ReutersReuters

FED:รายงานประชุมชี้จนท.เฟดส่วนใหญ่คาดจะชะลอความเร็วขึ้นดบ.เร็วๆนี้

วอชิงตัน--24 พ.ย.--รอยเตอร์

  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายประจำวันที่ 1-2 พ.ย.ในวันพุธ และรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่ในเฟดมีความเห็นตรงกันว่า จะเป็นการเหมาะสมที่จะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน และรายงานการประชุมก็แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของเฟดมีความพึงพอใจที่พวกเขาสามารถยุติการเร่งความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงแรก และเฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขนาดที่เล็กลง ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น และมีความกังวลมากยิ่งขึ้นในเรื่องที่ว่าเฟดอาจทำเกินเป้าหมาย นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มหารือกันเรื่องความเสี่ยงที่เสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจอาจได้รับจากการคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ผู้กำหนดนโยบายยอมรับว่า แทบไม่มีความคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัดในการแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ และยอมรับว่าเฟดจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

  • รายงานการประชุมเฟดระบุว่า การชะลอความเร็วจะเปิดโอกาสให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) สามารถประเมินความก้าวหน้าในการเข้าใกล้เป้าหมายด้านการจ้างงานสูงสุดและเป้าหมายด้านเสถียรภาพของราคาได้ดียิ่งขึ้น เพราะว่ามีความไม่แน่นอนในประเด็นที่ว่า การปรับนโยบายการเงินจะส่งผลกระทบอย่างล่าช้าเพียงใด และจะส่งผลกระทบในระดับที่มากเพียงใดต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและต่อภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า สิ่งที่สำคัญกว่าขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต คือการที่เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า เฟดจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่สูงเพียงใดเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง และเฟดจำเป็นจะต้องปรับหาระดับที่ถูกต้องอย่างระมัดระวังในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

  • รายงานการประชุมระบุว่า "เนื่องจากนโยบายการเงินกำลังจะเข้าสู่ภาวะที่สามารถจำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่มากพอ ผู้เข้าร่วมการประชุมจึงกล่าวย้ำว่า ประเด็นที่ว่า FOMC จะปรับขึ้นกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยจนถึงระดับใด และประเด็นที่ว่าจุดยืนนโยบายจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงหลังจากนั้น ได้กลายเป็นประเด็นที่มีความสำคัญมากกว่าจังหวะความเร็วในการปรับอัตราดอกเบี้ย" ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดคืออัตราเงินเฟ้อในช่วงหลายเดือนข้างหน้า และประเด็นที่ว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเกินคาดในช่วงนี้จะยังคงชะลอตัวลงต่อไปอีกนานหรือไม่

  • นักเศรษฐศาสตร์ของเฟดได้ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสำหรับช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า และตั้งข้อสังเกตว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้าอยู่ในระดับที่เกือบมากเท่ากับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตอย่างเฉื่อยชาในปีหน้า โดยแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างเฉื่อยชาถือเป็นการคาดการณ์พื้นฐานของเฟด ทั้งนี้ รายงานการประชุมเฟดระบุว่า ผู้เข้าร่วมการประชุมบางรายกล่าวว่า การชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อระบบการเงิน แต่ผู้เข้าร่วมการประชุมรายอื่น ๆ บางรายตั้งข้อสังเกตว่า เฟดควรจะชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อ "มีสัญญาณที่ชัดเจนมากกว่านี้ที่แสดงให้เห็นว่า แรงกดดันเงินเฟ้อลดระดับลงอย่างสำคัญ"

  • นายไบรอัน จาค็อบเสน นักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทออลสปริง โกลบัล อินเวสท์เมนท์กล่าวว่า แนวโน้มของนโยบายการเงินเฟดจะขึ้นอยู่กับการโต้แย้งกันระหว่างเจ้าหน้าที่เฟด 2 กลุ่ม ซึ่งได้แก่กลุ่มแรกที่มองว่า พวกเขาควรจะปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟด และกลุ่มที่สองที่มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน ทั้งนี้ รายงานการประชุมเฟดระบุว่า "ผู้เข้าร่วมการประชุมหลายรายแสดงความเห็นว่า มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างมากในเรื่องที่ว่า อัตราดอกเบี้ย federal funds ขั้นสุดท้ายจำเป็นจะต้องอยู่ที่ระดับใดเพื่อจะได้ทำให้ FOMC บรรลุเป้าหมาย" โดยสิ่งนี้บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้หันเหจุดสนใจออกจากประเด็นที่ว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเพียงใดในการประชุมแต่ละครั้ง และมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายควรจะอยู่ที่ระดับใด--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้