ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองขยับลงขณะดอลล์แข็งค่า

นิวยอร์ค--30 ม.ค.--รอยเตอร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับลง 1.65 ดอลลาร์ สู่ 1,927.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 101.91 ในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 101.75 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี และการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ อย่างไรก็ดี ราคาทองปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการขยับขึ้น 0.77 ดอลลาร์จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกได้เป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.

• ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดขยับขึ้น 0.20 ดอลลาร์ สู่ 1,930.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดดิ่งลง 0.329 ดอลลาร์ หรือ 1.38% สู่ 23.564 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดร่วงลง 5.97 ดอลลาร์ สู่ 1,012.08 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดดิ่งลง 58.02 ดอลลาร์ หรือ 3.46% สู่ 1,618.86 ดอลลาร์/ออนซ์

• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งครองสัดส่วนสูงกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ปรับลง 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนพ.ย. และเทียบกับโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยอาจขยับลง 0.1% ในเดือนธ.ค. ส่วนดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดนิยมใช้ ปรับขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. และปรับขึ้น 5.0% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2021 หลังจากพุ่งขึ้น 5.5% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี ทางด้านดัชนี PCE พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานปรับขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. และปรับขึ้น 4.4% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2021 หลังจากพุ่งขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี

• นายเอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัท OANDA กล่าวว่า "มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดนิยมใช้แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่ผมคิดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกเล็กน้อย" และเขากล่าวเสริมว่า สถานการณ์ในตลาดยังคงส่งผลบวกต่อราคาทอง เพราะว่าราคาทองจะได้รับแรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และราคาทองจะได้รับแรงหนุนท่ามกลางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย

• นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดการณ์ว่า มีโอกาส 96.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. และมีโอกาสเพียง 3.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. และนักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า หลังจากนั้นเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงแค่ 1 ครั้ง ก่อนที่จะยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายอาจจะอยู่ที่ระดับราว 4.9% ในเดือนมิ.ย. ถึงแม้ผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายคนคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวัฏจักรที่ระดับสูงกว่า 5% เล็กน้อย--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;