ชี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่าดอลล์,ตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปีนี้

ลอนดอน--2 ส.ค.--รอยเตอร์

• ราคาน้ำมันสามารถรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ดีท่ามกลางความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่าดัชนีตลาดหุ้นสำคัญและค่าดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ในขณะที่ชาติตะวันตกดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดน้ำมันตึงตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นมาแล้ว 31.7% จากช่วงต้นปีนี้ และราคาน้ำมันดิบสหรัฐทะยานขึ้นมาแล้ว 28.55% จากช่วงต้นปีนี้ ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินพุ่งขึ้น 10.31% จากช่วงต้นปีนี้, ดัชนี FTSE ของตลาดหุ้นอังกฤษขยับขึ้น 1% จากช่วงต้นปีนี้ ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก (ACWI) ดิ่งลง 15.51% จากช่วงต้นปีนี้ และดัชนี Nasdaq ของตลาดหุ้นสหรัฐรูดลง 20.8% จากช่วงต้นปีนี้

• ดัชนีตลาดหุ้น 47 ประเทศของ MSCI ดิ่งลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ในอัตราที่รุนแรงที่สุดสำหรับช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำดัชนีนี้ในปี 1990 เป็นต้นมา ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 40 ปี และธนาคารกลางหลายแห่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ นายเคร็ก เออร์แลม นักวิเคราะห์ของบริษัท Oanda กล่าวว่า ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบในทางลบจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงจากราคาน้ำมัน และราคาน้ำมันเองก็มีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นด้วย

• นายโจวานนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์ของธนาคารยูบีเอสกล่าวว่า "สต็อกน้ำมันดิบที่ระดับต่ำ และกำลังการผลิตส่วนเกินที่เหลือน้อยลงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา" ทั้งนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) มักจะผลิตน้ำมันต่ำกว่าระดับเป้าหมายในช่วงเวลาส่วนใหญ่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากหลายประเทศประสบปัญหาด้านกำลังการผลิต โดยกลุ่มโอเปกพลัสผลิตน้ำมันต่ำกว่าเป้าหมายราว 3 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย. หรือราว 3% ของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก

• ธนาคาร MUFG ระบุว่า นักลงทุนจะยังคงคาดการณ์ในทางบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ตราบใดที่อุปสงค์ยังคงอยู่สูงกว่าอุปทาน "แต่ในทางตรงกันข้ามนั้น ตลาดการเงินเป็นตลาดของราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวตามการคาดการณ์ล่วงหน้า และได้รับแรงกระตุ้นจากอัตราการเติบโตของอุปสงค์ และก็เป็นที่เห็นได้ชัดว่าอัตราการเติบโตดังกล่าวกำลังร่วงลง"

• ธนาคารเจพี มอร์แกนปรับลดการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกสำหรับปีนี้และปีหน้า และระบุว่าตลาดน้ำมันยังไม่ได้ปรับตัวรับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ เจพี มอร์แกนยังระบุอีกด้วยว่า หลักฐานจากในอดีตบ่งชี้ว่า อุปสงค์น้ำมันจะได้รับแรงหนุนเป็นอย่างดี ตราบใดที่เศรษฐกิจโลกยังคงมีอัตราการเติบโตเป็นบวก แต่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มดิ่งลง 30-40% ในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;