ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ตลาดปิดทำการ,เบรนท์พุ่งขึ้น 2.9%

ฮุสตัน--6 ก.ย.--รอยเตอร์

• ตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.เนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้นในวันจันทร์ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลง 100,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อช่วยหนุนราคาน้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบ 4 ดอลลาร์ในช่วงแรก แต่ลดช่วงบวกลงในเวลาต่อมา หลังจากทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐตั้งใจที่จะดำเนินมาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปรับเพิ่มอุปทานพลังงาน และทำให้ราคาพลังงานร่วงลง

• ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 2.72 ดอลลาร์ หรือ 2.92% มาปิดตลาดที่ 95.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

• การปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน 100,000 บาร์เรลต่อวันของกลุ่มโอเปกพลัสมีขนาดเทียบเท่ากับ 0.1% ของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก โดยกลุ่มโอเปกพลัสตกลงกันอีกด้วยว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจจะจัดประชุมกันในเวลาใดก็ได้เพื่อปรับเปลี่ยนปริมาณการผลิตน้ำมัน ก่อนที่จะถึงกำหนดการจัดประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 5 ต.ค. ทั้งนี้ นายเคร็ก เออร์แลม นักวิเคราะห์ของบริษัท Oanda กล่าวว่า การตัดสินใจของกลุ่มโอเปกพลัสในครั้งนี้เป็นการส่งสารเชิงสัญลักษณ์ต่อตลาด และตลาดก็เคยมองว่าการตัดสินใจปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณการผลิตน้ำมัน 100,000 บาร์เรลต่อวันของกลุ่มโอเปกพลัสในเดือนที่แล้วไม่ใช่สิ่งที่มีความสำคัญมากนัก

• นายอเล็กซานเดอร์ โนแวค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่า การที่กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในครั้งนี้เป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอการเติบโตลง ส่วนนายนิโคไล ชุลกินอฟ รมว.พลังงานของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียมีแนวโน้มที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงราว 2% ในปีนี้ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ปริมาณการใช้น้ำมันในการผลิตกระแสไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้น หลังจากบริษัทก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลรัสเซียที่ผูกขาดการส่งออกก๊าซสู่ยุโรปโดยผ่านทางท่อส่ง แถลงในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทไม่สามารถจัดส่งก๊าซได้อย่างปลอดภัยอีกครั้งทางท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 จนกว่าจะได้แก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหลในกังหันสำคัญที่สถานีอัดก๊าซพอร์โตวายาใกล้นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และก๊าซพรอมไม่ได้ระบุกรอบเวลาใหม่ในการเริ่มส่งออกอีกครั้ง

• นางแคโรไลน์ เบน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัทแคปิตัล อิโคโนมิคส์กล่าวว่า "โอเปกพลัสผลิตน้ำมันต่ำกว่าเป้าหมายอย่างมากในปัจจุบัน และไม่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์นี้จะเปลี่ยนแปลงไป เพราะว่าแองโกลาและไนจีเรียไม่สามารถกลับไปผลิตน้ำมันได้มากเท่ากับในช่วงก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาดได้อีก" ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูอิหร่านในช่วงนี้ด้วย ในขณะที่การเจรจาเพื่อฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 เผชิญกับอุปสรรคใหม่ โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมาทำเนียบขาวได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากอิหร่านที่ต้องการให้การทำข้อตกลงในครั้งนี้เชื่อมโยงกับการยุติการตรวจสอบกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงปิโตรเลียมของอิหร่านกล่าวว่า ตลาดโลกต้องการให้อิหร่านปรับเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันสู่ตลาด --จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;