ReutersReuters

DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:Nasdaq พุ่งขึ้นมาปิดตลาดสูงสุดรอบ 3 เดือน

นิวยอร์ค--4 ส.ค.--รอยเตอร์

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพุธ หลังจากบริษัทเพย์แพลซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน และบริษัทซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ คาดการณ์ผลกำไรที่แข็งแกร่ง โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน และช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ให้พุ่งขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. ทั้งนี้ หุ้นเพย์แพลพุ่งขึ้น 9.25% หลังจากเพย์แพลปรับขึ้นแนวโน้มผลกำไรประจำปี และประกาศว่าบริษัทเอลเลียต แมเนจเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทนักลงทุนนักเคลื่อนไหวได้เข้ามาถือหุ้นกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในเพย์แพล ทางด้านหุ้นซีวีเอส เฮลธ์ทะยานขึ้น 6.3% หลังจากซีวีเอสปรับขึ้นคาดการณ์ผลกำไรประจำปี และรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทะยานขึ้น 1.29% สู่ 32,812.50, ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 1.56% สู่ 4,155.17 และดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 2.59% สู่ 12,668.16 ในวันพุธ โดยดัชนี S&P 500 ดีดขึ้นมาแล้วราว 13% จากจุดต่ำสุดของช่วงกลางเดือนมิ.ย. แต่ดัชนียังคงร่วงลงมาแล้ว 15% จากสถิติระดับปิดสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงต้นเดือนม.ค. ทั้งนี้ หุ้น 10 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวกในวันพุธ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) พุ่งขึ้น 2.69% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยทะยานขึ้น 2.52% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากเป็นอันดับสอง

  • สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานในวันพุธว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐดีดขึ้นในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากยอดสั่งซื้อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังจากดัชนี PMI เคยร่วงลงมานาน 3 เดือนติดต่อกัน โดยรายงานของ ISM แสดงให้เห็นอีกด้วยว่า ภาวะคอขวดด้านอุปทานและแรงกดดันเงินเฟ้อบรรเทาลง และรายงานนี้สนับสนุนความเห็นที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้อยู่ในภาวะถดถอย ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐดีดขึ้นสู่ 56.7 ในเดือนก.ค. จาก 55.3 ในเดือนมิ.ย. และดัชนียอดสั่งซื้อใหม่ในภาคบริการทะยานขึ้นสู่ 59.9 ในเดือนก.ค. จาก 55.6 ในเดือนมิ.ย. ในขณะที่ดัชนีการจัดส่งของซัพพลายเออร์ร่วงลงสู่ 58.3 ในเดือนก.ค. จาก 61.9 ในเดือนมิ.ย. และปัจจัยนี้ก็ช่วยชะลอภาวะเงินเฟ้อในภาคบริการ ทางด้านดัชนีราคาจ่ายสำหรับปัจจัยการผลิตในภาคบริการดิ่งลงจาก 80.1 ในเดือนมิ.ย. สู่ 72.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2021

  • นายซาฮาค มานูเอเลียน กรรมการผู้จัดการฝ่ายเทรดดิงของบล.เวดบุชกล่าวว่า "สหรัฐอยู่ในระหว่างฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาสสองในช่วงนี้ และบริษัทหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มอุตสาหกรรม ต่างก็รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด และปัจจัยดังกล่าวก็มากพอที่จะช่วยหนุนตลาดหุ้นในช่วงนี้" นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้รับแรงหนุนในวันพุธจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปฏิบัติภารกิจส่วนใหญ่ในส่วนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว ทั้งนี้ หุ้นบริษัทแอปเปิลพุ่งขึ้น 3.82% ในวันพุธ, หุ้นอะเมซอนทะยานขึ้น 4%, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 5.4% และหุ้นเทสลาทะยานขึ้น 2.27% โดยหุ้นเทสลามีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันพุธ ซึ่งส่งผลให้เทสลาครองตำแหน่งหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดในดัชนี S&P 500

  • รายงานที่ออกมาในวันพุธระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. และภาคธุรกิจก็ลงทุนด้านอุปกรณ์ในระดับที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยปัจจัยนี้บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งพื้นฐานในภาคโรงงาน ถึงแม้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพุธว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมิ.ย. หลังจากปรับขึ้น 1.8% ในเดือนพ.ค. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +1.1% สำหรับเดือนมิ.ย. ส่วนยอดสั่งซื้อของโรงงานแบบเทียบรายปีพุ่งขึ้น 13.5% ในเดือนมิ.ย. ทางด้านยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมอาวุธและเครื่องบิน และถือเป็นมาตรวัดแผนการลงทุนด้านอุปกรณ์ในภาคธุรกิจ ปรับขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขขั้นต้นที่ 0.5% ที่เคยรายงานไว้ในเดือนที่แล้ว--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

เข้าสู่ระบบหรือสร้างบัญชีฟรีถาวรเพื่ออ่านข่าวนี้