ReutersReuters

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:น้ำมันดิบดิ่งลง 3.14% ขณะตลาดจับตาโควิดในจีน

นิวยอร์ค--9 พ.ย.--รอยเตอร์

  • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันอังคาร หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน โดยราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปสงค์เชื้อเพลิง ในขณะที่การระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และจีนถือเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ นักลงทุนก็กังวลกับผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสช่วงกลางสมัยในสหรัฐด้วย โดยมีการคาดการณ์กันว่า พรรครีพับลิกันจะได้ครองที่นั่งมากยิ่งขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ และนักลงทุนจะจับตาดูว่า พรรครีพับลิกันจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสหรือไม่ ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในเมืองกวางโจวและเมืองอื่น ๆ ของจีนทำลายความหวังของนักลงทุนที่ว่า จีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 โดยยอดผู้ป่วยรายใหม่จากการติดเชื้อภายในประเทศจีนพุ่งขึ้นสู่ 7,475 รายในวันที่ 7 พ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. โดยทะยานขึ้นจาก 5,496 รายในวันที่ 6 พ.ย. โดยเมืองกวางโจวครองสัดส่วนเกือบถึง 1 ใน 3 ของยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่

  • ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนธ.ค.รูดลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.14% มาปิดตลาดวันอังคารที่ 88.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 93.74 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนดิ่งลง 2.56 ดอลลาร์ หรือ 2.6% มาปิดตลาดวันอังคารที่ 95.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 99.56 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในวันจันทร์จากข่าวที่ว่า ผู้นำจีนกำลังพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ทั้งนี้ หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันอังคาร การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ย. โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นราว 5.6 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินทะยานขึ้นราว 2.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมัน distillate ดิ่งลงราว 1.8 ล้านบาร์เรล

  • นายเดนนิส คิสเลอร์ รองประธานฝ่ายเทรดดิงของบริษัทบีโอเค ไฟแนนเชียลกล่าวว่า อุปทานน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก และปัจจัยนี้ช่วยจำกัดการดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่มีแนวโน้มว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในสหรัฐจะเผชิญกับภาวะอากาศหนาวจัด ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันเชื้อเพลิง distillate ในคลังสหรัฐในช่วงสิ้นเดือนต.ค.ปีนี้อยู่ในระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ของทุกปีนับตั้งแต่ปี 1951 เป็นต้นมา

  • ตลาด ICE ได้ปรับเพิ่มอัตราการวางหลักประกันขั้นต้นสำหรับสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์เดือนใกล้ขึ้น 4.92% โดยการวางหลักประกันสำหรับสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้นสู่ 9.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 9.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และจะส่งผลให้การลงทุนในสัญญาล่วงหน้าต้องใช้ต้นทุนที่สูงยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ตลาดปิดทำการในวันอังคารเป็นต้นไป

  • EIA ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์พลังงานสหรัฐสำหรับปี 2023 ลงในวันอังคาร โดยคาดว่าอุปสงค์อาจปรับเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2023 โดยปรับลดลงจากระดับ +190,000 บาร์เรลต่อวันที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ EIA ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐในปีหน้าลง 21% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมด้วย หลังจากบริษัทผู้ผลิตน้ำมันประกาศเตือนเรื่องภาวะเงินเฟ้อและปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน โดย EIA คาดว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นราว 480,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ 12.31 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2023 หลังจากที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้นราว 610,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2023 ทั้งนี้ บริษัทไดมอนด์แบค เอ็นเนอร์จี ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันประกาศเตือนว่า อุตสาหกรรมน้ำมันหินเชลในสหรัฐจะยังคงประสบปัญหาในการขยายกิจการต่อไป โดยต้นทุนในการขุดเจาะบ่อน้ำมันหินเชลใหม่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้