ReutersReuters

EUROPE:ปธ.อีซีบีชี้อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนยังไม่ได้แตะจุดสูงสุด

แฟรงค์เฟิร์ต--29 พ.ย.--รอยเตอร์

  • นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันจันทร์ว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังไม่ได้แตะจุดสูงสุด และมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะพุ่งขึ้นสู่ระดับที่สูงเกินกว่าที่คาดการณ์กันไว้ในปัจจุบัน โดยถ้อยแถลงของนางลาการ์ดบ่งชี้ว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งในอนาคต ทางด้านนักลงทุนรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสเปนและเยอรมนีที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันอังคาร และรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนพ.ย.ของยูโรโซนที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันพุธ ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนอาจอยู่ที่ 10.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี หลังจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่งทะยานขึ้นแตะสถิติสูงสุดที่ 10.6% ในเดือนต.ค. ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของนางลาการ์ดและถ้อยแถลงของนายคลาส น็อต ประธานธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีอาจจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

  • นางลาการ์ดแสดงความเห็นที่สวนทางกับนายลูอิส เด กวินโดส รองประธานอีซีบี โดยนางลาการ์ดกล่าวต่อรัฐสภายุโรปว่า "เราไม่เห็นองค์ประกอบหรือทิศทางที่จะทำให้ดิฉันเชื่อได้ว่า อัตราเงินเฟ้อได้แตะจุดสูงสุดไปแล้ว หรือเชื่อได้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดระดับลงในเร็ว ๆ นี้" และเธอกล่าวเสริมว่า นักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบียังคงมองว่ามีความเสี่ยง "ด้านสูง" อย่างชัดเจน โดยถ้อยแถลงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงที่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้ออาจจะออกมาอยู่ในระดับที่สูงเกินคาด ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก 19 ประเทศอาจจะอยู่ที่ 8.5% ในปีนี้, 6.0% ในปีหน้า และ 2.3% ในปี 2024 ก่อนที่จะบรรลุเป้าหมายที่อีซีบีตั้งไว้ที่ 2% ในปี 2025

  • อีซีบีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปแล้ว 2.00% นับตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นมา โดยปรับขึ้นสู่ 1.5% ในปัจจุบัน ในขณะที่นักลงทุนไม่แน่ใจว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 15 ธ.ค. และนักลงทุนไม่แน่ใจว่า อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ระดับใด ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะแตะจุดสูงสุดที่ระดับราว 3%

  • นางอิซาเบล ชนาเบล สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบี และนายฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบี ได้แสดงความเห็นที่ขัดแย้งกันในช่วงนี้ในเรื่องแนวโน้มเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทางด้านนางลาการ์ดแสดงความพึงพอใจต่อการโต้แย้งกันระหว่างนายเลนกับนางชนาเบล โดยนางลาการ์ดกล่าวว่า แนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายประการด้วยกัน ซึ่งรวมถึงค่าแรงและการคาดการณ์เงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี นางลาการ์ดกล่าวเสริมว่า "เราจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และดิฉันมองว่าเราจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ถึงแม้ดิฉันไม่ต้องการที่จะคาดการณ์มากนักเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้า"

  • นายคลาส น็อตกล่าวในงานประชุมแห่งหนึ่งว่า "เรายังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการของการปรับลดการผ่อนคลายทางการเงิน หรือการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นการพูดถึงเรื่องความเสี่ยงในการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไปจึงถือเป็นเรื่องที่น่าขัน" โดยถ้อยแถลงของเขาสวนทางกับถ้อยแถลงของนายฟาบิโอ ปาเนตตา สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีที่แสดงความกังวลต่อการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไป ทั้งนี้ นายน็อตระบุว่า ควรจะมีการใช้ความระมัดระวังต่อการคาดการณ์ของอีซีบีที่ว่า อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า และต่อแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเร็ว ๆ นี้ และเขากล่าวเตือนว่ามีความเสี่ยงที่ค่าแรงจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกด้วยว่า "ถ้าหากคุณพิจารณาข้อตกลงค่าแรงในช่วงนี้ คุณก็จะพบว่าการปรับขึ้นค่าแรงในช่วงนี้ไม่ได้สอดคล้องกับการทำให้ประสิทธิภาพการผลิตเติบโตขึ้น 1% และการทำให้อัตราเงินเฟ้อบรรลุเป้าหมายที่ 2%"--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้