DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐปิดร่วง,นักลงทุนวิตกดอกเบี้ยเฟดหลังข้อมูลภาคบริการดีเกินคาด
หุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนที่ตื่นตระหนกกับข้อมูลภาคบริการที่ออกมาดีเกินคาด ได้ประเมินใหม่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานขึ้น ขณะที่หุ้นเทสลาดิ่งลง 6.4% จากแผนการลดการผลิตรถยนต์รุ่นโมเดลวายที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ลงกว่า 20% ในเดือนนี้จากเดือนก่อน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 482.78 จุด หรือ 1.4% ที่ 33,947.1, ดัชนี S&P 500 ปิดร่วงลง 72.86 จุด หรือ 1.79% สู่ระดับ 3,998.84 และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 221.56 จุด หรือ 1.93% สู่ 11,239.94
สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนที่แล้ว จากระดับ 54.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการยังคงฟื้นตัวได้ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลงสู่ระดับ 53.1 และผลสำรวจนี้ออกมาหลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานและค่าจ้างที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนพ.ย. ซึ่งท้าทายความหวังที่ว่า เฟดอาจชะลออัตราและความเข้มข้นในการขึ้นดอกเบี้ยท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา
นักลงทุนมองเห็นโอกาส 89% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยอัตราดอกเบี้ยจะแตะจุดสูงสุดที่ 4.984% ในเดือนพ.ค.ปีหน้า และในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะรอดูข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคาผู้ผลิต และผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 2.9% โดยถูกกดดันจากสัญญาก๊าซธรรมชาติสหรัฐที่ดิ่งลงกว่า 10% ในวันจันทร์ ขณะที่แนวโน้มมืดมนขึ้นเนื่องจากการคาดการณ์ว่าอากาศจะอุ่นขึ้น และการเลื่อนการเปิดโรงงานส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวฟรีพอร์ท ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงเช่นกัน แม้ว่าผลกำไรของภาคธนาคารได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่ก็มีความอ่อนไหวต่อความวิตกเกี่ยวกับหนี้เสีย หรือเงินกู้ที่ชะลอตัวลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ--จบ--
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)