XAUUSDจากบทความที่ทำไว้ให้ในวันเสาร์ตอนนี้เข้าโซนแล้วนะครับให้พิจารณาเข้า Buy ในวันนี้เพราะยังคงมองว่าเป็นการย่อเพื่อขึ้นโดยเงื่อนไขต้องไม่หลุด 2643 แต่จุดเข้า Buy ที่สมเหตุสมผลจะอยู่ที่เลข Fibo 61.8%-78.6% ที่ทำไว้ให้ตามภาพ ย่อลึกไปก็มองว่าไม่สวยนะครับมันจะใจดีแปลกๆ รายละเอียดที่เหลือให้ย้อนไปดูบทความเจาะโครงสร้างทองคำ H4 ของเมื่อวันเสาร์ที่ทำไว้ให้นะครับ
ขอให้เป็นวันที่ดีครับ
ไอเดียชุมชน
BTCUSD Daily Analysis 10/11/2024 by TraderTanBINANCE:BTCUSDT ข้อมูลข่าวสาร:
ทาง Siamblockchain ได้รายงานว่าเครือข่าย Cardano (ADA) สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถทวงบัลลังก์ตำแหน่งเหรียญ Top 10 คืนกลับมาจากได้เป็นผลสำเร็จ
ปัจจุบัน ADA ของเครือข่าย Caradano สามารถเบียดแซง TRON ของ Justin Sun ไปได้อีกรายส่งผลให้เครือข่ายทวงตำแหน่งเหรียญคริปโตที่มี Market Cap ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 9
ในขณะเดียวกัน ราคาของเหรียญ ADA ได้พุ่งอย่างรุนแรงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์จนทำให้ตอนนี้ราคาเหรียญ ADA ได้พุ่งอย่างรุนแรงกว่า 50%
BUY : 76593
TP : 78000
SL : 76019
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียนในกรอบ TF H1
ราคายัคงพุ้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเริกาออก ส่งลให้ทรัมป์ได้ตำแหน่งไป และเกิดการพุ่งขึ้นของ BTC ทำให้ขาขึ้นยังมีลุ้นต่อในระยะยาว จึงทำการเข้า BUY โดยเน้นรูปแบบการทำกำไรแบบ scalping ในระยะสั้นๆตามกรอบเส้นเทรนไลน์
จุดเข้า - จุดออก เป้าหมายการทำกำไร
ใช้หลักการตีกรอบเส้นเทรนไลน์ในขาขึ้น และการยืนเหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้นนขาขึ้นระยะยาว เป็นตัวกำหนดจุดเข้า โดยเป็นไปได้ที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านทางราคาจิตวิทยาที่ 78000 ในกรอบ H4- Day ยังคงเน้นเก็บกำไรตาม trend followng
RSI เป็นขาขึ้น ยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนดจุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจากแนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับหนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็นรอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่งปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไรได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อนๆคิดว่าตลาดตอนนี้ป็นขาขึ้น ( Bullish)หรือขาลง (Bearish)ครับ คอมเม้นท์ด้านล่างไว้ได้เลย !!!
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
BTCUSD แผนการเทรดช่วง Having 2025Bitcoin ทะลุ $80,000 ในการพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์
Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลชั้นนําประสบความสําเร็จในวันนี้เนื่องจากซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 80,000 ดอลลาร์หลังจากแตะระดับก่อนหน้านี้ในเซสชั่น นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับต่ําสุดของปีที่ 38,505 ดอลลาร์ ซึ่งประสบเมื่อวันที่ 23 มกราคม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่น่าทึ่งด้วยกําไร 65.4%
การพุ่งสูงขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลนั้นสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับที่เพิ่มขึ้นและการบูรณาการเข้ากับภูมิทัศน์ทางการเงิน ผลการดําเนินงานของ Bitcoin ในปีนี้ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากนักลงทุนและผู้ที่ชื่นชอบ โดยจุดสูงสุดในวันนี้เน้นย้ําถึงแนวโน้มที่ผันผวนแต่สูงขึ้นซึ่งเป็นลักษณะการเดินทางตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
แนวต้าน
87,000
110,000
130,000
แนวรับ
71,000 แนวรับ
55,000 แนวรับ
50,000 แนวรับ
แนวทางการเทรด
1. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 80,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ซื้อ BUY) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณต้าน 90,000 หรือตามแนวรับต้าน
2. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 80,000 ให้หาจังหวะในการเข้าขาย (ขาย SELL) โดยเก็บกำไรระยะสั่น บริเวณรับ 70,000 หรือตามแนวรับต้าน
XAUUSD กราฟทองคำลุ้นพักฐาน 2600🌐 ราคาทองคําค่อนข้างผันผวน โดยสัปดาห์ที่แล้วราคาทองคําดีดตัวขึ้นหลังจากที่ลงไปทําจุดตํ่าสุดแถวบริเวณ 2,643 เหรียญ และเช้านี้ดีดกลับขึ้นมาเหนือระดับ 2,700 เหรียญได้อีกครั้ง เรียกได้ว่าขึ้นมาประมาณ 60 เหรียญจากเมื่อวานนี้ จากการรับข่าวการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด โดยเฟดมีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ย โยบายลง 0.25% นําอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตรา 4.75% ถึง 5.00% ลงสู่อัตรา 4.50% ถึง 4.75% อย่างไรก็ดีตลาดยังคงให้ความสําคัญไปที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนลงชิงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกัน คว้าคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral vote) ไปแล้ว
ซึ่งคาดว่าภาพรวมของราคาทองคําน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐานทํากําไรจนถึงสิ้นปี โดยราคาทองคําน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐานระหว่าง 2,600-2,800เหรียญ ซึ่งไม่คาดว่าจะทําจุดสูงสุดใหม่ได้ ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์คาดว่าน่าจะทํากําไรตามกรอบแบบ Sideways แนวกว้าง ประมาณ 200 เหรียญ
📊วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคําในเชิงเทคนิคปรับตัวลดลงมา โดย Fibonacci retracement 70% อยู่ที่ระดับ 2,650 เหรียญ และ Fibonacci retracement 61.8% อยู่ที่ระดับ 2,676 เหรียญ และ Fibonacci retracement 50% อยู่ที่ระดับ 2,700 เหรียญ จะเห็นได้ว่าราคาทองคําในทางเทคนิคถือว่าใกล้เคียงกับ Fibonacci retracement ดังนั้นจึงคาดว่าวันนี้ราคาทองคําจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,660 เหรียญ และแนวต้านที่ ระดับ 2,715 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนแนะนําเทขายทํากําไรเป็นช่วงๆ และเข้าซื้อบริเวณฐานล่างของ Bollinger Bands
โซนต้าน = 2740 / 2720 / 2710 / 2700
โซนรับ = 2665/ 2650 / 2620 / 2600
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
BTCUSD Daily Analysis 9/11/2024 by TraderTanข่าวต่างประเทศ
cr.investing
Trading note: ✅
Buy : 76592.34
✅ Tp: 77823.62 79153.08
❗ SL: 75251.67
เหตุผลในการเข้าเทรด:
ราคายังคงขึ้นอย่าวต่อเนื่องในการลุ้นต่อ นั้น ยังหาโอกาสในการเก็บขึ้นไดเ
โ
fibo : เป้าหมายแรก 168
เป้ามหาย 73600 เป้าหมายในการเก็บ
RSI: กำลังขึ้นไปทดสอบ 70
รอให้มีสัญญาณกลับตัว หาจังหวะเข้า
หากรับความเสี่ยงได้และไม่อยากรอสามารถตั้ง Pending Buy Sell บริเวณโซนดังกล่าวได้เลย
แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ สามารถเข้าซื้อขายได้เลย
โดยสามารถเก็บกำไรระยะสั้น Scalping โดยมีจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน หรือ ถือยาวข้ามวัน ทั้งนี้เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประยะหนึ่ง สามารถตั้ง TSL เพื่อป้องกันกำไร หรือ ทะยอยปิด ออเดอร์ปิดกำไร
ประสบการณ์: เทรดเทรด Rebound เป็นรูปแบบที่นิยมมากเพราะเป็นการตามเทรน และได้ราคาที่ถูก และเป็นรูปแบบที่คาดหวังกำไร RRR เกิน 1:2 ขึ้นไปได้ และเป็นจุดที่ทำให้ราคาได้ราคาที่เปรียบ ซื้อถูกขายแพง เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้เทรด ไม่ว่าจะเป็น เทรดสั้น เทรดยาว
❗นี้เป็นเพียงความคิดส่วนบุคคล อาจจะกำไรและขาดทุน ฉนั้น
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
“กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
Retest Trading แบบไหนให้ได้กำไรRetest Trading แบบไหนให้ได้กำไร
👽👽 เคยเป็นกันบ้างมั้ยกับการอ่านกราฟทางเทคนิคแล้วโดนกราฟหลอก ไปทางไหนก็ผิดทาง รีเทสแล้ว รีเทสอีก ก็ยังผิดทาง หรือเราจะอ่านกราฟผิดกันนะ มาครับ บทความนี้แอดมีคำตอบให้
กลไกของกลยุทธ์การ Retest
กลไกของกลยุทธ์ Retest มักมาควบคู่กันพร้อมกับ Breakout เสมอ หลักและใจความสำคัญ ที่จำเป็นในการเทรดก็คือการอ่านแนวรับแนวต้านให้ออก และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก็คือ
1. เมื่อกราฟราคาพุ่งขึ้นสูงสุดหรือลงต่ำสุด และทะลุแนวรับหรือแนวต้าน โดยมีปริมาณ Volumn การซื้อขายที่สูงหรือต่ำตามมาติดๆ
- การ Breakout ในแนวรับหรือแนวต้าน จะเกิดขึ้นเป็นอันดับแรก
- อันดับต่อมาที่ต้องเฝ้าระวังคือ การย่อ..........หรือการเปลี่ยนทิศทางกระทันหันเพื่อหลอกล่อเม่าน้อยๆให้มาติดกับ
- ถัดจากการล่อเม่าเสร็จสิ้น ราคาจึงจะวิ่งกลับไป Retest ณ จุด จุด เดิมอีกครั้ง
- จุดนี้แหละ ที่เราต้องเฝ้าระวัง เพื่อหาจุดเข้าสวยๆเข้าฮะ
รูปแบบแท่งเทียนที่พบได้บ่อยที่สุดในกลยุทธ์ Break and Retest ได้แก่
1. Wedge Pattern แสดงถึงเส้นแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงภายในช่วงราคาที่แคบลงเรื่อยๆ
2. Consolidation Pattern บ่งบอกถึงช่วงราคาในแนวนอน หรือกราฟไซด์เวย์ สำหรับการเล่นสั้น ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งยังหาแนวโน้มที่ชัดเจนไม่ได้แต่คันมือ จัดเบาๆไปก่อน
3.Triangles Pattern รูปแบบสามเหลี่ยม คือการทะลุกรอบสามเหลี่ยมออกไป เป็นไปได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
4. The Channel Patterns แสดงถึงเส้นแนวโน้มเส้นขนาน ซึ่งเป็นไปได้ทั้งไซด์เวย์สลับฟันปลา และไซด์เวย์อัพ ไซด์เวย์ดาว์น โดยราคาจะวิ่งไต่กรอบเส้นเทรนไลน์ไปเรื่อยๆ เป็นเส้นคู่ขนาน
**** นอกจากรูปแบบแท่งเทียนแล้ว อินดิเคเตอร์ที่จัดว่าเด็ดและช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ MACD หรือ RSI เพื่อช่วยยืนยันทิศทางของแนวโน้มที่เราคาดการณ์ไว้
👽👽👽เป็นอย่างไรกันบ้างครับ แอดหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เราอ่านกราฟได้ดี อ่านกราฟได้เก่งมากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่ากราฟมีขึ้นแล้วก็มีลง ไม่ต้องไปเครียดกะมันหมั่นึกฝนและเพิ่มเติมความรู้อย่างสม่ำเสมอ รับรอง เทรดยังไงก็รอดครับ และที่สำคัญอย่าลืม MM กันด้วยนะครับ วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอนครับ แอดเอาใจช่วยสู้ๆ
เจาะโครงสร้างทองคำ H4มาว่ากันเรื่องภาพรวมโครงสร้างใน H4 นะครับ อย่างที่บอกไปว่านี้เป็นการพักฐานรอบใหม่ หากการพักฐานรอบนี้จบแล้วจริงๆราคาจะต้องไม่หลุด C นะครับเงื่อนไขมีแค่นี้เลย ทีนี้หากเป็นเช่นนั้นจริงคำถามคือแล้วเค้าจะขึ้นตอนไหนและตรงไหน? อันนี้แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ผมด้วยเช่นกัน ปกติเค้าจะแกว่งตัวออกขวาเพื่อสะสมของเรื่อยๆแต่ก็มีบ่อยครั้งที่สามารถขึ้นได้เลยหากมีปัจจัยพื้นฐานหนุนราคาอย่างมีนัยยะอันนี้เราจะไปว่ากันในส่วนของเทคนิคคอล
เทคนิคคอล
-IDM คือสิ่งที่จะโพกัสในรอบนี้ บ่อยครั้งที่ทำโซนแล้วเค้าลงไม่ถึงใช่ไหมครับ การลงหลุด IDM สำหรับผมเท่ากับกวาด SL รายย่อยแล้วมองขึ้นได้เลยไม่จำเป็นต้องลงถึงโซนก็ได้
-Demand Zone ตรงนี้เป็นจุด Buy ที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว แต่ SL ควรเป็นจุดโครงสร้างคืออยู่ที่ 2643 หรือโคงสร้างของ Demand Day คือ 2638
**สรุปคือแผนนี้ต้องไม่หลุด 2643 หรือหากกวาด SL จริงๆก็ไม่ควรหลุด 2638 ถ้าเกินนี้ยกเลิกแผนทำใหม่นะครับ**
ที่เหลือเราไปว่ากันในแผน H1 ในแต่ละวันนะครับ
กลยุทธ์การเทรดแบบ Grid ในตลาด Forex: เคล็ดลับการทำกำไรและการบริหการเทรดแบบ Grid (กริด) เป็นกลยุทธ์การเทรดในตลาด Forex ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถใช้เพื่อทำกำไรได้ในหลายสภาวะของตลาด อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องเข้าใจหลักการและวิธีการอย่างละเอียด รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักการเทรดแบบ Grid อย่างละเอียด และวิธีการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
1. การเทรดแบบ Grid คืออะไร?
การเทรดแบบ Grid เป็นกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งคำสั่งซื้อและขายในรูปแบบของตาราง โดยคำสั่งซื้อขายเหล่านี้จะถูกวางไว้ที่ระยะห่าง (interval) ที่เท่ากันทั้งด้านบนและด้านล่างของราคา ณ จุดเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มขึ้น (bullish) หรือลง (bearish) หรือแม้แต่ในตลาดที่เคลื่อนไหวในช่วงแคบ (sideways)
2. หลักการของการเทรดแบบ Grid
หลักการพื้นฐานของกลยุทธ์นี้คือการทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาด้วยการตั้งคำสั่งซื้อและขายที่ระยะห่างคงที่ ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดเริ่มต้นที่ราคา 1.1000 และตั้งคำสั่งขายที่ทุกๆ ระยะห่าง 50 จุด เช่น 1.1050, 1.1100 และคำสั่งซื้อที่ 1.0950, 1.0900 เป็นต้น
3. ข้อดีของการเทรดแบบ Grid
ทำกำไรในทุกสภาวะตลาด: ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง กลยุทธ์นี้สามารถทำกำไรได้เนื่องจากจะมีคำสั่งซื้อขายพร้อมที่จะดำเนินการเมื่อราคาเคลื่อนไหว
ไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ทิศทาง: การเทรดแบบ Grid ไม่จำเป็นต้องเดาทิศทางของตลาด ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ที่ต้องใช้การวิเคราะห์แนวโน้ม
ลดการพึ่งพาการทำนายตลาด: ด้วยโครงสร้างของคำสั่งที่กระจายทั่วราคาต่างๆ ทำให้นักเทรดมีโอกาสปิดกำไรได้โดยไม่ต้องรอให้เกิดแนวโน้มที่ชัดเจน
4. ข้อเสียและความเสี่ยง
ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจสูง: เนื่องจากคำสั่งจำนวนมากถูกเปิดขึ้นพร้อมกัน นักเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูงมีโอกาสที่มาร์จิ้นจะไม่เพียงพอเมื่อราคาวิ่งไปในทิศทางที่ขาดทุน
ขาดการควบคุมความเสี่ยง: หากไม่กำหนดขอบเขตความเสี่ยงให้ดี กลยุทธ์นี้อาจทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจนที่ต่อต้านคำสั่งของ Grid
5. วิธีการสร้างระบบ Grid อย่างมีประสิทธิภาพ
กำหนดระยะห่างระหว่างคำสั่ง (Grid Size): การตั้งระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างคำสั่งสำคัญมาก เพราะจะมีผลต่อความเสี่ยงและโอกาสในการทำกำไร
การบริหารจัดการเงิน (Money Management): ควรใช้ระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี เช่น การกำหนดขนาดล็อตที่เหมาะสมและการติดตั้งคำสั่ง Stop Loss เพื่อป้องกันการสูญเสียครั้งใหญ่
การตั้งค่า Take Profit: การตั้งระดับการทำกำไรที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คำสั่งปิดทำกำไรได้บ่อยขึ้นและสร้างความมั่นคงในระบบ
6. ตัวอย่างการใช้งานระบบ Grid ในตลาด Forex
สมมุติว่าคุณเริ่มเทรดด้วยเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ โดยใช้ระบบ Grid ในการเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD:
ตั้งระยะห่าง Grid ที่ 20 จุด
ขนาดล็อตเริ่มต้นที่ 0.01
มีคำสั่งซื้อและขายหลายคู่ที่ระยะห่างกันเพื่อกระจายความเสี่ยง
ในการเคลื่อนไหวที่ผันผวนเล็กน้อย เช่น เมื่อราคาเคลื่อนที่ขึ้นและลงเป็นรอบ ระบบจะปิดกำไรเมื่อราคาผ่านจุดที่ตั้งคำสั่งไว้ ช่วยเพิ่มกำไรสะสมได้ต่อเนื่อง
7. สรุป
การเทรดแบบ Grid เป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้ในหลายสถานการณ์ของตลาด แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยง การวางแผนและการทดสอบระบบอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าการเทรดนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ควรทำอย่างระมัดระวัง โดยการใช้เงินทุนที่สามารถยอมรับการขาดทุนได้ และการติดตามสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ฝึกวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจุดเข้าซื้อให้ละเอียดแม่นยำยิ่งๆขึ้นไปเวลาออกแบบแผนก็ให้ออกแบบแผนแบบกว้างๆเอาไว้แต่อย่าไปคิดว่ามันจะขึ้นจะลงถึงจุดที่เรากำหนดเพราะแค่จุดจุดเดียว 5,000 จุดที่ให้เทรดในกรอบนั้นก็เยอะดีไม่ดีวิ่งกันเป็นเดือนไม่ต้องไปคาดหวังว่ามันจะขึ้นไปถึงไหนเอาแค่ที่มันเห็นบีบกรอบให้เล็กลงเรื่อยๆแล้วก็หาจุดเข้าเก็บกำไร sltp ตามที่กราฟกำหนดให้ในแต่ละทางเฟรมแค่นั้นพออย่าไปคาดหวังว่าจะรันเท็นไปได้ 5,000 จุด 10,000 จุดดีไม่ดีมันไปไม่ถึงมันอยู่แค่ 4,500 บาทแล้วมันทุบลงไปก็ขาดทุนอีกเอาแค่ในกรอบที่เขากำหนดให้แค่นั้นพอ
TRADING IN THE ZONE + MM
วิเคราะห์ทองคำ 11~15 พฤศจิกายน 2567 วิเคราะห์ทองคำ 11~15 พฤศจิกายน 2567
.
อาทิตย์ที่แล้วทองสมชื่อ ด้วยข่าวเลือกตั้ง ลุงทรัมสมหวังในที่สุด จากทอง ath ดี กลับกลายต้องทุบ เพราะทรัพย์สินที่เด้งแรงคือ บิตคอย กับหุ้น เพราะลุงเคยบอกว่า ถ้าฉันเป็นฉันจะดันบิตคอยให้รุ่งเรือง ทำให้นักลงทุน เอาเงินไปพักในดอลล่า แล้วไปช้อนบิตคอยเก็บไว้ แล้วทองละลุง ส่วนดอกเบี้ยลุงเจอโรมก็ลดตามเป้า ทำให้นางรีบาวขึ้นมาได้ช่วงหนึ่งและ ลงมาเหมือนเดิม
.
อาทิตย์หน้าจับตามองตัวเลข cpi ลุงทรัมจะยังไง เฟ้อมาก แล้วระงับเรื่องดอกเลยไหม หรือยังไง กองขายอีก 3 กว่าตัน รวมวันศุกร์ ก็6ตันเลยทีเดียว กองทุนขายแอบไปซื้อบิตคอยไหม?
.
ด้านเทคนิคละยังไง
แท่งวีคลงมาเทสรับ และรีบาวไปครึ่งแท่ง ย่อมาแท่งเดย์อาจจะเลือกทางอาทิตย์หน้า เพราะน้องสวิงในกรอบ h4 ชัดเจน wait and see เด้อ
.
สรุป แนวต้าน 2709 2728 2748 รับ 2684 2644
เดียวรอตัวเลขเงินเฟ้อก่อนก็ได้ อาจะเล่นสั้นๆ ในกรอบ แล้วรอน้องเลือกทางครับ ขอให้โชคดีในการเทรดทุกคน
การวิเคราะห์ทองคำวันที่ 11 พฤศจิกายนการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ราคาทองคำคงราคาเสนอไว้ประมาณ 2,672-2,670 ดอลลาร์เข้าสู่ช่วงยุโรปในวันจันทร์ และดูเสี่ยงต่อการปรับฐานล่าสุดจากระดับสูงสุดตลอดกาลในวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงทรงตัวต่ำกว่าสี่จุดเล็กน้อย - จุดสูงสุดของเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับนโยบายการขยายตัวของสหรัฐฯ ที่คาดไว้ โดนัลด์ ทรัมป์ ปัจจัยหลักที่สร้างแรงกดดันต่อสินค้าโภคภัณฑ์เป็นวันที่สองติดต่อกัน
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนดูเหมือนจะเชื่อว่านโยบายของทรัมป์สามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มอัตราเงินเฟ้อได้ ขณะเดียวกันก็จำกัดความสามารถของ Federal Reserve ในการผ่อนปรนอย่างจริงจัง สิ่งนี้ช่วยให้อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง และมีส่วนผลักดันให้เงินไหลออกจากราคาทองคำที่ไม่ได้ผลกำไร อย่างไรก็ตาม โปรไฟล์ความเสี่ยงที่อ่อนลงอาจจำกัดการขาดทุนสำหรับสกุลเงินที่ปลอดภัย XAU/USD เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังรอตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคในสหรัฐฯ และคำปราศรัยของประธานาธิบดี Fed Jerome Powell ในสุดสัปดาห์นี้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
โซนแยกที่สำคัญ 2663-2665 มีบทบาทสนับสนุนทันทีในช่วงตลาดยุโรปในวันที่สองของการซื้อขาย เมื่อโซนนี้ทะลุ เราไม่ควรซื้อครึ่งหนึ่งและรอการทดสอบใหม่เพื่อขายและทะลุโซน 2643 เมื่อใด ราคาดีดตัวขึ้นมาแข็งแกร่งจากบริเวณ 2670 แนวโน้มคือเราจะจับตาซื้อเมื่อมีจุดทะลุดาวโจนส์ เป้าหมายของเราคือประมาณ 2,706 และ 2,726 สำหรับแผนการขาย
USDJPY H4| สัญญาณกลับตัวขาลงราคากำลังเคลื่อนไหวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณระดับ Pivot ที่ 153.76 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวต้านจากการดีดตัว และสอดคล้องกับระดับ Fibonacci Retracement 61.8% หากเกิดการกลับตัวที่ระดับนี้ อาจส่งผลให้ราคาปรับตัวลงสู่แนวรับแรกที่ 152.41
หากราคาทะลุแนว Pivot ขึ้นไปได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปสู่แนวต้านแรกที่ 154.69 ซึ่งเป็นแนวต้านจากจุดสูงสุดก่อนหน้า
Weekly Update Trend XAUUSD(Gold) by C.AugustAbout Trend
แนวโน้มทองคำแบ่งเป็น 2 ภาพคร่าวๆดังนี้
-ภาพ Secondary trend : มุมมองขาลง(Down trend) จนกว่าราคาจะเบรค High 2790.2
-ภาพ Minor trend : มุมมองขาลง(Down trend) เช่นกัน มีจุดยกเลิกมุมมองที่ 2710.5
กลยุทธ์ คือ เด้ง Sell หรือ Follow Sell ภาพทั้ง 2 แนวโน้มสอดคล้องกัน
__________
About Momentum
-สังเกตุจาก Squeeze Momentum ด้านล่างจะเห็นได้ว่ามีการ Slope Down สอดคล้องกับแนวโน้มด้วยเพราะฉะนั้นสามารถเล่น Follow เพื่อเพิ่มสถานะได้เช่นกัน
-จากรอบของ Williams %R จะเห็นได้ว่าในภาพ 1h นี้ราคาได้มีการลงไปและเกิด Oversold ที่ระดับราคา 2643 เป็น Low ล่าสุด และมีการขึ้นมาทำ Overbought ล่าสุดแถวราคา 2710.4 ตามที่ได้ วงกลมเอาไว้ ปัจจุุบันราคาก็กำลังเกิด Oversold เช่นกันเพราะฉะนั้นราคาควรลงไปหลุด Low 2643 เพื่อบ่งบอกว่าเทรนลงจะยังคงอยู่ ดำเนินต่อไป แต่!! หากราคาเกิแท่งเทียนกลับตัวโดยราคายังไม่ลงไปหลุด Low 2643 นั้นมีโอกาสที่อาจจะเป็น Low ได้จริงๆเช่นกันโดยจะคอนเฟิร์มเมื่อราคาไปเบรค High 2710 นั้นเอง
-สังเกตุ Bollinger Band ก็จะเห็นได้ว่าวันนี้(11/11/24)เวลา 8.00 น. ราคาได้มีการเบรค Lower Band ลงมาด้วยเพราะฉะนั้นน้ำหนักของแนวโน้มจาก Volatility ก็เบี่ยงเบนไปในทางลงเช่นกันครับ โดยมีแนวต้านแถว Upper band
__________
-สรุปกลยุทธ์ควบคู่กับ Momentum คือ รอเด้ง Sell ที่ Middle Band หรือ Upper Band หรือรอเล่น Follow Sell ในโครงสร้างราคา Timeframe ที่เล็กกว่า
__________
About Expected Price
โดยมีแนวราคาคาดหวังกรณีที่ราคาเลือกที่จะลงต่อในสัปดาห์นี้ ที่ Range Volatile Week คือ 2627-2625 และระดับทั้งเดือนเลยที่ 2604 กรณีปรับลงทั้งเดือน
BTCUSD My analysis 11/11/2024ราคาปัจจุบัน 81,000$
เป้าด้านบน 83,000$ ตามแนวต้านที่ให้
แผน
- รอ Sell ด้านบน ตามแนวต้าน
- รอ Buy ด้านล่างตามแนวรับ
ถ้ากลัวตกรถก็ไปย่อย TF 15/30 เข้า ตาม จุด Demand Supply + Sto
แต่ถ้าเล่นรอแบบสบายรอซื้อตามจุดที่มีนัยยะ
**โซนที่ให้ไว้อย่าลืมดู STO ของแต่ละ TF หน้างานด้วยนะครับ**
***บทวิเคราะห์แผนนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเพื่อการศึกษากราฟ ขอบคุณครับ***
XAU/USD [ SMC ]📌 XAU/USD 🏆
ย่อลงไปใน MTF เราจะเห็นได้ว่าเมื่อราคามาที่ Supply ปัจจุภาพ ในภาพได้เกิดการ M Choch กับ M BoS ลงมา และได้ทิ้ง Supply กับ $$$ ไว้ด้านบน เราสามารถ ย่อไปลงใน LTF ได้เพื่อ รอหาจังหวะ Sell ลงมาเมื่อราคามาถึง Sz. ด้านบน โดยใช้การยืนยันจาก LTF ครับ
ระหว่างรอการเดินทางของราคา ถ้าเกิดการยืนยันใน LTF ว่าราคาจะขึ้นไปหา Sz. เราสามารถมองหา Setup Buy สั้นในๆ LTF ได้เพื่อขึ้นไปหา Supply ด้านบนครับ
* หากไม่มีการยืนยันใน LTF เมื่อราคามาถึง Sz. เราจะไม่เข้าเทรด
* หากราคา Bos ลงมาต่อ เราจะอัพเดทหาโซนใหม่กันอีกทีครับ 🫡💙
กลุ่ม , Signal >> linktr.ee
XAU/USD [ SMC ]📌 มุมมองภาพใหญ่ XAU/USD 🏆
ตอนนี้ใน HTF (M30) ได้เกิดการ Choch ราคาลงมาที่แนว Demand Zone และราคาได้ดีดตัวขึ้นไปหา Supply ด้านบน แต่ก็ได้เกิดการ Choch ปรับตัวกลับลงมาอีกครั้งใน LTF และได้ทิ้ง $$$ ไว้ก่อนที่ราคาจะปรับตัวลงมา
แผนของเราในตอนนี้คือ รอให้กราฟเฉลยครับ และสิ่งที่เราจะต้องทำคือ รอ Sell บริเวณ Premium Zone เช่นเดิม ถ้าเกิดราคาได้พุ่งขึ้นไปกวาด $$$ ด้านบน และเกิดการยืนยันใน LTF เราจะหาจังหวะ Sell ลงมาตามเทรน
* หากไม่มีการยืนยันใน LTF เมื่อราคามาถึง Sz. เราจะไม่เข้าเทรด และหากราคาทำลาย Sz. ไปได้ ให้อัพเดทโซนใหม่ครับ
* หากราคา Bos ลงมาต่อ เราจะอัพเดทหาโซนใหม่กันอีกทีครับ
Signal >> linktr.ee