USA:สหรัฐเผยการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับลงในธ.ค.,เงินเฟ้อชะลอตัว

วอชิงตัน--20 ม.ค.--รอยเตอร์

• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งครองสัดส่วนสูงกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ปรับลง 0.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนพ.ย. และเทียบกับโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยอาจขยับลง 0.1% ในเดือนธ.ค. ส่วนดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดนิยมใช้ ปรับขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. และปรับขึ้น 5.0% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2021 หลังจากพุ่งขึ้น 5.5% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี ทางด้านดัชนี PCE พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานปรับขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. และปรับขึ้น 4.4% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2021 หลังจากพุ่งขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี

• นายซาล กวาเทียรี นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทบีเอ็มโอ แคปิตัล มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ภาคครัวเรือนสหรัฐปรับลดการใช้จ่ายเงินลง โดยเป็นผลจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นและต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น และเป็นผลจากความมั่งคั่งที่ลดลงด้วย โดยปัจจัยนี้มีแนวโน้มที่จะมีส่วนทำให้จีดีพีสหรัฐหดตัวลงในไตรมาสแรกของปีนี้ อย่างไรก็ดี ข่าวดีก็คือว่า ผู้บริโภคต่อต้านการขึ้นราคา และปัจจัยนี้จะส่งผลดีต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ และจะช่วยจำกัดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงต่อไป"

• ปริมาณการใช้จ่ายเงินในการซื้อสินค้าลดลงในวงกว้างในเดือนธ.ค. โดยได้รับแรงกดดันบางส่วนจากการดิ่งลงของราคาน้ำมันเบนซิน โดยปริมาณการใชัจ่ายเงินในการซื้อสินค้าคงทนซึ่งครอบคลุมรถยนต์, สินค้าเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และเฟอร์นิเจอร์ ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากรูดลง 3.0% ในเดือนพ.ย. ส่วนปริมาณการใช้จ่ายเงินในการซื้อสินค้าไม่คงทน ซึ่งครอบคลุมเสื้อผ้าและรองเท้า ดิ่งลง 1.4% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับลง 0.4% ในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ดี ปริมาณการใช้จ่ายเงินในภาคบริการปรับขึ้น 0.5% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายเงินในด้านที่อยู่อาศัย, ค่าสาธารณูปโภค, ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่ารักษาพยาบาล และการพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในร้านอาหารและบาร์ปรับลดลงในเดือนธ.ค. โดยอาจเป็นผลจากภาวะอากาศหนาวจัด หรืออาจเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคปรับลดการใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือยท่ามกลางความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย

• ปริมาณการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคสหรัฐในแบบที่ปรับตามภาวะเงินเฟ้อร่วงลง 0.3% ในเดือนธ.ค. ซึ่งถือการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 1 ปี หลังจากปรับลง 0.2% ในเดือนพ.ย. ทั้งนี้ รายได้ส่วนบุคคลในสหรัฐปรับขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หรือน้อยที่สุดในรอบ 8 เดือน หลังจากปรับขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ทางด้านค่าแรงในสหรัฐปรับขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. แต่มีการคาดการณ์กันว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐอาจจะปรับลดลงเพียงในวงจำกัดเท่านั้นในช่วงนี้ เพราะว่าสหรัฐกำลังจะปรับสวัสดิการสังคมสำหรับประชากรกว่า 65 ล้านคนตามค่าครองชีพ ซึ่งจะถือเป็นการปรับตามค่าครองชีพครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1981 และการปรับนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค.นี้

• รายได้ของภาคครัวเรือนหลังจากปรับตามภาวะเงินเฟ้อปรับขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ทางด้านอัตราการออมเงินพุ่งขึ้นจาก 2.9% ในเดือนพ.ย. สู่ 3.4% ในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 7 เดือน--จบ--

Eikon source text