoquant Bitcoin กว่า 26,300 BTC ถูกนำออกจากหลายเว็บเทรดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตลาดกระทิงโดยที่ราคาของเหรียญนั้นพุ่งขึ้นกว่า 66% ตามข้อมูลจาก Mike McGlon จากทาง Bloomberg ระบุว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบกับ Bitcoin ในระยะสั้นแต่ว่า Bitcoin ก็ยังยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง
แนวรับ 42652
แนวรับ 40655
แนวต้าน 44219
แนวต้าน 45621
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
--เป็นกลาง
ราคายังคงวิ่งอยู่ในโซนไซด์เวย์ เพื่อรอเลือกทาง โดยทำการแบ่งโซนไซด์เวย์ออกเป็น2โซน บนและล่าง ซึ่งหากราคายังไม่หลุดจากกรอบไซด์เวย์บน เป็นไปได้ที่จะวิ่งในกรอบแคบๆไปสักระยะเพื่อหาแรงซื้อเพิ่ม แต่หากไม่ใช่ หากราคาหลุดลงมาอยู่ในโซนไซด์เวย์ล่าง จะเป็นการวิ่งในกรอบแคบๆเพื่อหาทางลงต่อ รอสัญญาณการเข้า ที่ชัดเจนก่อน และเล่นตามกรอบแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบไซด์เวย์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 43000 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 44219 หรือตามแนวรับต้าน
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 42652 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 40655 หรือตามแนวรับต้าน
แนวโน้ม ของ btc กำลังเลือกทางนักวิเคราะห์และสื่อธุรกิจเริ่มจับตาแนวโน้มของ Bitcoin ที่อาจจะหมดแรงลง กลายสภาพจากจากตลาดกระทิงกลายเป็นตลาดหมี
เริ่มจากสำนักข่าว Bloomberg ที่รายงานว่าจนถึงกางสัปดาห์นี้ Bitcoin ก็ยังไม่ฟื้นตัวจากความสับสนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาวะที่ยังไม่สามารถอธิบายได้และตอนนี้นักลงทุนต่างก็จับตาดูความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของมันที่มีความผันผวน
ก่อนหน้านี้นักยุทธศาสตร์ของ JPMorgan Chase & Co. นำโดย Nikolaos Panigirtzoglou กล่าวว่าสองสามครั้งที่ผ่านมาพวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวของราคาใน Bitcoin ในเชิงลบ แต่ผู้ซื้อกลับมากอบกู้สถานการณ์ทันเวลาเพื่อป้องกันการตกต่ำที่ลึกลงไป แต่คราวนี้พวกเขากลับกังวล เพราะหาก Bitcoin ไม่สามารถกลับมาสูงกว่า 60,000 ดอลลาร์ในไม่ช้าสัญญาณ โมเมนตัมจะพังทลายลง
ด้าน Michael Purves จาก Tallbacken Capital Advisors ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวกับรูปแบบการซื้อขายของ Bitcoin พบว่าจุดสูงสุดล่าสุดของ Bitcoin ไม่ได้อิงกับดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (Relative strength index - คือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแผนภูมิจุดแข็งหรือจุดอ่อนในปัจจุบันและในอดีตของหุ้นหรือตลาดโดยพิจารณาจากราคาปิดของช่วงเวลาการซื้อขายล่าสุด) และเหนือสิ่งอื่นใดและโมเมนตัมที่พุ่งสูงของมันกำลังจางหายไป
เว็บไซต์ของ Fortune ก็ตั้งข้อสังเกตในทำนองเดียวกันโดยตั้งคำถามว่าตอนนี้ตลาดกระทิงของ Bitcoin สิ้นสุดลงแล้วหรือยังหลังจากพุ่งขึ้นมาถึง 700% นับตั้งแต่เดือนเมษายปีที่แล้ว? คำตอบก็คือ "อาจจะเป็นอย่างนั้น" David Z. Morris นักเขียนของ Fortune ให้เหตุผลว่า Bitcoin เป็นจำพวกหุ้นยุคการระบาดใหญ่ หรือ pandemic stock
ตัวอย่างของ pandemic stock เช่น Netflix ซึ่งเพิ่งจะประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปรากฎว่ามีลูกค้าใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 3.98 ล้านคนหลุกจากเป้าคาดการณ์ 6.29 ล้านคนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ นอกจากนี้ยังมี Zoom ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นลดลง 45% จากระดับสูงสุดตลอดกาลถึงปลายปีที่แล้ว บริษัทเหล่านี้บูมในช่วงการระบาดใหญ่เพระาเป้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการล็อคดาวน์หรือติดอยู่กับบ้าน และตอนนี้ถึงช่วงขาลงของพวกมัน
ไฟฟ้าถูกสุดๆ การขุดคริปโตจึงเป็นความหวังทำเงินของชาวเวเนซุเอลา
จับตา Solana คริปโตที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้
David Z. Morris ชี้ว่า Bitcoin ก็เข้าข่ายธุรกิจที่บูทในช่วงการระบาดใหญ่ เพราะมีหลักฐานวาชาวอเมริกันใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปซื้อ Bitcoin และนักลงทุนยังเข้ามาเล่นคริปโตเพราะติดอยู่กับล็อคดาวน์และเป็นการลงทุนมาแบบมาราธอนเพ 24 ชั่วโมงต่อวัน
Scott Minerd ซีไอโอของบริษัท Guggenheim ยังได้เตือนถึง“การปรับฐานครั้งใหญ่” ของ Bitcoin ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยอ้างว่า Bitcoin นั้น “มีฟองมาก” และเขาคาดการณ์ว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัลจะลดลง 50%
เขาบอกกับ CNBC ว่า Bitcoin ไปไกลเกินไปเร็วเกินไป “ผมคิดว่าเราสามารถดึง Bitcoin กลับมาที่ 20,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์ซึ่งจะลดลง 50% แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Bitcoin คือเราเคยเห็นการลดลงประเภทนี้มาก่อน”
อย่างไรก็ตาม Minerd ตั้งข้อสังเกตว่าเขาคิดว่าการปรับฐานครั้งใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของ “วิวัฒนาการตามปกติของตลาดกระทิงในระยะยาว”
ความสัมพันธ์ของเทสลากับบิ๊กเทคพังทลายความสัมพันธ์ของเทสลากับบิ๊กเทคพังทลาย ตำหนิ Bitcoin
หุ้นของ Tesla Inc. มีความสัมพันธ์น้อยลงกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐ ก่อนรายงานรายได้ของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และ Bitcoin อาจเป็นสาเหตุว่าทำไม
ความสัมพันธ์ 20 วันระหว่างราคาหุ้นของ Tesla และดัชนี Nasdaq 100 ลดลงจาก 0.83 ในวันที่ 17 มิถุนายนเป็น 0.14 ณ วันพุธ นอกจากนี้ยังพบการลดลงในความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นของบริษัท EV และดัชนี NYSE FANG+ ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด เช่น Facebook Inc., Apple Inc., Amazon.com Inc. และ Netflix Inc. Tesla รายงานผลประกอบการในเดือนกรกฎาคม 26.
“Tesla มีความสัมพันธ์อย่างมากกับเทคโนโลยี megacap” และ “ความสัมพันธ์นี้แยกจากกันจริงๆ ในระยะใกล้” Amy Wu Silverman นักยุทธศาสตร์ด้านอนุพันธ์ของ RBC Capital Markets กล่าวในความคิดเห็นทางอีเมล “เมื่อฉันถามไปรอบๆ ข้อเสนอแนะที่ฉันได้รับคือสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการเปิดเผย Bitcoin ของพวกเขาและจะต้องพิจารณาอย่างไรเมื่อพวกเขารายงานรายได้”
โดยจากปัจจัยนี้ส่งผลทำให้หุ้นเทสล่ามีการปรับตัวลงในเมื่อวานที่ผ่านมาดังนั้นจับตาดูว่าวันนี้ ราคาหุ้นของเทสล่าจะเป็นอย่างไร
ถ้ามีการปรับตัวลงในการเปิดตลาดสหรัฐอเมริกาแนวรับแรกก็คือ 650.53 เหรียญแนวรับที่สองก็คือ 628.39 เหรียญแนวรับสุดท้ายก็คือ 614.62 เหรียญ
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 672.80 เหรียญแนวต้านที่สองก็คือ 686.70 เหรียญแนวต้านสุดท้ายก็คือ 693.99 เหรียญ
ปัจจัยเสี่ยงของหุ้น Tesla Inc. ปัจจัยนี้ยังคงคลุมเครือในหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นทั้งในฝั่งของความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีขยะสใหญ่ของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin จับตาดูอย่างใกล้ชิด
BTCUSD : Sideway 2 เดือน หรือจะเท่า Sideway Down 3 ปี 2018-2020มือใหม่ที่ไม่เคยอยู่กับตลาด Bitcoin มาก่อน หรือเพิ่งเข้ามาได้ไม่ถึงปี ช่วงตลาดดีๆ
มักจะมีความฝันและความหวังกันเต็มเปี่ยม เพราะโดนทั้งสื่อและกูรูหลายๆ ท่าน บิ้ว กันจนเคลิ้ม ว่ามันจะต้องไปเท่านั้นเท่านี้ ไปได้อีกไกลลิบ
และก็ทนถือ ทนติดดอยกันไปเรื่อยๆ อยากมีความหวัง...
สำหรับ ผม และหลายๆ คนที่ผ่านปี 2018 มาแล้ว จะรู้ดีกว่า ไอ้ความหวังอะไรนั่นน่ะ...มันไม่มีอยู่จริง
และ ตอนปี 2017-2018 เราก็โดนกูรูและสื่อทั้งหลาย ซึ่งก็หน้าเดิมๆ ทั้งนั้นแหละ บิ้วกันมาแบบเดียวกันเด๊ะๆ!!
ทำให้รอบหนี้ หลายๆ คนที่ผ่านปีนั้นมา และขาดทุนหนักกันมาก่อน.. ก็จะมีภูมิคุ้มกันความกาวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
---------------------
ผมจะเล่าเรื่อง ญาติของเพื่อนคนนึงให้ฟัง
เขาก็ไปดอย Bitcoin ที่ยอด 20k ตอนปี 2017 นั่นแหละ ซื้อได้ยอด เยี่ยมจริงๆ 55
และเขาก็ไม่ขาย ไม่ขาดทุน ทนถืออออออออออ มาเรื่อยๆ ผ่านร้อนผ่านหนาวมา สามปี
มันลงไปแค่ไหนก็ไม่ขาย มือแข็งมากๆ!!
..แต่ วันก่อนผมถามมันไป ช่วงที่ Bitcoin วิ่งไปแถวๆ 30k-40k ละ ว่า
เป็นไงวะ ญาตินาย รวยแล้วดิ ทนถือมาได้ตั้งนาน
มันก็หันมาตอบง่ายๆ ว่า "อ๋อ.. ญาติมันขายออกไปหมดเกลี้ยงแล้ว ตรง 20k น่ะ"
ผมก็.... ได้แต่นั่งขำในใจ 555
---------------------
เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า...
ถึงพวกคุณ มือใหม่ 2021 จะทนถือ BTC ที่ติดดอย ผ่านร้อน ผ่านหนาว ลงไปแค่ไหนก็ไม่ยอมขาย
แต่สุดท้าย ... พอราคามันกลับมาที่ "ราคาที่คุณซื้อเอาไว้" หลังจากมันพาทัวร์ขุมนรกอยู่หลายปี
...คุณก็จะขาย "เท่าทุน" อยู่ดีครับ
และ..หลังจากนั้น มันก็มักจะไปต่อซะด้วยสิ 5555
BTCUSD : ตั้งแต่ต้นปี 2021 เป็นต้นมา โดนทุบทุกๆ กลางเดือน มาตลอดถ้าเราเปิดกราฟของ Bitcoin ย้อนหลังไป จะเห็นว่า
ทุกๆ ช่วงกลางเดือน พูดง่ายๆ ก็คือ วันที่ 14 ของทุกเดือนเลยก็ยังได้
Bitcoin โดนกดราคากันอย่างต่อเนื่อง ตลอด 10 วัน
ไปจนถึง bottom ประมาณช่วงก่อนสิ้นเดือนเสมอ
ถามว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ผมเองก็ไม่ทราบได้
แต่ถ้าจะให้เดา ก็มีความเป็นไปได้ว่า เป็นการหมดสัญญา Future Contract ของ Bitcoin Future
ไม่ว่าจะเป็นของ CME หรือของ Exchange ต่างๆ ที่มี Future Contract ให้เทรดกัน
ดังนั้น.. ถามว่า การทุบวันนี้ มันจะจบแล้วไหม? ส่วนตัว ตามข้อมูลนี้ ก็คิดว่า "ยังลงต่อได้อีก"
ส่วนจะลงต่อถึงไหนนั้น ก็ไม่อาจจะทราบได้ 555 แต่ถ้าเราดูกราฟแล้ว ดูแนวรับเลขกลมๆ
การที่ BTC จะหลุดโซน 50k-60k ไปวิ่งเล่นที่โซน 40k-50k ก็มีโอกาสเป็นไปได้ครับ
ส่วน Altcoins ทั้งหลายที่แข็งๆ กัน ถ้า พี่หญ่ายเขาจะเปลี่ยนโซนเล่นจริง
ยังไง Altcoins ก็มีโอกาสที่จะร่วงตามครับ คนที่เทรด Alt ก็ต้องระวังในจุดนี้ด้วย
อนึ่ง ทั้งหมด เป็นแค่การสังเกตุนะครับ เดือนนี้ มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้
อย่ามาอ่านบทความจาก random people ในเน็ต แล้วไปตัดสินใจตามแบบมั่วๆ นะ
เงินคุณ แผนคุณ ต้องรับผิดชอบกันด้วยตัวเองไปนะครับ
BTC อยากให้มองเห็นถึงความเป็นจริงของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปของโลก พื้นฐานของ Bitcoin การมีกลุ่มคนหรือนายทุนเข้าซื้อแสดงถึง อนาคตหรือปัจจุบัน Bitcoin จะมาแทนทองคำในรูปแบบดิจิตอล ถามว่าทำไม ต้องศึกษาถึงกลไก ของระบบการทำงานของมันให้ดีถึงจะรู้ว่า มันจะมาแทนโลกการเงินปัจจุบันได้จริงๆ คือ มันอะไรมากกว่าแค่ตัว Bitcoin การเข้ามาระบบ defi ช่วยทำให้เป็นเรื่องง่ายของการเติบโตวงการนี้ อยากให้ลงทุนศึกษาให้ดี #ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
BTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 1/11/2020 by TraderTanราคา Bitcoin ได้พุ่งไปทำจุดสูงสุดในรอบปี 2020 ที่ระดับราคา 14,100 ดอลลาร์ ซึ่งทะลุแนวต้านสำคัญที่ราคา 13,880 ดอลลาร์
Bitcoin มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาทถูกนำไปไว้บน Blockchain ของ Ethereum แล้วโดย อ้างอิงจากข้อมูลของเว็บผู้ให้บริการด้าน blockchain ชื่อดัง โดยเหรียญ ‘โทเคน’ Bitcoin ที่อยู่บน Ethereum นั้นคิดเป็นราว ๆ 0.7% (150,049 BTC) ของจำนวน 21 ล้านเหรียญทั้งหมดที่อยู่ในตลาด และคิดเป็น 4.7% ของมูลค่าตลาดรวมของ Ethereum
และ การหันมาลงทุน bitcoin มูลค่าประมาณ 1.32 หมื่นล้านบาทของบริษัทด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ของ MicroStrategy นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่านักลงทุนสถาบันนั้นกำลังมอง Bitcoin ว่าเป็นตัวเก็บมูลค่าที่ได้รับการยอมรับแล้ว
มีสัญญาณ bearish divergence สัญญาณการบ่งบอกว่าอาจจะได้เห็นขาลงเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หากเจ้ามือเหรียญ BTC โอนเหรียญ จำนวนมหาศาลเข้าไปในเว็บเทรด
แนวต้าน 17183. 01
แนวต้าน 13843.06
แนวรับ 13713.45
แนวรับ 13586.71
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI
- ราคาขยับเข้าสู่โซนกลางและเข้าสู่ขาลง แต่ยังอยู่เหนือโมเมนตัมที่50
Trendline
- เส้นเทรนไลน์เป็นเทรนอัพ (สีแดง) ขาขึ้น
- ราคาสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 13843.06 ได้โดยทำจุดสูงสุด ที่ราคาเหนือ 14000 อาจจะมีการเทขายระยะสั้น เพื่อย่อและขึ้นต่อ เนื่องจากยังเป็นเทรนขาขึ้น
ทางเลือกในการลงทุน
เล่นตามกรอบ แนวรับแนวต้าน และ เส้นเทรนไลน์
1.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 13843.06 เข้าขาย(sell) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 13586.71
2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 13586.71เข้าซื้อ(buy) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 17183. 01
แนวโน้มของ Bitcoin (BTC) ระยะสั้น EP.2correction นี้อาจปรับตัวจบแล้ว และมีลักษณะเหมือน Truncated Zigzag แต่ถ้าหากมีการ breakout ของเทรนไลน์จะช่วยยืนยันได้ว่าการปรับตัวคลื่นนี้จบลงแล้ว หากราคาลงต่ำกว่า 91718.7 อาจมองได้ว่าขา C ยังไม่สิ้นสุด และแพทเทิร์นโดยร่วมอาจจะเป็น Normal zigzag
กลยุทธ์หลังเกิด Truncated Zigzag
ตั้ง Stop-Loss ใกล้จุดสิ้นสุดคลื่น
Truncated Zigzag มักจะเป็นสัญญาณที่ดีในการบ่งบอกว่าตลาดอาจกำลังเปลี่ยนทิศทางอย่างมีนัยสำคัญ หากคุณวางแผนเทรด ควรติดตามโมเมนตัมและแนวรับ/แนวต้านเพื่อยืนยันแนวโน้มใหม่
เป็นเพียงการคาดการณ์แนวโน้มไม่ถูกต้องตามกฎทั้งหมด อาจไม่ตรงตามที่คาดไว้
แนวโน้มของ Bitcoin (BTC) ระยะสั้นสรุปการวิเคราะห์
A = W-X-Y (zigzag x zigzag)
B = Zigzag (elongate flat) หรือ Flat
C = Impulse หรือ Ending Diagonal
เราควรทำอย่างไรเมื่อราคามาถึง B?
โครงสร้างของ B สมบูรณ์หรือยัง?
อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค: เช่น RSI หรือ MACD เพื่อตรวจสอบ Divergence?
หากราคาทะลุเส้นแนวโน้มของคลื่น B อาจเป็นสัญญาณยืนยันว่าคลื่น C กำลังเริ่ม?
เป็นเพียงการคาดการณ์แนวโน้มไม่ถูกต้องตามกฎทั้งหมด อาจไม่ตรงตามที่คาดไว้
ทุก 1 ปีหรือ 1.5 ปี หลัง Halving มักจะมีการร่วงลงของราคาบิทคอยผู้เขียนขอเกริ่นนำก่อนที่จะเริ่มบทวิเคราะห์นี้ โดยการขอเกริ่นนำคร่าวๆ ว่า Bitcoin halving และการขุดเหรียญ Bitcoin ขึ้นมาคืออะไร คืออะไร อาจจะไม่ถูกเป้ะๆ แต่เพื่อความง่าย ขออธิบายประมาณนี้ครับ
เรามาเริ่มกันเลย!
ด้าน Quality data และ Quantity data
การขุดบิทคอยคืออะไร ถ้าจะให้เปรียบง่ายๆ ปริมาณเหรียญ BTC มีทั้งโลกประมาณ 21 ล้านเหรียญ ถ้าเทียบกับทองในโลก การขุดทอง ก็เหมือนกับการขุดบิทคอย เรายังขุดบิทคอยยังไม่ครบ 21 ล้านเหรียญ และปัจจุบันก็ยังมีการขุดต่อเรื่อยๆ เราขุดทองโดยการสร้างเหมืองขุด แต่การขุดบิทคอยคือการเปิดคอมพิวเตอร์ให้ระบบคอมแก้สมการไปเรื่อยๆ จนถอดรหัสออกมาได้ เราก็จะได้บิทคอยมาเป็นรางวัลของการขุดแบบนั้นๆ
ทีนี้ BTC halving คือเหตุการณ์หนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นทุก 4 ปี ตามระบบของมัน ส่งผลทำให้การขุดบิทคอยยากขึ้น แล้วทำให้ปริมาณบิทคอยที่ขุดขึ้นมาหลังจากนั้นจะน้อยลง และเมื่อ Supply น้อยลง หากไม่มีปัจจัย Demand ที่เปลี่ยนแปลง ก็อาจจะทำให้ราคาบิทคอยพุ่งสูงขึ้นตามหลัก supply & demand
เมื่อ halving เกิดขึ้น ก็จะทำให้ขุดเหรียญได้ยากขึ้น ก็จะทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น (หาก demand ยังเหมือนเดิม)
งั้นเรามาดูเหตุการณ์ halving ที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับราคาหลังจาก Halving
1. Halving ครั้งแรก เมื่อ 28 พ.ย. 2012 หลังจากนั้น 1 ปี มีการพุ่งสูงขึ้นของราคาบิทคอย ก่อนที่จะย่อตัวลง
2. Halving ครั้งที่ 2 เมื่อ 9 ก.ค. 2016 หลังจากนั้น 1.5 ปี มีการพุ่งสูงขึ้นของราคาบิทคอย ก่อนที่จะย่อตัวลง
3. Halving ครั้งที่ 3 เมื่อ 11 พ.ค. 2020 หลังจากนั้น 1 ปีได้มีการย่อตัวลง 1 รอบ ก่อนที่จะทะยานตัวกลับไป และหลังจาก halving ครบ 1.5 ปี มีการพุ่งสูงขึ้นของราคาบิทคอย ก่อนที่จะย่อตัวลง
4. Halving ครั้งที่ 4 เมื่อ 19 เม.ย. 2024 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น จะเป็นอย่างไร ไม่มีใครทราบ !
แต่หากจะประเมินตามสถิติ ก็คงจะราวๆ เมษา 2025 หรือ พฤศจิกา 2025 คงจะมีการร่วงลงของบิทคอย
เป็นไปได้มั้ยว่า หากมีคนมองเห็นภาพนี้ก่อนจะชิงขายก่อน ก็ไม่มีใครทราบได้
อีก 1 layer ของการวิเคราะห์ที่นอกเหนือจากเรื่องสถิติ ผมขอวิเคราะห์ด้าน Technical analysis เพิ่มเติม
ด้าน Technical analysis
ส่วนตัวผมค่อนข้างเข้าใจ Elliott wave และ Dow's theory มากกว่าทฤษฏีอื่นๆ ผมขออนุญาตใช้ทฤษฏีดังกล่าวประกอบการวิเคราะห์แล้วกันนะครับ
Wave 1 จากกราฟจะเห็นว่า หากมองภาพใหญ่ๆ การที่ราคาทะยานตัวมาถึง 68000$ เมื่อปี 21
อาจเทียบเท่าได้ว่าเกิด wave 1 (ซึ่งมี sub wave ครบ 5 wave และมี alternation rule ของ subwave 2 และ 4) ซึ่งการทะยานตัวของราคาดังกล่าว ทำให้เป็นช่วงที่คนส่วนหนึ่งเริ่มรู้จักบิทคอยและเข้าซื้อตาม
Wave 2 จากกราฟจะเห็นว่ามีการเทขายลงมาเหลือราวๆ 15000$ (เทียบ Fibo ราวๆ 78.6) ในปี 22 ปัจจัยแวดล้อมช่วงนั้นก็จะเป็นการทำ Quantitative Tightening จาก Federal reserve และสงครามส่งผลให้คนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง (ในมุมมองของนักลงทุนเวลานั้น) และเกิด Panic sell ระดับใหญ่ ผู้คนที่เคยเข้าซื้อ ออกจากตลาดกันค่อนข้างเยอะ และเริ่มมองภาพลบต่อบิทคอย
Wave 3 นั่นคือช่วงเวลาปัจจุบันนี้ หากลองเทียบ Fibonacci ratio ส่วนมาก wave 3 มักจะราคาพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ wave 1 ราวๆ 123.6%-161.8% หรือบางตำราอาจจะไปถึง 200-300%
ส่วนตัวผู้เขียนประเมินคร่าวๆ ว่าราคาอาจจะไปถึงช่วง ราวๆ 100000-130000$ ก็น่าจะเต็มกลืนแล้ว
ประกอบกับเส้นประสีเขียว ที่แตะเมื่อไหร่มักจะมีการร่วงลงของราคา จึงประเมินว่า Risk ของขาลงเริ่มเพิ่มมากขึ้น สวนทางกับข่าวสารปัจจุบันที่อาจจะมองบิทคอยในแง่ดี
ทั้งนี้การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้เขียนไม่ประสงค์ชี้แนะแนวทางการลงทุนใดๆ การลงทุนของผู้ลงทุนควรจะต้องเกิดจากความเข้าใจในตัวสินทรัพย์นั้นๆ และเหตุการณ์เศรษฐกิจโลก รวมถึงมีการประเมินความเสี่ยงอย่างครบถ้วน สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านโชคดีในโลกของการลงทุนครับ ขอบคุณครับ
ตลาดคริปโตพุ่งแรงทั่วกระดานตลาดคริปโตพุ่งแรง Bitcoin ทะลุแนวต้านสำคัญ เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากจุดต่ำสุดเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ Dogecoin พุ่ง 90% หลังการเลือกตั้งทรัมป์ คาดแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องจากการสนับสนุนของ Musk และกระแสเงินไหลเข้ากองทุน ETF
มุมมองทางเทคนิค
BTC ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 74,140 และมีแนวโน้มขึ้นต่อ โดยเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 91,025 และ 100,870 ตามระดับ
วิเคราะห์ทิศทางราคาของ Bitcoin (BTCUSDT)
1. รูปแบบราคา (Price Action):
มีการทำ Higher Lows (HL) และ Lower Highs (LH) ซึ่งบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวในกรอบ (consolidation) หรืออาจจะเป็น sideway ได้
จุดสูงสุด (Highs) ที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุด (Lows) ที่ต่ำลงบางจุดบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่ชัดเจนว่าจะเลือกฝั่งใด โดยการ Breakout ของเส้นแนวต้านหรือแนวรับสำคัญจะเป็นตัวชี้ขาด
2. RSI (Relative Strength Index):
RSI ในช่วง Timeframes ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน neutral zone ยกเว้นกราฟ 4 ชั่วโมง ที่ RSI อยู่ในโซน Overbought (73.50%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแรงซื้อมากเกินไปในช่วงเวลานี้ อาจมีการปรับฐาน (correction) ในระยะสั้นได้
RSI 1 วันและ 1 สัปดาห์ยังเป็น Neutral ซึ่งบ่งบอกว่าราคายังไม่ถึงระดับที่เป็นการซื้อหรือขายเกินไป
3. จุดสำคัญอื่น ๆ:
การเคลื่อนไหวผ่านเส้น BOS (Break of Structure) และ CHoCH (Change of Character) ในบางจุด บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางในบางช่วง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักเทรดในการจับทิศทางต่อไป
หากราคาสามารถ breakout ผ่านจุด LH (Lower High) ล่าสุด อาจเป็นสัญญาณของขาขึ้น
หากราคาหลุดระดับ HL (Higher Low) ที่มีการทำจุดต่ำสุดลง (LL) ราคามีแนวโน้มจะลงต่อได้
4. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance):
แนวต้านที่แข็งแรงอยู่ที่ประมาณ 66,000 USDT (ใกล้กับระดับ LH) หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจส่งสัญญาณการขึ้นต่อ
แนวรับสำคัญอยู่ที่ 63,379.5 USDT หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาลง
สรุป: ในระยะสั้น ราคามีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจาก RSI บางช่วงเวลาแสดงว่าอยู่ในภาวะซื้อเกินไป (Overbought) แต่ในระยะยาวหากราคาสามารถทะลุแนวต้านหลักและทำ Higher Highs ต่อเนื่องได้ อาจส่งสัญญาณขาขึ้น
ดูเหมือนว่าราคากำลังอยู่ในลักษณะของ Rising Wedge เนื่องจากมีการทำ Higher Lows ต่อเนื่อง แต่การเคลื่อนไหวของราคามีการบีบตัวเข้าแคบลง หากราคาทะลุลงจากแนวรับของ Wedge อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลง
จุดที่น่าสนใจคือถ้าราคาหลุดออกจากแนวรับที่ระดับประมาณ 63,379 USDT (จากข้อมูลที่แสดง) อาจเป็นสัญญาณยืนยันของการปรับตัวลงตาม Rising Wedge Pattern นี้
สรุปเกี่ยวกับ Wedge Pattern: ในกราฟนี้ ดูเหมือนจะมีลักษณะของ Rising Wedge ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงหากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านได้และหลุดออกจากแนวรับ
BTCUSD เตรียมย่อชุดสุดท้ายเพื่อพุ่งทะยานสู่ 70,000Bitcoin บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานเกือบ 5% ทะลุระดับ 63,000 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ 0.50% ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยขาลงอย่างน้อยจนถึงปี 2569
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่วานนี้
ทั้งนี้ การผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดจะทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยหนุนสภาพคล่องในตลาด ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
แนวต้าน
75,000
70,000
65,000
แนวรับ
55,000 แนวรับ
45,000 แนวรับ
35,000 แนวรับ
แนวทางการเทรด
1. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 65,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ซื้อ BUY) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณต้าน 70,000 หรือตามแนวรับต้าน
2. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 60,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ขาย SELL) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณรับ 45,000 หรือตามแนวรับต้าน
BTCUSD บิตคอยน์พุ่งขึ้นยืนโซน 60,000Bitcoin บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานเกือบ 5% ทะลุระดับ 63,000 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ 0.50% ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยขาลงอย่างน้อยจนถึงปี 2569
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่วานนี้
ทั้งนี้ การผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดจะทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยหนุนสภาพคล่องในตลาด ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
แนวต้าน
75,000
70,000
65,000
แนวรับ
55,000 แนวรับ
45,000 แนวรับ
35,000 แนวรับ
แนวทางการเทรด
1. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 65,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ซื้อ BUY) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณต้าน 70,000 หรือตามแนวรับต้าน
2. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 60,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ขาย SELL) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณรับ 45,000 หรือตามแนวรับต้าน
BTCUSD Daily Analysis 5/9/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
วันนี้ราคาของ Bitcoin ยังคงมีความผันผวน โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาอาจร่วงลงไปถึงระดับ $40,000 ในเดือนกันยายน เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ย แต่ในขณะเดียวกัน หลายฝ่ายยังมองว่า Bitcoin มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ นอกจากนี้ การเกิดสัญญาณ 'Golden
Cross' ซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่มักบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น กำลังเริ่มก่อตัวขึ้น ทำให้นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งทะยานอีกครั้ง
cr.investing
Trading note:✅
Sell : 58064.76
✅Tp: 57466.04 55847.86
❗SL: 58755.81
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ยังคงเน้นแผนเดิม โดยตั้ง SL ตามแผนที่ว่างใว้
ยัังมีโอาสที่จะลุ้นในการลงต่อ ใครไม่อยากรอหาจังหวะ ปิดบวกได้ ครับ
fibo : เป้าแรก อยู่ที่ 168
เป้ามหาย 60000 คิดว่าปรับฐานที่ 54391.49
RSI: เป็นกลาง
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
XAUUSD Daily Analysis 19/6/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
Bitcoin ทรงตัวอยู่ที่ประมาณ $67,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ยังคงมีความผันผวนสูง ขึ้นอยู่กับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นักลงทุนบางส่วนคาดหวังว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำลง
ผู้เชี่ยวชาญบางท่านคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะแตะ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033
cr.investing
Trading note:✅
Buy : 2316.381
✅Tp: 2327.040 2337.608
❗SL: 2306.533
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคาได้มีแรงซื้อกลับเข้ามา
และสร้างรูปแบบ QM รอจังหวะย่อแล้วเข้าซื้อขายตามโครงสร้าง QM
fibo : ลุ้นย่อประมาณ 50-78 ในการเข้าชื้อ
เป้าหมาย 63861.56 เป้าหมายกำไร 2337
RSI: กำลังขึ้นไปทดสอบ 70
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: การเทรดรูปแบบ QM เป็นรูปแบบที่มีนัยยะสำคัญที่มืออาชีพชอบเทรด และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว หรือ สายสวนเทรน ตามเทรน สามารถที่จะประยุกต์ได้หลอกหลาย
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”