ReutersReuters

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองพุ่งขึ้น 1%,ปธ.เฟดชี้จะชะลอความเร็วขึ้นดบ.

นิวยอร์ค--1 ธ.ค.--รอยเตอร์

  • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 18.72 ดอลลาร์ หรือ 1.07% สู่ 1,768.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวที่สถาบันบรูคกิงส์ในกรุงวอชิงตันว่า เฟดอาจจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยเขากล่าวว่า "เราคิดว่าการชะลอความเร็วในจุดนี้จะเป็นหนทางที่ดีในการรักษาสมดุลความเสี่ยง" อย่างไรก็ดี เขากล่าวเตือนว่าการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อจะยังคงดำเนินต่อไปอีกนาน และคำถามสำคัญยังคงไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งรวมถึงประเด็นที่ว่า อัตราดอกเบี้ยจำเป็นจะต้องปรับขึ้นจนถึงระดับใด และจำเป็นจะต้องปรับขึ้นต่อไปเป็นเวลานานเพียงใด ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 105.78 ในช่วงท้ายวันพุธ โดยดิ่งลงจาก 106.86 ในช่วงท้ายวันอังคาร และออกห่างจากจุดสูงสุดรอบ 20 ปีที่ 114.78 ที่ทำไว้ในวันที่ 28 ก.ย. โดยการดิ่งลงของดอลลาร์ส่งผลให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

  • ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดปรับลง 0.2% สู่ 1,759.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดทะยานขึ้น 0.937 ดอลลาร์ หรือ 4.41% สู่ 22.195 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดพุ่งขึ้น 30.43 ดอลลาร์ หรือ 3.04% สู่ 1,032.72 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดทะยานขึ้น 47.13 ดอลลาร์ หรือ 2.57% สู่ 1,881.03 ดอลลาร์/ออนซ์

  • นายไท หว่อง เทรดเดอร์ของบริษัทเฮแรอุส พรีเชียส เมทัลส์กล่าวว่า "นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนของนายพาวเวลล์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในเดือนธ.ค. โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาโลหะมีค่าพุ่งขึ้น" และเขากล่าวเสริมว่า "นักลงทุนมองข้ามเนื้อหาอื่น ๆ ในถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ ซึ่งเป็นการกล่าวย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้" ทั้งนี้ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ เพราะว่าทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย ทางด้านเทรดเดอร์ในตลาดสัญญาล่วงหน้า Fed funds คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 91.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยพุ่งขึ้นจากโอกาส 65% ที่เคยคาดไว้ก่อนที่นายพาวเวลล์จะกล่าวแถลง และเทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 9.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยเทรดเดอร์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า อัตราดอกเบี้ย fed funds จะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 4.95% ในเดือนพ.ค.ปีหน้า แทนที่จะแตะจุดสูงสุดที่ 5.06% ในเดือนมิ.ย.ปีหน้าเหมือนอย่างที่เคยคาดการณ์กันไว้ในช่วงเช้าวันพุธ

  • หลังจากราคาทองปิดตลาดรายเดือนในแดนลบมานาน 7 เดือนติดต่อกัน ราคาทองก็ปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการพุ่งขึ้น 8.29% จากเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2020 ในขณะที่ราคาทองได้รับแรงหนุนในเดือนพ.ย.จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่สนับสนุนให้เฟดชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ราคาโลหะเงินปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการพุ่งขึ้น 15.96% จากเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2020 ส่วนราคาพลาตินั่มปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการทะยานขึ้น 11.56% จากเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นการทะยานขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2020

  • นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้ เพราะตัวเลขดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจกำหนดนโยบายของเฟดในอนาคต ทั้งนี้ บริษัท ADP รายงานในวันพุธว่า การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐปรับขึ้นเพียง 127,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากปรับขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +200,000 ตำแหน่งสำหรับเดือนพ.ย. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่าอุปสงค์ในแรงงานสหรัฐกำลังชะลอตัวลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพุธว่า ยอดการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐดิ่งลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ 10.334 ล้านตำแหน่งในวันสุดท้ายของเดือนต.ค. จาก 10.687 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย.--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้