DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นหลังศก.เติบโตสูงเกินคาดใน Q4
นิวยอร์ค--27 ม.ค.--รอยเตอร์
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีหลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน ในขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการภาคเอกชนของสหรัฐที่อยู่ในภาวะไร้ทิศทาง และนักลงทุนรอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.61% สู่ 33,949.41, ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 1.10% สู่ 4,060.43 และดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 1.76% สู่ 11,512.41 ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นถือเป็นหุ้นเพียงกลุ่มเดียวที่ไม่ได้ปิดตลาดในแดนบวก ส่วนหุ้นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุดคือหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นกลุ่มนี้ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าจีนต้องการใช้น้ำมันมากยิ่งขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐเติบโต 2.9% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี (annualised) ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 2.6% หลังจากเศรษฐกิจเติบโต 3.2% ในไตรมาส 3 ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐปรับลดลง 6,000 ราย สู่ 186,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ม.ค. และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางรายมองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเหล่านี้ถือเป็นดาบสองคม เพราะตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้อาจจะส่งผลให้เฟดใช้อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปเป็นเวลานาน
บริษัทมากกว่า 25% ในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการออกมาแล้ว และบริษัท 69% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า ผลกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 อาจดิ่งลง 2.7% ในไตรมาส 4/2022 เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เคยคาดการณ์ในช่วงต้นปีนี้ว่า ผลกำไรอาจปรับลดลงเพียง 1.6% ในไตรมาส 4/2022
หุ้นเทสลาซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งขึ้น 11.0% ในวันพฤหัสบดี หลังจากเทสลาเปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาดและคาดการณ์แนวโน้มยอดขายที่สดใส โดยการพุ่งขึ้นของหุ้นเทสลาช่วยกระตุ้นให้หุ้นบริษัทขนาดใหญ่แห่งอื่น ๆ ทะยานขึ้นตามไปด้วย ทางด้านหุ้นเชฟรอฟซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่พุ่งขึ้น 4.9 % หลังจากเชฟรอนประกาศว่าจะปรับเพิ่มงบประมาณสำหรับการซื้อคืนหุ้นขึ้นเป็น 3 เท่า อย่างไรก็ดี มีหุ้นหลายตัวดิ่งลงในวันพฤหัสบดีด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงหุ้น IBM ที่ดิ่งลง 4.5 % หลังจาก IBM ประกาศในวันพุธว่าจะปลดพนักงานออก 3,900 ตำแหน่ง และหุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของใช้ในบ้านที่รูดลง 22.2 % หลังจากทางบริษัทได้รับหนังสือแจ้งเตือนเรื่องการผิดนัดชำระหนี้จากธนาคารเจพีมอร์แกน เชส--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;