💡 GOLDOZ: ระยะการสะสมและแนวโน้มรั้นระยะการสะสมของ H1 Gold ได้สร้างแนวโน้มไซด์เวย์เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความพยายามที่จะผลักดันราคาทองคำให้อยู่เหนือขอบเขตล่างของช่วงราคา H1 ในช่วงการซื้อขายของเมื่อวานไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากราคาทองคำตกลงไปที่จุดต่ำสุดก่อนแล้วจึงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้เกิดสัญญาณเบรกปลอม ในช่วงการซื้อขายวันนี้ มีแนวโน้มว่า H1 Gold จะยังคงรักษาราคาไว้ข้างต้นต่อไป หากระดับราคานี้ทะลุออกไป Gold H1 สามารถสร้างรูปแบบ Double Bottom ให้สมบูรณ์หรือเพียงแค่สร้างเงื่อนไขสำหรับการดีดตัวของราคาผ่านการทำลายโซนสะสม
Goldanalaysis
สรุป แนวทางข่าววันนี้ ความน่าจะเป็น (มุมมองส่วนตัว)✅ข่าวที่ต้อง ติดตาม สัปดาห์นี้
🛑วันจันทร์ที่ 3
•PMI / 3ทุ่ม
.
🛑วันพฤหัสที่ 6
•FOMC Meeting Minutes 01.00น.
•ADP Nonfarm 19.15 น.
•Initial Jobless Claims 19.30น .
•Services PMI 20.45น.
•ISM Non-Manufacturing PMI (Jun)/ JOLTs Job 21.00น.
🛑วันศุกร์ที่ 7
**BIg foucs
* Nonfarm Payrolls (Jun) 19.30 น.
*Unemployment Rate Jun19.30 น.
*Average Hourly Earnings (MoM) (Jun) 19.30น
****
✅สรุป แนวทางข่าววันนี้ ความน่าจะเป็น (มุมมองส่วนตัว)
จากคาดการณ์ข่าว วันนี้ ช่วง 20:45 น. ออกมา เท่าเดิมหรือ น้อยกว่า ครั้งที่แล้วก็ยังเป็น ปัจจัยบวกให้ ดอลล่า กดดันทองคำ Big Foucs วันนี้ 21:00น. ข่าว PMI ตัวเลขคาดการณ์ออกมาดี มากกว่า ครั้ง ที่แล้ว ส่งผลดี ต่อ ดอลล่า กดดันทองคำ วันนี้ทองคำอาจมีการรีบราวทำราคา ขึ้น ได้ ได้ ที่ 1927-1931 เป็นโซน ทดสอบ Buy และเป็น โซน Sell ด้วย ในราคานี้สามารถพิจารณาเซลล์ได้แต่ต้อง Management บริหารทุนดีๆค่ะ เป้ากำไร 1919 รับสำคัญวันนี้ 1912 -1908 เป็นโซนทดสอบ Sell ถ้าผ่าน รับถัดไปที่ 1902-1895 อย่างไรก็ตามวันนี้ให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดและรับฟังข่าวนอกตารางและรอ ข่าว Confirm ครั้ง ช่วงนี้ควร SL แคปมากกว่าปกติ อยู่ในช่วง ทองคำมีการเหวี่ยงตัวทำราคาสูงอย่างไรก็ตามบริหารทุนให้ดีสัปดาห์นี้มีข่าวหลายตัวที่ต้องติดตาม
(รับสุดๆที่ ที่มองไว้ว่าจะมาทดสอบก่อนกลับตัวแรงๆ ที่ 1878-1882 )
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2565 ทองคำยังแกว่งตัวในกรอบนักลงทุนรอติดตามตัวเลข CPI สหรัฐฯ
ตลาดทองคำเวลานี้ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบการแกว่งตัวช่วงระหว่าง 1732-1752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยเฝ้ารอการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำสัปดาห์นี้ก็คงจะมีรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ของสหรัฐฯ ในวันพุธที่ 13 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ อีกทั้งนักลงทุนยังให้ความเชื่อมั่นว่าทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังให้ความมั่นใจว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ที่ระดับ 0.75 เลยอาจะเป็นประเด็นให้ดอลลาร์กลับมาได้อีกหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นภาวะการชี้นำการลงทุนของนักลงทุนในช่วงเวลาด้ังกล่าวได้
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำรายวันทองคำปรับตัวเข้าในช่วงของ Oversold มาเป็นเวลา 3 วันแล้ว ซึ่งลักษณะของกราฟนั้นจะเห็นการเข้าซื้อและการทำกำไรของฝั่งกระทิงเกิดขึ้นในช่วงบริเวณ 1736-1735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากมีแรงซื้อเข้ามาในบริเวณนี้มากพอที่จะทำให้ทองคำเคลื่อนไหวปรับฐานราคาได้นั้น เรายังมีแนวต้านระยะสั้นที่บริเวณ 1760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่อาจเป็นที่ปรับฐานราคาขาลงต่อ? สำหรับในกรอบรายชั่วโมง วันนี้เราอาจยังเห็นการแกว่งตัวของราคาในช่วงของ 1732-1752 ดอลลาร์ต่อออนซ์
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น ให้เสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาหลุดลงต่ำกว่าแนวรับดังกล่าวก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน
Long Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับบริเวณ 1732 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวต้าน 1752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาปรับขึ้นเหนือแนวต้านดังกล่าวก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับต่ำกว่า 1732 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะกลาง)
-------------------------------------------
Resistance :1786 / 1836 / 1867
-------------------------------------------
Support : 1736 / 1706 / 1681
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1752 / 1764 / 1773
-------------------------------------------
Support : 1732 / 1713 / 1701
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Down trend
Time Frame H4 = Down trend
Time Frame Day = Down trend
Time Frame Week = Up trend
Time Frame Month = Up trend
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (เมษายน)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ล่าสุดขายออก -1.16 ตัน
คงถือสุทธิ = 1,023.27 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,742.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 5
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = -29.36 ตัน
-------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2565 ทองร่วงกว่า 11 ดอลลาร์ล่า หลังราคาบอนด์พุ่ง และราคาน้ำมันดิ่งลง
ทองคำร่วงลงจากระดับ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.9% และการปรับร่วงลงของราคาน้ำมันก็เป็นกดดันให้ทองคำปรับร่วงลง
สถานการณ์รัสเซียกับยูเครนก็ส่อไปทางที่ดีขึ้นจากการเจรจาหยุดยิงรอบที่ 3 โดยตกลงว่าจะให้มีการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงก่อน แต่การสู้รบยังไม่สรุปจบเพราะเงื่อนไขบนโต๊ะเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปและดำเนินการ เพียงแต่เป็นการหยุดยิงชั่วคราว ก็ต้องดูท่าทีของฝั่งรัสเซียว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เหตุผลดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นกลับ มาคึกคักอีกครั้งจนเกิดการเทขายทองคำเพื่อกลับไปลงทุนในตลาดความเสี่ยงสูงตามโอกาสที่มีอยู่ในระยะสั้นๆ สำหรับวันนี้ติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรายงานตัวเลขสะท้อนเงินเฟ้อที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงปัจจุบัน เป็นเหตุผลที่เฟดจะนำไปกำหนดนโยบายทางการเงินภายในประเทศต่อการตัดสินใจการปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงระหว่าง 15-16 มีนาคม 2565 นี้ วันนี้ธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB จะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลา 19:45น. คาดว่าจะคงอัตราเดิมที่ 0.00% ให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 11.40 ดอลลาร์ หรือ -0.57% ปิดที่ 1,976.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำปรับย่อตัวลงมาใกล้กับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในกรอบรายชั่วโมง เป็นช่วงราคาระหว่าง 1976-1954 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่หลุดช่วงดังกล่าวนั้น ก็ยังมีโอกาสที่จะมีแรงซื้อกลับมาหนุนราคาทองคำให้กลับขึ้นสู่ด้านบนได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแรงซื้อของทองคำหากวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน เรายังมองไม่เห็นโอกาสปรับขึ้นตอนนี้ ต้องรอให้เรื่องราวของรัสเซียกับยูเครนดำเนินการในทางลบต่อ หรือเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ตลอดจนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่จะมีขึ้นว่าจะออกยาแรงหรือดำเนินการเป็นขั้นๆ ไป
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) เส้น RSI ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 40 และเหนือระดับ Over sold ส่วนเส้น SMA20 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง บอกถึงแรงซื้อยังไม่กลับมา
เส้น SMA200 ปรับตัวใกล้เป็นแนวระนาบ ต้องระมัดระวังการซื้อขายในระดับเส้นแบบนี้ เนื่องจากทิศทางแรงซื้อหรือขายยังไม่ชัดเจน
เส้น SMA 50 ปรับตัวลดลงตามแรงขายที่เข้ามาหนุนตลาดทั้งวันเมื่อวานนี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 2012-1998 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ อาจเสี่ยงเปิด “ขาย” ได้จากแนวดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไร 1976 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 2012 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือระดับ 1976-1954 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณ 2012-1998 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1954 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 2020 / 2048 / 2071
-------------------------------------------
Support : 1928 / 1900 / 1877
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1988 / 2012 / 2023
-------------------------------------------
Support : 1954 / 1940 / 1928
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -4.06 ตัน
คงถือสุทธิ = 1063.28 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1991.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 7
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +36.29 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพุธที่ 9 มีนาคม 2565 แรงกดดันภาวะสงครามที่ส่อเค้าจะยืดเยื้อนั้นทำทองพุ่งเหนือตลาดกว่า 47.4 ดอลลาร์
เป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดสำหรับราคาทองคำขณะนี้ที่เรียกว่าทำให้ตื่นเต้นกันตลอดเวลา จากการปรับขึ้นของทองคำนั้น หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะจบลงที่ตรงนี้หรือไปต่อ ขณะที่เขียนอยู่นั้นแรงซื้อตลาดซื้อขาย Comex กรอบรายวันยังเห็นการเข้าซื้อทองคำเป็นระยะ ซึ่งเป้าหมายใกล้เคียงกับราคา 2070 ดอลลาร์ต่อออนซ์มากขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commondity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 47.40 ดอลลาร์ หรือ 2.37% ปิดที่ 2,043.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อมาจากปัจจัยหลักๆ ดังนี้
เกิดจากการเข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรของนักลงทุนเมื่อเห็นราคาทองคำผ่านระดับจิตวิทยาเหนือ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงเป็นเหตุให้นักลงทุนเข้าซื้อทางเทคนิคเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากการขายออก และการเปิดเผยรายงานตัวเลขทางเศรษกิจของสหรัฐที่ออกมาแย่ เช่น ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐ และดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนามย่อม
การกลับมาแข็งค่าของสกุลเงิน EUR เกิดความคาดหวังว่า EU จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังเพื่อช่วยชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 4.64 ตัน บอกถึงเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำต่อเนื่อง
ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก และราคาพลังงานก็พุ่งขึ้นซ้ำเติมเงินเฟ้อที่รุนแรงขณะนี้ จึงเกิดแรงกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำ
ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยในการเคลื่อนไหวราคาทองคำขณะนี้ สิ่งที่ผมจะบอกได้ว่าทองคำไปต่อหรือจบลงตรงนี้คงไม่มีใครกล้าออกมาการันตี เวลาที่ของมันยังหลอมเหลวไม่ขึ้นจากเบ้าว่าหน้าตาจะออกมาใช้ได้หรือไม่ ก็แนะนำเพียงติดตามผลการเจรจาต่อเนื่องของทั้งสองฝ่ายว่าจะมีข้อตกลงยุติการกระทำระหว่างกันเมื่อไหร่
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2037 ดอลลาร์ต่อออนซ์ บอกถึงแรงซื้อที่ยังคงหนุนราคาทองคำต่อเนื่องเพื่อให้ราคาทองคำกลับสู่ราคาเป้าหมายคาดการณ์ที่ระดับ 2072 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำวันนี้ยังไม่สามารถกลับไปที่บริเวณดังกล่าว อาจมีการเทกำไรสลับออกมาเป็นช่วงๆ ตามรอบการทำกำไรของนักลงทุนแต่ละรอบ ซึ่งทองคำอาจกลับช่วงพักฐานก่อนในช่วงวันระหว่างราคา 2060-2028 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เฝ้าติดตามระดับราคาอย่างใกล้ชิดพร้อมติดตามเรื่องรางของสงครามและราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด
================
Indicator (TF H1)
================
True RSI (14) เส้น RSI แกว่งตัวเหนือระดับ 60 แต่ยังสลับขึ้นลง เนื่องจากแรงจาก SMA20 ยังโน้มตัวเข้าชนกับเส้น RSI คงต้องรอแรงซื้อกลับเข้ามาหนุน ซึ่งคาดวาเส้นจะกลับขึ้นไปได้ถ้าราคาปรับเหนือ 2055 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เส้น SMA200 ยังคงปรับตัวขึ้นอยู่และอยู่เหนือระดับ 1940 ดอลลาร์ บอกถึงแรงซื้อราคาที่อาจรักษาตัวเหนือ 1900 ได้ในช่วงเวลานี้
เส้น SMA 50 ยังปรับตัวขึ้นบอกถึงแรงซื้อราคาระยะสั้นได้ดีเวลานี้
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Short Position : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านระดับ 2072-2055 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น แนะนำให้เสี่ยงเปิด “ขาย” จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาปิดทำกำไรหากทองคำย่อตัวมารักษาระดับได้บริเวณแนวรับ 2028-2018 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดแนวรับดังกล่าวไปได้ก็ให้ปิดกำไรบางส่วนออกไปก่อนแล้วคงเหลือออเดอร์ที่มีกำไรไม่ห่างจากราคามากนักไปพิจารณาแนวรับถัดไปที่ระดับ 2000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ 2072 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Long Position : หากราคาทองคำย่อตัวลงมาแล้วทรงตัวเหนือระดับ 2028-2018 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว เน้นการลงทุนระยะสั้น พิจารณาเป้าหมายกำไรที่ระดับ 2072-2055 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ให้พิจารณาปิดกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวต้านถัดไปคือ 2116 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 2078 / 2126 / 2160
-------------------------------------------
Support : 2035 / 2002 / 1954
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 2072 / 2117 / 2188
-------------------------------------------
Support : 2028 / 2017 / 2000
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = Uptrend
Time Frame H4 = Uptrend
Time Frame Day = Uptrend
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ (มีนาคม)
-------------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ซื้อเพิ่ม 4.64 ตัน
คงถือสุทธิ = 1067.34 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 2049.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 6
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +40.35 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
Gold Today Plan... 21.02.22สรุปภาพรวม : ระยะสั้น-กลางขาขึ้นยังเปรียบอย่างชัดเจนจากปัจจัยความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ที่ยังคงมีอยู่ ประกอบกับในเชิงเทคคนิคคอลที่กราฟราคาในหลายๆ TF นั้น อยู่บนเส้น EMA 200/100
แต่หากดู RSI ในTF H1 เกิด Bearish Divergence ต่อเนื่อง อาจจะทำให้ราคาย่อลงเล็กน้อย รวมถึงการ sell เพื่อชะลอแรงซื้อและการขายเพื่อทำกำไร ทำให้กราฟราคาช่วงนี้อาจจะเกิดภาพ sideways ก็เป็นไปได้
ซึ่งอาจจะมองได้สองมุมว่า กราฟกำลังพักฐานสะสมแรงเพื่อไปต่อ หรือ รอดูความชัดเจนจากปัจจัยสงคราม
โดยมี Keyzone สำคัญเชิงเทคนิคที่ช่วงแนว 1878-1883 ซึ่งเป็นแนวรับเชิงนัยยะสำคัญซึ่งหากทะลุลงไปอาจจะทำให้แรงขาขึ้นนั้นเสียทรงเล็กน้อย ซึ่งอาจจะเป็นการย่อตัวเพื่อขึ้นต่อ และ Keyzone 1900-1906 ที่เป็นแนวต้านและถือเป็นแนว High ล่าสุด
หากทะลุแนวนี้ขึ้นมีโอกาสสูงที่จะขึ้นไปทดสอบเป้าขาขึ้นต่อไป
เป้าขึ้นระยะใกล้ที่แนว 1915-1922 ระยะกลางที่แนว 1937-1940
เป้าลงระยะใกล้ที่แนว 1878-1883 ระยะกลางที่แนว 1859-1865
-- แผนเข้า --
Buy Zone 1: 1878-1883
Buy Zone 2: 1859-1865
Follow Buy Zone 3: 1908-1910
====
Sell Zone 1 : 1900-1903
Sell Zone 2 : 1915-1920
** เป็นบทวิเคราะห์จากทัศนะคติและมุมมองส่วนตัว โปรดใช้วิจาณญาณในการรับชม**
วิเคราะห์ทองคำศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ทองคำเมื่อคืนนี้กลับมาปิดลบเล็กน้อย หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 60 เซนต์ หรือ +0.03% ปิดที่ระดับ 1,842.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำวานนี้ได้รับแรงหนุนช่วงค่ำหลังมีการรายงานตัวเลขสำคัญของสหรัฐฯ ที่ออกมาเช่นตัวเลขสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการไว้ ทำให้ทองคำวิ่งขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบนที่ 1847 แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านขึ้นได้นั้น ส่วนหนึ่งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย หลังสหรัฐกังวลต่อสถานการณ์ของรัสเซียที่ประธานาธิบดีดีวลาดิเมียร์ ปูตินอาจตัดสินใจบุกยูเครน นักลงทุนเลยเข้าซื้อทองคำส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยช่วงสุดท้ายของตลาดทองคำก็กลับลงมาอีกครั้งจากการเทขายทำกำไร และดอลลาร์กลับมาแข็งค่า แต่ก็ขยับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือว่าทองคำยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ดีกว่ารอบผ่านมา
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้ โบรกเกอร์ FXCM
ทองคำเช้านี้ยังทรงตัวเหนือระดับ 1836 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งขณะเขียนนี้ทองคำขยับที่ 39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงเป็นการปรับขึ้นช่วงบวกของเช้าวันนี้ โดยแรงซื้อยังคงเข้าหนุนราคาในระยะสั้นอยู่ หากทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1842 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น อาจเจอแรงขายทำกำไรระยะสั้น หรือเป็นช่วงปรับฐานราคาก่อน โดยประเมินแนวรับที่ 1832-1830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนอาจพิจารณารอเข้าซื้อที่บริเวณดังกล่าวก็ได้ หากราคาลงไปทรงตัวได้อย่างชัดเจนที่บริเวณดังกล่าว
===========
Indicator (TF H1)
===========
True RSI (14) เส้น RSI ปรับตัววิ่งเข้าโซนปรับฐานจากจุดซื้อมากเกินไป แต่ยังทรงตัวเหนือระดับ 50 ได้อยู่ ซึ่งถ้าหากเส้น RSI ยังไม่สามารถขึ้นเหนือ 60 ได้ก็มีโอกาสที่ปรับตัวต่ำตามรอบการปรับฐานราคาอีกครั้ง ส่วน SMA20 วันก็ยังปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ยังอยู่เหนือแดนบวก
เส้น SMA200 ปรับตัวขึ้นสนับแรงซื้อที่เข้าตลาดเมื่อช่วงวานนี้ ทำให้ภาพรวมทองคำเวลานี้น้ำหนักฝั่งกระทิงจะดูได้เปรียบตลาดหมี แต่ก็ต้องระวังการปรับฐานย่อตัวที่จะเกิดขึ้นตามแนวต้านสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
=================================
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
=================================
Long Position : หากราคาทองคำปรับฐานต่ำมาที่ระดับ 1831-1834 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวได้นั้น อาจเสี่ยงเปิด “ซื้อ” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น เป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถผ่านแนวต้านระยะสั้นดังกล่าวขึ้นไปได้ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน แนวต้านถัดไปประเมินที่ 1842-1843 (แนวต้านระยะสั้น) (ตัดขาดทุนหากราคาหลุดต่ำกว่า 1831 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Postion : หากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1842-1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้นให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ได้จากบริเวณดังกล่าว โดยคงเน้นการลงทุนระยะสั้นเท่านั้น พิจารณาปิดทำกำไรที่แนวรับ 1838 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1832 ดอลลารร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือ 1843 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายวัน (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1850 / 1862 / 1877
-------------------------------------------
Support : 1830/ 1814 / 1800
-------------------------------------------
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1848 / 1858 / 1864
-------------------------------------------
Support : 1832/ 1822 / 1810
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = UP TREND
Time Frame H4 = UP TREND
Time Frame Day = UP TREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
-------------------------------------------
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ
-------------------------------------------
สถานะการถือครองทองคำ = ขายออก -0.58 ตัน
คงถือสุทธิ = 980.86 ตัน
ราคาซื้อขายล่าสุด = 1,839.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปรับการถือครองครั้งที่ = 7
รวมการเคลื่อนไหวล่าสุด = +5.20 ตัน
-------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คปิดร่วง 18.7$ เหตุดอลลาร์แข็งท่ามกลางรายงานเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านปรับตัวลดลง 18.7$ หรือ 1.04% ปิดที่ระดับ 1,783.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำยังเจอภาวะผันผวนจากทิศทางแรงกดดันและแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมทองคำยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจนในระยะกลางและยาวมากนัก สำหรับทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นก็เจอแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สวนทางกันไปกันมา เรียกว่าไร้ทิศทางกันเลยทีเดียว เช่นการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลลดลง 1.0% ในเดือนก.ย., ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.3% เทียบรายเดือนและเทียบรายปีพุ่งขึ้น 4.4%, ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 71.7 ในเดือนต.ค. จาก 72.8 ในเดือนก.ย.
องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 นั่นยังไม่จบรอบใหม่นั้นยอดติดเชื้อถึงเสียชีวิตสูงกว่ารอบที่สอง ในส่วนของสหรัฐได้ออกมายืนยันว่าการป้องกันโควิดได้ดีนั้นต้องได้รับวัคซีนเท่านั้น ในส่วนผู้ที่ติดเชื้อมาก่อนแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนก็ได้
ประเมินทางเทคนิคทองคำวันนี้
ทองคำยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยประเมินว่าหากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นก็จะมีแรงขายสลับทำกำไรออกมาเป็นระยะๆ ในการปรับขึ้นแต่ละครั้งของราคาทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากทุกครั้งที่มีการปรับขึ้นก็มักมีการทำกำไรจากการปรับขึ้นมาก่อนหน้า สัปดาห์นี้ยังมีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจหลายรายการที่จะทยอยออกมา โดยเฉพาะ NFP ที่จะมีการรายงานในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ นักลงทุนยังเฝ้าติดตามรายงานดังกล่าวเพื่อที่จะติดตามการตัดสินใจนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือว่า เฟด เกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
===========
Indicator
===========
True RSI (14) ฟื้นจากจุด Oversold แต่ยังถูกจำกัดด้วยเส้นค่าเฉลี่ย SMA20 วันในบริเวณระดับ 40
เส้น SMA200 วัดการเคลื่อนไหวระยะสั้นในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ยังมีแนวปรับตัวลงต่ำ โดยราคายังเคลื่อนไหวใต้เส้นดังกล่าว
แนวรับ แนวต้าน กรอบรายชั่วโมง (ระยะสั้น)
-------------------------------------------
Resistance : 1800 / 1810 / 1817
-------------------------------------------
Support : 1793 / 1788/ 1782
-------------------------------------------
แนวโน้มทิศทางทองคำวันนี้
Time Frame H1 = DOWNTREND
Time Frame H4 = UPTREND
Time Frame Day = DOWNTREND
Time Frame Week = UPTREND
Time Frame Month = UPTREND
การถือครองทองคำกองทุน SPDR (รายเดือน)
---------------------------------------------------------------
สถานะทองคำรายวัน : ยังไม่มีรายงานล่าสุด
ราคาซื้อขายล่าสุด : - ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถือครองทองคำสุทธิ : 982.14 ตัน
สถานะการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ : -
รวมการเปลี่ยนแปลงในเดือนนี้ทั้งสิ้น : - ตัน
---------------------------------------------------------------
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**ข้อมูลจากการวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเครื่องมือชี้นำระดมทุน เพียงเป็นเครื่องมือประกอบความรู้ในการลงทุนในแต่ละวันเท่านั้น จึงไม่มีส่วนต่อความรับผิดชอบใดๆ อันเกิดขึ้นในภายหลัง
***การวิเคราะห์เป็นเพียงสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตี 100% ต่อการสร้างผลกำไรในอนาคต
วิเคราะห์ทองคำพฤหัสบดีที่ 22 กรกฏาคม 2564ตลาดทองคำนิวยอร์คเมื่อคืนนี้ปิดลบ 8 ดอลลาร์ จากเหตุบอนด์ยีลด์พุ่งกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง/b]
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. วานนี้ปิดลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,803.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การปรับร่วงของทองคำครั้งนี้มาจากสาเหตุการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เป็นปัจจัยหลักที่เข้ามากดดันตลาดทองคำอีกครั้ง ถึงอย่างไรการปรับตัวลงของทองคำก็ยังเป็นเพียงการปรับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ยังสร้างความกังวลต่อนักลงทุนที่กระตุ้นให้เข้ามาลงทุนส่วนหนึ่งในตลาดทองคำที่อยู่ในฐานสินทรัพย์ปลอดภัยประเภทหนึ่ง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ได้ดีดตัวขึ้นใกล้ระดับ 1.30% เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นการสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
อย่างไรก็ดีการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ก็มาช่วยให้ทองคำมีแรงดึงดูดในการเข้าซื้อได้เช่นกัน เนื่องจากทำให้ราคาทองคำจะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ได้มีการถือครองเงินสกุลอื่นๆ สำหรับดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลักในตะกร้าเงินลดลง 0.22% ที่ระดับ 92.76 เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา
นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในสหรัฐในเวลานี้ ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ออกมาแถลงว่า จำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าคิดเป็น 83% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด สูงกว่าระดับ 50% ที่พบในช่วงวันที่ 27 มิถุนายน – 3 กรกฏาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์กันว่าทองคำอาจจะพุ่งขึ้น 10% และแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
ประเมินทางเทคนิควันนี้
ทองคำวันนี้ยังมีทิศทางการปรับตัวลงต่ำเนื่องจากการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์ สำหรับช่วงเช้าวันนี้บอนด์ฯ ได้ปรับขึ้นทดสอบ SMA200 วันในกรอบรายชั่วโมงซึ่งราคายังคงปรับฐานที่บริเวณดังกล่าว หากไม่ปรับขึ้นต่อก็จะส่งผลต่อทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้ แต่อาจเป็นการปรับขึ้นระยะจำกัด เพราะดอลลาร์ช่วงเช้าวันนี้ก็เข้าลักษณะการปรับฐานราคาเหนือเส้น SMA200 วันในกรอบรายชั่วโมง ประเมินทางเทคนิคแล้ววันนี้หากราคาทองคำยังไม่หลุด 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปได้นั้น เราอาจเห็นการปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านระดั้บ 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนทองคำเวลานี้ให้ทำการซื้อขายด้วยการเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ไม่แนะนำให้มีการถือ Position ข้ามคืน เนื่องจาทองคำมีความผันผวนจากปัจจัยสองด้านคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี และดัชนีดอลลาร์ เข้ามามีส่วนกดดันตลาดทองคำเวลานี้ จึงควรติดตามสถานการณ์ของสินทรัพย์สองประเภทนี้ควบคู่กันไปด้วย สำหรับวันนี้ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐได้แก่
1. รายงานงานจำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก คาดการณ์ที่ 350,000 ตำแหน่ง เวลา 19:30 น.
2. ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือนมิ.ย. คาดการณ์ 5.90 ล้านยูนิต เวลา 21:00
ตลาดหุ้นวันนี้ฝั่งเอเชียปรับขึ้นเชิงบวกขานรับตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับเชิงบวกไปเมื่อคืนนี้ คาดการณ์วันนี้ตลาดหุ้นจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง จึงจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจทำให้ทองคำถูกสกัดกั้นเชิงบวกได้เช่นกัน ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง
Long Position : กลยุทธ์การเทรดรายชั่วโมงสำหรับฝั่ง Long รอราคาทองคำลงมาบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้เหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น ก็อาจเสี่ยงเปิดคำสั่ง “ซื้อ” ได้ที่บริเวณดังกล่าว โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น ประเมินปิดทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
Short Position : สำหรับกลยุทธ์การเทรดฝั่ง Short นั้นหากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้นั้น ก็ให้เสี่ยงเปิดคำสั่ง “ขาย” ใต้บริเวณแนวต้านดังกล่าว เน้นการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินปิดทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวรับบริเวณดังกล่าวลงไปได้ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับขึ้นเหนือแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวโน้มทองคำในวันนี้
-----------------------------------------
1H : Down trend
-----------------------------------------
4H : Down trend
-----------------------------------------
DAY : Down trend
---- -------------------------------------
Week : Up trend
-----------------------------------------
Month : Up trend
-----------------------------------------
แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง
---------------------------------------------------
Support : 1,795 / 1,785 / 1,775
---------------------------------------------------
Resistance : 1,804 / 1,810 / 1,825
---------------------------------------------------
สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR เดือนกรกฎาคม 64
- ถารถือครองทองคำ : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง
- เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,812.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,028.55 ตัน
- ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 8 ครั้ง
- รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : -17.23 ตัน
*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
**การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%
วิเคราะห์ทองคำ 1-5 มีนาคม 2564สวัสดีทองคำสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม 64 ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2564 ภาวะตลาดทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมาปรับตัวร่วงแรง 46.6 ดอลลาร์ เป็นเหตุมาจากดอลลาร์-บอนด์ยีนด์พุ่งทะยานฉุดราคาทองคำร่วงหนักบ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange)ส่งมอบเดือนเมษายน 2564 ร่วงลง 46.6 ดอลลาร์หรือ 2.62% ปิดตลาดที่ระดับราคา 1,728.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปิดต่ำสุดนับแต่เดือนมิถุนายน 2563 โดยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปรับร่วงลงราว 2.7% และในเดือนกุมภาพันธ์สัญญาทองคำร่วงลงกว่า 6.6% ซึ่งเป็นการร่วงในรายเดือนที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 มากสุดในรอบ 4 ปี
เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี(Bond Yield 10 year) ได้ลดทอนความต้องการซื้อทองคำของนักลงทุน เป็นการถ่วงราคาปิดที่ระดับต่ำสุด อัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Bond Yield 10 Year) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.451% ในวันศุกร์ หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 1.614% ในวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ในส่วนของดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ก็ได้แข็งค่าขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผลถ่วงราคาทองคำให้ร่วงเช่นกัน เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักในตลาดปริวัตรเงินตรา ดอลลาร์ปรับขึ้น 0.82% สู่ระดับ 90.869 ในคืนวันศุกร์
สองกรณีดังกล่าวนั้นหากสัปดาห์นี้ยังทิศทางเป็นบวก ก็จะยังคงกดดันถ่วงราคาทองคำให้ร่วงต่อได้อีก แต่ส่วนตัวแล้วผมมองว่าจะเป็นกดดันทางคำแค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะเมื่อเรามองภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้จะเห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่รายงานก่อนหน้าก็ออกมาดีเกินคาด ทั้งหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญที่จะได้รับอนุมัติเพื่ออัดฉีดเข้าสู่ระบบนั้น เราก็พอมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะฟื้นได้จากการที่ประชาชนร่วมจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดการว่าผลกระทบเงินเฟ้อในอนาคตนี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอน จะเร็วสุดกลางปีนี้หรือช้าหน่อยต้นปีหน้าก็ตามเหตุผลเหล่านี้จะยังไม่เป็นปัจจัยเข้าหนุนทองคำได้เลยเวลานี้ เพราะเป็นเพียงสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในภายหน้า แต่ยังไม่ได้เกิดในเหตุการณ์ปัจจุบัน
มาอีกกรณีที่จะไม่พูดเลยก็จะหาว่าตกเทรนด์อีก ก็คือการปรับตัวขึ้นพุ่งแรงของสกุลเงินดิจิตอลอย่าง Bitcoin (BTCUSD) ที่พุ่งทะยานถึง 58,354.14 ดอลลาร์ แม้ตอนนี้จะปรับตัวลงต่ำแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมองเป็นเพียงแค่การย่อเพื่อปรับฐาน ตราบที่ Bitcoin ยังไม่หลุด 42,000 ดอลลาร์ลงไป เรายังมองโอกาสว่าเป็นขาขึ้นต่อเนื่องได้อีก ในส่วนของ Ethereum (ETHUSD) ก็ไม่ได้ต่างโดยราคาได้ปรับย่อลงจากระดับสูงสุดที่ 2,040.62 ดอลลาร์ แต่หากไม่หลุด 1,382.63 ดอลลาร์ ก็ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก ประเด็นนี้ทำให้นักลงทุนหันไปให้ความสนใจในสินทรัพย์สกุลเงินดิจิตอลมากขึ้น ทำให้ลดทอนความสนใจทองคำลงไปด้วย
ประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,760-1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจเห็นการอ่อนตัวของราคาทองคำจากการทำกำไรระยะสั้นได้อีกครั้ง โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 1,730 และ 1,706 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดรองรับราคาหากปรับตัวลดลงมา แต่หากราคาสามารถผ่านแนวต้าน 1,760-1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นไปได้ เราประเมินแนวต้านก่อนจะขยับเหนือ 1,800 ได้อีกครั้งที่ระดับราคา 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับแนวต้าน กรอบรายวัน
Resistance : 1,760 / 1,777 / 1,806
----------------------------------
Support : 1,730 / 1,706 / 1,683
----------------------------------
วิเคราะห์ทองคำภาคคำ่ 26/02/64ทองคำภาคค่ำวันนี้ราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยจากการสร้างฐานราคาใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้นักลงทุนในตลาดหุ้นได้ออกมาเทขายหุ้นเพื่อเข้าถือครองพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวพุ่งขึ้นทั่วโลก ทำตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดร่วง 75.97 จุด ตลาดนิกเกอิญี่ปุ่นปิดร่วง 1,202.26 จุด หลังที่นักลงทุนได้เทขายหุ้นออกมา หากสถานะการณ์การเข้าซื้อพันธบัตรมากขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อไปกับทองคำซึ่งเมื่ออัตราผลตอบแทนปรับลดลง มันก็จะมาลดแรงกดดันทองคำได้อีกครั้ง
สำหรับทองคำวันนี้ก็ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ได้อีกครั้งที่ระดับราคา 1,755.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะปรับตัวขึ้นแต่ด้วยแรงซื้อที่ยังจำกัดทำให้ทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือแนวต้านระยะสั้นที่บริเวณ 1,769-1,773 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จึงทำให้ทองคำยังคงปรับตัวลง ประเมินว่าถ้ายังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือบริเวณแนวต้านดังกล่าวได้ ทองคำก็จะปรับตัวลงได้อีกครั้ง ซึ่งมีแนวรับที่ 1,757-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำปรับหลุดต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว แนวรับถัดไปประเมินที่ระดับราคา 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำการเทรดทองคำภาคค่ำนี้
หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ 1,769-1,773 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เสี่ยงเปิดคำสั่งขาย (short) โดยยังให้เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ให้พิจารณาการทำกำไรที่แนวรับบริเวณ 1,757-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาทองคำยังปรับตัวลงต่ำกว่าก็ให้พิจารณาชะลอปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวเหนือ 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์)