Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวรับทางจิตวิทยา 1,500 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนจากแรงซื้อและแรงขายที่มีเข้ามา แรงขายในช่วงปลายตลาดกดดัชนีตลาดปรับตัวลงปิดที่ 1,513.26 จุด ลดลง 10.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล โดยดัชนีตลาดมีแนวโน้มที่จะพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,500 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นปิดในแดนบวก ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น บวกกับแรงหนุนของหุ้น Apple, Intel และ Microsoft
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลงทดสอบแนวรับของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,510 จุด แท่งเทียนเกิดเป็น Inverted Hammer ในเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล ช่องว่าง (Low Price Gapping Play) ที่ 1,546 – 1,569 จุด จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านเมื่อดัชนีตลาดปรับตัวขึ้น สัญญาณช่องว่างขาลงเป็นสัญญาณลงต่อเนื่อง ดังนั้น ดัชนีระยะสั้นจะปรับตัวขึ้นเพื่อปิดช่องว่าง (Filling the gap) เพื่อลงต่อ
ดัชนีตลาดทรุดตัวลงทำจุดต่ำที่ 1,507 จุด กึ่งกลางลำตัวของแท่งเทียน Bearish Candlestick จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,536 จุด ดัชนีตลาดยังมีทิศทางปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,500 จุด
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) ลงเป็นคลื่น 4) ตามหลักการ คลื่น 4) ต้องไม่ซ้อนทับกับคลื่น 1) ตามกฎ Overlapping วิกฤติเศรษฐกิจ งบประมาณที่ล่าช้า และการระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้รูปแบบของคลื่นเอลเลียตขาดความชัดเจนและแน่นอน
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ โดยสัญญาณ Modified Stochastic และ RSI ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกิน ภาวะขายมากเกินจะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดระยะสั้นปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับขึ้นเพื่อปรับฐานเนื่องจากดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,528 – 1,533 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,500 – 1,486 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และถือเงินสด 90 เปอร์เซ็นต์
ค้นหาในไอเดียสำหรับ "APPLE"
Por : Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
แนวต้านทางเทคนิคัลที่ 1,590 จุด
นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้น หลังมีสัญญาณในทางบวกในปัญหาตะวันออกกลาง แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาด ดันดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นปิดที่ 1,579.64 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.65 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลขัดแย้งกัน ดัชนีตลาดจะเปลี่ยนทิศทางเป็นตลาดขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,590 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป ต่างชาติกลับมาขายสุทธิในรอบ 5 วัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กกลับมาสดใส ดาวโจนส์บวกกว่า 200 จุด โดยมีหุ้น Apple เป็นตัวขับเคลื่อน นักลงทุนคลายความกังวลจากปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน วิกฤติตะวันออกกลางสร้างความปั่นให้กับตลาดทุน ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง ดัชนีกำลังทดสอบแนวต้านของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) โดยมีช่องแนวโน้มขาลงเป็นแนวต้านร่วม ดัชนีตลาดจะยืนยันการเปลี่ยนทางเป็นตลาดขาขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,590 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีทิศทางแกว่งเข้าหาแนวต้านของช่องแนวโน้มขาลงที่ 1,590 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น 4,E,(c) ที่ 1,543 จุด เมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ RSI และ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic เป็นบวก สัญญาณทางเทคนิคัลขาดทิศทางที่แน่นอน จะส่งผลให้ดัชนีตลาดแกว่งผันผวนออกด้านข้าง ดัชนีตลาดจะยืนยันทิศทางการปรับตัวขึ้นเมื่อดัชนีตลาดสามารถยืนปิดเหนือ 1,590 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 6 หมื่นล้านบาทขึ้นไป
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,585 – 1,590 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,571 – 1,566 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ระดับพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือล้างพอร์ต
NZD/JPY : ยังคงมีความผันผวนตาม Nikkei ฟิวเจอร์NZD/JPY : ยังคงมีความผันผวนตาม Nikkei ฟิวเจอร์
คำแนะนำทางด้านการเทรด:
คู่สกุลเงินนี้จะมีความผันผวนอย่างให้น้ำหนักไปยังตลาดหุ้น Nikkei ฟิวเจอร์เนื่องจากว่าในการเปิดตลาดในเวลาสหรัฐอเมริกาของค่ำคืนนี้ต้องรอดูว่าตลาดหุ้น Nikkei ฟิวเจอร์จะมีการกดดันมาจากตลาดหุ้นหลักหรือไม่โดยที่ตลาดหุ้นหลักมีการส่งสัญญาณออกมาในทิศทางที่แย่ในส่วนของ Apple ดังนั้นต้องเราดูในการเปิดตลาดในครั้งนี้และต้องรอดูในส่วนของแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
โดยที่ถ้าเกิดว่ามีการดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องควรติดตามในแนวต้านแรกก็คือ 72.970 และถ้าเกิดแม่ยังสามารถดีดตัวขึ้นไปได้ควรติดตามสองแนวต้านสุดท้ายก็คือ 73.641 และ 74.180 เป็นกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญอย่างมาก
แต่ถ้าเกิดว่ามีการกับตัวร่วงลงควรติดตามแนวรับที่สำคัญก็คือ 70.777 ซึ่งต้องรอดูว่าในส่วนของการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นทั้งสกุลเงินนิวซีแลนด์มีการอ่อนค่าลงหรือว่าสกุลเงินเยนมีการแข็งค่าขึ้นนั้นแนวรับสุดท้ายก็คือ 70.358 ต้องรอดูว่าจะสามารถทะลุลงหรือไม่ถ้ามี การทะลุลงไปได้อาจจะอยู่ในเทรนทิศทางขาลงระยะกลางถึงระยะยาว
Technical Analysisตลาดหลักทรัพย์ไทย
กนง.คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50%
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งผันผวนในกรอบแคบๆ แรงซื้อขายที่มีเข้ามาอย่างไร้ทิศทาง ดัชนีตลาดปิดที่ 1,652.30 จุด ลดลง 7.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.48 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลระยะสั้นและระยะกลางเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,642 – 1,632 จุด ต่างชาติเดินหน้าขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลง ราคาหุ้น APPLE ดิ่งลง 2.82% (ราคาหุ้นแอ๊ปเปิ้ลจากต้นเดือนตุลาคมปรับลดลง 19.51% เริ่มเข้าสู่ภาวะตลาดหมี) ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซา
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดผันผวนแคบๆ เหนือแนวรับ 50.0% Fibonacci Retracement ที่ 1,642 จุด การเรียงตัวของเส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เรียงตัวแบบตลาดขาลง สอดคล้องกับสัญญาณ DMI ดัชนีตลาดมีแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,632 จุดเป็นแนวรับถัดไป มูลค่าการซื้อขายที่ลดลงทำให้สัญญาณลบทางเทคนิคัลลดลง
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงพักตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) โดยดัชนีตลาดมีโอกาสพักตัวลง 3 แบบ คือ
รูปแบบแรก คือ ดัชนีตลาดจบคลื่น (ii) ที่ 1,596 จุด ดัชนีตลาดจึงพักตัวลงเข้าหาแนวรับที่ 1,640 – 1,620 จุด เพื่อสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher low) แรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มนำตลาดด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น (iii)
แบบที่สอง คือ ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,600 – 1,584 จุด และเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยันการจบคลื่น (ii) ก่อนปรับตัวขึ้นเป็นคลื่น (iii)
แบบที่สาม คือ ดัชนีตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1,584 จุด ดัชนีตลาดปรับตัวลงเป็นคลื่น 4 โดยมีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวเป็นแนวรับอยู่ที่ 1,555 จุด ก่อนที่จะซิกแซกเป็นคลื่น (i)-(ii)-(iii)-(iv)-(v) ตามลำดับ
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณ MACD เป็นบวก ขณะที่สัญญาณ Modified Stochastic และ RSI เป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดอยู่ในช่วงปรับตัวลดลง
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,660 – 1,665 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,646 – 1,640 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ดัชนีตลาดระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนในทิศทางปรับตัวลง
กรณีที่ดัชนีตลาดปรับลดลงเข้าหาแนวรับของจุดต่ำเก่าที่ 1,584 จุด และเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จะเป็นสัญญาณกลับเข้าตลาดเพื่อทยอยเข้าซื้อ หรือเข้าซื้อเมื่อดัชนีตลาดสร้างจุดต่ำยกสูง (Higher low) และมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Google Buy on dipsกลุ่มหุ้น FAANG Facebook (FB), Amazon (AMZN), Apple (AAPL), Netflix (NFLX), and Alphabet (GOOG) หรือกลุ่มหุ้นที่เป็นที่นิยมเพราะคนรู้จักทั่วโลก
มักจะมีรูปแบบราคาที่มีเทรนด์ชัดเจน การย่อตัวและความผันผวนไม่สูงแบบคริปโตเคอเรนซี่
หากเราวางกลยุทธ์ขาซื้อกับคริปโตโดยรอการย่อต่ำค่อยเริ่มสะสม position buy เราสามารถรอราคาลงต่ำกว่า 50% ถึงจะเริ่มพิจารณาการเข้าสะสมได้
แต่กับหุ้นหลายๆตัวนั้นต่างออกไป การรอให้ราคาต่ำกว่า 50% อาจเป็นไปได้ยาก (แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้)
ในกรณีนี้เราจะเลือกกลยุทธ์ที่เล่นต่างจากคริปโตเคอเรนซี่ โดยกลยุทธ์หนึ่งที่เราชอบคือ Buy on dips หากสินค้าเป็นเทรนด์ขาขึ้น เรารอให้ราคาย่อลง แล้วเข้าซื้อในบริเวณนั้น
ซึ่งจะทำให้ระยะ SL ของเราสั้น ขณะที่ TP ตั้งที่ All time high หรือสูงกว่านั้น (แบ่งยิงเป็นหลายนัด ปิดตามระยะ TP1 TP2...)
Reward to Risk Ratio ที่ได้เปรียบ และใช้การทำ Money management โดยคุมให้ 1 สินค้านั้นเราใช้มาร์จิ้นเพียงแค่ 2% จากทั้งหมด
ตัวอย่างการวางกลยุทธ์ - Money Management
- เราพิจารณาแนวโน้มระดับกลางว่าตอนนี้ Google เกิดการตกลงในช่วงก่อนหน้าจากความกังวลของนักลงทุนต่อภาพรวมของสหรัฐ จากนั้นเริ่มมีสัญญาณกลับตัวขึ้นมาอีกครั้งจนก่อเป็นรูปแบบการวิ่งแบบ Ranges (Sideway)
ในกรอบแนวรับสำคัญคือ 1000 แนวต้านสำคัญคือ 1200
หากมาร์จิ้นต่อการซื้อ 1 นัดคือ 25 USD โดยวาง SL บริเวณ 950 ได้ (และมาร์จิ้นบริเวณนั้นจะเหลือเข้าใกล้ 0)
แล้วเราออกแบบแผนการยิงในพื้นที่โซน 1000-1200 ด้วยจุดยิงดังรูป (เส้นประสีเขียว) รวม 4 นัด = 100 USD
ในหลัก 1% rule คือเมื่อ SL เงินทุนเราจะหายไปเพียง 1% ดังนั้นในการวางแผนนี้เราควรมีทุน 10000 USD แล้วยิงตามแผนนี้ได้ 4 นัดตามกริดสีเขียว
ค่าเฉลี่ยของทั้ง 4 นัดจะอยู่บริเวณ 1100-1000 ซึ่งถือว่ามี RRR ได้เปรียบ หาก TP บริเวณ All time high 1200
// หากให้เดา predict อนาคตเล่นๆ ขอเดาว่าราคาจะวิ่งทำทรงสามเหลี่ยม เพื่อสะสมแรงก่อนเลือกทางต่อไปในกรอบ 1033-1106 ดังนั้นสามารถใช้ Bolinger Band จับการเบรคเพื่อยิงซื้อก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
* สามารถดู Stochastic หรือ RSI ประกอบเพื่อยืนยันรูปแบบการยกตัวหรือกดตัวของราคาประกอบการวิเคราะห์ก็ได้