สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตลาดกระทิงของ คริปโตฯ ปี 2021จดๆ เอาไว้กันลืม เอาไว้อ่านเองในอนาคต เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ และบทเรียน มาดูกันว่ามีอะไรบ้างนะครับ
-----------------------------------------
1) จงเชื่อในระบบ Trend Following ที่เราได้ Backtest + Forward Test มาแล้ว และทำตามระบบไปอย่างมีวินัย
-----------------------------------------
- เนื่องจากผมเอง โดนตลาดคริปโต สับขาหลอกมาตลอด ตั้งแต่ปี 2018 ยัน 2019 ยัน 2020
- โดย ระบบ Trend Following ที่ผมใช้สามตัว คือ MACD ตัดศูนย์ ( Action Zone ) , ATR Channel ( ATR Trailing Stop ) และ Break Previous High มักจะเป็นเขียว แล้วก็เปลี่ยนเป็นแดง หลังจากเทรนเกิดขึ้นไม่นานเสมอ
- โดย ช่วงที่เทรนมานานที่สุด ก็กินเวลาแค่ ประมาณ 3-4 เดือน เท่านั้น นั่นก็คือ ช่วง Apr 2019 - July 2019
- สิ่งเหล่านี้ ทำให้ perception ของผม ต่อการรันเทรนของคริปโตฯ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญใดๆ นั่นก็คือ จะพยายาม หาจังหวะ Take Profit ออกมาอยู่เรื่อยๆ .. โดย ไม่ว่าจะใช้ fibo projection หรือใดๆ ก็ตามแต่ .. เพราะ มีความ "กลัว" ว่า ตลาดจะกลับตัว ทำให้กำไรที่ได้ หายไปหมด
- แต่กลายเป็นว่า รอบกระทิง ช่วง Oct 2020 ลากยาวไปถึง May 2021 ของคริปโตฯ นั้น กินเวลายาวนานถึง 7 เดือน! ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ทยอย Take Profit ออกไปตลอดทาง ทำให้ กำไรที่ได้ ก็ไม่ได้เป็นเต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่ ( แต่ก็นะ กำไรก็คือกำไร 55 )
- โดยเฉพาะที่ผ่านมา มีการปั๊ม Altcoins กันอย่างสนุกสนาน แต่เนื่องจากผมมี Bias ส่วนตัวต่อ Altcoins ทำให้ ตกรถไปโดยปริยาย ก็เลยนำไปสู่บทเรียนข้อ 2 ว่า...
-----------------------------------------
2) อย่าไปรังเกียจ Altcoin อะไรมาก แหย่ๆ มันไว้บ้าง เวลามันวิ่งแรงจะได้ไม่ตกรถ
-----------------------------------------
- เอาจริงๆ รอบขาขึ้นต้นปี ผมก็ไม่ได้รังเกียจ Altcoins ซะทีเดียวนะ เพราะก็มีไปเข้า ZMT lock ไว้ตามเพื่อนแนะนำบ้าง ซึ่ง ไอ้การ Lock ZMT นี่แหละ มันเลยทำให้เราสามารถถือ Altcoins นิ่งๆ โดยไม่ใจสั่นได้ ..เพราะสั่นไป ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี 555
- แต่ ก็พลาดโอกาสทำกำไรไปหลายตัวอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น LUNA เอย หรือพวกเหรียญ DeFi สารพัด ที่ปั๊มกันแบบว่า กาวสุดๆ 555
- รอบนี้ ผมก็เลยไม่พลาดละ โดยผมได้ทำการแบ่งเงินส่วนที่เป็น "พอร์ต Altcoins" ออกมาต่างหากเลย เป็นก้อนเล็กๆ 10% ของพอร์ตหลัก และ ก็เอาก้อนนี้ ไปเข้าซื้อ alt ด้วยแบบ spot เท่านั้น ( ไม่เล่น future ) เพื่อที่จะสามารถทนการแกว่งได้ โดยมองว่า ถ้าเหรียญพวกนี้ ลงเต็มที่ -80% เราก็จะขาดทุนเต็มที่แค่ -8% ของพอร์ตหลักเท่านั้นเอง ยังรับได้อยู่ครับ
- โดยตอนนี้ ก็ได้ อานิสงค์จากเหรียญพี่แซม นั่นก็คือ SOL และ FTT ทำให้พอร์ตนี้โตขึ้นเรื่อยๆ ในความเสี่ยงที่เรารับได้นั่นเอง
-----------------------------------------
3) ระบบเขียวก็เข้าไป อย่าไปกลัวไรมาก ถ้ากลัว ก็จำกัดความเสี่ยงให้อยู่ในจุดที่เรารับได้ จบ!
-----------------------------------------
- ตอนระบบเขียวแรก ช่วงปลายเดือน July 2021 ผมเองก็เขียนบทความเรื่องนี้ แชร์ลงใน Tradingview ว่า ระบบเขียวแล้วน้า ควรเข้าแล้วน้า... แต่เท่าที่ไปแชร์ตามที่ต่างๆ ก็พบว่า หลายๆ คน ส่วนใหญ่ ไม่สนใจ และพอถามว่าทำไม ก็มีคำตอบง่ายๆ ว่า "กลัวมันหลอกอีก"
- สำหรับมือใหม่ น่าเห็นใจตรงที่ว่า หลายๆ คน ไม่เข้าใจว่า การเทรดอ่ะ มันสามารถ "เข้าแค่บางส่วน เพื่อคุมความเสี่ยง ให้เท่ากับที่เราต้องการ ผ่านการคำนวณ Position Size ได้นะ"
- หลายๆ คน ยังไปคิดว่า ถ้าเขียวแล้ว มีเงิน 100% ก็ต้องใส่ 100% เลย อะไรแบบนั้น ( ผมก็เคยเป็นนะ เลยเข้าใจ 555 )
- ทำให้ หลายๆ คนแหยง ที่จะกดซื้อ เมื่อระบบมีสัญญาณเขียวแรก นั่นเอง...
- แต่ถ้าใครสามารถคำนวณ Position Size ตามความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ ผมบอกเลยว่า คุณจะตัดปัญหาเรื่องความกลัวการโดนเขียวหลอก ออกไปได้เลย เช่น
--- กลัวมากๆ ก็ใช้ความเสี่ยงมาตรฐาน 2% Risk per Trade
--- มีกำไรเยอะจากรอบที่แล้ว แต่ยังกลัวอยู่เหมือนกัน ก็ขยับขึ้นมาหน่อย อาจจะใช้ได้ถึง 4-6% Risk per Trade
--- รอบที่แล้ว รวยจัด รอบนี้ อยากเสี่ยงมากหน่อย เพราะมองว่าลงมาเยอะแล้ว ก็อาจจะใช้ได้สูงสุดถึง 10% Risk per trade ( แต่ไม่ค่อยแนะนำครับ ส่วนตัวผมว่าสัก 5-6% ก็เต็มที่ละ )
- คุณทำวิธีนี้ได้ คุณจะ "กล้า" เข้า ตอนเขียวแรก และ จะสามารถ "ทนถือได้อย่างนิ่งๆ" ได้ จนกว่าระบบจะแดง หรือ ชน stop loss ที่เราได้ตั้งไว้ตอนก่อนกดซื้อครับ
-----------------------------------------
4) เทรนขาขึ้นระดับ TF Daily TF Weekly ก็อย่าไป short สวนเทรนโดยไม่จำเป็น ...โอกาสเสียตังฟรี สูง
-----------------------------------------
- สำหรับมือใหม่ หรือมือเก่าบางคน จะชอบติดนิสัยทำตามตำราที่สอนๆ กันมา นั่นก็คือ กะจะทำกำไรได้ทุกคลื่น ไม่ว่าจะเป็น การขึ้น ( Long ) หรือการย่อ ( short ) ยิ่งพวกสาย short นี่ไม่รู้เป็นไร เห็น divergence แล้วรีบบบบ ไปกด short กันเลยกะว่าลงแน่ 5555
- ซึ่งผมบอกเลยว่า ถ้าท่านไม่เก๋าเกมจริงๆ ตัดสินใจเองไม่ได้ ยังต้องคอยมาตั้งกระทู้ถามคนอื่นในห้อง ว่า ดอย short หนักมาก ทำไงดี .. ผมก็ขอแนะนำว่า อย่าไปเล่นสองขาเลยครับ เล่นแค่ฝั่ง long (ซื้อ) ฝั่งเดียวให้รอดก่อน
- กำไรของ short อะ มันน้อย นิดเดียว ส่วนความเสี่ยง มันไม่จำกัด ถ้าอยากได้ตังจากช่วงขาขึ้น ก็แค่รอให้มันย่อ แล้วค่อยหาจังหวะเปิด long แค่นั้นเองครับ ง่ายๆ
- ส่วนถ้ามันยังไม่ย่อ ก็ไม่ต้องทำไร ถ้าตกรถแล้วก็นั่งเฉยๆ รอให้เป็น แค่นั้นเอง
- ผมเทรดคริปโตฯ มาตั้งแต่ปี 2017 นี่ก็จะครบปีที่ 5 ละ ผมเห็นคนที่ short ช่วงขาขึ้น แล้วไปถัวสู้ ไม่ยอมคัท พอร์ตระเบิด หมดตัว กันไปไม่รู้กี่คนละ ... ก็ขอออกมาเตือนกันไว้ ณ ที่นี้นะครับ ว่า ถ้าไม่อยากเสียตังฟรี ก็อย่าทำเล้ย.... ย่อซื้อ ตอนขาขึ้น = ez money กว่าเยอะครับ
-----------------------------------------
5) "คนอวดกำไรลงเฟส" คือสัญญาณให้เรา "หยุดมือ" และ "เฝ้าระวังการกลับตัว" ที่ยังใช้ได้อยู่เสมอ
-----------------------------------------
- ใครจำช่วงตลาดขาขึ้น ตอนต้นๆ ปี 2021 นี้ได้ ก็น่าจะคุ้นกันดีว่า ช่วงพีคๆ แถวๆ Apr-May 2021 ในเฟสบุค มีแต่เพื่อนๆ หรือคนรอบข้างของเรา อวดกำไรจากคริปโตกันเต็มไปโม้ดดด
- บางคน ร้อยวันพันปี ไม่เคยพูดเรื่องคริปโตฯ อยู่ๆ มาเปิดคอร์สสอน DeFi กันซะงั้น 555 ทุกคนเป็นเซียนกันไปหมด มีกูรูหน้าใหม่เกิดขึ้นกันเป็นดอกเห็ด
- ซึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เห็นการกลับตัว/ปรับฐานของตลาด ( correction ) ในช่วงเดือน May - Jul 2021
- การกลับตัวรอบนั้น ก็ทำให้ กูรูที่เกิดขึ้นมาช่วงตลาดดีๆ หายเงียบ กันไปหลายคน บางคนก็เลิกอัพเดทเพจกันไปเลย .. บางคนก็ดอยหนัก แต่ก็ยังออกมาอัพเดทด้วยสปิริทอยู่
- หลายๆ คนที่ไปเล่น ฟิวเจอร์ ก็หมดตัวกันถ้วนหน้า
- ซึ่ง ถ้าเรามาคิดดีๆ แล้ว... สำหรับคนที่ทำตามระบบ เราก็รันเทรนกันมาตั้งแต่ช่วง Oct 2020 ออกตอนไหนก็กำไร
- แต่.. มันจะไม่กำไร ถ้า ในช่วงที่ตลาดดีๆ เรา "นั่งเฉยๆไม่เป็น" และไป FOMO กู้หนี้ยืมสิน มาเข้าเหรียญเพิ่มในช่วงตลาด top + คนอวดกำไรนั่นเองครับ
- ดังนั้น รอบหน้านี้ ถ้ามีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ...เราก็อย่าไปเผลอใจ ไล่ราคา ณ ยอดดอย กันอีกนะคร้าบ
-----------------------------------------
6) เตือนไปก็เท่านั้น มีแต่คนด่าฟรี ตอนตลาดลงจริงๆ ก็ไม่ใช่จะมีคนคิดถึง .. นั่งเฉยๆ ดีกว่า
-----------------------------------------
- อันนี้เป็นบทเรียน ของตัวผมเอง เพราะ ตอนที่ตลาดดีๆ การไปเตือนคนเพราะความหวังดี จากประสบการณ์ที่เราเจอมา ... แต่สุดท้าย ก็โดนแคปไปด่า
- ผมก็เลยมานั่งคิดนอนคิด แล้วก็ยูเรก้า ว่า เออ มันก็เป็นธรรมชาติอ่ะนะ เพราะถ้าคนที่ไม่เคยเจ๊งจากตลาด เตือนเท่าไหร่ เขาก็ไม่เก็ตอ่ะ
- มันเหมือนไปบอกเด็กไม่กี่ขวบว่า น้ำร้อน มันร้อนนะ ไฟ มันร้อนนะ อย่าไปจับ เดี๋ยวมือพอง ...เด็กมันก็ไม่รู้เรื่องหรอก มันก็ต้องเอามือไปจับซักที ให้มือพองก่อน ถึงจะรู้ว่า เออ ไฟมันร้อนจริงๆ นะ
- เทรดเดอร์มือใหม่ ก็เหมือนกัน ก็ต้องปล่อยให้เขาไปเจอการขาดทุนหนัก หมดตัวก่อน สักรอบนึง เขาก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า เออ ตลาดมันไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่เขาเคยคิดไว้นะ ไม่เหมือนอย่างที่กูรูบอกไว้นะ
- ซึ่ง ถ้าเขามีความพยายามจะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง เขาก็จะไปนั่งอ่านหนังสือต่างๆ ดูวีดีโอสอนเทรดต่างๆ ที่สอนโดยคนที่รอดจากตลาดมาได้ จริงๆ และสุดท้าย เขาก็จะกลายเป็นเทรดเดอร์ ที่สามารถอยู่รอดในตลาดได้เอง
- ดังนั้น ผมเองก็เลยต้องปรับแก้ตัวเองกันไปเช่นกัน นั่นก็คือ ปล่อยวาง และ ช่างหัวมัน รวมถึงไม่ไปวอร์ หรือกล่าวถึงคนอื่นด้วย 555 เพราะแต่ละคน เขาก็มี FC ของเขาเอง มีมุมมองต่อตลาดของเขาเอง เราไม่ถูกใจก็ block ทิ้งไปจะได้ไม่ต้องไปรับรู้ว่าเขาคิดอะไรพูดอะไร ...ก็แค่นั้นเอง 5555
------------
สรุป
------------
เอาเท่านี้ก่อนละกัน นึกไม่ค่อยจะออกละ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ ก็หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่าน ไม่มากก็น้อย
ใครพลาด ก็อย่าลืม มองปัญหา และ หาทางแก้ให้ได้ ด้วยตัวเองกันนะครับ
ผมบอกเลยว่า การเทรดเนี่ย มันคือการปรับ mindset ของเราเองให้มันถูกต้อง และ ทำยังไงก็ได้ ให้รอดได้ในทุกสภาวะตลาด
ถ้าคุณรอดไปสัก 1 cycle หรือ 2 cycle เดี๋ยวกำไร มันจะมาเองครับ
คนส่วนใหญ่ ได้กำไรเยอะ ตอนตลาดดีๆ แต่ก็มาหมดตัวหรือเจ๊งยับ ตอนตลาดปรับฐานลึก กันทั้งนั้นครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ
Lesson
บทเรียนที่ได้รับ จากตลาด ในปี 2020 ( 1/1/2021 )* ผ่านไปอีก 1 ปี สำหรับชีวิตการออกมาเป็นเทรดเดอร์ + โค้ช แบบ Full-time ของผม รวมสิริเวลาก็ 3 ปีกว่าๆ แล้วครับ ผมยอมรับว่า ปีนี้ เป็นปีที่ผมได้ตกผลึกข้อผิดพลาดที่เจอมาตลอด 2 ปีกว่า ทำให้ปีนี้สามารถเทรดแล้ว "มีกำไร" เกินเป้าที่ตั้งไว้ได้ อย่างค่อนข้างมาก โดยได้กำไรมาทั้งหมด 52% จากเป้าที่ตั้งไว้ 20% ครับ
* ผมเลยขอมานั่งเรียบเรียงและสรุปบทเรียนทั้งหมด ที่สำคัญๆ ที่ได้เจอมา List เอาไว้ตรงนี้ เพื่อที่ผมเอง จะได้กลับมาอ่านได้ ในอนาคตครับ
--------------------
1) จงหาระบบการเทรด TF Daily ที่ไม่เร็ว และไม่ช้าเกินไป และผล Backtest ออกมาดี มีกำไร เอามาใช้และทำตามมันอย่างเคร่งครัด
2) ต้องแบ่งพอร์ตออกเป็นสามส่วน ตามที่ลุงโฉลกเคยสอน นั่นคือ พอร์ตระยะสั้น(พอร์ต Gambling ) พอร์ตระยะกลาง ( พอร์ตใช้ระบบ ) และพอร์ตระยะยาว ( พอร์ต DCA ) เพราะแต่ละพอร์ต จะช่วยในเรื่อง อารมณ์ของเรา แตกต่างกันออกไป
3) การมีเงินสด สำคัญที่สุด เพราะจะทำให้เราสามารถซื้อสินค้าใดๆ ยามเกิด Big Discount ได้
4) การนั่งเฉยๆ เพื่อรอทำตามระบบ แม่งยากที่สุดละ ( ไม่ว่าจะเป็นนั่งเฉยๆ งดเทรด เมื่อระบบแดง หรือนั่งรันกำไรเฉยๆ เมื่อระบบเขียว )
5) ระบบแดง ก็อย่าดื้อ เพราะมันสามารถช่วยชีวิตเราได้ ถ้าตลาดมันจะลงหนักจริง โดยมี case study ช่วง covid เดือน Mar 2020 เป็นตัวอย่าง
6) ระบบเขียว ก็อย่าดื้อ เพราะรอบที่มันเขียวรอบนี้ มันอาจจะขึ้นจริงก็ได้ โดยมีเคสเขียวแรกเมื่อ 11 Oct 2020 เป็นตัวอย่าง
7) สัญญาณเม่า โผล่มาในกราฟ ก็อย่านิ่งนอนใจ Take Profit ไปบ้างก็ได้ แต่ถ้ามีไม้ต้นทุนดี ก็ต้องเก็บไว้รันเทรน อย่าออกหมด ค่อยออกหมดตอนทุกระบบแดง ( เคส DELTA, ทอง และ SET1400 เมื่อต้นปี ) เป็นตัวอย่าง
8) พอร์ตระบบตกรถไปแล้วก็ไม่เป็นไร นั่งรอไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคันใหม่ก็มา แต่ระยะยาว ( DCA ) ต้องทำไว้ ห้ามขี้เกียจ เพราะมันจะช่วยให้เราไม่รู้สึกตกรถในตลาดกระทิง
9) อย่า SHORT สวน เทรน ขาขึ้น เด็ดขาด!
10) อย่าเถียงตลาด โดยเฉพาะตอนที่เราติด Position ในทิศทางตรงข้ามกับตลาด ( เช่น ตลาดขาขึ้นแต่เสือกติด short / หรือตลาดขาลงแต่เสือกติด long ) Go with the flow-The trend is your friend.
11) ทุกครั้งที่เข้าซื้อ เราต้องตอบตัวเราเองได้เสมอว่า รอบนี้ ถ้าผิดทาง เราจะยอมเสียตังเท่าไหร่? กี่% ของพอร์ต
12) อย่าเอากำไรของตัวเองไปเทียบกับคนอื่น ให้เราเทียบกับเป้ากำไรของตัวเองที่เราตั้งไว้ แล้วเราจะสบายใจ
13) การตัดการรับรู้ข่าวสาร จากเพจต่างๆ หรือเว็บข่าวต่างๆ จะทำให้เราสามารถอยู่กับแผนที่เราตั้งไว้ได้ดียิ่งขึ้น และไม่ไขว้เขวได้ง่ายๆ
14) เราเข้ามาตลาด เพื่อทำกำไร ไม่ใช่มาวัดกันว่าแนวคิดใครถูกใครผิด อันไหนทำแล้วไม่ได้กำไร ก็อย่าไปทำ ( เช่น สะสม XRP เรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้ดูกราฟเลยว่ามันไม่มีเทรนใดๆ )
15) ในจุดที่ตลาดกลัวถึงขีดสุด ให้เราวางเงินไว้ 20-30% ของพอร์ต เพื่อมาดักช้อนเลย โดยอย่าไปกลัวไรมากตามเขา ส่วนที่เหลือก็ค่อยเข้าอีกทีตอนระบบเขียว
16) อย่า Overtrade ด้วยพอร์ตใหญ่ เด็ดขาด เพราะถ้าตลาดผันผวนแรง คุณจะโดนเตะออกจากตลาดทันที ถ้าอยาก overtrade ให้แบ่งกำไรบางส่วนไปจัดหนักได้ในพอร์ตพนัน -- พอร์ตใหญ่ให้เทรดด้วย 1x เท่านั้น ( spot )
17) อย่าไป chase the market ไล่ราคาตอนกราฟวิ่งแรงๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนกราฟวิ่งขึ้นหรือกราฟวิ่งลง เพราะจะกลายเป็นมือใหม่ที่ long ที่ยอด short ที่ก้นเสมอ... ถ้ากราฟวิ่งก็นั่งรอดูเฉยๆ รอให้กราฟมีการย่อ/ดีด และออกข้าง แล้วค่อยหาจังหวะเข้า
18) ไม่ต้องเทรดบ่อยๆ เทรดทุกวัน ก็ทำกำไรได้ อย่างปีนี้พอร์ตคริปโต ผมเทรดไม้ใหญ่ๆ แค่ 5 ครั้ง ยังสามารถทำกำไรได้ถึง 80%
19) การเทรดบางท่า ก็ทำกำไรได้เยอะเพราะการทบต้น เช่น การเทรด USDT ของสหายคริปโต ที่ได้กำไรประมาณเดือนละ 3% จากการเทรดเดือนละ 3-4 ครั้ง
20) ถ้าเข้าไปแล้ว และยังไม่ชน SL ก็อย่าไปรีบออกตอนย่อ หรือรีบเก็บกำไรตอนดีด นั่งนิ่งๆ รอจนกว่าจะถึงเป้า
21) ถ้าไม้เสี่ยง หรือไม้ระบบ ที่เราเก็บกำไรออกมาแล้ว แล้วราคามันไปต่อ ( ขายหมู ) ก็ให้นั่งดูเฉยๆ รอจังหวะรอบหน้า เพราะการไปรีบซื้อโดยไม่มีแผน ส่วนใหญ่มักจะพัง
22) เราไม่ต้องวิ่งตามทุกเหรียญที่มันขึ้นก็ได้ Focus แค่ Bitcoin ตัวเดียว ก็ทำกำไรให้ถึงเป้ารายปีที่เราตั้งไว้ได้เหมือนกัน ถ้าอยากจะไล่ตามเหรียญก็ให้เอากำไรไปหยอดเล่นขำๆ แก้เบื่อ แต่อย่าไป all-in เพราะแทบทุกเหรียญ altcoins คือขยะ และตัวหลอก ที่จะทำให้สมาธิเราเสียไป
23) อย่าไปเชื่อกูรูมาก ให้ทำตามแผนของเราที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด ถ้าอยากเชื่อกูรู ให้แบ่งเงินมาซื้อแล้วถือไว้แบบโง่ๆ ตามกูรูบอก โดยไม่หวั่นไหวไปตามราคาที่ขึ้นลง
24) มือใหม่หลายๆ คนทนดอยมาได้นานเป็นปีๆ แต่พอราคากลับมาเท่าทุนก็รีบขายไม่ยอมทนถือต่อ -- อย่าเป็นอย่างคนเหล่านี้ -- วิธีแก้ก็คือ ต้องมีระบบและแผนการเข้าซื้ออยู่ในใจเสมอ ถ้าระบบแดงก็ต้องขายตัดขาดทุนออกมาถือเงินสดหมด อย่าไปทนดอยแล้วฝันกลางวันว่ามันจะกลับไปที่เดิม
25) การที่เราสามารถกล้านั่งวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่หมกเม็ด เป็นสกิลที่สำคัญมาก เพราะมันจะทำให้คุณเห็นปัญหาของตัวเอง และหาทางแก้ไขได้ ในอนาคต
26) ช่วง Sideway พยายามเทรดให้น้อยที่สุด เพราะจะเป็นช่วงที่ตลาดทำกำไรได้ยากมากๆ และกราฟมันจะขึ้นๆ ลงๆ ให้เราปวดหัว และพอสัญญาณซื้อมาจริงเราก็จะไม่กล้าเข้า พยายามเก็บพลังกายพลังใจ เอาไว้เข้าตอนระบบเขียว หรือมีการ confirmation Break Out กรอบสะสมชัดๆ ทีเดียวดีกว่า
27) กำไรที่เราได้มาง่ายๆ โดยไม่รู้ว่า ได้มาเพราะอะไร สักพัก ตลาดก็จะเอาคืนไปจนหมด
28) อย่าไปทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก การเทรด พยายามทำให้มันง่ายที่สุดไว้ก่อน เช่น หาแนวรับแข็งๆ ให้เจอ แล้วถ้ากราฟ Break Out กรอบ ก็ค่อยซื้อ โดย SL ที่ใต้แนวรับ หรือใช้ระบบอย่าง Action Zone เขียวก็ซื้อแดงก็ขาย หรือถ้าย่อลงมา -50% ถึง -70% จากยอดก็ให้จับเข้าใส่ watchlist เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อ .. อย่าไปใช้ระบบที่ subjective เช่นนับเวฟมาเป็นตัวบอกจุดเข้าออก เพราะเรายิ่งนับเราจะยิ่งมั่วและงงเอง
29) เวลาระบบบอกให้คัท บอกให้ถือเงินสด ก็ออกมาก่อน อย่าไปดื้อ ถ้าระบบเขียวใหม่ก็ค่อยเข้าใหม่ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเถียงระบบ .. ความชิบหายก็จะตามมาในไม่ช้า
30) Take Profit บางส่วนไปบ้างก็ได้ ถ้ามันทำให้เราสบายใจ ไม่จำเป็นที่จะต้องรันเทรนไปจนสุด เพราะเราไม่รู้อนาคตว่า มันจะไปต่อหรือจบแค่นี้
จริงๆ ก็ยังมีอีกหลายๆ เรื่องแหละ บางเรื่องก็เคยเขียนไปแล้วตอนเริ่มปี 2020 สำหรับปีนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ