DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐปิดร่วงต่อเนื่องขณะนักลงทุนกังวลศก.ถดถอย
หุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันอังคาร โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลง 4 วันติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนกังวลกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการพูดถึงภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 350.76 จุด หรือ 1.03% ที่ 33,596.34, ดัชนี S&P 500 ปิดร่วงลง 57.58 จุด หรือ 1.44% สู่ระดับ 3,941.26 และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 225.05 จุด หรือ 2% สู่ 11,014.89
ตลาดจับตาแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต หลังความเห็นจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงินบ่งชี้ถึงช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนในอนาคต โดยซีอีโอของแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะติดลบเล็กน้อยเป็นเวลา 3 ไตรมาสในปีหน้า ขณะที่นายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคระบุว่า เงินเฟ้อจะกัดกร่อนกำลังซื้อของผู้บริโภค และคาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยเล็กน้อยไปจนถึงชัดเจนมากขึ้นในอนาคต ซึ่งความเห็นเหล่านี้เกิดขึ้นหลังการสะท้อนมุมมองล่าสุดจากแบล็คร็อคและอีกหลายบริษัทที่เชื่อว่า การคุมเข้มนโยบายแบบเชิงรุกของเฟดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องนั้นอาจจะทำให้เศรษฐกิจตกต่ำในปีหน้า
ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจเกิดขึ้นท่ามกลางการประเมินใหม่ของเทรดเดอร์เกี่ยวกับแนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง และภาคบริการ โดยตลาดเงินคาดว่า มีโอกาส 91% ที่เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมในวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะจุดสูงสุดที่ 4.98% ในเดือนพ.ค.2023 เพิ่มขึ้นจาก 4.92% ที่คาดไว้เมื่อวันจันทร์ก่อนการเปิดเผยข้อมูลภาคบริการ
หุ้นเมต้า แพลตฟอร์มฉุดตลาดโดยรวมร่วงลง โดยหุ้นดิ่งลง 6.8% หลังมีรายงานว่า ผู้ควบคุมกฎระเบียบในสหภาพยุโรปออกกฎว่า บริษัทไม่ควรบังคับให้ผู้ใช้ยินยอมรับโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้ใช้บนกิจกรรมดิจิทัล ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสารร่วงลงเช่นเดียวกับกลุ่มเทคโนโลยี แต่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคสวนกระแสปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารอยู่ในกลุ่มที่อ่อนไหวที่สุดกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจากอาจจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากหนี้เสีย และสินเชื่อที่ชะลอตัวลง--จบ--
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)