ReutersReuters

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐปรับลงตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

นิวยอร์ค--15 พ.ค.--รอยเตอร์

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับลงเล็กน้อยในวันศุกร์ตามหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ หลังจากหุ้นกลุ่มนี้เคยพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจในวันศุกร์ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐดิ่งลงจาก 63.5 ในเดือนเม.ย. สู่ 57.7 ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2022 หรือจุดต่ำสุดรอบ 6 เดือน โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ความขัดแย้งทางการเมืองเรื่องการปรับขึ้นเพดานหนี้สหรัฐอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ หุ้นเทสลาดิ่งลง 2.3% ในวันศุกร์ หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาระบุในวันศุกร์ว่า ลินดา แยคคาริโน อดีตหัวหน้าฝ่ายโฆษณาของเอ็นบีซียูนิเวอร์แซลจะมาดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของบริษัททวิตเตอร์

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับลง 0.03% สู่ 33,300.62 ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนลบเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในรอบ 2 เดือน ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดปรับลง 0.16% สู่ 4,124.08; และดัชนี Nasdaq ปิดปรับลง 0.35% สู่ 12,284.74 ในวันศุกร์ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้ดิ่งลง 1.1%, ดัชนี S&P 500 ปรับลง 0.3% แต่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการบวกขึ้น 0.4% จากสัปดาห์ที่แล้ว

  • ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นปรับขึ้น 0.4% ในวันศุกร์ และส่งผลให้หุ้น 2 กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในวันศุกร์ ทางด้านดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 0.9% และดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับลง 0.2% ในวันศุกร์ แต่ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงพุ่งขึ้นมาแล้ว 22% จากช่วงต้นปีนี้ ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลร่วงลง 0.54% ส่วนหุ้นอะเมซอนดอทคอมดิ่งลง 1.71% โดยหุ้นสองตัวนี้กับหุ้นเทสลามีส่วนในการถ่วงดัชนี S&P 500 ให้ปรับลงในวันศุกร์

  • นายปีเตอร์ ทุซ ประธานบริษัทเชส อินเวสท์เมนท์ เคาน์เซลกล่าวว่า "หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นนักลงทุนจึงเริ่มกังวลกับมูลค่าหุ้น" และเขากล่าวเสริมว่า "บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีมีงบดุลที่แข็งแกร่ง และมีผลประกอบการที่ดีในไตรมาสแรก ดังนั้นธุรกิจกลุ่มนี้จึงดูเหมือนจะรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่มูลค่าหุ้นกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ"

  • มิเชลล์ โบว์แมน หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันศุกร์ว่า เฟดอาจจะมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี นักลงทุนมีความกังวลในช่วงนี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของเฟดอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ สำนักงานงบประมาณสภาคองเกรสของสหรัฐ (CBO) ระบุในวันศุกร์ว่า สหรัฐเผชิญกับ "ความเสี่ยงเป็นอย่างมาก" ที่จะผิดนัดชำระเงินในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนมิ.ย. ถ้าหากไม่มีการปรับขึ้นเพดานหนี้--จบ--

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้