ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ดอลล์ปรับลงหลังแตะจุดสูงสุด 1 สัปดาห์
โตเกียว--30 พ.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับลงในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ในช่วงแรก และหลังจากแข็งค่าขึ้นในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ในขณะที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดจะกล่าวแถลงเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงานในงานที่จัดโดยสถาบันบรูคกิงส์ในช่วงต่อไปในวันนี้ และนักลงทุนจะรอฟังถ้อยแถลงนี้เพื่อใช้ในการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% ไปแล้วติดต่อกัน 4 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนก็จะรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้ด้วย โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐอาจปรับขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากปรับขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 63.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และมีโอกาส 36.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์กันอีกด้วยว่า มีโอกาส 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 1 ก.พ. 2023 โดยอัตราดอกเบี้ย Fed funds อาจจะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 5.01% ในเดือนมิ.ย. 2023 ก่อนที่จะร่วงลงสู่ 4.64% ก่อนสิ้นเดือนธ.ค. 2023
ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวที่ 138.68 เยนในช่วงเช้าวันนี้ ในขณะที่ดอลลาร์/เยนยังคงสร้างฐานต่อไป หลังจากดีดขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนที่ 137.50 เยนที่ทำไว้ในวันจันทร์ ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้น 0.15% สู่ 1.0342 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1.0319 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอ่อนค่าลง 0.16% สู่ 106.69 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 106.9 ในช่วงแรก ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. โดยก่อนหน้านี้ดัชนีดอลลาร์เคยดิ่งลงแตะระดับราว 105.3 ไปแล้ว 2 ครั้งนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.เป็นต้นมา ในขณะที่นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.16% สู่ 1.1972 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้
ยูโรเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากสเปนและเยอรมนีรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำเกินคาดในวันอังคาร และตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนที่จะได้รับการรายงานออกมาในช่วงต่อไปในวันนี้ ทั้งนี้ สเปนรายงานว่า ดัชนี CPI ปรับขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ +7.4% โดยอัตราเงินเฟ้อนี้ชะลอตัวลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค. ทางด้านสำนักงานสถิติของรัฐบาลกลางเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในแบบที่ปรับให้สอดคล้องกับประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป (HICP) ทรงตัวในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน และปรับขึ้น 11.3% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี โดยก่อนหน้านักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี HICP ในเดือนพ.ย.อาจปรับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน และ 11.3% เมื่อเทียบรายปี
ดอลลาร์สหรัฐ/หยวนขยับขึ้น 0.07% สู่ 7.1558 หยวนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงเมื่อวานนี้ ในขณะที่เทรดเดอร์คาดว่า จีนจะเปิดเศรษฐกิจใหม่และจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด หลังจากเจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า จีนจะเร่งรัดการฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 ให้แก่ประชากรสูงวัย เพื่อจะได้ขจัดอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ทั้งนี้ ดอลลาร์ออสเตรเลียทรงตัวที่ 0.6688 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ และสร้างฐานอยู่ในช่วงกลางของกรอบความเคลื่อนไหวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดอลลาร์ออสเตรเลียได้รับแรงหนุนในวันนี้จากการคาดการณ์ในทางบวกเรื่องการเปิดเศรษฐกิจจีน แต่ดอลลาร์ออสเตรเลียก็ได้รับแรงกดดันในเวลาเดียวกันจากตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอในจีน และจากรายงานที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียปรับขึ้นเพียง 6.9% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลงจาก +7.3% ในเดือนก.ย. โดยรายงานตัวเลขนี้จะช่วยลดแรงกดดันในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนแสดงความเห็นแบบสายเหยี่ยวในช่วงนี้ โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก และหลังจากนั้นเฟดก็จะต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงตลอดทั้งปีหน้าและจนถึงปี 2024 เพื่อจะได้ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ทางด้านนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คกล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ทั้งนี้ นางแคโรล คอง นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลียคาดว่า นายพาวเวลล์จะแสดงความเห็นในวันนี้เรื่องความจำเป็นในการทำให้ภาวะการเงินตึงตัวมากยิ่งขึ้น และถ้อยแถลงของเขาอาจจะส่งผลให้นักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลกใหม่อีกครั้ง และอาจจะหนุนดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ นางคองยังแสดงความเห็นต่อสถานการณ์ในจีนด้วย โดยเธอกล่าวว่า "อัตราการฉีดวัคซีนที่ระดับต่ำในประชากรสูงวัยถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเปิดเศรษฐกิจจีน" ดังนั้นการที่จีนวางแผนจะเร่งรัดการฉีดวัคซีน "จึงถือเป็นการที่รัฐบาลจีนยอมรับในทางอ้อมต่อการแสดงความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อมาตรการควบคุมโรคโควิดอย่างเข้มงวด"--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;