ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์แข็งค่าขณะตลาดกังวลกับโควิดในจีน

นิวยอร์ค--22 พ.ย.--รอยเตอร์

• ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในวันจันทร์ ในขณะที่จีนดำเนินมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดอีกครั้ง และปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และทำให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงด้วย ทั้งนี้ เทศบาลกรุงปักกิ่งของจีนประกาศเตือนในวันจันทร์ว่า กรุงปักกิ่งกำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งร้ายแรงที่สุดสำหรับการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่มีการสั่งปิดธุรกิจและโรงเรียนในบางเขตของกรุงปักกิ่ง และมีการเพิ่มความเข้มงวดในกฎระเบียบสำหรับการเดินทางเข้าเมือง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อปรับสูงขึ้นทั้งในกรุงปักกิ่งและทั่วประเทศจีน ทางด้านนักลงทุนคาดว่า รัฐบาลจีนอาจจะไม่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคลงในเร็ว ๆ นี้ และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลบวกต่อดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินปลอดภัย

• ดอลลาร์อยู่ที่ 142.12 เยน ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยพุ่งขึ้นจากระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 140.35 เยน และการพุ่งขึ้นในวันจันทร์ถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.0241 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ โดยร่วงลงจาก 1.0324 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์ ทางด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 107.77 ในช่วงท้ายวันจันทร์ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 106.96 ในช่วงท้ายวันศุกร์ และดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นมาแล้วราว 12% จากช่วงต้นปีนี้ ทั้งนี้ ปอนด์อยู่ที่ 1.1815 ในช่วงท้ายวันจันทร์ โดยร่วงลงจาก 1.1885 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์ ส่วนหยวนในตลาดจีนดิ่งลงแตะ 7.1708 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ทางด้านดอลลาร์ออสเตรเลียรูดลง 1.1% สู่จุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 0.6585 ดอลลาร์สหรัฐในระหว่างช่วงการซื้อขายวันจันทร์

• ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม หลังจากนางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่า 5% ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี เธอไม่ได้คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนบางส่วนในช่วงนี้จากการดีดขึ้น หลังจากที่ดอลลาร์เผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักหน่วงในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์เคยรูดลงมาแล้วราว 4.7% ในระหว่างเดือนพ.ย. ทางด้านนายคิท จัคส์ จากธนาคารโซซิเอเต เจเนอราลกล่าวว่า "ผมมองว่าการพุ่งขึ้นของดอลลาร์ในช่วงเช้าวันจันทร์เป็นผลสะท้อนจากความอ่อนแอของดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านี้ และไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป"

• ณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐรายงานในวันจันทร์ว่า นักเก็งกำไรได้เปลี่ยนมาถือครองสถานะขายสุทธิในดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกตั้งแต่กลางเดือนก.ค.2021 โดยมูลค่าของสถานะขายสุทธิในดอลลาร์อยู่ที่ 10.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย. จากสถานะซื้อสุทธิในดอลลาร์ 2.36 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อน โดยสถานะการลงทุนดังกล่าววัดจากสถานะการลงทุนของนักเก็งกำไรในตลาดเงินระหว่างประเทศ (IMM) ในเยน, ยูโร, ปอนด์, ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์แคนาดา

• นักลงทุนจะรอดูรายงานการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดประจำวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะได้รับการรายงานออกมาในวันพุธนี้ โดยนักลงทุนจะใช้รายงานดังกล่าวในการประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนก็จะรอดูข้อมูลการคลังของรัฐบาลอังกฤษที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันอังคาร และรอดูดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของอังกฤษที่จะออกมาในวันพุธด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของสกุลเงินคริปโตนั้น บิทคอยน์ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 15,588 ดอลลาร์สหรัฐในระหว่างช่วงการซื้อขายวันจันทร์ ในขณะที่สกุลเงินคริปโตยังคงได้รับแรงกดดันจากการล้มละลายของ FTX ซึ่งเป็นตลาดสกุลเงินคริปโต--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;