ReutersReuters

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:ตัวเลขจ้างงานหนุนน้ำมันดิบปิดปรับขึ้น 47 เซนต์

นิวยอร์ค--8 ส.ค.--รอยเตอร์

  • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบยังคงปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลงอย่างรุนแรงจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจจะสร้างความเสียหายต่ออุปสงค์เชื้อเพลิง ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากปรับขึ้น 398,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขของเดือนก.ค.อยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 250,000 ตำแหน่งเป็นอย่างมาก และเดือนก.ค.ถือเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกันที่การจ้างงานในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น ทางด้านอัตราการว่างงานในสหรัฐปรับลงจาก 3.6% ในเดือนมิ.ย. สู่ 3.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งตรงกับระดับต่ำในช่วงก่อนเกิดวิฤติโรคระบาด

  • ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนก.ย.ปรับขึ้น 47 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 89.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการรูดลง 8% จากสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 80 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 94.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่เบรนท์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 11% จากสัปดาห์ที่แล้ว

  • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์สรายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐดิ่งลง 7 แท่น สู่ 598 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งถือเป็นการร่วงลงครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์

  • นักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงนี้ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในวันพฤหัสบดีเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ และประกาศเตือนว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจจะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นเวลายาวนานในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยนายเคร็ก เออร์แลม นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัท Oanda กล่าวว่า "นักลงทุนกังวลกับภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นอย่างมาก ในขณะที่ตลาดน้ำมันยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวเป็นอย่างมาก และผู้ผลิตน้ำมันก็ไม่ได้มีกำลังการผลิตมากพอที่จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป" ทั้งนี้ อุปทานน้ำมันยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวในช่วงนี้ และปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาสัญญาน้ำมันดิบเดือนใกล้อยู่สูงกว่าราคาสัญญาเดือนไกล หรืออยู่ในภาวะ backwardation

  • ความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในช่วงใกล้ถึงฤดูหนาว ในขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) จะเริ่มดำเนินมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันรัสเซียที่จัดส่งทางทะเลตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ นายไมเคิล ทราน นักวิเคราะห์ของธนาคาร RBC กล่าวว่า การระงับการนำเข้าน้ำมันรัสเซียดังกล่าวทำให้มีการตั้งคำถามสำคัญว่า ผู้ผลิตน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกกลางจะหันมาจัดส่งน้ำมันสู่ยุโรปเพื่อชดเชยส่วนที่หายไปหรือไม่--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้