วิเคราะห์คลื่น AOT แนวรับปรับฐาน ABC ของคลื่น 2 หลักจะลงไปถึงไหนโครงสร้างการปรับฐานคลื่น 2 หลัก ของ AOT เป็นรูปแบบ Expanded Flat Correction ABC มีลักษณะชัดเจน โดยเฉพาะถ้าคลื่น B วิ่งเกือบเท่าจุดเริ่มต้นของคลื่น A ที่ 79% และตอนนี้คลื่น C กำลังเข้าสู่ขาลงแบบ impulsive ซึ่งถ้าอยู่ในช่วงต้นของคลื่น 3 ของ C จริง ก็เป็นช่วงที่มีพลังแรงขายส่งมากที่สุด
wave A: เคลื่อนไหวแบบ corrective 3 คลื่นลง แบบเร็วและรุนแรง
wave B: เด้งกลับ 3 คลื่นขึ้น และเลยจุดเริ่มต้นของ A มักจะไปถึง 123.6% ของคลื่น A หรือมากกว่า
wave C: เริ่มคลื่น 1 ด้วยรูปแบบ leading diagonal เป็นคลื่นส่งเพื่อเข้าสู่คลื่นที่ 3 ของ C ซึ่งมักเป็นคลื่นที่แรงที่สุด
**เล่นเก็งกำไรคลื่น 4 ของขา C**
หากนี่คือโครงสร้างของคลื่นลูกที่ 2 จริง โซน แนวรับที่ควรจับตาคือบริเวณที่ 123.6% ของ Fibonacci extension ของคลื่น A ที่ราคา 30 บาท หากกลับขึ้นไปยืนได้มีโอกาสแกว่งตัวทำคลื่น 4 ที่ 40 - 42 บาท แนวโน้มเบรคเส้นกดแนวต้านที่ค่อนข้างชันของคลื่น 3 ขา C ให้ได้ก่อน
AOT เพิ่งร่วงแรงมาปิดที่ 29.75 โดยมี RSI รายสัปดาห์อยู่ที่ประมาณ 15 คลื่น C ที่ยังไม่จบ กำลังอยู่ในช่วงท้ายของคลื่นย่อยที่ 5 ของคลื่น 3 สนับสนุนด้วย RSI bullish divergence เล็กๆ อาจจะกำลังรอการ flush ออกสุดท้ายก่อน reversal เขย่ารายย่อยก่อน 1 - 2 รอบ
เป้าหมายสุดท้ายการย่อคลื่น C ที่โซน 161.8% ความยาวของคลื่น A จะเป็นเป้าหมายเดียวกันกับรูปแบบกลับตัว Tripled Top / Triangle ABCD ด้านบน
***อย่าลืมว่า correction คลื่น 2 ที่ลึก มักจะตามมาด้วย momentum คลื่น 3 ที่น่าสนใจครับ ****
Priceaction
ถอดรหัสคลื่น CPALL - WXY แนวรับคลื่น Y โครงสร้างคลื่น W–X–Y ของ CPALL มีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะเมื่อคลื่น X มีลักษณะซับซ้อนและใช้เวลานานกว่าปกติ flat หรือ combination ที่ลากยาว
การปรับตัวลงในคลื่น Y ดูเหมือนจะใกล้จบ ราคายังไม่สามารถยืนเหนือฟิโบนันชี 78.6% ของความยาวของ คลื่น W ได้ แต่โครงสร้างนี้อาจสะท้อนการปรับฐานที่ใกล้สิ้นสุดแล้วที่เป้าหมายฟิโบนันชี 100% ของคลื่น W ที่ราคา 37.+ บาท
โครงสร้างคลื่น แบบ W–X–Y กราฟรายสัปดาห์
คลื่น W คลื่นชุดแรกของการปรับฐาน
โครงสร้าง Flat ABC ลักษณะเป็นการปรับตัวลงอย่างรุนแรง
คลื่น X คลื่นการปรับฐานชุดที่สองเชื่อมระหว่าง W และ Y ที่มีความซับซ้อน
โครงสร้าง เป็นไปได้ว่าจะเป็น combination (flat + triangle)
ใช้ระยะเวลานาน มีการทับซ้อนของคลื่น และไม่มีการเบรกขึ้นที่ชัดเจน สอดคล้องกับลักษณะของคลื่น X ที่ซับซ้อน Volume ไม่เด่นชัด บ่งบอกว่าอาจเป็นการกระจายของแทนการสะสม
คลื่น Y คลื่นปรับฐานชุดที่สาม ยังไม่มีสัญญาณเบรคกลับตัวระยะกลาง
โครงสร้าง อาจเป็น double zigzag หรือ flat ที่ซับซ้อน
RSI และ MACD ยังอ่อนแรงอยู่ในโซน oversold สนับสนุนว่าอาจยังอยู่ในช่วง correction ขา C ของ คลื่น Y
การปรับฐานคลื่น 4 ที่ลงมาลึกแบบ bull flag จะตามมาด้วยคลื่นขาขึ้นคลื่น 5 แบบขยายของขยายที่น่าสนใจมากในรูปแบบ Terminal Impulse Extended Wave 5 ที่คลื่น 4 มีลักษณะซับซ้อนและใช้เวลานาน
ข้อสังเกตุจากนี้ไป อาจเกิด Throw-under หลุดแนวรับเดิมกรอบล่างฟิโบนันชี 100% สนับสนุนด้วยสัญญาณ RSI bullish divergence ในกราฟสัปดาห์ ก่อนกลับตัวแรงไปคลื่น 5
Invalidation Level: หลุดราคาโซน คลื่น 2 หรือ B ที่ 30-32 บาท
วิเคราะห์คลื่น ADAUSDT คลื่น 3ย่อ4 กับดักหมี เป้าหมายคลื่น 5รูปแบบโครงสร้าง leading diagonal ของ Cadano คลื่น 3 มักแสดงโมเมนตัมที่ยังไม่สมดุลหรือยังไม่จบเนื่องจากการเคลื่อนที่เร็วและรุนแรง แต่ให้น้ำหนักไปที่การย่อ คลื่น 4 ที่กำลังย่ออาจเป็นคลื่น Flat 3 คลื่น wxy หรือ abc ซึ่งจะมีผลกับขนาดคลื่น 5 ถัดไป
สัปดาห์นี้การหลุดแนวรับ SMA200 สัปดาห์อีกครั้งใน Accumulation Zone บ่งชี้ถึงแรงขายที่ยังไม่หมด แม้จะมีแรงซื้อกลับและกำลังแตะฟิโบ 38.2% อีกครั้ง เป็นแนวรับสำคัญที่ทดสอบมาแล้ว 2 ครั้งแล้วมีแรงซื้อกลับ
การทดสอบแนวรับ Fibonacci รอบที่ 3 ถ้าเทียบกับทฤษฎี Wyckoff บางส่วนอาจเรียกว่า “spring” หรือเป็นสัญญาณของการ shakeout เพื่อรีเซ็ตตลาดก่อน reversal แต่ต้องรอดู volume confirm
ลักษณะแกว่งตัวระหว่าง EMA200 กับ SMA200 สัปดาห์ เป็นภาวะ sideways compression ที่น่าสนใจมาก เพราะ มีการทำ momentum squeezed น่าจะได้เห็น direction breakout ในไม่ช้า
ถ้าให้เทียบพฤติกรรมราคาแบบนี้กับจุดกลับตัวของ ADA เมื่อช่วงปี 2021 ก็มี pattern ลักษณะคล้ายกัน โดยเฉพาะเมื่อ volatility หายไปก่อนเกิดการระเบิดของราคา impulsive move
บริบทก่อนเข้าสู่คลื่น 5
Leading diagonal ในคลื่น 3 โครงสร้างแบบนี้มักเกิดหลังคลื่น 1 หรือ A ของขาขึ้น โดยที่แรงยังไม่เต็มที่ขยาย 161.8% ของคลื่น 1 จึงเปิดโอกาสให้คลื่น 5 กลายเป็น strong extension เพื่อชดเชย
การย่อลงมาเป็นคลื่น 4 แบบลึก ใกล้ fibonacci 38.2% โดยทั่วไปคลื่น 4 จะไม่ล้ำเข้าเขตคลื่น 1 แต่สามารถย่อได้ลึกถ้าเป็น zigzag หรือ flat ในรูปแบบ leading diagonal ซึ่งสอดคล้องกับการ test แนวรับโซน 0.5096 ซ้ำถึง 3 รอบ
แนวโน้มและโครงสร้างที่เป็นไปได้ของคลื่น 5
ถ้าแนวรับ 0.5096 ยังไม่หลุด ซึ่งเป็น Fibonacci 38.2% และฐานแนวรับสะสม มีโอกาสสูงที่คลื่น 5 จะขยายตัว (extended 5th wave)
เป้าหมายเบื้องต้นสามารถใช้ Fibonacci Extension ที่วัดคลื่น 3 โดยวัดจากต้นคลื่น 1 ถึงการย่อมาคลื่น 2 เป้าหมายคลื่น 5 - FE 261.8% – 361.8% จากโครงสร้างนี้ ชี้ไปยังโซน 1.50 – 2.00 ดอลล่า (+200% - +300%) และเป็นโซน liquidity หลักของการปรับฐานขาลงรอบใหญ่จึงมีโอกาสเป็นไปได้สูง
จุดเบรคสำคัญ คือ การกลับขึ้นมายืนเหนือ SMA200 สัปดาห์ ราวๆ 0.6767 อย่างมั่นคง
หากหลุดแนวรับ 0.5096 ลงไปพร้อม volume ความเป็นไปได้ของ truncated wave 5 หรือเปลี่ยนโครงสร้างเป็นสูงขึ้น Invalidation level อยู่ที่โซนคลื่น 2 เดิมที่ราคา 0.3238
ต้องระวัง “bear trap” กับดักหมี โดยเฉพาะถ้าแท่งเทียนสัปดาห์แสดง pattern rejection combination อย่าง long lower shadow / piecing บริเวณ EMA200 week แล้วกลับมายืนได้จะเป็นสัญญาณการกลับตัว
SINGER | วิเคราะห์คลื่นปรับฐานเป้าหมายกลับตัว Ending Diagonalวิเคราะห์คลื่นปรับฐานและเป้าหมายกลับตัว
รูปแบบการปรับฐานเป็น 5 คลื่นแบบรุนแรงอิมพัส มีโอกาสเป็นคลื่น A
คลื่น 1 ย่อ 38% ของคลื่นอิมพัสก่อนหน้า
คลื่น 2 รีบาวน์ 50% ของคลื่น 1
คลื่น 3 ปรับฐานที่โซน 161.8%+/- ของคลื่น 1
คลื่น 4 ชนเป้าหมาย 38% ของคลื่น 3 พอดี
กรณีกระทิง: ราคาคลื่น 5 ของขา a กำลังย่อรูปแบบ ending diagonal ทดสอบเป้าหมายแนวรับ ฟิโบนันชี 38% ของความยาวคลื่น 1 ที่ราคา 7.30 บ ที่แนวรับคลื่น 3 เดิม หากไม่หลุดแนวรับนี้ได้ มีโอกาสเบรคเส้นกดแนวต้านและกลับตัวเป็นคลื่น B ต่อไปได้
long position: buy on breakout เส้นกดแนวต้านรูปแบบ descending triangle/ending diagonal
เป้าหมายรีบาวน์แรกที่โซนคลื่น 4 เดิมและ sma400w 16 - 18 บ และ sma200w 27 บ +150 - 250 %
กรณีหมี: หลุดแนวรับฟิโบ 38% แนวรับถัดไปที่ 50% ของความยาวคลื่น 1 ที่โซน 4.50 บ -40%
หากหลุดแนวรับแรกดังกล่าว ตัดขาดทุนออกไปก่อน ถ้ารีบาวน์กลับขึ้นมาแล้วยืนได้จะเป็นสัญญาณบวกค่อยหาจังหวะรับใหม่
ทองจะถึงจุดไหน?การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน:
ราคาทองคำกำลังเพิ่มขึ้น โดยเพิ่งถึงจุดสูงสุดใหม่ประมาณ 2,520 USD อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ยังคงระมัดระวัง โดยรอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อขายที่สำคัญ สัปดาห์นี้ ตลาดจะสนใจรายงานการประชุม FOMC เดือนกรกฎาคมเป็นพิเศษ ซึ่งจะเผยแพร่ในวันพุธ และสุนทรพจน์ของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ที่การประชุม Jackson Hole Symposium ในวันศุกร์
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางและสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังคงสนับสนุนราคาทองคำ (XAU/USD) ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ทำให้เทรดเดอร์ไม่รีบเร่งในการดำเนินการตามคำสั่งขาย แต่กลับต้องใช้ความเกรงใจและระมัดระวังแทน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
ในทางเทคนิค ราคาทองคำทะลุออกจากระยะสะสมและเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน หลังจากเอาชนะโซนแนวต้านที่ 2,509-2,510 USD ทองคำก็มาถึงระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา และปัจจุบันทรงตัวที่ระดับ 2,520 USD กลยุทธ์การขาย (SELL) อาจได้รับการพิจารณาเมื่อราคาเข้าใกล้บริเวณแนวต้านหลัก โดยเฉพาะบริเวณประมาณ 2,533 ดอลลาร์ ซึ่งมีระดับ Fibonacci ที่โดดเด่น
ในทางตรงกันข้าม ระดับแนวรับที่แข็งแกร่งประมาณ 2,472-2,470 USD กำลังทำหน้าที่ป้องกันการลดลง หากมีการปรับฐานที่ลึกกว่านี้ พื้นที่ 2,448-2,446 USD อาจกลายเป็นจุดสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ดึงดูดกำลังซื้อใหม่ และป้องกันไม่ให้ราคาทองคำตกลงไปไกลเกินไป
Resistance 2533 2540
Support: 2494 - 2488 - 2481 - 2475
SELL price zone 2533 - 2535 stoploss 2539
BUY price zone 2477 - 2375 stoploss 2471
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 8 ส.คการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
เนื่องจากความคาดหวังของตลาดสำหรับ Federal Reserve ที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายต่อไปยังคงได้รับการกำหนดไว้อย่างมั่นคง อัตราผลตอบแทนของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทองคำมีการปรับฐานลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การเดิมพันที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง จะยังคงสนับสนุนศักยภาพขาขึ้นของทองคำ
อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันก่อนหน้า โดยบันทึกการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน และสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้โมเมนตัมขาขึ้นอ่อนลงและความน่าดึงดูดของทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน
ทองคำถือเป็นการป้องกันความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากความกังวลของตลาดเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงเพิ่มขึ้น ทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะยังคงแสดงให้เห็นถึงความน่าดึงดูดใจในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ทองคำยังคงมีการซื้อขายภายในช่วงราคา 2380 และ 2415 ทองคำต้องการตัวเร่งปฏิกิริยามากกว่านี้จึงจะหลุดออกจากช่วงราคานี้ได้ บนกราฟจะเห็นได้ว่าราคาเกาะติดกับ EMA 34 ในแนวโน้มขาลง เพื่อให้บรรลุสภาวะตลาดกระทิง ก่อนอื่นทองคำจะต้องปิดแท่งเทียนเหนือโซน 2400 ก่อน ให้ความสนใจกับโซนปฏิกิริยาราคาเพื่อให้มีกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุด
Breakout upper band: 2391 - 2400 - 2406
Breakout lower band: 2381 - 2375 - 2365
Resistance: 2397 - 2400 - 2406 - 2420
Support: 2381 - 2375 - 2370 - 2365 - 2352 - 2345
SELL zone 2405 - 2407 stoploss 2411
SELL zone 2420 - 2422 stoploss 2426
BUY zone 2373 - 2371 stoploss 2367
BUY zone 2347 - 2345 stoploss 2341
ทองฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยแตะระดับ 2,418 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ในช่วงการซื้อขายในเอเชียเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม สปอตทองคำยุติการสูญเสีย 4 ครั้งติดต่อกัน เมื่อความเคลื่อนไหวเพื่อลดภาษีนำเข้าทองคำและเงินของอินเดียคาดว่าจะช่วยเพิ่มความต้องการทองคำทั่วโลก
อินเดียวางแผนที่จะลดภาษีนำเข้าทองคำและเงินอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันอังคาร รัฐบาลอินเดียประกาศแผนการลดภาษีนำเข้าทองคำและเงินจาก 15% เหลือ 6% การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจช่วยเพิ่มอุปสงค์การค้าปลีกและช่วยลดการลักลอบขนของในอินเดีย ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในอินเดียอาจผลักดันให้ราคาทองคำทั่วโลกสูงขึ้น เนื่องจากอินเดียเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับสองของโลก
นอกจากข่าวจากอินเดียแล้ว อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลงยังเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับราคาทองคำที่ฟื้นตัว เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลง 1.5 จุดมาอยู่ที่ 4.24% ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับทองคำ
ผู้ค้ากำลังรอข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนและ GDP ไตรมาสที่ 2 เพื่อวัดความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟด
เนื่องจากทองคำไม่ได้รับดอกเบี้ย การลดอัตราดอกเบี้ยจึงสามารถลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำได้ ซึ่งจะทำให้ทองคำดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น
ให้ความสนใจกับข้อมูลสำคัญของสหรัฐอเมริกา
จุดสนใจในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ข้อมูล GDP ไตรมาสสองของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคารายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ล่าสุดในวันศุกร์ เนื่องจากนี่คือตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ Fed ต้องการ
PCE ที่อ่อนค่าลงคาดว่าจะเป็นผลบวกต่อทองคำ สาเหตุหลักมาจากตลาดจะมั่นใจมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
จากมุมมองทางเทคนิค การฟื้นตัวของสัปดาห์นี้จากแนวต้านที่ 2,385 ดอลลาร์ บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงล่าสุดอาจสิ้นสุดลงแล้วเมื่อคลื่น 5 และ abc ของรูปแบบคลื่น Elliot ได้ผ่านจุดต่ำสุดที่ประมาณ 2,411 ดอลลาร์ ขณะนี้พื้นที่ 2,385 ดอลลาร์จะกลายเป็นจุดสำคัญ และหากแตกหักอย่างเด็ดขาด ราคาทองคำก็อาจดิ่งลงต่อไปอีก โดยไปที่ระดับ Fibo 61.8% ที่ประมาณ 2,366-2,365 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน การเคลื่อนตัวกลับหัวใดๆ เพิ่มเติมอาจพบกับแนวต้านใกล้โซน $2,420-2,422 หากทะลุระดับนี้ ราคาทองคำอาจขึ้นต่อไปยังบริเวณ 2,430-2,432 ดอลลาร์ โมเมนตัมที่แข็งแกร่งสามารถผลักดันราคาเพื่อทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 2,482 ดอลลาร์
Resistance: 2420 - 2431 - 2436 - 2450
Support: 2385 - 2375 - 2368 - 2360
SELL 2431 - 2433 stoploss 2437
BUY 2386 - 2384 stoploss 2380
ทองคำซื้อขายกันอยู่เหนือข้อมูลเศรษฐกิจทองคำส่วนใหญ่เคลื่อนตัวออกข้างเนื่องจากตลาดรอข่าวสำคัญจากข้อมูลนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เนื่องจากจะประกาศวันนี้ (วันศุกร์) การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดขึ้นอยู่กับข้อมูลนี้ ขณะเดียวกันได้รับผลกระทบจากวันหยุดของสหรัฐฯ ปริมาณการซื้อขายในตลาดลดลง และราคาทองคำพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะรักษาระดับขาขึ้นของวันพุธ โดยมีความผันผวนในกรอบแคบแต่ยังคงสูงกว่า 2,350 USD/ออนซ์
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดเพิ่มความคาดหวังว่า Federal Reserve อาจเริ่มผ่อนคลายนโยบายเร็วกว่าที่คาดไว้ แต่ผู้กำหนดนโยบายยังคงระมัดระวังและต้องการเห็นความคืบหน้าของภาวะเงินฝืดต่อไป
ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสหรัฐฯ แสดงให้เห็นการขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และข้อมูลของ ADP แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการจ้างงานภาคเอกชนลดลงในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ ข้อมูล PMI ของสหรัฐฯ อุตสาหกรรมบริการ ISM แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจในอุตสาหกรรมบริการได้ตกอยู่ในโซนลดลง
ในเวลาเดียวกัน คณะกรรมการตลาดกลางสหรัฐ (Federal Open Market Committee) เปิดเผยรายงานการประชุมในเดือนมิถุนายน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เชื่อว่านโยบายปัจจุบันมีข้อจำกัดมาก แต่ก็เปิดช่องให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ผู้กำหนดนโยบายรับทราบว่าเศรษฐกิจกำลังเย็นตัวลงและอาจตอบสนองต่อความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่ไม่คาดคิดได้
วันนี้ (วันศุกร์) สหรัฐฯ จะเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 190,000 ตำแหน่ง ลดลงจาก 272,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม
แน่นอนว่า หากข้อมูล NFP ลดลง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อทองคำ เนื่องจากจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีความน่าสนใจน้อยลง
วิเคราะห์โอกาสทางเทคนิค
ในกราฟรายวัน หลังจากที่ทองคำถูกจำกัดไว้ที่ระดับ 2,364 ดอลลาร์ที่ผู้อ่านสังเกตเห็นในฉบับที่แล้ว ขณะนี้ราคากำลังเพิ่มขึ้นเพื่อทดสอบระดับทางเทคนิคที่สำคัญนี้
ในระยะสั้น เมื่อทองคำทะลุ 2,364 ดอลลาร์ ก็จะมีช่องว่างให้เพิ่มขึ้นต่อไปโดยมีเป้าหมาย จากนั้นตั้งไว้ที่ราคาเดิมที่ 2,400 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน ในกราฟทางเทคนิคโดยรวม ทองคำยังคงมีปัจจัยทางเทคนิคทั้งหมดที่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้ โดยมีระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุดที่จุด Fibonacci 0.236% และแนวรับหลักจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วัน (EMA21)
ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (RSI) ค่อยๆ ขยับขึ้น แต่ยังห่างไกลจากบริเวณที่มีการซื้อมากเกินไป แสดงให้เห็นว่า ยังมีช่องว่างสำหรับการปรับขึ้นราคาอยู่มาก
ในระหว่างวัน แนวโน้มทางเทคนิคมีแนวโน้มอย่างมากต่อความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะสูงขึ้น และจะสังเกตได้จากประเด็นต่อไปนี้
วิเคราะห์ทองคำวันนี้จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนไหวเชิงบวกของทองคำได้รับการต่อต้านที่ช่วงราคา 2,330 จุด EMA 89 ของกรอบ h4 และ EMA 34 ในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวของกรอบ D ขณะนี้แนวกั้นด้านบนขณะนี้ทอดสมออยู่ใกล้ 2,336- 2,338 บัดนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดสำคัญที่สำคัญ ความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนเกินกว่านั้นมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาทองคำกลับเข้าสู่โซนอุปทานที่ 2,360-2,365 ดอลลาร์ การซื้อต่อเนื่องบางครั้งควรลบล้างแนวโน้มเชิงลบในระยะสั้น และเปิดโอกาสให้กระทิงสามารถเรียกคืนเครื่องหมายกลมที่ 2,400 ดอลลาร์ได้
ข้อเสียคือแนวรับรอบ 2300 และ 2295 มีแนวโน้มที่จะป้องกันการลดลงก่อนหน้าแนวรับแนวราบที่ 2,285 ดอลลาร์ การทะลุกรอบที่ต่ำกว่ากรอบ 2285 ที่น่าเชื่อจะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เทรดเดอร์เกิดภาวะหมีทองคำจนถึงโซน 2268 ที่ลึกลงไป
Support: 2310 - 2300 - 2295 - 2285 - 2268
Resistance: 2336 - 2344 - 2355
BUY price range 2312 - 2310 stoploss 2307
SELL price range 2335 - 2337 stoploss 2340
BUY price range 2286 - 2384 stoploss 2281
SELL price range 2354-2356 stoploss 2359
ราคาทองคำดึงดูดผู้ซื้อบางรายเมื่อ FED คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ราคาทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยเชิงบวกและหยุดการลดลงในวันศุกร์จากระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ เดิมพันว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน Fed และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จะให้การสนับสนุน XAU/ USD
ค่าเงินดอลลาร์ยืนใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม และอาจส่งผลกดดันต่อสินค้าโภคภัณฑ์
ตลาดทองคำโลกในสัปดาห์ที่แล้วเป็นหนึ่งในสัปดาห์ที่น่าทึ่งที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำโลกเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างไม่สม่ำเสมอในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับอิทธิพลจากการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด
อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงต่ำ และแม้ว่าประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกของเม็กซิโกได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คณะรัฐมนตรีที่เป็นมิตรกับตลาดหลายคนแล้ว แต่ความตึงเครียดทางการเมืองยังคงสูงในยุโรป (สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร) และสังเกตเห็นความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและฟิลิปปินส์”
ในกราฟ h2 หลังจากที่ทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้าน 2370 ไปถึง 2385 ได้ ทองคำก็ร่วงลงสู่ 2320 หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกจากสหรัฐฯ ว่าเส้นแนวโน้มขาขึ้นยังคงรักษาไว้
ในส่วนของสถานะการปิด ทองคำมีเงื่อนไขที่จะยังคงลดลงต่อไปโดยมีเป้าหมายที่จะไปถึงจุดราคาเดิมที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะสั้น หากทองคำฟื้นตัวได้ดีถึงบริเวณฟีโบนัชชีที่สำคัญประมาณปี 2336 หรือ 2343 ในทางตรงกันข้าม ทิศทาง ทองคำยังคงสามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้ หากระดับแนวรับที่ 2320 นี้ยังคงรักษาและสนับสนุนราคาทองคำที่ซื้อขายสูงกว่า 2343
ภาพทางเทคนิคโดยรวมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยมีการเคลื่อนไหวของราคาจำนวนมากเกิดขึ้นเป็นประจำ และสภาวะทางเทคนิคในปัจจุบันก็สนับสนุนความเป็นไปได้ที่เป็นขาลงมากขึ้น แม้ว่าจะยังมีแนวรับในระยะสั้นที่กล่าวถึงข้างต้นก็ตาม
Support: 2316 - 2311- 2300
Resistance: 2323 - 2337 - 2346
SELL zone 2335 - 2337 stoploss 2340
SELL zone 2346 - 2348 stoploss 2351
BUY zone 2311 - 2309 stoploss 2306
BUY zone 2302 - 2300 stoploss 2297
แนวโน้มขาลงที่ยืดเยื้อสำหรับอนาคตของทองคำ นักวิเคราะห์คาดว่าโลหะมีค่าจะยังคงมีขอบเขตจำกัดก่อนค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ต้องการ
นอกจากนี้ ตามที่นักยุทธศาสตร์ด้านโลหะมีค่าของ Heraeus กล่าวว่า ราคาทองคำจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากการซื้อของธนาคารกลางที่แข็งแกร่ง แม้ว่ากิจกรรมการซื้อของจีนจะชะลอตัว ในขณะที่เงินและทองคำอาจทำให้ความต้องการของอินเดียลดลงในปลายปีนี้
ในการให้สัมภาษณ์กับ Kitco News เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Chantelle Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Capitalight กล่าวว่าเธอคาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว หากเศรษฐกิจเริ่มอ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม นอกจากนี้ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำในระยะยาวอีกด้วย
จากมุมมองทางเทคนิค ความล้มเหลวเมื่อเร็วๆ นี้ในการสร้างโมเมนตัมเหนือโซนแนวต้าน 2334 ทำให้ผู้ขายดันราคาทองคำให้ต่ำกว่า 2300 นอกจากนี้ การทะลุแนวรับแนวรับขาขึ้น การลดลงในระยะสั้นใกล้กับบริเวณ 2,314 ดอลลาร์ ได้ยืนยันแนวรับเชิงลบในระยะสั้น แนวโน้มระยะยาว การดึงราคาทองคำที่ลดลงมีความแข็งแกร่ง การขายในภายหลังบางส่วนต่ำกว่าระดับแนวรับแนวนอนที่ 2,285 USD มีแนวโน้มที่จะฉุดราคาทองคำกลับไปที่ 2265
ในด้านลบ ความพยายามในการฟื้นตัวใดๆ ในตอนนี้ดูเหมือนจะเผชิญกับแนวต้านใกล้กับแนวรับที่ 2,312-2,314 ดอลลาร์ แนวต้านหลักและช่วงราคาทองคำในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2320-2322 โดยแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 34 และ EMA 89 มาบรรจบกันพร้อมกับจุดทะลุราคาทองคำที่ร่วงลงอย่างรวดเร็ว การขยับขึ้นครั้งต่อไปอาจทำให้ราคาทองคำกลับสู่โซนอุปทาน 2,365 หรือกลับสู่จุดสูงสุดที่ 2,400 อันดับแรกทองคำต้องปิดแท่งเทียนรายวันที่สูงกว่า 2,334
Support: 2290 - 2286 - 2270
Resistance: 2311 - 2321 - 2334
SELL price range 23011 - 2303 Stoploss 2316
BUY price range 2291 - 2289 toploss 2286
BUY price range 2271 - 2269 stoploss 2265
SELL price range 2320 - 2322 stoploss 2325
ทำลายทองคำได้สำเร็จ 2,340 ทอง ใกล้ถึงระดับ 2,351ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงจำกัดอยู่ในช่วงการซื้อขายที่คุ้นเคยเหนือระดับ 2,300 USD/ออนซ์ โดยเฉพาะราคาทองคำล่วงหน้าเดือนสิงหาคมซื้อขายที่ 2,333.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ นักวิเคราะห์กล่าวว่าทองคำจำเป็นต้องเห็นการผลักดันที่แข็งแกร่งเหนือ 2,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ความเชื่อมั่นของตลาดที่เป็นกลางจะเริ่มเปลี่ยนแปลง
นักวิเคราะห์ตลาดเชื่อว่าราคาทองคำขึ้นจำกัดอยู่ที่ 2,345 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ในระยะสั้นราคาทองคำอาจอยู่ที่ 2,300 USD/ออนซ์ หรืออาจตกลงมาสู่แนวจิตวิทยาที่ 2,250 USD/ออนซ์ก็ได้
ราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นสู่แนวต้านที่ 2,345 USD/ออนซ์ และแตะระดับสูงสุดที่กำหนดไว้ในวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ 2,364 USD/ออนซ์ ใกล้ระดับสูงสุดในวันที่ 7 มิถุนายน ที่ 2,388 USD/ออนซ์
การวิเคราะห์บน FXStreet แสดงให้เห็นว่าราคาทองคำได้ติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนถึงขณะนี้ โดยหยุดการลดลงก่อนหน้านี้ชั่วคราวในบริบทของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ หากเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวจากข้อมูลยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งหรือความคิดเห็นที่ไม่ค่อยดีนักจากผู้กำหนดนโยบายของ FED ราคาทองคำอาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการขายครั้งใหม่
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ FED บางคนกล่าวว่าสัญญาณใดๆ ของภาวะเงินเฟ้อหรือการผลักดันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มความแข็งแกร่งใหม่ให้กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐโดยเสียค่าใช้จ่ายจากราคาทองคำ
Support: 2332 - 2325 - 2315 - 2305 - 2300 - 2291 - 2286
Resistance: 2340 - 2344 - 2350 - 2355
SELL price range 2353- 2355 stoploss 2359
BUY price range 2310-2312 stoploss 2307
วิเคราะห์สาวทองวันที่ 18 มิถุนายนการซื้อขายช่วงแรกของสัปดาห์ในราคาทองคำมีการลดลงเล็กน้อยเนื่องจากไม่มีข้อมูลสำคัญ ทำให้นักลงทุนโลหะมีค่าระมัดระวัง ราคาทองคำ Spot ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2,318 USD/oz ในช่วงเซสชั่นยุโรป ราคาทองคำอ่อนค่าลงเหลือ 2,315 USD/oz หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย - RBA ออกแถลงการณ์เพื่อรักษานโยบายอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง..
ทองคำถือเป็น "แหล่งหลบภัย" ที่ปลอดภัย เช่นเดียวกับพันธบัตรรัฐบาล แต่ไม่มีดอกเบี้ย ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบอย่างมากจากนโยบายอัตราดอกเบี้ย ไม่เพียงแต่จากเฟดเท่านั้น แต่ยังมาจากประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ อีกหลายแห่งด้วย
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายนีล คาชคารี ประธานเฟดสาขามินนิแอโพลิส คาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงหนึ่งครั้งในปีนี้ และจะรอจนถึงเดือนธันวาคมจึงจะลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนที่เข้มงวดของเฟดในการประชุมครั้งล่าสุด นอกจากนี้ ตลาดจะยังคงพิจารณาความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ Fed อย่างน้อย 3 คน ซึ่งรวมถึงประธาน Fed สาขานิวยอร์ก ประธานสาขา Philadelphia Fed และผู้ว่าการ Fed ซึ่งคาดว่าจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้ .
ปัจจุบันราคาทองคำร่วงลงมาสู่โซนแนวรับสำคัญบริเวณประมาณ 2,310 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภาวะกระทิงไม่ต้องการเห็นแนวต้านนี้พัง เนื่องจากมันจะทำลายโครงสร้างกระทิงและทำลายเส้นเทรนด์ไลน์ จากจุดนี้ แรงกดดันในการขายจะสูงขึ้นมากเมื่อถือว่าแนวโน้มระยะสั้นพลิกกลับได้สำเร็จ และเป้าหมายจะเป็นระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 2,300 USD ซึ่งเป็นระดับแนวต้านที่ค่อนข้างเปราะบางจากการทดสอบหลายครั้งก่อนหน้านี้
Support: 2308 - 2300 - 2291 - 2286
Resistance: 2330 - 2340 - 2350
SELL zone 2338-2340 stoploss 2343
BUY zone 2308 - 230 stoploss 2301
ราคาทองคำวันนี้ โมเมนตัมขาขึ้นยุติลงอย่างรวดเร็วราคาทองคำวันนี้ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อขายที่ประมาณ 2,314 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูญเสีย 0.45% ในระหว่างวัน โดยลดลงมากกว่า 100 pip ในช่วงการซื้อขายในเอเชียช่วงแรก
แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากเมื่อคืน ช่วยให้ทองคำแตะเกือบ 2,350 USD แต่โลหะนี้ไม่สามารถรักษาการฟื้นตัวได้ แม้ว่า USD จะร่วงลงหลังจากสหรัฐฯ ประกาศข้อมูลเศรษฐกิจก็ตาม
ดังนั้นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจึงร่วงลงหลังจากสหรัฐฯ ประกาศว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนพฤษภาคมเย็นลงเร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายน ซึ่งก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
พยากรณ์ราคาทองคำ:
- ในส่วนของข่าว: Fed จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ โดยมีโอกาส 80% ที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน นี่ก็หมายความว่าราคา USD จะลดลงและทองคำจะได้รับประโยชน์เช่นกัน .
- ปัจจัยทางจิตวิทยาและเทคนิค: ทองคำยังอยู่ในช่วงราคาตก ตลาดในระยะสั้นและกลางยังคงให้ความสำคัญกับการขายทองคำ EMA และเส้นแนวโน้มยังคงเป็นที่ชื่นชอบของตลาดหมี!
่๋่JMT วิเคราะห์คลื่นเป้าหมายปรับฐาน ABC doubled bull diวิเคราะห์คลื่นกราฟรายสัปดาห์ ย่อพักฐาน ABC -
> ราคาย่อพักฐาน 7 คลื่น มีโอกาสเข้าโซนคลื่น 5 ของคลื่น C
> ราคาย่อมาที่เป้าหมายกลับตัว ฟิโบนันชี 78.6% จากยอดแล้วไม่ทำราคาไม่หลุดกว่า 10 สัปดาห์
> เป็นโอกาสเล่นเก็งกำไรระยะสั้น เป้าหมายแนวต้านเส้นดาวน์เทรนแชนนัล ema25w
> หากเบรคเอ้าท์เส้นดาวน์เทรนไลน์ คลื่น 2 - 4 หลักได้จะเป็นการยืนยันการกลับตัว
> สนับสนุนด้วย RSI เกิดสัญญาณ doubled bullish divergence พร้อมเกิดสัญญาณที่ปลายคลื่น 5 มีโอกาสจบคลื่น 3 ของ 5 ขา C
ผู้ซื้อได้รับชัยชนะหลังจากการต่อสู้สองสัปดาห์ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจแบบผสมผสานจากสหรัฐอเมริกา ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ ซึ่งสวนทางกับการเคลื่อนไหวของราคาในวันอังคารหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแบบผสมผสาน ข้อมูลนี้สามารถรับประกันต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำกว่าที่กำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐลดลงและดอลลาร์เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถบรรจุโลหะสีเหลืองได้
ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ส่งผลให้ขาดทุนรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3 จุดมาอยู่ที่ 4.297% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ตามรายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอเกินคาด สถาบันการจัดการอุปทาน (ISM) แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวในภาคบริการ โดยหนุนทั้งดอลลาร์และโลหะสีเหลือง
การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานของ ADP กล่าวว่าการจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 152,000 ต่ำกว่าประมาณการที่ 175,000 และต่ำกว่าเดือนเมษายนที่ 188,000 ในสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีราคาการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก แกนกลางของสหรัฐฯ (PCE) ที่ Fed ชื่นชอบ มาตรวัดเงินเฟ้อทรงตัว เพิ่มความหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ตารางเศรษฐกิจสหรัฐประจำสัปดาห์จะรวมการเรียกร้องว่างงานเบื้องต้นในวันพฤหัสบดี ตามด้วยการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือนพฤษภาคมในวันศุกร์
แนวโน้มขาขึ้นของทองคำผลักดันไปที่ช่วง $2,355 ถึง $2,385 โดยทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไม่สามารถผลักดันราคาให้เกินขอบเขตได้ โมเมนตัมชี้ให้เห็นว่าผู้ซื้ออยู่ในการควบคุม ดังที่แสดงโดย Relative Strength Index (RSI) ซึ่งอาจปูทางไปสู่การกลับตัวอย่างต่อเนื่อง
Support: 2358 - 2351 - 2345 - 2340 - 2331
Resistance: 2380 - 2385 - 2390 - 2400 - 2414
BUY zone 2357 - 2355 SL 2351
BUY zone 2341 - 2339 SL 2335
SELL zone 2383 - 2385 SL 2390
SELL zone 2398-2400 SL 2403
การวิเคราะห์ราคาทองคำล่วงหน้าข้อมูล ADP Nonfarm1. ความผันผวนของตลาด:
- ราคาทองคำ (XAU/USD) ดึงดูดการขายบางส่วนและตกลงมาอยู่ที่ $2,316-$2,315 ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์จากวันก่อนหน้า
- การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของเงินดอลลาร์ทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาทองคำ แม้ว่าจะไม่สามารถยั่งยืนได้ เนื่องจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง หนุนโลหะสีเหลืองที่ไม่ให้ผลตอบแทน
- ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังช่วยหนุนราคาทองคำอีกด้วย
2. ปัจจัยที่มีอิทธิพล:
- ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ที่ตกต่ำ เช่น รายงาน JOLTS และ PMI ภาคการผลิตของ ISM บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังอ่อนตัวลง ทำให้เกิดการเดิมพันกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง จำกัดการแข็งค่าของ USD และหนุนราคาทองคำ
- ขณะนี้ความสนใจอยู่ที่รายงานการจ้างงาน ADP ของสหรัฐอเมริกา และ PMI ของบริการ ISM รวมถึงรายงาน Nonfarm Payrolls (NFP) ประจำวันศุกร์
3. การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
- ขณะนี้ราคาทองคำอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย 50 วัน (SMA) โดยออสซิลเลเตอร์ในกราฟรายวันเริ่มได้รับแรงฉุดติดลบ
- การเคลื่อนตัวที่ต่ำกว่า $2,315-$2,314 จะยืนยันถึงภาวะตลาดหมีและอาจลาก XAU/USD ให้ต่ำกว่าระดับ $2,300 ไปยังแนวรับ $2,280
- ราคาที่เพิ่มขึ้นใดๆ จะพบกับแนวต้านที่แข็งแกร่งที่โซน $2,349-$2,350 หากเกินเกณฑ์นี้ ราคาทองคำอาจเคลื่อนไปสู่เกณฑ์ $2,360-$2,364, $2,385, $2,400 และสูงกว่านั้นที่ $2,425-$2,450
สรุปรายวัน:
- ความผันผวนของตลาด: ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจาก USD ที่อ่อนค่าลง และ Fed คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ปัจจัยสำคัญ: รายงาน JOLTS ที่อ่อนแอและ PMI ภาคการผลิตของ ISM การคาดการณ์อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังที่ลดลง และราคาทองคำที่หนุน
- เหตุการณ์สำคัญ: รายงาน PMI ของ US ADP และ ISM Services, รายงาน Nonfarm Payrolls (NFP)
Support: 2322 - 2315 - 2305
Resistance: 2338 - 2348 - 2354 - 2360 - 2374
BUY 2307 - 2305 stoploss 2301
SELL 2348 - 2350 stoploss 2354
ทองแสดงสัญญาณการเย็นตัวลงสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดการเงินระหว่างประเทศได้รับข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกมากมายจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังคงกล่าวสุนทรพจน์โดยกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยการดำเนินงานของ USD จะถูกคงไว้นานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ข้อมูลข้างต้นส่งผลให้ราคาทองคำโลกร่วงลง 80 USD/ออนซ์ในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ตลาดต่างประเทศมีข้อมูลสนับสนุนราคาทองคำว่ากลุ่มฮามาสยิงจรวดจำนวนมากเข้าสู่อิสราเอลตอนกลาง ทำให้เกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในวันที่ 26 พฤษภาคม ตลาดต่างประเทศได้รับข้อมูลสนับสนุนราคา เมื่อวันที่ 26 พ.ค. กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าจากเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา มีการยิงจรวดอย่างน้อย 8 ลูกเข้าไปยังภาคกลางของประเทศ
กองทัพอิสราเอลส่งเสียงไซเรนทั่วภาคกลางของประเทศเพื่อเตือนระวังขีปนาวุธ ในขณะที่ผู้ไกล่เกลี่ยของสหรัฐฯ อียิปต์ และกาตาร์ ยังคงดิ้นรนเพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันราคาทองคำโลกให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้นจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง หรือมีข้อมูลเศรษฐกิจและการเมืองใหม่ๆ เข้ามาช่วย "บรรเทา" ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
ราคาทองคำร่วงลงต่ำกว่า 2,400 USD สู่จุดต่ำสุดของเดือนวิเคราะห์ข้อมูลและข้อมูลยอดนิยม:
เมื่อคืนตามเวลาเวียดนาม ราคาทองคำโลกเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วจาก 2,410 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือ 2,355 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ณ ช่วงเช้าของวันนี้ และไม่มีสัญญาณฟื้นตัวใดๆ แรงกดดันในการทำกำไรมหาศาลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ราคาสร้างสถิติที่ 2,450 USD/oz ในช่วงการซื้อขายแรกของสัปดาห์
ตัวเร่งให้เกิดแนวโน้มขาลงนี้คือรายงานการประชุม Fed เมื่อวันที่ 30 เมษายน ซึ่งเผยแพร่เมื่อเช้าวันนี้ แสดงให้เห็นว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงรักษาจุดยืนที่ "เข้มงวด" ในการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูง สมาชิกบางคนถึงกับแสดงออกว่าพวกเขา "พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น"
การเคลื่อนไหวข้างต้นได้กระตุ้นโมเมนตัมขาขึ้นของ USD อีกครั้งผ่านดัชนีดอลลาร์สหรัฐ USDIDX ประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงแนวโน้มขาลงที่คงไว้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม และเคลื่อนไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาโลหะมีค่าร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดใหม่ของสัปดาห์
การวิเคราะห์กราฟราคาทองคำ (GOLD) ในกรอบเวลา H2
แม้ว่าเราจะได้เห็นสถานการณ์ที่ราคาทองคำอ่อนตัวลง แต่ก็สูญเสียหลักชัยที่ 2,410 USD ซึ่งเป็นระดับแนวรับที่สำคัญที่สุดในระยะสั้น หลังจากที่ราคาทดสอบโซนนี้เป็นครั้งที่สามในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม การลดลงมากกว่า 500 pips ลงมาที่ระดับ $2,355 เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ได้คิด
ผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแรงกดดันในการทำกำไรแบบโดมิโนขนาดใหญ่กำลังเกิดขึ้นอย่างน้อยในระยะสั้น โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากผู้ขายระยะสั้น นักลงทุนเริ่มรู้สึกกดดันอย่างมากที่จะแกว่งตัวขึ้นไปด้านบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ราคาทะลุเส้นแนวโน้มขาขึ้นได้สำเร็จ รวมกับโซนแนวต้าน "แข็ง" ที่ 2,410 USD เป้าหมายของแนวโน้มขาลงคือการกระจายตัวให้ต่ำกว่าบริเวณแนวรับ $2,335 ซึ่งเป็นระดับแนวต้านที่สำคัญถัดไปที่จะกำหนดว่าแนวโน้มขาขึ้นจะกลับมาในสัปดาห์นี้หรือไม่
ขณะนี้พื้นที่ 2,355 USD ยังคงราคาไว้และแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันในการตกปลาที่นี่ แม้ว่าจะไม่สำคัญมากนัก แต่เป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับผู้ซื้อ พวกเขาจะหวังว่าราคาจะสามารถทะลุเส้นแนวโน้มขาลงเล็กๆ เพื่อฟื้นตัวเหนือระดับที่สูงขึ้น เช่น: 2,388 หรือ 2,393 USD หากตลาดรู้สึกว่ากำลังซื้อยังคงอ่อนแอ สิ่งต่างๆ อาจแย่ลงในช่วงการซื้อขายที่กำลังจะมาถึงสำหรับราคาของโลหะมีค่านี้
ขาย ช่วงราคา 2403 - 2405 หยุด 2409
ซื้อช่วงราคา 2335 - 2333 หยุด 2329
พื้นที่ราคาที่ควรทราบ: 2345-2343, 2319 -2317
ASIAN แกะรอยคลื่นย่อพักฐานเป้าหมายรูปแบบ Extended Flat รูปแบบการย่อพักฐานแบบ Extended / Elongated Flat 3-3-5 ABC
w.A ย่อ 3 คลื่น abc ที่ความยาว 38.2% ของคลื่นอิมพัสก่อนหน้า
w.B รีบาวน์ 61.8% weak b บ่งบอกถึงแนวโน้มการย่อคลื่น C ที่มากกว่า 138.2%
w.C รูปแบบอิมพัสเร็วและรุนแรง รูปแบบโครงสร้าง 5 คลื่น ซึ่งกำลังย่อตัวไปทดสอบเป้าหมายที่ความยาวโซน 161.8% ของคลื่น A และยังเป็นโซนเป้าหมายของรูปแบบ head & shoulders
> C.1 รูปแบบอิมพัสแบบสั้นย่อ 38.2% ของคลื่น B ก่อนหน้า
> C.2 รีบาวน์ 78.6% เป็นคลื่นหลอกกระทิงหรือคลื่นดอยว่าจะกลับตัวขึ้นต่อ ทำให้สัญญาณ RSI ดีดตัวขึ้นก่อนทุบลง
> C.3 แบบนี้ถือว่าเป็นรูปแบบที่หายาก มีส่วนต่อขยายมากถึง 561.8% ของคลื่น 1 แล้วดึงกลับอย่างรวดเร็วเป็นคลื่น 4
> C.4 รูปแบบ ซิกแซก abc แต่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเหมือนอิมพัสมี a ยาวกว่า c เป็น c-failure แสดงให้เห็นอีกถึงความอ่อนแอของราคาหุ้น รอการย่อตัวที่จะลงลึก
> C.5 สนับสนุนด้วยสัญญาณ RSI bullish divergence มีโอกาสเป็นรูปแบบกลับตัว ending diagonal ที่คลื่นสิ้นสุดที่เป้าหมายโซน 5 บ ของรูปแบบการย่อ elongated flat.
คลื่น 5 ที่เป็น ending diagonal จะมีโครงสร้างภายใน 3-3-3-3-3
สัญญาณกลับตัวสนับสนุนด้วย RSI สัปดาห์ เกิดเบรคเอ้าท์เส้น downtrend line
รอการยืนยันการเบรคเอ้าท์ downtrend triangle / falling wedge เพื่อเป็นการยืนยัน RSI เกิดสัญญาณเบรคเอ้าท์และจะเป็นการเบรคเส้น 200 วันอีกด้วย
SABUY วิเคราะห์คลื่นเป้าหมายรูปแบบ skewed triangleการวิเคราะห์คลื่น bearish scenario ของหุ้น SABUY ในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนโดยใช้กฎพื้นฐานคลื่น ร่วมกับการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวและรูปแบบของราคา แนวรับแนวต้าน เส้นแนวโน้มการเก็บสะสมหรือการกระจายหุ้น และสัดส่วนฟิโบนันชี ในช่วงเวลาระยะกลาง เพื่อหาจุดสมดุลย์ที่เหมาะสมและความน่าจะเป็นมากที่สุด confluence & high probability wave analysis การวิเคราะห์คลื่นไม่ใช่เครื่องมือพิเศษมากกว่าอย่างอื่นๆ แต่เป็นการวิเคราะห์เพื่อหาแนวโน้ม คลื่นจะกลับตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับ market maker และการออกแบบคลื่นระบบ AI algorithm เมื่อกราฟเฉลยตลาดจะถูกเสมอ
SABUY รูปแบบคลื่นขาขึ้นเป็น ABC หรือ wave 5 failure คลื่นย่อมักจะเป็นคลื่นเก็บของที่มีแรงส่งมากและย่อลึก triple correction สามชุด Flat / Zigzag / triangle
กรณีที่เป็นการขึ้นแบบ 5 คลื่น มีโอกาสเป็นรูปแบบเก็บของคลื่นสุดท้ายเพื่อกลับตัว
ชุดนี้ดูเหมือนจะเป็นชุดที่ 3 ใกล้เป็นคลื่นจบ ราคาขึ้นไปไซด์เวย์เส้น 50 วันกำลังทดสอบแนวต้านรูปแบบสามเหลี่ยม เส้น 200 วันครั้งแรก
ถ้ากรณีนี้เป็นการขึ้นแบบเก็บของ ABC คลื่นย่อพักฐานมีโอกาสเป็น 5 คลื่น motive wave
และรูปแบบสามเหลี่ยมมักจะเกิดที่่ปลายคลื่นหรือคลื่น 4 เป็นการหลอกทางว่ากลับตัว
รูปแบบนี้เรียกว่า Skewed triangle ABCDE แล้วย่อพักฐานเคลี่ยรายย่อยก่อนกลับตัวจริง
แนวรับประมาณการที่ ฟิโบนันชี 1.618 - 2.0 ext. จะเป็นแนวรับโซนเดียวกับคลื่นย่อ 5 ที่ 2.618.
CSS เก็งกำไรระยะกลางคลื่น 4 รูปแบบ ABC Pullback EntryCSS เนื่องจากขาขึ้นเป็นรูปแบบ ABC 3 คลื่น ภาพรายสัปดาห์แนวโน้มมีโอกาสเป็นคลื่นเก็บของย่อแบบ 5 คลื่นไดกอนัลมากกว่า 3 คลื่น RSI สัปดาห์ย่อตัวต่ำที่สุดที่คลื่น 3 รีบาวน์คลื่น 4 ด้วยรูปแบบ 3 คลื่นย่อย abc เป้าหมาย 38.2 - 50% ฟิโบนันชีรีเทรสเม้นท์ของตำแหน่งการรีบาวน์คลื่น 2 หรือโซนเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์เป็นเป้าหมายสำคัญ ที่ราคา 1.35 และ 1.50 บาท +35 - 50% เป้าหมายแรกและเป้าหมายที่ 2
แนวรับ การเข้าเป็นรูปแบบการดึงกลับไปที่แนวเส้น 50 สัปดาห์ 1.00 - 1.05 บาท หลังจากทำเบรคหลอกหลุดไปแล้วรอบนึงรูปแบบแท่งเทียน pinbar ถือเป็นแนวรับสำคัญ
จุดตัดขาดทุนที่เส้น 20 สัปดาห์ โซน 0.95 บาท ซึ่งเคยเป็นแนวต้านไดนามิคสำคัญในช่วงย่อคลื่น 3 มาโดยตลอด
BYD วิเคราะห์คลื่นรูปแบบ ABC ถอดรหัสคลื่นเก็งกำไรคลื่น 4ภาพรายสัปดาห์มีโอกาสเป็นการปรับฐานรูปแบบ ABC extended flat มีคลื่น B ยาวกว่า A และกำลังย่อสถานะคลื่น C โครงสร้าง 5 คลื่น โดยมีคลื่น 3 ขา C เป็นคลื่นขยายที่ความยาว 161.8% ของคลื่น 1 แล้วรีบาวน์ขึ้นเป็นคลื่น 4.a มีความยาวเท่ากับ 50% ของคลื่น 3 และย่อหลุดลงมาที่แนวรับเป้าหมายคลื่น 5 ที่ความยาวเท่ากับคลื่น 1 ของขา C แล้วทำเฟคเบรคดาวน์เสร็จแล้วกลับไปยืนได้
สัปดาห์นี้แท่งเทียนราคาหลุดอีกรอบแต่ไม่มากเพื่อทดสอบแรงขายอีกรอบหากกลับไปยืนแนวรับเดิมได้จะเป็นการทำเฟคเบรคดาวน์อีกรอบสัญญาณบวก
เป็นโอกาสเก็งกำไรระยะสั้นรีบาวน์ขี้นไปที่โซนแนวต้าน คลื่น 3 ที่หลุดลงมาได้
เป้าหมายแรกที่แนวต้าน bullish wedge และเป้าหมายที่ 2 ที่โซนเส้น 200 สัปดาห์ ตัดขาดทุนที่ราคาล่าสุด
MACD สัปดาห์เกิดสัญญาณ bullish divergence สนับสนุนการกลับตัวและการเกิดคลื่น 5 ของขา C
Bearish scenario: หากไม่เบรคแนวต้าน bullish wedge ราคามีโอกาสหลุดลงมาที่เป้าหมายคลื่น 5 ถัดไปที่ 161.8 ของความยาวคลื่น 1 ที่โซน 1.80 บาท คลื่น 5 มีโอกาสปรับตัวรูปแบบซับซ้อน Expanding diagonal เป็นรูปแบบการเก็บของโดยสมบูรณ์แบบ