ถ้า LTS ทำ Datacenter เพื่อรองรับ AI ราคา ในอีก 1-2ปี

ปัจจัยบวกจากธุรกิจ Data Center และ AI
แนวโน้มการเติบโตของตลาด Data Center

การขยายตัวของเทคโนโลยี AI, Cloud Computing และ Internet of Things (IoT) ส่งผลให้ Data Center เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
ตลาด Data Center ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ประมาณ 12%-15% ต่อปี
รายได้ใหม่จาก Data Center

หาก LTS สามารถเปิด Data Center ได้สำเร็จใน 1-2 ปีข้างหน้า และมีการใช้งานจากลูกค้า AI/Cloud คาดว่าอัตรากำไรจากธุรกิจนี้อาจสูงถึง 20%-30% ของรายได้ใหม่
ตัวอย่างบริษัทในตลาดที่ดำเนินธุรกิจ Data Center เช่น INTUCH, GULF และ JASIF ที่มีส่วนแบ่งรายได้จาก Data Center เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
2. การประเมินผลกระทบต่อกำไร (EPS)
สมมติว่า:

LTS มีรายได้จากธุรกิจ Data Center ในปีแรกประมาณ 500-1,000 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) จากธุรกิจ Data Center = 20%-25%
กำไรสุทธิเพิ่มจากธุรกิจใหม่ = 100-250 ล้านบาท
กำไรต่อหุ้น (EPS) จะเพิ่มขึ้น:

EPS ปัจจุบัน = 0.80 บาท
EPS ใหม่ = 0.80 + (100 ล้านบาท ÷ จำนวนหุ้นทั้งหมด)
หากจำนวนหุ้น = 500 ล้านหุ้น
EPS ใหม่ = 0.80 + 0.20 = 1.00 บาท
3. การปรับเป้าหมายราคาหุ้น (Valuation)
สมมติค่า P/E Ratio
หากตลาดประเมินมูลค่าหุ้น LTS ตามค่า P/E เฉลี่ยของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (เช่น 30-40 เท่า)
ราคาหุ้นใหม่ที่คาดการณ์ = EPS × P/E
ราคาหุ้นที่คาดการณ์

ในกรณีอนุรักษ์นิยม (P/E = 25 เท่า): 1.00 × 25 = 25.00 บาท
ในกรณีเติบโตสูง (P/E = 35 เท่า): 1.00 × 35 = 35.00 บาท
4. การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์
ปัจจัยบวก:
การลงทุนใน Data Center จะเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ และช่วยให้ LTS ก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง
ความต้องการ Data Center ในประเทศไทยกำลังเติบโตต่อเนื่องจากการใช้งาน AI และ Cloud Services
ปัจจัยเสี่ยง:
การแข่งขันในธุรกิจ Data Center มีผู้เล่นรายใหญ่ เช่น GULF, TRUE, และ AWS ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันด้านราคา
การลงทุนใน Data Center ต้องใช้ต้นทุนสูง หากโครงการล่าช้าหรือไม่ได้รับลูกค้าตามเป้าหมาย อาจกระทบต่อกำไร
5. สรุปการคาดการณ์ราคาหุ้น
ช่วงเวลา ราคาที่คาดการณ์ (บาท)
1 ปี 20.00 - 25.00
2 ปี 25.00 - 35.00
คำแนะนำการลงทุน
นักลงทุนระยะยาว: หาก LTS ยืนยันแผนการลงทุนใน Data Center และมีการอัปเดตข่าวสารที่ชัดเจน อาจเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นเมื่อราคาย่อตัว
นักลงทุนระยะสั้น: ติดตามการเปิดตัวโครงการและแนวโน้มรายได้จากธุรกิจใหม่ เพื่อจับจังหวะการปรับตัวของราคา