ReutersReuters

ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดัชนีดอลล์ปรับขึ้นแตะจุดสูงสุด 2 เดือนก่อนลดช่วงบวก

นิวยอร์ค--1 มิ.ย.--รอยเตอร์

  • ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ ก่อนจะลดช่วงบวกลงมาบ้างในเวลาต่อมา หลังจากนายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่า ถึงแม้เฟดอาจจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. การตัดสินใจดังกล่าวก็ไม่ได้หมายความว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินได้สิ้นสุดลงแล้ว และเขากล่าวเสริมว่า การข้ามผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งจะเปิดโอกาสให้เฟด "ได้ดูข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องขนาดของการคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป" ทั้งนี้ นายแพทริค ฮาร์เคอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวในวันพุธว่า เขามีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้เฟดข้ามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

  • ดอลลาร์อยู่ที่ 139.34 เยน ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 139.79 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.0688 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยร่วงลงจาก 1.0753 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0633 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. ทางด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 104.15 ในช่วงท้ายวันพุธ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 104.05 ในช่วงท้ายวันอังคาร หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 104.70 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. ทั้งนี้ ปอนด์อยู่ที่ 1.2441 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยปรับขึ้นจาก 1.2413 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร

  • กระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยผลสำรวจตำแหน่งงานว่างและการเข้า-ออกงาน (JOLTS) ในวันพุธ โดยผลสำรวจระบุว่า ยอดการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐพุ่งขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ 10.103 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. และรายงานตัวเลขดังกล่าวก็ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์กันในตอนแรกว่า มีโอกาสราว 71% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ดี หลังจากนายเจฟเฟอร์สันแสดงความเห็นเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเวลาต่อมา นักลงทุนก็คาดการณ์ว่า มีโอกาสเพียง 32.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และมีโอกาส 67.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

  • ยูโรร่วงลง หลังจากฝรั่งเศสรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสอยู่ที่ 6.0% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี โดยชะลอตัวลงจาก 6.9% ในเดือนเม.ย. และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 6.4% ทางด้านอัตราเงินเฟ้อในรัฐนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลียของเยอรมนีลดลงสู่ระดับ 5.7% ในเดือนพ.ค. จาก 6.8% ในเดือนเม.ย.

  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนในช่วงแรกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีน ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานในวันพุธว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของทางการจีนดิ่งลงจาก 49.2 ในเดือนเม.ย. สู่ 48.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดรอบ 6 เดือน และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 49.4 ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการของจีนรูดลงจาก 56.4 ในเดือนเม.ย. สู่ 54.5 ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดรอบ 4 เดือน--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้