มูดี้ส์ชี้ปท.ตลาดเกิดใหม่ไม่ได้เผชิญความเสี่ยงจากวิกฤติหนี้รบ.
เม็กซิโก ซิตี้--26 ม.ค.--รอยเตอร์
บริษัทมูดี้ส์ อะนาลิติกส์ระบุในวันพุธว่า ประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีขนาดเล็กไม่ได้เผชิญความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติหนี้รัฐบาลอย่างร้ายแรงอีกต่อไป อย่างไรก็ดี การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้ยังคงเผชิญอุปสรรคจากสกุลเงินที่อ่อนค่าลง, จากการว่างงาน และจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง ทั้งนี้ มูดี้ส์ระบุในรายงานว่า ประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ อย่างเช่นบราซิลและอินโดนีเซีย มีเศรษฐกิจเติบโต "ดีเกินคาด" หลังจากเกิดสงครามยูเครน เนื่องจากประเทศกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน, ราคาโลหะ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตร
ในส่วนของประเทศที่ไม่ได้พึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างเช่นเม็กซิโกและเวียดนามนั้น เศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้ก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน ในขณะที่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกทวีความรุนแรงขึ้นในปีที่แล้ว โดยความขัดแย้งดังกล่าวช่วยกระตุ้นการลงทุนใหม่ในภาคโรงงานของประเทศกลุ่มนี้ และช่วยหนุนยอดส่งออกรถยนต์, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ทั้งนี้ มูดี้ส์ระบุว่า ปัจจัยเหล่านี้ช่วยจำกัดความเสียหายที่สกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่และตลาดหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ได้รับจากวัฏจักรการคุมเข้มนโยบายการเงินในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นวัฏจักรที่นำโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
มูดี้ส์ระบุว่า ประเทศตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคลาตินอเมริกาอาจจะมีเศรษฐกิจหดตัวลงอย่างรุนแรงกว่าประเทศตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคอื่น ๆ เพราะว่าประเทศในลาตินอเมริกาพึ่งพาราคาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นอย่างมาก, มีสกลุเงินที่แกว่งตัวผันผวน และไม่ได้ใช้นโยบายการคลังในแบบที่สวนทางกับวัฏจักรเศรษฐกิจมากเท่าภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งนี้ มูดี้ส์ระบุว่า การที่ประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกาขาดแคลนมาตรการทางการคลังที่แข็งแกร่งในการรับมือกับเหตุร้ายแรง และการที่ประเทศกลุ่มนี้ยังคงมีอุปสรรคขัดขวางการลงทุน จะส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มนี้ใช้เวลานานยิ่งขึ้น และจะส่งผลให้อัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปเป็นเวลานานในปี 2024
มูดี้ส์คาดว่า เศรษฐกิจเม็กซิโกมีแนวโน้มเติบโต 1.0% ในปี 2023 แต่ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป และถ้าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว ปัจจัยดังกล่าวก็อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจเม็กซิโกหดตัวลง 2.5% ในปีนี้ ทั้งนี้ มูดี้ส์คาดว่า เศรษฐกิจบราซิลอาจจะเติบโต 0.8% ในปี 2023 แต่ถ้าหากเกิดวิกฤติหนี้ เศรษฐกิจบราซิลก็อาจจะหดตัวลง 3.2%
มูดี้ส์ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะเติบโต 4.3% ในปี 2023 เนื่องจากจีนมีความสามารถในการจำกัด "การอ่อนค่าของหยวน ซึ่งช่วยให้ภาวะเงินเฟ้อจากราคานำเข้าปรับขึ้นได้เพียงเล็กน้อย และช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายของจีนสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น โดยไม่ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะไปกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อ"--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;