รายงาน กนง.ระบุความเสี่ยงเงินเฟ้อเพิ่ม-อาจกระทบการเติบโตศก., ควรปรับขึ้นดบ.ให้ทันการณ์
กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--รอยเตอร์
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ระบุว่า กนง.ประเมินว่า น้ำหนักของความเสี่ยง(balance of risks) ในการตัดสินนโยบายการเงินเริ่มเปลี่ยนไป โดยน้ำหนักความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจปรับลดลง ขณะที่น้ำหนักความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมีความชัดเจนขึ้น จึงเห็นว่าการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับปัจจุบัน จะมีความจำเป็นลดลงในระยะข้างหน้า
ภายใต้ภาวะที่เงินเฟ้อมีความเสี่ยงสูงขึ้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ช้าเกินไป อาจก่อให้เกิดต้นทุนทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายควรเริ่มในช่วงเวลาที่เหมาะสม และทันการณ์ เพื่อสามารถดำเนินนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเอื้อให้เศรษฐกิจสามารถปรับตัวได้อย่างราบรื่น จะส่งผลกระทบอย่างจำกัดต่อเศรษฐกิจ และเสถียรภาพระบบการเงินในภาพรวม
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 65 และ 66 โดยคาดว่าจะขยายตัว 3.3% และ 4.2% ตามลำดับ โดยเศรษฐกิจไทยปี 65 มีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่ประมาณการไว้ จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ และภาคการท่องเที่ยวที่อาจดีกว่าที่คาด
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 65 มีแนวโน้มสูงเกินกรอบเป้าหมายตลอดปี ตามราคาน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงนานกว่าคาด แต่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยลดลง และกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 66 จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะไม่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง และการส่งผ่านต้นทุนที่คาดว่าจะทยอยลดลง
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ ปรับอ่อนค่าลงสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยกนง.เห็นควรให้ติดตามพัฒนาการและความผันผวนในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด