ReutersReuters

ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์ดิ่งลงหลังปธ.เฟดชี้อาจชะลอความเร็วในการขึ้นดบ.

นิวยอร์ค--1 ธ.ค.--รอยเตอร์

  • ดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงในวันพุธ หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวที่สถาบันบรูคกิงส์ในกรุงวอชิงตันว่า เฟดอาจจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยเขากล่าวว่า "เราคิดว่าการชะลอความเร็วในจุดนี้จะเป็นหนทางที่ดีในการรักษาสมดุลความเสี่ยง" อย่างไรก็ดี เขากล่าวเตือนว่าการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อจะยังคงดำเนินต่อไปอีกนาน และคำถามสำคัญยังคงไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งรวมถึงประเด็นที่ว่า อัตราดอกเบี้ยจำเป็นจะต้องปรับขึ้นจนถึงระดับใด และจำเป็นจะต้องปรับขึ้นต่อไปเป็นเวลานานเพียงใด ทั้งนี้ เทรดเดอร์ในตลาดสัญญาล่วงหน้า Fed funds คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 91.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และมีโอกาส 9.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. โดยอัตราดอกเบี้ย fed funds จะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 4.95% ในเดือนพ.ค.ปีหน้า แทนที่จะแตะจุดสูงสุดที่ 5.06% ในเดือนมิ.ย.ปีหน้าเหมือนอย่างที่เคยคาดการณ์กันไว้ในช่วงเช้าวันพุธ

  • ดอลลาร์อยู่ที่ 138.03 เยน ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยร่วงลงจากระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 138.68 เยน และดอลลาร์/เยนปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการรูดลง 7.18% จากเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นการรูดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 1998 ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.0405 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 1.0327 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร และยูโรปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการพุ่งขึ้น 5.28% จากเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2010 ทางด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 105.78 ในช่วงท้ายวันพุธ โดยดิ่งลงจาก 106.86 ในช่วงท้ายวันอังคาร และออกห่างจากจุดสูงสุดรอบ 20 ปีที่ 114.78 ที่ทำไว้ในวันที่ 28 ก.ย. โดยดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดเดือนพ.ย.ด้วยการดิ่งลง 5.16% จากเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2010 ทั้งนี้ ปอนด์อยู่ที่ 1.2058 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงท้ายวันพุธ โดยพุ่งขึ้นจาก 1.1953 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร

  • ดอลลาร์ร่วงลงในช่วงเช้าวันพุธ หลังจากบริษัท ADP รายงานว่า การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐปรับขึ้นเพียง 127,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากปรับขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +200,000 ตำแหน่งสำหรับเดือนพ.ย. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่าอุปสงค์ในแรงงานสหรัฐกำลังชะลอตัวลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ยอดการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐดิ่งลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ 10.334 ล้านตำแหน่งในวันสุดท้ายของเดือนต.ค. ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้เปิดเผยผลการประเมินครั้งที่สองสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐออกมาในวันพุธ โดยระบุว่าจีดีพีเติบโต 2.9% ในไตรมาสสามเมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี (annualized) โดยปรับขึ้นจากระดับ +2.6% ในการประเมินรอบแรก หลังจากจีดีพีหดตัวลง 0.6% ในไตรมาสสอง

  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ในวันพุธ โดยระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐทรงตัวหรือขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงตั้งแต่กลางเดือนต.ค.จนถึงปลายเดือนพ.ย. และมีสัญญาณที่ไร้ทิศทางในประเด็นที่ว่า ภาวะเงินเฟ้อและภาวะขาดแคลนแรงงานจะดำเนินต่อไปเป็นเวลานานเพียงใด

  • ผลสำรวจที่ออกมาในวันพุธแสดงให้เห็นว่า ราคาผู้บริโภคของประเทศสมาชิกยูโรโซน 19 ประเทศเพิ่มขึ้น 10.0% ในเดือนพ.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 10.6% ในเดือนต.ค. และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +10.4% โดยรายงานตัวเลขเงินเฟ้อนี้ช่วยกระตุ้นความหวังที่ว่า อัตราเงินเฟ้ออาจจะผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้