ความขัดแย้งตะวันออกกลางขึ้นน้ำมันขึ้นทองขึ้นหุ้นป้องกันขึ้นความขัดแย้งตะวันออกกลางขึ้นน้ำมันขึ้นทองขึ้นหุ้นป้องกันขึ้น
ดับเบิ้ลยูทีไอและฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์ทั้งเพิ่มขึ้นกว่า 4%ถึงข้างต้น 886 และ 888 ต่อบาร์เรลตามลำ
ชาวอิสราเอลมากกว่า 900 คนเสียชีวิตโดยมีตัวประกันอีก 130 คนและชาวปาเลสไตน์เกือบ 700 คนถูก killed ในการแก้แค้นของอิสราเอล. สงบศึกไม่น่าจะเป็นไปได้ในระยะสั้น
นักลงทุนมีความระมัดระวังความขัดแย้งที่กว้างเกินไป ทองเพิ่มขึ้น 1.45%ไปประมาณ$1,850 ออนซ์ในวันจันทร์,เพิ่มกำไร 0.7%โลหะที่ทำในวันศุกร์(เป็นรายงาน
ในบางกรณีนักลงทุนไม่ระมัดระวังแต่ยินดีต้อนรับความขัดแย้งที่กว้างขึ้นกับหุ้นป้องกันในสหรั เรย์ธีออน(4.5%),ล็อกฮีดมาร์ติน(8.5%),และนอร์ทรอกกรัมแมน(11.2%)ทั้งหมดบันทึกบางส่วนของกำไรในชีวิ
คำถามที่เกิดขึ้น,และที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันคือ;สิ่งที่อิหร่านมีส่วนร่วมในสถานการณ์, เตหะรานได้ปฏิเสธการมีส่วนร่วมแต่ไม่ยกย่องการโจมตี นักลงทุนจะมองหาเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานจากอิหร่าน(ปัจจุบันส่ง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันไปยังประเทศจีน)หรือผ่านอิหร่าน(ผ่านช่องแคบฮอร์มุซซึ่งมีความสำคัญสำหรับปริมาณน้ำมันประมาณ 30%)
รณีใดๆโลกอาจจะหันหน้าไปทางที่สูงขึ้นสำหรับอีกต่อไปราคาน้ำมัน
Oil(wti)
WTI การวิเคราะห์ประจำวัน 7/3/2023 by TraderTanTrading note: SPOTCRUDE , WTI , USOIL , BRENTOIL
ข้อมูลข่าวสาร :
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (6 มี.ค.)
หลังจากผู้บริหารของบริษัทพลังงานรายใหญ่ระบุว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอยู่
ในภาวะตึงตัว และคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีนจะฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 80.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.4%
ปิดที่ 86.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
BUY SPOTCRUDE : 80.483
TP : 82.509
SL : 76.942
เหตุผลในการเข้าเทรด:
จากกราฟแท่งเทียน ราคายังสวิงเทรนขึ้นลงอยู่ ในกรอบไซด์เวย์กว้าง โดยขาขึ้นยัง
คงได้เปรียบอยู่ ซึ่งรอบนี้เป็นการสวิงเทรนในขาขึ้นระยะสั้นๆ จึงทำการเข้า BUY โดยยัง
เน้นการเก็บกำไรจากแนวรับแนวต้านเก่าในกรอบไซด์เวย์เดิมและกรอบเส้น EMA ของ
กรอบเส้น ฺฺ BB อีกทางหนึ่ง
RSI เป็นขาขึ้น โดยยังคงเน้นเก็บกำไรระยะสั้นแบบ Scalping รายวัน กำหนด
จุดกำไร และตั้ง SL ระยะห่างไม่ไกลมากเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นจบปิดกำไรรายวัน
และอาจปิดเร็วขึ้น หากกำไรเป็นที่พอรับได้ โดยมีตั้งกำไร TP และตั้ง SL ไม่ไกลจาก
แนวรับแนวต้านเดิม ทั้งใน TF1H และ 4H และจะทำการล๊อคกำไรจาก TSL ด้วยระดับ
หนึ่ง
ประสบการณ์: เน้นการถืออออเดอร์โดยปิดจบรายวัน และเน้นเก็บกำไรแบบเป็น
รอบสวิงเทรนไซด์เวย์ เพื่อเป็นการเพิ่มกระแสเงินสด แคชโฟร์ ในพอร์ต อาจมีการแบ่ง
ปิดกำไรจากออเดอร์ที่กำไรในระดับหนึ่งแล้ว อาจมีการตั้ง TSL เพื่อเป็นการล๊อคกำไร
ได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
“หากบทวิเคราะห์นี้ดี…มีประโยชน์กับเพื่อนๆนักเทรดทุกท่าน
กรุณากดติดตามและสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ…ขอบคุณครับผม”
น้ำมันรัสเซียขายลดราคาสูงสุดน้ำมันรัสเซียขายลดราคาสูงสุดในรอบหลายปีจากความตึงเครียดในยูเครน
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
น้ำมันดิบเรือธงของรัสเซียซื้อขายด้วยส่วนลดที่ลึกที่สุดในรอบหลายปีเนื่องจากผู้ค้ากังวลว่าวิกฤตในยูเครนจะดำเนินต่อไปอย่างไร
Trafigura Group และกลุ่มการค้าของ Lukoil PJSC ต่างก็เสนอ Urals ซึ่งเป็นเกรดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่ 6.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน Dated Brent ระดับภูมิภาค นั่นเป็นส่วนลดที่ลึกที่สุดในรอบอย่างน้อย 11 ปีตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg ก่อนหน้านี้ Surgutneftgas PJSC ขายน้ำมันดิบชนิดเดียวกันเพื่อส่งไปยังยุโรปที่ 6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่ำกว่าระดับเดียวกัน
นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่ามูลค่าน้ำมันของรัสเซียที่ส่งไปยังยุโรปได้ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ค้าต่างจับตามองอย่างระมัดระวังเพื่อดูว่าจะมีมาตรการสำคัญใดที่สหรัฐฯ และพันธมิตรใช้เพื่อขัดขวางกระแสการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย (ถ้ามี)
Biden to Speak สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรเปิดฉากคว่ำบาตร: ยูเครน Update
การคาดหวังในครั้งนี้?
“รัสเซีย-สหรัฐอเมริกา. ความตึงเครียดเหนือยูเครนมีส่วนทำให้เกิดการล่มสลายของความแตกต่างของอูราล” ที่ปรึกษา Facts Global Energy เขียนไว้ในบันทึกย่อ “ดูเหมือนว่าหลังจากที่โรงกลั่นในยุโรปจำนวนมากเริ่มซื้อ Urals ในเดือนธันวาคม/มกราคม ผู้ที่มีทางเลือกก็กำลังหนีจาก Urals”
จุดอ่อนของน้ำมันดิบรัสเซียนั้นสวนทางกับตลาดอื่นๆ ที่เหลือซึ่งชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในระดับสูงสุด
การวิเคราะห์ของราคา
ปัจจัยนี้อาจจะทำให้ทิศทางของราคาน้ำมันมีความผันผวนโดยเฉพาะของ XTIUSD ดังนั้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 90.81 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 89.78 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 89.22 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นกรอบแนวต้านสำคัญแต่ก็คือ 92.70 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 93.64 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านสุดท้ายก็คือ 94.30 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
Oil edges ร่วงลง หลังสหรัฐฯ ดันโอเปกให้สูบน้ำมากขึ้นOil edges ร่วงลง หลังสหรัฐฯ ดันโอเปกให้สูบน้ำมากขึ้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้น?
น้ำมันร่วงลงในวันอังคารเนื่องจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมในวันพุธท่ามกลางการเรียกร้องจากสหรัฐอเมริกาให้สูบน้ำมันดิบมากขึ้นแม้ว่าเบรนต์ยังคงซื้อขายได้ดีกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคายังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความกังวลว่าไฟฟ้าดับและน้ำท่วมในรัฐหลุยเซียนาหลังจากพายุเฮอริเคนไอดาจะลดความต้องการน้ำมันดิบจากโรงกลั่น
การคาดหวังในครั้งนี้?
น้ำมันดิบได้รับผลกระทบจากข้อมูลการผลิตที่อ่อนแอลงจากประเทศจีน ซึ่งกิจกรรมของโรงงานขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
การวิเคราะห์ของราคา
ในส่วนของ WTI ยังคงมีการพักตัวระยะสั้นโดยในรอบวันมีการขยับตัว -1.14% และดูเหมือนมีการปรับตัวย่อตัวลงตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดังนั้นจับตาดูว่าจะมีการปรับตัวร่วงลงของ WTI หรือไม่โดยแนะนำควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 67.90 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 67.26 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 66.81 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 68.66 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 69.23 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านสุดท้ายก็คือ 69.76 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสินค้าคงคลังที่ลดลงสิ่งที่จะเกิดขึ้น?
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางสัญญาณของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าคงเหลือในกลุ่มผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกลดลงอีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.4% ที่ 72.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 74.27 ดอลลาร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า RBOB น้ำมันเบนซินของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 0.7% ที่ 2.2990 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อต้นวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตรา 6.5% ต่อปีในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากโปรแกรมการฉีดวัคซีนกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง แม้ว่าจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ 8.5% แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นจากอัตรา 6.3% ที่แก้ไขในไตรมาสแรก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศในวันอังคารได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของสหรัฐเป็น 7.0% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ 6.4% ในเดือนเมษายนซึ่งจะแสดงถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527
การคาดหวังในครั้งนี้?
อย่างไรก็ดีจากราคาน้ำมันที่มีการฟื้นตัวขึ้นยังคงมีการคาดหวังถึงเศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์และดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่มีการขยับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้ราคาน้ำมันมีการขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องดังนั้นในการคาดหวังในครั้งนี้ต้องจับตาดูว่ามาตรการการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่องจะส่งผลทำให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการขยับตัวสูงขึ้นหรือไม่ถ้าดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์มีการขยับตัวสูงขึ้นราคาน้ำมันจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ของราคา
WTI มีการฟื้นตัวขึ้นในรอบวัน +1.37% และดูเหมือนว่าอาจจะมีการขยับตัวสูงขึ้นโดยปัจจัยหนุนที่มีการฟื้นตัวขึ้นนั้นก็คือดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่มีการขยับตัวสูงขึ้นดังนั้นถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นจึงควรติดตามกรอบแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 73.68 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 74.22 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลและแนวต้านสุดท้ายก็คือ 74.86 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
แต่ถ้ามีการปรับตัวลงแนวรับสำคัญแรกก็คือ 72.30 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 71.63 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 71.13 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
USOIL (WTI)น้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี หลังจากเกิดความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
ซึ่งไปกระทบเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์ของน้ำมันที่อ่อนแอ และปริมาณน้ำมันส่วนเกินในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดการณ์ว่า กลุ่ม OPEC อาจตัดสินใจปรับลดการผลิตลงอีกในสัปดาห์หน้า เพื่อช่วยปกป้องราคาน้ำมันไม่ให้ร่วงลงต่อไป
หากมองในเชิงเทคนิคแล้ว ในภาพรวมระยะยาวการร่วงลงมาของราคา ได้ลงมาทดสอบบริเวณเส้นแนวรับที่เป็นเส้น Bullish trendline พอดีแถวๆ 49.51 โดยประมาณ
ซึ่งมีโอกาสที่จะรีบาวกลับขึ้นไปได้ โดยอาจจะมีการผันผวนอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้น ซึ่งมี GAP การสวิงอยู่ที่ 49.51 - 64.00 โดยประมาณและอาจบีบตัวแคบลงไปเรื่อยๆ
ตามราคาเฉลี่ยนของกรอบแนวรับและแนวต้านที่เกิดขึ้น
หากมีการเบรคลงไปต่ำกว่ากรอบสามเหลี่ยมมีโอกาสที่จะลงไปทดสอบโซนแนวรับทดไปที่ 43 - 40 โดยประมาณ
อย่างไรก็ตามในระยะยาว การปรับตัวลงอาจถือเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ เพียงแต่ระยะเวลาที่เกิดนั้นอาจกินเวลาไปมากพอสมควร
แต่หากผ่านพ้นไปได้แล้ว โอกาสที่จะรีบาวกลับขึ้นไปทดสอบ จุดสูงสุดก่อนหน้าที่ 64 และ 74 ก็มีความเป็นไปได้มากขึ้นตามลำดับ
ดังนั้นหากจะมีการทะยอยเก็บ position ในช่วงนี้ก็ยังคงต้องเน้นในเรื่องการคุมความเสี่ยงให้ดี