ReutersReuters

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นดิ่งลงขณะเจรจาเพดานหนี้ไม่คืบหน้า

นิวยอร์ค--24 พ.ค.--รอยเตอร์

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดดิ่งลงอย่างรุนแรงในวันอังคาร โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อปัญหาเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ในขณะที่ตัวแทนของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกับสมาชิกสภาคองเกรสพรรครีพับลิกันได้เจรจาต่อรองเรื่องเพดานหนี้กันอีกครั้งในวันอังคาร แต่ไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาต่อรอง ถึงแม้ใกล้จะถึงเส้นตายในการปรับขึ้นเพดานหนี้จากระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะไม่สามารถชำระเงินตามภาระผูกพันทั้งหมดของรัฐบาลได้ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ ความกังวลเรื่องเพดานหนี้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังสหรัฐประเภทอายุ 1 เดือนพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดที่ 5.888% ในวันอังคาร

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับลง 0.69% สู่ 33,055.51, ดัชนี S&P 500 ปิดดิ่งลง 1.12% สู่ 4,145.58 และดัชนี Nasdaq ปิดรูดลง 1.26% สู่ 12,560.25 ทั้งนี้ ดัชนี KBW สำหรับหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐบวกขึ้น 0.85% ในวันอังคาร โดยปรับขึ้นต่อเนื่องจากวันจันทร์ ในขณะที่หุ้นธนาคารแพคเวสท์ แบงคอร์ปพุ่งขึ้น 7.9% ในวันอังคาร

  • นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 2-3 พ.ค.ที่จะได้รับการเปิดเผยออกมาในวันพุธนี้ เพื่อมองหาสัญญาณบ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.หรือไม่ หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดอาจจะยังคงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในปีนี้ ส่วนนายนีล แคชคารี ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิสกล่าวว่า "เราอาจจะมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่า 6%" เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ทั้งนี้ นายไมเคิล วิลสัน นักยุทธศาสตร์การลงทุนหุ้นของธนาคารมอร์แกน สแตนเลย์กล่าวว่า ตลาดหุ้นยังไม่ได้ปรับตัวรับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ และเขากล่าวเสริมว่า ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้กันได้ ข้อตกลงดังกล่าวก็อาจจะส่งผลลบต่อรายจ่ายทางการคลัง และปัจจัยนี้จะส่งผลกระทบในทางลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

  • นักยุทธศาสตร์การลงทุนในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ดัชนี S&P 500 อาจจะปิดตลาดสิ้นปีนี้ที่ 4,150 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับปิดวันอังคาร ทั้งนี้ ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้างในวันอังคาร หลังจากบริษัทเอสแอนด์พี โกลบอลรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับผลผลิตโดยรวมของสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ พุ่งขึ้นจาก 53.4 ในเดือนเม.ย. สู่ 54.5 ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2022 ในขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐทะยานขึ้นจาก 53.6 ในเดือนเม.ย. สู่ 55.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 13 เดือนเช่นกัน

  • หุ้นบรอดคอมซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปพุ่งขึ้น 1.2% หลังจากบรอดคอมทำข้อตกลงขนาดหลายพันล้านดอลลาร์กับบริษัทแอปเปิลในเรื่องการใช้ชิปที่ผลิตในสหรัฐ แต่หุ้นแอปเปิลดิ่งลง 1.5% ทั้งนี้ หุ้นซูม วิดีโอ คอมมูนิเคชันส์ดิ่งลง 8.07% หลังจากซูมรายงานว่ารายได้รายไตรมาสปรับขึ้นเพียง 3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นอัตราการปรับขึ้นที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เป็นบริษัทมหาชน--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้