รูปแบบขาขึ้นต่อเนื่องของ XAU/USDกราฟนี้แสดงถึงโครงสร้างตลาดขาขึ้นของ XAU/USD โดยราคากำลังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางขึ้นอย่างชัดเจน รายละเอียดที่สำคัญมีดังนี้:
แนวรับหลัก:
ราคาดีดตัวขึ้นจากบริเวณแนวรับที่ประมาณ 3,399.710 แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
แนวโน้มขาขึ้นที่คาดการณ์:
มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะย่อตัวเล็กน้อยลงมาที่บริเวณ 3,432.835 หรือ 3,399.710 ก่อนกลับตัวขึ้นอย่างแข็งแรงอีกครั้ง
เป้าหมายการขึ้น:
แนวต้านแรกอยู่ที่บริเวณ 3,502.669
หากทะลุผ่านได้ ราคามีโอกาสขึ้นต่อไปที่ 3,550.351
เป้าหมายสูงสุดอยู่บริเวณโซน 3,680.000 ซึ่งเป็นเขตซัพพลายเก่า
ตัวชี้วัด:
เส้นขอบเขียวที่ล้อมกราฟบ่งชี้ถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้น โดยราคายังคงเคลื่อนไหวใกล้ขอบบน ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น
สรุป:
XAU/USD มีแนวโน้มจะต่อยอดการขึ้น หากมีการย่อตัว ถือเป็นโอกาสในการเปิดสถานะซื้อ โดยมีเป้าหมายที่แนวต้านสำคัญด้านบน ตราบใดที่โครงสร้างราคายังไม่เปลี่ยนแปลง
Goldsignals
"รูปแบบขาลง XAU/USD: คาดการณ์การหลุดกรอบขาขึ้น 11 มิถุนายน 2025โซนแนวต้านก่อนหน้า (พื้นที่สีแดง):
กราฟแสดงแนวต้านชัดเจนระหว่าง ~3,340 ถึง ~3,370 ดอลลาร์
ราคาเคยถูกปฏิเสธอย่างแรงจากโซนนี้ (จุดวงกลมสีน้ำเงินที่จุดสูงสุด)
ช่องขาขึ้นปัจจุบัน (กรอบสีน้ำเงิน):
มีการสร้างรูปแบบ "ช่องขาขึ้น" ซึ่งมักเป็น สัญญาณขาลง เมื่อเกิดในแนวโน้มขาลงใหญ่
ราคากำลังทดสอบขอบบนของกรอบนี้
การคาดการณ์ขาลง (เส้นลูกศรสีแดง):
คาดว่าราคาจะถูกปฏิเสธจากขอบบนของกรอบ และมีแนวโน้มจะหลุดลงสู่แนวรับถัดไปที่ ~3,246.94 ดอลลาร์
ลูกศรและกล่องสีเขียว-แดง แสดงจุดเข้าและเป้าหมายของแผนเทรดฝั่ง Short
แนวรับสำคัญ:
เส้นแนวนอนสีน้ำเงินที่ 3,246.94 ดอลลาร์ เป็นแนวรับหลัก และอาจเป็นจุดทำกำไรของฝั่งขาย
ปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังจะประกาศ:
สัญลักษณ์ธงชาติสหรัฐฯ 3 จุดด้านล่างกราฟ บ่งบอกว่ามีข่าวสำคัญที่อาจสร้างความผันผวนให้กับ XAU/USD
✅ สรุป:
แนวโน้ม: ขาลง
รูปแบบ: ช่องขาขึ้น (Bearish Channel)
โซนเข้าขาย (Short): ประมาณ 3,350–3,360 ดอลลาร์
เป้าหมายทำกำไร: ประมาณ 3,246 ดอลลาร์
จุดตัดขาดทุน: หากราคาปิดสูงกว่า 3,370 ดอลลาร์ (แนวต้านหลัก)
GOLD: วิเคราะห์ 11 มิ.ย.ราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับตัวหลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งครั้งก่อน ในกรอบ H1 โครงสร้างราคาแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มหลักในปัจจุบันคือการสะสมในแนวข้างโดยมีแอมพลิจูดตั้งแต่ 3,300 ถึง 3,355
ในบริบทที่ตลาดกำลังรอข้อมูล CPI และข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความเป็นไปได้ของความผันผวนที่ไม่คาดคิด (fakeout) นั้นมีสูงมาก ดังนั้น การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์ที่ชัดเจน ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
โซน 3,340–3,355:
นี่คือโซนการกระจายที่แข็งแกร่งในช่วงการซื้อขายล่าสุด โครงสร้างแท่งเทียน H1 สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่องที่นี่
โซน 3,302–3,304:
นี่คือโซนอุปสงค์ H1 ที่สำคัญ โดยราคาจะตอบสนองอย่างแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับ หากราคาปรับตัวตรงนี้และสร้างรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว → ให้รอซื้อในระยะสั้น
ทิศทางทองคำ XAUUSD SELL Supply วันที่ 29 มกราคม 2568เทคนิคเทรดวันนี้จาก CDC เกิด Signals Sell ตามสัญญาณ
เเละมีการเบรค Supply ลงมา เเผนรอเด้งเทสปิด PA Sell ค่อย Sell ตามครับ
ส่วนจุดตัดขาดทุน หากเบรค High ก่อนหน้า Cut loss ไม้ sell
+++ เทรนหลักขาขึ้น สำหรับเพื่อนๆที่รับความเสี่ยงได้น้อย ควรรอ Buy ตามเเนวโน้ม จุดที่ผมจะเข้าจะเป็น Demand zone ด้านล่างครับ
คำเตือน : มุมมองที่เเชร์ เกิดจากประสบการณ์การเทรดทั้งกำไรเเละขาดทุน ตลาด CFDs มีความเสี่ยงสูง โปรดใช้วิจารณญาณ
ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา📌ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา
เพราะในตัวของ Candlestick H1
คายังไม่ทำลายโครงสร้าง -Bullish engulfing
ถ้าจะทำลายโครงสร้างขาขึ้นได้ทอง
ต้องลงปิดต่ำกว่า 2587 (จุดยอมขา BUY)
TP มุ่งหวัง 2615/2619/2627
( ระรังข่าวนอกตาราง )
📌 มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์ สรุปข่าวทองคำและแนวรับแนวต้านวันที่ 13/11/2024
1. ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ: วันนี้ต้องติดตามตัวเลข Core CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศเวลา 20:30 น. ตัวเลขนี้สำคัญเพราะเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ Fed ใช้ตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงิน หากตัวเลขสูงกว่าคาด อาจส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงจากความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
2. แนวรับ-แนวต้านสำคัญ:
• แนวรับสำคัญ: $2,589 - $2,604
• แนวต้านสำคัญ: $2,615 - $2,627
3. มุมมองกราฟเทคนิค (TF M30): กราฟแสดงการกลับตัวของราคา (Rebound) ในกรอบเวลาราย 30 นาที และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $2,627 หากสามารถทะลุแนวต้านแรกได้ แต่หากไม่สามารถขึ้นได้ อาจกลับมาทดสอบแนวรับที่ $2,589
4. กลยุทธ์การเทรด: หากกราฟสามารถทะลุแนวต้าน $2,615 ได้ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมาย $2,627 แต่ถ้าหลุดแนวรับ $2,604 อาจพิจารณาทำคำสั่งขาย (Sell) โดยตั้งเป้าหมายกำไรที่ $2,589
🏦นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำในขณะนี้มีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ หากราคาสามารถทะลุผ่านระดับแนวต้านที่ $2,531 ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม มีการสังเกตเห็นรูปแบบเทคนิคที่อาจเกิด “double-top” บนกราฟราคาทองคำ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคาในกรณีที่มีการดีดตัวขึ้นไปสูงแล้วตกลงมา ดังนั้น นักลงทุนควรจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังการประกาศ CPI ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของ FED ในเรื่องนโยบายการเงินในอนาคต
สรุปคือ แนวโน้มระยะสั้นของทองคำดูจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ย แต่อาจเผชิญแรงต้านในช่วงราคาสูง ขณะที่ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในยูเครน ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง  .
📌ฉะนั้นแล้ววันนี้ให้ติดตามข่าวสองทุ่มครึ่งให้ดีตัวชี้วัดทิศทางทองคำ
Candlestick H1 ปิด -Bullish engulfing ถ้าจะทำลายโครงสร้างขาขึ้น📌ในตัวของทองคำวันนี้อาจมีการทำราคาReboundขึ้นมา
เพราะในตัวของ Candlestick H1 ปิด -Bullish engulfing
ถ้าจะทำลายโครงสร้างขาขึ้นได้ทอง
ต้องขึ้นไปลงปิดต่ำกว่า 2605 (จุดยอมขา BUY)
TP มุ่งหวัง 2627/2640/2654
( ระรังข่าวนอกตาราง )
📊มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์ สรุปข่าวทองคำประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2024
📌แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
🍀จากการวิเคราะห์กราฟ:
• แนวรับสำคัญ: อยู่ที่บริเวณ 2,605 และ 2,640
• แนวต้านสำคัญ: อยู่ที่บริเวณ 2,654 และ 2,678
📌ราคาทองคำในกราฟ H1 มีสัญญาณ Bullish Engulfing ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ หากราคายืนเหนือระดับแนวรับ 2,610 ได้ อาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2,640 - 2,654
🏦ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตามวันนี้
1. GBP (14:00): ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยในช่วง 3 เดือน ซึ่งอาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของ GBP และอาจกระทบค่าเงิน USD ทางอ้อม
2. EUR (17:00): ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจยูโรโซน
3. USD (22:00): การกล่าวสุนทรพจน์โดยสมาชิก FOMC นาย Waller ซึ่งอาจให้ข้อมูลแนวทางการเงินในอนาคต อาจสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำ
ผลกระทบต่อราคาทองคำ
• ข้อมูลเศรษฐกิจในยุโรปและการกล่าวสุนทรพจน์ของ Waller อาจกระทบต่อทิศทางค่าเงิน USD หากเกิดการผันผวนใน USD ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหรือลงตามทิศทางของความเชื่อมั่นตลาด
การติดตามแนวรับและแนวต้านพร้อมกับข่าวสำคัญสามารถช่วยให้วางกลยุทธ์การเทรดได้
• นักวิเคราะห์มองว่าในระยะสั้น ราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวสูงตาม📌แนวรับแนวต้านสำคัญ
✅แนวรับ: $2,681 และ $2,641
✅แนวต้าน: $2,696, $2,725 และ $2,748
ติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพราะมีผลต่อราคาทอง
📌มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์และกองทุน
วันนี้ 08/11/2024 ตลาดทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยข่าวสำคัญหลายด้านที่ต้องจับตามอง:
1. ข้อมูลการจ้างงานและอัตราว่างงานของแคนาดา เวลา 20:30 น. โดยข้อมูลการจ้างงานที่สูงขึ้นหรือการลดลงของอัตราว่างงานอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีการปรับตัว ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลต่อทองคำ
2. ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (UoM Consumer Sentiment) เวลา 22:00 น. ข้อมูลนี้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ตลาดเฝ้ารอ เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นสูงอาจบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ดี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่หากความเชื่อมั่นลดลง อาจส่งผลให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุน
3. FOMC Statement และ Press Conference โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีการประชุม FOMC และการแถลงข่าวจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งมีการยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และเน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคต ทำให้ตลาดยังไม่แน่ชัดถึงทิศทางดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งส่งผลให้ทองคำยังคงอยู่ในโซนที่มีแรงซื้อเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
มุมมองนักวิเคราะห์
• นักวิเคราะห์มองว่าในระยะสั้น ราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวสูงตามปัจจัยข่าวเศรษฐกิจ โดยมีแนวรับสำคัญที่ $2,681 และแนวต้านที่ $2,748 ตามภาพกราฟ ซึ่งการเคลื่อนไหวของดัชนีเงินเฟ้อและข้อมูลแรงงานจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการตัดสินใจของนักลงทุนในระยะนี้
• การแถลงการณ์จาก Fed แสดงถึงความไม่แน่ชัดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ทองคำยังคงได้แรงหนุนจากปัจจัยดังกล่าว แต่ควรระวังในกรณีที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด เนื่องจากจะส่งผลให้ทองคำมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลง
🍀ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบนี้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศในวันนี้ แล้ววันนี้เป็นวันศุกร์อาจจะเป็นศุกร์หรรษาก็ได้ระวังกราฟให้ดีขึ้นลงได้สุดในช่วงจังหวะเวลานี้เทรดยังไงให้มีจุดดอมที่ชัดเจนอย่าปล่อยลากอันตราย
แนวรับและแนวต้านสำคัญ •แนวรับ: 2681.27 และ 2637.08 •แนวต้าน2748📌มุมมองส่วนตัวและมุมมองของกองทุนและนักวิเคราะห์
จากกราฟทองคำและข่าวสาร วันนี้ (07/11/2024)
📊มีข่าวสำคัญที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะข่าวจากสหราชอาณาจักร (ข่าวGBP19:30น.) ในเรื่องรายงานนโยบายการเงินและการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าเงิน GBP และอาจสร้างความผันผวนในตลาดทองคำ เนื่องจากความเกี่ยวข้องกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
📌ข่าว USD เวลา 20:30 น. จะมีรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ (USD) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
มุมมองนักวิเคราะห์และกองทุน
1. แนวโน้มขาลงระยะสั้น: จากกราฟ 4 ชั่วโมง (4H) แสดงการปรับตัวลงของราคาทองคำ โดยราคาอยู่ใต้แนวรับ Fibonacci 0.5 (ที่ระดับ 2694.32) ซึ่งถือเป็นสัญญาณขาลงระยะสั้น หากราคายังคงลงต่อไป อาจมองแนวรับถัดไปที่ Fibonacci 0.618 (ที่ 2706.35) และ 0.786 (ที่ 2725.06) เป็นจุดที่นักลงทุนจับตา
2. ผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ: ข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงาน (Unemployment Claims) คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 223K จาก 216K ในครั้งก่อน หากออกมาตามคาด อาจส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า และเป็นปัจจัยบวกสำหรับราคาทองคำในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ตลาดอาจมองเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าและกดดันราคาทองคำ
3. กลยุทธ์การลงทุน: กองทุนและนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้มีความผันผวนสูง การเข้าเทรดอาจต้องรอการยืนยันจากแนวรับที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น ระดับ 2681.27 หรือ 2637.08 หากราคาหลุดระดับเหล่านี้ มีโอกาสที่ทองคำจะปรับลงต่อ ขณะที่จุดแนวต้านสำคัญยังคงอยู่ที่ 2748.89 ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้จุดนี้เป็นสัญญาณสำหรับการขาย
📌สรุป
สถานการณ์การเลือกตั้งในสหรัฐฯ ขณะนี้ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวนสูง เนื่องจากนักลงทุนยังคงต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงของความไม่แน่นอนทางการเมือง การเลือกตั้งที่สูสีหรือมีผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอนสามารถทำให้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนหันเข้าหาทองคำเพื่อลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตนเอง โดยเฉพาะหากมีการท้าทายหรือมีข้อพิพาทเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาทองคำอาจสูงขึ้นในระยะสั้น
นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันเชื่อว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะได้รับผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงในระยะถัดไปและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากผู้ชนะการเลือกตั้งดำเนินนโยบายที่กระตุ้นเงินเฟ้อ เช่น การปรับเพิ่มภาษีหรือข้อจำกัดการค้า ก็อาจเพิ่มความไม่แน่นอนและทำให้ทองคำยังคงมีความน่าสนใจต่อไปในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  .
ราคาทองคำในกราฟ Time Frame H4 แสดงสัญญาณการปรับตัวลงเนื่องจากการ📌มุมมองส่วนตัวและมุมมองของนักวิเคราะห์
วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2024
🏦ราคาทองคำในกราฟ Time Frame H4 แสดงสัญญาณการปรับตัวลงเนื่องจากการเกิดแท่งเทียน Bearish Engulfing ซึ่งเป็นสัญญาณการขายสำคัญ หากราคาทำลายโครงสร้างขาลงได้ จะมีโอกาสปรับตัวไปตามกรอบที่วิเคราะห์ไว้ จุดที่ควรเฝ้าระวังในช่วงนี้คือแนวรับสำคัญที่ระดับ 2737. หากราคาหลุดระดับนี้ไป อาจเห็นการปรับตัวลงไปสู่ระดับแนวรับถัดไปที่ 2718/2707/2695 ตามลำดับ สำหรับกลยุทธ์ที่ควรพิจารณาคือรอดูความชัดเจนของแนวโน้ม ถ้าเกิดการปรับตัวขึ้นสามารถวางจุดขายหรือ Stop Loss ที่ระดับแนวต้าน 2747
🍀ข่าวสำคัญที่ส่งผลต่อทองคำ:
1. เศรษฐกิจสหรัฐฯ: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ดัชนี PMI, การประชุม FOMC, และรายงานการว่างงาน มีผลโดยตรงต่อราคาทองคำ เนื่องจากมีผลกระทบต่อทิศทางดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ย
2. เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์: ความตึงเครียดหรือความไม่แน่นอนระดับโลกมักทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
3. แนวโน้มการปรับดอกเบี้ย: การคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนราคา
📌นักลงทุนควรจับตาดูข้อมูลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลต่อความผันผวนของราคาทองคำ
( ระวังข่าวนอกตารางและวันนี้ ศุกร์อาจจะหรรษาก็ได้ )
ทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH) ยังไม่พอ?ราคาทองคำยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH)ไม่สนใจผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น ดอลลาร์สหรัฐยังคงรักษาระดับกำไรที่แข็งแกร่งไว้ได้ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม แต่ก็ไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเชิงบวกที่แข็งแกร่งซึ่งเกี่ยวข้องกับราคาทองคำมากนัก
ราคาทองคำฟื้นตัวกลับมามีทิศทางบวกอีกครั้งหลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเมื่อคืนนี้
ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ และความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ ทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
คืนนี้ติดตามดูการเผยแพร่ดัชนีการผลิตริชมอนด์ ร่วมถึงคำปราศรัยของนายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย อาจช่วยผลักดันทิศทางราคาได้บ้าง
📊แนวโน้มทางเทคนิค: ราคาทองคำอาจหยุดถูกชะลอช่วงบวกใกล้แนวต้านช่องแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ระดับ 2,750 ดอลลาร์
📈การเคลื่อนตัวขึ้นล่าสุดที่เกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปในช่องทางขาขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ชัดเจน และสนับสนุนแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวไปท้าทายแนวต้านของช่องทางแนวโน้ม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ 2,750(2747) ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันและ4 ชั่วโมงกำลังส่งสัญญาณว่าซื้อมากเกินไปเล็กน้อย และควรระมัดระวัง ดังนั้น จึงควรรอให้ราคาปรับตัวขึ้นในระยะใกล้หรือย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนที่ผู้ซื้อขายจะเริ่มวางตำแหน่งเพื่อขึ้นในครั้งต่อไป
📉ในขณะเดียวกัน การปรับฐานลงใดๆ ก็ตามในขณะนี้ ดูเหมือนว่าจะพบแนวรับที่บริเวณ 2,720 ดอลลาร์(ระหว่างวัน) ตามมาด้วยแนวรับด้านล่างของช่องที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งขณะนี้ตรึงไว้ใกล้บริเวณ 2,710 ดอลลาร์ หากทะลุผ่านลงได้อย่างเด็ดขาด อาจทำให้เกิดการเทจายเพิ่มเตืมได้(Panic sell) การร่วงลงครั้งต่อไปเมื่อหลุดระดับแนวรับ 2700 อาจทำให้ราคาทองคำลดลงเข้าใกล้แนวรับ 2,685 ดอลลาร์ จุดหลังนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ราคาทองคำอาจเร่งการลดลงไปสู่จุดทะลุแนวต้านที่ 2,662-2,661 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแนวรับไปแล้ว
แนวคิดแผน Buy (22 ตุลาคม)
Buy zone 2695-2690
Sl 2680
TP1 2705
TP2 2715
TP3 2725
TP4 2735
TP4 2745
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
—————-
แนวคิดแผน Sell วันที่ 22 ตุลาคม
Sell zone 2763-2766
Sl 2775
TP1 2755
TP2 2745
TP3 2735
TP4 2720
TP5 2700
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 2,733 - 2,769 หากไม่มีข่าว...📊มุมมองส่วนตัวและมุมมองนักวิเคราะห์ วิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2024
แนวรับและแนวต้านสำคัญ
🔽1. แนวรับสำคัญ:
• อยู่ที่ระดับ 2,674.07 และ 2,653.02 ซึ่งเป็นจุดที่ทองคำอาจย่อตัวลงมาหากมีการปรับฐาน
• อีกระดับที่สำคัญคือ 2,660 เป็นแนวรับเพิ่มเติมจาก Fibonacci retracement ระดับ 0.27
🔼2. แนวต้านสำคัญ:
• อยู่ที่ระดับ 2,733.30 และ 2,769.91 (Fibonacci extension 1.618) หากราคาผ่านระดับนี้ได้ คาดว่าจะปรับตัวขึ้นไปต่อเนื่อง
• ในระยะสั้น มีโอกาสเห็นการย่อและ rebound ระหว่าง 2,733 และ 2,769
🏦ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
1. ประกาศดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB): คาดว่าหากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น แต่ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง ทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะขึ้น
2. รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ: การประกาศ Core Retail Sales และดัชนีผู้ผลิต (PMI) จะมีผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์ และทองคำ เนื่องจากทองคำมีการเคลื่อนไหวผันผวนตามค่าเงินดอลลาร์
🗣️มุมมองนักวิเคราะห์และกองทุน
• มุมมองนักวิเคราะห์เทคนิค: นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มขาขึ้นหากยังสามารถรักษาระดับแนวรับที่ 2,700-2,710 ได้ สัญญาณ Bullish บนกราฟ H4 ยังสนับสนุนการขึ้นต่อเนื่อง
• มุมมองกองทุน: หลายกองทุนเพิ่มการถือครองทองคำในช่วงที่ดอกเบี้ยยังสูงและเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน โดยเฉพาะกองทุนที่มองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงวิกฤต
สรุป:
📌ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 2,733 - 2,769 หากไม่มีข่าวเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบรุนแรง นักลงทุนควรระวังการย่อสั้น ๆ และติดตามแนวต้านที่ 2,769 อย่างใกล้ชิด
Candlestick H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เ....🛑#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ 📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลาย
โครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2672 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบายได้. มุ่งหวังที่ 2685/2698/2703
............
#มุมมองส่วนตัวและ นักวิเคราะห์ การวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ประจำวัน 17 ตุลาคม 2567
🍀1.แนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
จากกราฟในภาพ:
• แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ระดับ 2,666.83 และ 2,661.61 ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci retracement ที่ 61.8% และ 50.0% ตามลำดับ
• แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 2,685.29 และ 2,703 หากราคาทองคำผ่านระดับนี้ได้ คาดว่าจะไปทดสอบระดับสูงกว่า Fibonacci extension ที่ 1.618 (ประมาณ 2,715.15)
🍀2.สัญญาณเชิงเทคนิค
• กราฟ H4 ปิดแท่งเทียนรูปแบบ Bullish Engulfing ซึ่งเป็นสัญญาณบวก บ่งบอกว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น
• ค่า Stochastic อยู่ในโซน overbought (80.76) บ่งชี้ว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำอาจมีการปรับฐานลงในระยะสั้น
💥3. ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
• 19:15 น. ประกาศ Main Refinancing Rate ของยูโรโซน: คาดว่าจะส่งผลต่อค่าเงินยูโร หากมีการปรับดอกเบี้ย อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าหรืออ่อนลง ซึ่งมีผลกระทบต่อราคาทองคำ
• 19:30 น. ประกาศข้อมูล Core Retail Sales และ Retail Sales m/m ของสหรัฐฯ: ตัวเลขนี้จะบ่งชี้ถึงการจับจ่ายของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์
• 19:45 น. การแถลงข่าวของ ECB: ควรจับตาดูนโยบายการเงินเพิ่มเติมที่อาจส่งผลต่อค่าเงินยูโรและทองคำ
💥4. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ราคาทองคำยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น ดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางและการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจหลักๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้ทองคำผันผวน
📌📌📌ข้อควรระวังในการเทรดทองคำ (XAUUSD)
1. การผันผวนจากข่าวเศรษฐกิจ: การประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญอย่างการประกาศดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) และการประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำ ทองคำมีโอกาสผันผวนรุนแรงระหว่างการประกาศข่าว ดังนั้นควรระวังการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดในช่วงเวลานี้
2. แนวโน้มตลาดการเงินโลก: สภาวะเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลให้ตลาดทองคำเคลื่อนไหวไม่แน่นอน เช่น การตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการปรับดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาทองคำในระยะสั้น
3. ภาวะ Overbought: จากการวิเคราะห์เชิงเทคนิค ค่า Stochastic ของกราฟ H4 ที่อยู่ในเขต overbought บ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับฐานของราคาทองคำในระยะสั้น ควรติดตามการยืนยันสัญญาณขาลงเพิ่มเติมจากกราฟและอินดิเคเตอร์อื่น ๆ
มุมมองนักวิเคราะห์
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิค ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะกลาง โดยเฉพาะหากสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 2,685-2,703 ขึ้นไปได้
• นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ บางคนเตือนว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมักถือทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
• การปรับฐานในระยะสั้น: อย่างไรก็ตาม มีมุมมองที่ว่าหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ อาจมีการปรับฐานลงมาตามแนวรับสำคัญที่ 2,666.83 และ 2,661.61
สรุป: นักลงทุนควรระมัดระวังในการเทรดช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญและใช้สัญญาณเทคนิคช่วยในการยืนยันการเข้าออกคำสั่ง เทรดควรมีจุดยอมที่ชัดเจนอย่าปล่อยลาก ย้ำตลาดนัดปัจจุบันไม่เหมาะกับการถือยาวควรทำกำไรระยะสั้น
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลายโครง...🛑#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ 📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลาย
โครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2661 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบวนได้. มุ่งหวังที่ 2673/2678/268
🏦#มุมมองส่วนตัว และนักวิเคระห์ สำหรับการวิเคราะห์ราคาทองคำ (XAUUSD) ในสัปดาห์นี้ (14-18 ตุลาคม 2024) จากข้อมูลในกราฟและแนวโน้มปัจจุบัน:
🍀1. แนวรับสำคัญ: บริเวณที่น่าสนใจเป็นพิเศษในกราฟจะอยู่ที่ระดับ $2,633.79 ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 0.618 โดยหากราคาทองคำไม่สามารถทะลุลงต่ำกว่าจุดนี้ได้ จะเป็นการยืนยันแนวรับที่สำคัญ นอกจากนี้บริเวณ $2,643.81 (Fibonacci 0.51) ก็เป็นแนวรับรองลงมา
🍀2. แนวต้านสำคัญ: แนวต้านที่น่าสังเกตคือบริเวณ $2,686.22 ซึ่งหากราคาสามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้นไปต่อในทิศทางขาขึ้น
🍀3. อินดิเคเตอร์ Stochastic: ข้อมูลในกราฟแสดงว่า Stochastic ใกล้เคียงกับโซน overbought ที่ประมาณ 80.76 ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีแรงขายเกิดขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากไม่มีแรงกดดันจากข่าวหรือปัจจัยพื้นฐาน อาจเห็นการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนการย่อตัว
📊Candlestick
H4 ปิด bullish Engulfing ฉะนั้นขาขึ้นได้เปรียบถ้าจะทำลายโครงสร้างของแท่งเทียนได้ต้องหลุด 2661 (จุดยอม SL )แต่ถ้าไม่ผ่านราคานี้ยังสามารถถือบวนได้. มุ่งหวังที่ 2673/2678/2685
✅#ข่าวที่ต้องติดตาม
4. วันที่ 16 ตุลาคม 2567 มีข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ (XAUUSD) ได้แก่:
1. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ: ประกาศในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ข้อมูล PPI นี้จะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง ซึ่งหากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาด จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
2. ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ: คาดว่าจะประกาศเวลา 20:15 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตัวเลขนี้สามารถบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ หากการผลิตลดลง จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และสนับสนุนให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้น
💥ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางการเมือง เช่น สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
💥ดังนั้น จากกราฟและข้อมูลทางเทคนิคปัจจุบัน ราคาทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหากผ่านแนวต้านสำคัญ แต่ในระยะสั้น อาจเห็นการย่อตัวหากมีแรงขายจากระดับ overbought ของ Stochastic
🏦สำหรับผู้ที่ถือทองคำควรติดตามข่าวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบต่อทิศทางราคาทองคำในตลาดระยะสั้นถึงระยะกลางได้อย่างมีนัยสำคัญ  .
#เทรดควรมีจุดยอมอย่างชัดเจน และบริหารส่วนกำไรพักพอ ไม่ต้องโลภค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดนัดปัจจุบันไม่เหมาะกับการเทรดระยะยาวควรเหมาะกับการเทรดทำกำไรระยะสั้น
H4 กำลังรอการปรับฐานแต่ความขัดแย้งทางตะวันออกกลางส่อเค้ารุนแรง วิเคราะห์ราคาทองคำ 30/9 - 04/10/2567
🌐 ทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 วัน ต่ำกว่า 2,650 ดอลลาร์ หลังจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐ (Bureau of Economic Analysis: BEA) รายงานว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนกันยายนใกล้จะเข้าใกล้เป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แล้ว แม้จะมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก แต่ยังเผชิญแรงขายสลับเข้ามาด้วยปัจจัยทางเทคนิค ล่าสุดซื้อขายที่ 2,657 ดอลลาร์ ลดลงเกือบ 0.50%
ก่อนหน้านี้ BEA ประกาศว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดชื่นชอบ แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมาย 2% ในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ PCE พื้นฐานยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับข้อมูลเดือนกรกฎาคม
💥นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในตะวันออกกลางยังทวีความรุนแรงขึ้นด้วยและได้โจมตีสำนักงานใหญ่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทางตอนใต้ของกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ และล่าสุดกองทัพอิสราเอลเริ่มเตรียมเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อต่อต้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนต่อไป
เจ้าหน้าที่สหรัฐหลายคนระบุว่า กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลได้เริ่มหรือใกล้จะเริ่มปฏิบัติการทางบกในขอบเขตจำกัดเพื่อโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนแล้ว มีรายงานว่ารถหุ้มเกราะและทหารได้เคลื่อนเข้าสู่เลบานอนตอนใต้ในหลายจุดตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก กองทัพอิสราเอลเรียกร้องให้พลเรือนในย่าน 'อัลชีอะห์' ในกรุงเบรุตอพยพทันที
🕯มุมมองทางเทคนิค
: ราคาทองคำร่วงลงและเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 2,650 ดอลลาร์หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,685 ดอลลาร์ แต่ก็ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคายังไม่สามารถทำ New all time high ได้ จึงอาจเกิดการย่อตัวลงได้ โมเมนตัมระยะสั้นเอื้อต่อการขายเพื่อเอากำไร เนื่องจากดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) หลุดจากเขตซื้อมากเกินไป และมุ่งไปที่ระดับ 60 (RSI)
📉 โมเมนตั้มล่าสุดประเมินว่างหากร่วงลงต่ำกว่า 2,625 ดอลลาร์ ให้รอทดสอบระดับสูงสุดประจำวันที่ 18 กันยายนที่ 2,600 ดอลลาร์ ระดับแนวรับสำคัญที่จะทดสอบต่อไปคือระดับต่ำสุดประจำวันที่ 18 กันยายนที่ 2,546 ดอลลาร์ ตามด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันที่ 2,488 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน หากการขยับตัวขึ้นทะลุเหนือระดับสูงสุดในรอบปี (YTD) ที่ 2,685 ดอลลาร์ ระดับแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์ ระดับแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 2,750 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับ 2,800 ดอลลาร์
......
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญดังต่อไปนี้:
Resistance: 2685, 2705, 2750, 2800
Support : 2625, 2600, 2575, 2546
--------------------------------------
ทองคำพุ่งสูง – ใกล้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว✍️ความคิดเห็นเกี่ยวกับราคาทองคำช่วงวันที่ 12 - 16 สิงหาคม 2567
สถานการณ์ล่าสุด :
◾️ราคาทองคำยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันระดับรายวัน โดยนักลงทุนยังคงมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเริ่มผ่อนปรนนโยบายในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างอิสราเอล กับเลบานอนและอิหร่านยังช่วยหนุนราคาทองคำก่อนสุดสัปดาห์นี้อีกด้วย โดยซื้อขายที่ 2,432 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.22%
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว แต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้เกิดความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความกังวลต่อรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของ ISM ที่อ่อนแอและการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เดือนกรกฎาคมลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงท้ายเซสชั่นนิวยอร์ก
--------------------------------------
📌Identify:
ราคาทองคำฟื้นตัว - แรงจูงใจสำคัญในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ใกล้เข้ามาแล้ว - รอการให้ความสนใจ โซนต้านทานสัปดาห์หน้า: 2473, 2483, 2502
--------------------------------------
พื้นที่แนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ตั้งแต่วันที่ ตั้งแต่วันที่ 12 - 16 สิงหาคม 2567
ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังนี้:
แนวต้าน: 2473, 2483, 2502, 2510
แนวรับ : 2390, 2376, 2353, 2320
--------------------------------------
⚠️หมายเหตุ
- บทวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น
- ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการคาดการณ์
- ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน
- โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
**ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่่ยงสูง ควรติดตามปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
ขอให้เทรดเดอร์จัดการเงินทุนของตนให้ดี
- เลือกจำนวนล็อตที่ตรงกับเงินทุนของคุณ
- Takeprofit เท่ากับ 4-6% ของบัญชีเงินทุน
- Stoplose เท่ากับ 2-3% ของบัญชีเงินทุน
- ผู้ชนะคือผู้ที่อยู่กับตลาดนานที่สุด
วิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 29 พ.ค1. แนวโน้มราคา:
- ราคาทองคำปิดสถิติชนะสามวันในวันพุธ เนื่องจาก USD ฟื้นตัวเล็กน้อย
- เจ้าหน้าที่ Fed แสดงความเห็นแบบประหม่าและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ทำให้ความคาดหวังที่ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนลดลง
2. ปัจจัยที่มีอิทธิพล:
- US Dollar: ราคา USD เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อราคาทองคำในสกุลเงิน USD
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: สามารถเพิ่มสินทรัพย์ปลอดภัยให้กับทองคำได้
- ความต้องการจากธนาคารกลาง: ยังคงรวมราคาทองคำที่สูงขึ้น
3. ความคิดเห็นของเฟด:
- ความคิดเห็นที่หยาบคายของเฟดสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
- การชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจสร้างแรงกดดันต่อการขายทองคำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเพิ่มต้นทุนเสียโอกาสของทองคำ
4. สถานการณ์ทางการเมือง ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลอิสราเอล:
- นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศความต่อเนื่องของการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส
- ความตึงเครียดนี้อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเนื่องจากมีลักษณะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
1. แนวโน้มระยะยาว:
- ราคาทองคำยังคงยืนเหนือเส้น EMA 34 วันในกราฟ 1 วัน ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว
2. ตัวบ่งชี้ RSI:
- RSI 14 วันอยู่ที่ประมาณค่าเฉลี่ย 50 ซึ่งบ่งบอกถึงการแข็งตัวหรือความสับสนในปัจจุบัน
3. เป้าหมายการเพิ่มราคา
ย้อนกลับไปที่ระดับ 2325- 2305 เพื่อกลับตัวแนวโน้มขาขึ้น
แนวต้านที่ 2,370 ทำให้ราคาทองคำไม่พุ่งขึ้นในระยะสั้น
สรุป
ราคาทองคำกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการฟื้นตัวของ USD และความคิดเห็นที่ไม่ค่อยดีนักจากเฟด อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความต้องการจากธนาคารกลางอาจยังคงสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว ผู้ค้าจำเป็นต้องติดตามเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญเพื่อกำหนดทิศทางต่อไปของราคาทองคำ
ทองคำ TF ใหญ๋ ขา Sell ยังได้เปรียบ กรอบราคา week 2302 - 2363ทองคำ TF ใหญ๋ ขา Sell ยังได้เปรียบ กรอบราคา 2302 - 2363
ในสัปดาห์นี้มีข่าวที่สำคํญให้ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ เป็นปัจจัยสำคัญให้กราฟวิ่งในกรอบราคากว้างพอสมควร
ฉะนั่นสัปดาห์ ต้องติดตามข่าวและให้ระวังข่าวนอกตารางให้ดีิ
โดยส่วนตัว ต้องต้องการ buy เก็บสั้นและรอ short ใน Zone 2355-2565
อย่างไรก็ตามให้ บริหารพอร์ตดีๆและมีจุดยอมที่ชัดเจนนะคะ
💡 XAUUSD: วิเคราะห์วันที่ 24 พฤษภาคมราคาทองคำยังคงลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดแท่งเทียน marubozu ในแต่ละวัน แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันในการขายมีมาก สถานการณ์ค่อนข้างเอื้ออำนวยต่อกลยุทธ์การขาย ซึ่งขณะนี้ราคาเป้าหมายเริ่มต้นสำหรับตำแหน่งขาย - ประมาณ 2350 - ได้ทะลุทะลวงไปแล้ว คุณควรพิจารณารับผลกำไรบางส่วนสำหรับตำแหน่งที่มีอยู่ คำสั่งซื้อขายที่เหลือจะกำหนดเป้าหมายไปที่โซน 2300 อีกครั้ง
💡 แนวโน้มทองคำ H1: ลง
แนวคิดการซื้อขายวันนี้: ขายทองคำ
Eaw_Neowave อัพเดท xau ที่นับไว้วันที่ 19 เมษายน 2567วันก่อนลงเป็นรหัสคลื่นคนไม่เข้าใจ สอบถามกันมาเต็มเลย ชุดที่ขึ้นมาเป็น Non standard small x wave
และคาดการณ์ว่าชุดที่สองของ Non standard small x wave น่าจะเป็น correction
ประเภท zigzag รอบนี้ราคาน่าจะลงไปที่ 2040 เหรียญก่อนจะเด้งคลื่นบีแล้วค่อยลงคลื่นซีไปที่ 1924 - 1920
ก่อนจะขึ้นคลื่นซีในดีกรีที่ใหญ่กว่าโดยจะชึ้นไปที่ 2690 - 2700
คาดว่าทองคำจะร่วงลงอย่างมากในวันนี้ที่ 2,300ราคาทองคำลดลงเล็กน้อยในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันอังคาร โดยได้รับแรงสนับสนุนอย่างจำกัดจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ในขณะที่ยังคงมุ่งเน้นไปที่ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ หลังจากที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีราฟาห์ในฉนวนกาซาตอนใต้อย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวที่ทำให้การเจรจาหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น รายงานยังชี้ให้เห็นว่าการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก
ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอกว่าที่คาดเมื่อวันศุกร์ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมาก แต่ดอลลาร์กลับพบจุดยืนในวันอังคาร
ราคาทองคำสปอตร่วงลง 0.1% สู่ระดับ 2,322.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนมิถุนายนทรงตัวที่ 2,330.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 01:14 ET (05:14 GMT)
คาดว่าทองคำจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแล้วลดลงลึกราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ในวันจันทร์ (6 พ.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวกว่าที่คาด ทำให้เกิดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 6 พฤษภาคม สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 1.04% เป็น 2,325.44 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.13% เป็น 2,334.70 USD/oz
Daniel Ghali นักยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า "การลดลงที่เราได้เห็นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจทำให้โมเมนตัมหายไป เป็นการปูทางให้ราคาทองคำกลับมามีโมเมนตัมขาขึ้นอีกครั้ง"
ราคาทองคำร่วงลง 1.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของงานในสหรัฐฯ ชะลอตัวเกินคาดในเดือนเมษายน ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างรายปีลดลงต่ำกว่า 4.0% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี
แม้ว่าทองคำมักถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แต่อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ และสร้างแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ตรึงทองคำไว้
เงินดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในวันที่ 3 พฤษภาคม ตามรายงานของการจ้างงาน