ต้นสัปดาห์มีแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 3385👀ราคาทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,451 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของตลาดเอเชียวันนี้ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันศุกร์จะแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ แต่ผู้ลงทุนยังคงให้ความสนใจกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นแตะระดับ 60.5 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ซึ่งอยู่ที่ 53.5 และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพฤษภาคมที่ 52.2 อย่างไรก็ตาม ตลาดส่วนใหญ่ไม่สนใจข้อมูลดังกล่าว
ในทางกลับกัน ความสนใจหันไปที่ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อไม่นานนี้ทำให้เกิดความกลัวต่อความไม่มั่นคงในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ทางการอิหร่านจึงออกมาเตือนว่าพวกเขาจะ “ตอบโต้อย่างเด็ดขาดต่อความเสี่ยงใดๆ” ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ในช่วงต้นสัปดาห์ ราคาทองคำมีแนวโน้มการปรับตัวลดลงเล็กน้อย กลับสู่โซนสภาพคล่องที่ 3,385 ก่อนที่จะเดินหน้าในแนวโน้มขาขึ้นต่อไป📈
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
Goldsell
ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?📊ปัจจัย ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?
เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 0.80% เนื่องจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและกดดันโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,346 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวัน 3,392 ดอลลาร์
ความรู้สึกของนักลงทุนดีขึ้นหลังจากการสำรวจการเปิดงานและอัตราการลาออกของแรงงานในสหรัฐฯ (JOLTS) ล่าสุดเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน ซึ่งส่งสัญญาณถึงความตึงตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน ข้อมูลเชิงบวกนี้เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์สำคัญที่เต็มไปด้วยรายงานการจ้างงาน รวมถึง ADP Employment Change ในเดือนพฤษภาคมในคืนนี้ และ Nonfarm Payrolls ที่คาดการณ์กันสูงในวันศุกร์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจส่งผลต่อความคาดหวังต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มภาษีศุลกากรยังคงแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน
ราคาทรงตัวเหนือ 3350 ฝ่ายกระทิงต้องการเอาชนะ 3411
🔼เมื่อวานนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาปะทุอีกครั้งทำให้บรรดานักลงทุนต่างพากันซื้อทองคำตลอดทั้งวัน
โดยเช้านี้อารมณ์ของตลาดเปลี่ยนไปในเชิงลบ เนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดว่ายูเครนโจมตีทางอากาศต่อรัสเซีย ซึ่งทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลและเครื่องบินลำอื่นๆ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็น 50% ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน และวาทกรรมต่อต้านจีนส่งผลให้หุ้นทั่วโลกของสหรัฐฯ ลดลง
CNBC รายงานว่าทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนอาจกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงทรงตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากรและสงครามกับรัสเซียยังคงคาดเดาไม่ได้ ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนให้กลับสู่โซน 3400
แนวรับ/แนวต้านตามบนพื้นที่ H1 วันที่ 3 มิถุนายน
แนวต้าน 3416
แนวรับ 3308
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำพยายามยืนหยัดเหนือระดับ 3300 รอผล FOMC สัปดาห์นี้📊ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,300 ดอลลาร์ เหนือระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ผู้ซื้อขายรอฟังรายงานการประชุม FOMC
🌐ไฮไลท์ปัจจัยพื้นฐาน
ราคา ทองคำปรับตัวขึ้น และแกว่งขึ้นลงสลับระหว่างขาขึ้นเล็กน้อยและขาลงเล็กน้อยตลอดช่วงการซื้อขายในเอเชีย ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกันดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดึงดูดผู้ซื้อเป็นวันที่สองติดต่อกันจากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อวันอังคาร ซึ่งเมื่อรวมกับแนวโน้มเชิงบวกในตลาดหุ้น กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อทองคำ
💭อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ทำให้ความเชื่อมั่นของตลาดลดลง นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯ ที่แย่ลง และการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2568 อาจจำกัดการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของดอลลาร์สหรัฐ และสนับสนุนราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน ซึ่งในทางกลับกัน เรื่องนี้ควรให้ความระมัดระวังสำหรับฝ่ายที่ถือทองคำและก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับตัวลดลงต่อไป
🔍 ขณะนี้ นักลงทุนต่างรอคอยที่จะได้ทราบผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เพื่อรับทราบข้อมูลแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการมีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และยังเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนอีกด้วย นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ตารางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังประกอบด้วย GDP เบื้องต้นประจำไตรมาสที่ 1 และดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ตามลำดับ
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: การปรับราคาทองคำทำให้ฝ่ายขาลงต้องระมัดระวัง โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 บน H4 ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
🔼จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายในชั่วข้ามคืนผ่านเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการขาลงของเทรดเดอร์ การขายตและการยอมรับราคาต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ จะตอกย้ำแนวโน้มเชิงลบ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้ม เชิงลบ ดังนั้นการตกครั้งต่อไปอาจดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนและพบแนวรับที่ดีใกล้โซนแนวนอน 3,250-3,245 ดอลลาร์ จุดหลังควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยน ซึ่งหากพังทลายลง ก็จะสร้างสถานการณ์ให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระยะใกล้
🔽อีกด้านหนึ่ง โมเมนตัมที่ทะลุจุดสูงสุดของเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 3,315-3,316 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะเผชิญกับอุปสรรคบางอย่างที่บริเวณ 3,340-3,345 ดอลลาร์ ซึ่งจุดหลังนี้ตรงกับจุดทะลุแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งหากทะลุจุดนั้นไปได้ การเปิดสถานะซื้อใหม่จะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่บริเวณ 3,365-3,366 ดอลลาร์ ซึ่งแตะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปจะช่วยให้ทองคำ กลับมามีมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น การยืนเหนือระดับดังกล่าวจะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับฝ่ายซื้อ และจะช่วยให้ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และไต่ระดับต่อไปที่ระดับ 3,465-3,470 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ใครยังถือทอง Long อยู่ ระวังโดนกราฟดึงลงมาฟาดแทนกำไร xauusd4Hมา “วางแผนเทรดล่วงหน้า” สำหรับสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นเดือน พ.ค. ด้วยระบบ ICT เต็มสูตรจากทุก TF (TF: 1M–1W–1D–4H–1H–15m) จัดเต็มให้เลยจ้า
🧠 1. โครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure)
✅ แนวโน้มล่าสุด:
TF 1M / 1W → ยืนใน Premium Zone อย่างหนัก ราคาทะลุ High เดือนก่อนหน้า → ราคากำลังเบรก ATH ชั่วคราว
TF 1D → BOS ขาขึ้น ล่าสุดเพิ่งขึ้นเหนือ PDH แล้วเริ่มมี RSI Divergence
❗ สถานการณ์ปัจจุบัน:
ราคาอยู่ใน “Weak High” บนสุด พร้อมรอการ Sweep High แล้วกลับตัว
📍bias: “Short-term Short” ก่อนต่อ “Long-term Long”
⏳liquidity:
มี Stop-loss Pool เหนือ Weak High
Liquidity zone ใต้ 3,294 / 3,265 / 3,245 ยังไม่ได้ sweep
🧭 พฤติกรรมราคา (Price Behavior):
RSI TF ใหญ่เริ่มแสดง Divergence ชัดเจน
TF เล็กเกิด CHoCH + BOS ลง + OB บน
📍 2. จุดสำคัญ POI (Points of Interest)
🟥 Sell POI (โซนขาย):
🔸 : 3,365–3,375 = OB + Weak High + RSI Overbought
🔸 : 3,336–3,340 = FVG Zone + OB ใน Premium
🔸 : 3,294–3,315 = โซน BOS ก่อนหน้า หากกลับมาทดสอบ
🟩 Buy POI (โซนซื้อ):
🟢 : 3,265–3,245 = Fair Value Gap + OB
🟢 : 3,210–3,190 = Discount OB เก่าที่ยังมี Order Flow
🧭 3. วางแผนเทรด
📉 แผน A: Short จาก Weak High
✅ Bias: Short เก็บสั้นจาก RSI เบี่ยงเบน
✅ Entry1: 3,365
✅ Entry2: 3,372
❌ SL: 3,384
🎯 TP1: 3,336 (FVG H1)
🎯 TP2: 3,294 (OB D1 เก่า)
🔥 R:R ≈ 1:2.2
💡 Trigger: RSI Bearish + CHoCH 15m หรือ 5m
📈 แผน B: Long หากกลับมาทดสอบ OB ล่าง
✅ Bias: Long (หากเกิด Rejection)
✅ Entry1: 3,265
✅ Entry2: 3,245
❌ SL: 3,230
🎯 TP1: 3,294
🎯 TP2: 3,336
🔥 R:R ≈ 1:2.5
💡 Trigger: RSI Bull + CHoCH LTF (1m/5m)
📉 แผน C: Hold / ไม่เข้าไม้
→ หากราคาวิ่งไม่จบ BOS H1 ลงหรือไม่มี Confirm RSI Divergence ชัดเจน
📊 4. ความเป็นไปได้ (% โอกาสสำเร็จ)
✅ Short จาก Weak High: 70%
→ RSI Divergence + อยู่ Premium + OB บน
✅ Long จาก OB ล่าง: 55%
→ ต้องรอยืนยันแรงซื้อและโซน Discount จริง
✅ Hold: 30%
→ ถ้าราคาเบรคไปต่อแรง ๆ กลายเป็น BOS ใหม่
📌 5. บทสรุป:
🔹 โครงสร้างหลัก: ยังเป็นขาขึ้น แต่ใกล้ Premium สูงสุด
🔹 โครงสร้างรอง: CHoCH เกิดแล้วใน 15m / 1H
🔹 เน้นความแม่นยำสูงสุด: รอราคายืนยัน Weak High หรือ Rejection OB ล่าง
🔧 แนะนำเสริม:
→ ใช้ RSI + OB ที่ซ้อนทับกันกับ FVG
→ เปิดไม้ Split Entry + ใช้ TS ตามจุด OB / CHoCH
→ ใช้เวลา Killzone NY จะชัวร์กว่า
🧩 สรุปสุดท้าย – แผนแนะนำ
เข้าช็อตสั้นจาก Weak High แล้วรอ Long กลับในโซน OB ล่าง
ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200 Planday 19 พ.ค 2568
📊ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200
💵ปัจจัยพื้นฐาน:
ทองคำ กำลังฟื้นตัวจากการขาดทุนเมื่อเร็วๆ นี้ โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทรอยในช่วงการซื้อขายเอเชียในเช้าของวันนี้ ขณะที่นักลงทุนมองหาที่หลบภัยในสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความยั่งยืนทางการคลัง
การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มูดี้ส์ตัดสินใจลดระดับเครดิตของสหรัฐฯ ลงหนึ่งขั้นจาก Aaa เป็น Aa1 โดยอ้างถึงหนี้ที่เพิ่มขึ้นและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ปรับลดระดับในปี 2023 และ S&P ในปี 2011 ก่อนหน้านี้ ปัจจุบันมูดี้ส์คาดการณ์ว่าหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134% ของ GDP ภายในปี 2035 จาก 98% ในปี 2023 ซึ่งขับเคลื่อนโดยต้นทุนการชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น โปรแกรมสิทธิประโยชน์ที่ขยายตัว และรายได้ภาษีที่ลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นและช่วยหนุนราคาทองคำอีกครั้ง
💬ความคิดเห็นส่วนตัว
ทองคำซื้อขายที่เหนือระดับ 3200 ในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ไม่มีข่าวอะไรมากนัก ยังคงเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideway
กรอบแนวต้าน : 3269-3272
กรอบแนวรับ : 3191-3188
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
🔼จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำดูเหมือนจะพยายามปรับตัวขึ้นเหนือแนวรับ บนกราฟ 4 ชั่วโมง ดังนั้น ควรรอให้มีการซื้อตามมาหลังจากผ่านโซนอุปทาน 3,250-3,252 ดอลลาร์ก่อนจึงค่อยยืนยันว่าราคาทองคำแตะจุดต่ำสุดแล้ว และเตรียมวางตำแหน่งเพื่อรอการเพิ่มขึ้นต่อไป การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจพาให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือแนวต้าน 3,274-3,275 ดอลลาร์ไปสู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้จริง อาจเป็นการหักล้างแนวโน้มเชิงลบในระยะใกล้ และเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นของผู้ซื้อ ซึ่งจะเปิดทางให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อไป
🔽ในทางกลับกัน หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 3,200 ดอลลาร์ อาจมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 3,178-3,177 ดอลลาร์ การขายต่ออาจทำให้ราคาทองคำเสี่ยงต่อการร่วงลงอย่างรวดเร็วสู่จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณ 3,120 ดอลลาร์ หรือระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงต่ำกว่าระดับ 3,060 ดอลลาร์ได้ แนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 3,060 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
อารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ทองคำเริ่มถูกขายคาดการณ์แนวโน้ม ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 19/05/2025 - 23/05/2025
📊อารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ทองคำเริ่มถูกขายเพื่อซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่า
🌐 สถานการณ์ล่าสุด:
ราคาทองคำร่วงลงกว่า 1.5% ในวันศุกร์ เตรียมปิดสัปดาห์ด้วยการร่วงลงอย่างรวดเร็วกว่า 4% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันเหออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยและหันไปลงทุนในหุ้นและการลงทุนเสี่ยงอื่นๆ แทน ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,205 ดอลลาร์ ลดลงจากระดับสูงสุดประจำวันที่ 3,252 ดอลลาร์
🖥การเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการชะลอตัวหลังจากมีรายงานว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงข้อตกลงร่วมกันในการลดภาษีลง 115% ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเทขายทองคำแท่งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทองคำจะผันผวนระหว่าง 3,120 ดอลลาร์และ 3,265 ดอลลาร์ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ทองคำก็ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นได้ โดยความสนใจของผู้ซื้อที่ลดลงเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นท่ามกลางความต้องการเสี่ยงที่สูงขึ้นและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สดใส
💬ความเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงสะสมรอราคาลดลงที่ราว 3,200 ดอลลาร์ จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากข่าวภาษีศุลกากรและการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
⚙️ ในทางเทคนิค:
วันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจนสามารถปิดตลาดรายวันเหนือ 3,200 ดอลลาร์ได้
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ผู้ขายสามารถเข้ามาแทรกแซง โดยลากราคาให้ลงไป และยืนยันว่ายังมี “จุดสูงสุดสองจุด” อยู่ โมเมนตัมสนับสนุนการลงต่อเนื่องจากดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลง
🔽ดังนั้น หากราคาลงไปอยู่ต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์ ระดับแนวรับถัดไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันที่ 3,155 ดอลลาร์ ตามด้วย 3,087 ดอลลาร์
🔼ในทางกลับกัน หากทองคำทะลุ 3,200 ดอลลาร์ ระดับแนวต้านถัดไปจะเป็นจุดสูงสุดในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ 3,257 ดอลลาร์ ก่อนที่จะถึง 3,300 ดอลลาร์
....
🕯จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: 3,267 ดอลลาร์ 3,357 ดอลลาร์ 3,370 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,155 ดอลลาร์ 3,087 ดอลลาร์ 2,950 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำฟื้นตัวแรงฟื้น กลับมาสะสมกำลังเหนือ 3190 อีกครั้ง⭐️ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวได้จากการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้จากที่ได้ร่วงลงไปทดสอบระดับ 3,120 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ทั้งนี้ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันการขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในเอเชียของวันนี้
ข้อตกลงการค้า 90 วันระหว่างสหรัฐฯ และจีนช่วยบรรเทาความตึงเครียดในตลาดการเงินโลกบางส่วน ซึ่งส่งผลต่อความต้องการทองคำในฐานะสินทรพย์ที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงยังคงเป็นแรงสนับสนุนพื้นฐาน ช่วยจำกัดการลดลง นอกจากนี้ ความคาดหวังของตลาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมโดยธนาคารกลางสหรัฐ อาจทำให้ผู้ซื้อขายไม่กล้าถือครองสถานะขาลงที่แข็งแกร่งต่อทองคำในระยะใกล้
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำฟื้นตัว ผู้ซื้อมุ่งมั่นที่จะรักษาราคาให้คงที่ที่ระดับ 3,200 ในเดือนพฤษภาคม รอโมเมนตัมขาขึ้นใหม่หลังการเจรจาภาษีศุลกากรสิ้นสุดลง
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ผู้ลงทุนรอผลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - การประเมินอัตราเงินเฟ้อ📊ผู้ลงทุนรอผลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - การประเมินอัตราเงินเฟ้อ คืนนี้
ราคาทองคำสามารถรักษาระดับ 3,200 ดอลลาร์ไว้ได้อีกครั้ง โดยฟื้นตัวจากระดับลดลง 3% เมื่อวันจันทร์ในช่วงเช้าวันนี้ ผู้ขายทองคำพักเบรกเนื่องจากผู้ค้ารอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบสูง ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในครั้งต่อไป
ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าปฏิบัติการทางทหารต่อปากีสถานนั้นถูกระงับไว้เพียงเท่านั้น โดยเตือนว่าการดำเนินการในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการดำเนินการของอิสลามาบัด ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนแสดงความเต็มใจที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้เขา "ยอมรับ" คำเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสันติภาพในตุรกีในทันที ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการพัฒนาดังกล่าวอาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของโลหะชนิดนี้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่
นอกจากนี้ ผู้ซื้อขายยังหันไปขายทำกำไรจากสัญญาซื้อ USD ก่อนการเผชิญหน้าระหว่างดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยจำกัดขาลงของราคาทองคำ
การเคลื่อนไหวในทิศทางต่อไปของโลหะมีค่าขึ้นอยู่กับผลของการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ตลาดคาดการณ์ว่าดัชนี CPI ประจำปีของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนเมษายนในอัตราเดียวกับเดือนมีนาคม ส่วนอัตราเงินเฟ้อ CPI พื้นฐานจะคงอยู่ที่ 2.8% ตลอดทั้งปีในช่วงเวลาเดียวกัน
ตัวเลข CPI ที่ออกมาค่อนข้างดีจะทำให้ความรู้สึกที่แข็งกร้าวต่อเฟดกลับมาเป็นสองเท่า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ราคาทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ยลดลงอีกครั้ง ในทางกลับกัน การชะลอตัวของการเติบโตของ CPI ของสหรัฐฯ ที่ไม่คาดคิดอาจทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม พาดหัวข่าวใดๆ จากรัฐบาลทรัมป์เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับหุ้นส่วนทางการค้าหลักของสหรัฐฯ อาจมีน้ำหนักมากกว่าปฏิกิริยาของตลาดต่อข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
คำกล่าวของผู้กำหนดนโยบายของเฟดจะถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ข้อมูล CPI ประเมินระดับเงินเฟ้อในเศรษฐกิจสหรัฐ ราคาทองคำยังคงพยายามรักษาช่วงราคาไว้ที่ 3200
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
ราคาทองคำทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 21 วัน (SMA) จากนั้นปิดตลาดรายวันที่ 3,313 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดแนวโน้มขาลงเพิ่มเติม
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ 14 วัน (RSI) หันไปเป็นขาลงเช่นกัน หลังจากปิดตัวต่ำกว่าเส้นกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน
ยังคงต้องรอดูว่าข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาดจะส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอีกครั้งไปที่เส้น SMA 50 วันที่ 3,145 ดอลลาร์หรือไม่
ระดับแนวรับที่ดีถัดไปอยู่ที่ระดับรอบ 3,100 ดอลลาร์และระดับต่ำสุดในวันที่ 10 เมษายนที่ 3,072 ดอลลาร์
หากข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ออกมาในทางลบราคาทองคำอาจสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวรับ SMA 21 วันที่ปัจจุบันอยู่ที่ 3,311 ดอลลาร์ได้ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ ราคาจะทดสอบแนวต้านเส้นแนวโน้มขาลงที่ 3,430 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านแบบไม่สม่ำเสมอ
การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเหนือระดับดังกล่าวจะเปิดประตูไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ราคาทองคำอ่อนตัวจากแรงกดดันดอลลาร์และข้อตกลงการค้าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเชิงลบ ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกและความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นตัว
ราคาทองคำยังคงถูกกดดันอย่างหนักในช่วงต้นของตลาดยุโรป แม้จะสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 3,300 ดอลลาร์ได้ ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกัน สัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังคงผลักดันกระแสเงินออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม และส่งผลกระทบต่อความต้องการโลหะมีค่า
ภาพรวมทางเทคนิคของ XAU/USD
ความอ่อนแอที่ต่ำกว่าบริเวณ 3,300-3,290 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับฟีโบนัชชีรีเทรซเมนต์ 38.2% ของขาขึ้นล่าสุดจากบริเวณกลาง 2,900 ดอลลาร์ หรือจุดต่ำสุดของเดือน อาจยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอบริเวณแนวนอน 3,265-3,260 ดอลลาร์ การหลุดระดับดังกล่าวอย่างชัดเจน จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณกระตุ้นใหม่สำหรับนักลงทุนสายขาลง และเปิดทางให้มีการปรับฐานต่อจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การลดลงต่อไปอาจพาราคาทองคำลงสู่ระดับรีเทรซเมนต์ 50% บริเวณ 3,225 ดอลลาร์ และอาจไปถึงระดับ 3,200 ดอลลาร์ได้
ในทางกลับกัน บริเวณ 3,348-3,353 ดอลลาร์ ดูเหมือนจะกลายเป็นแนวต้านระยะสั้นในขณะนี้ ตามมาด้วยโซนแนวต้านที่ 3,366-3,368 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถฝ่าไปได้อย่างเด็ดขาด จะเปิดทางให้ราคาทองคำกลับไปยืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ และอาจต่อเนื่องไปถึงแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 3,425-3,427 ดอลลาร์ ก่อนที่นักลงทุนสายขาขึ้นจะพยายามทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 3,500 ดอลลาร์อีกครั้ง
ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน
ความแข็งแกร่งในระดับปานกลางของเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังดำเนินอยู่ ยังคงทำให้นักลงทุนระมัดระวัง และจำกัดความเชื่อมั่นในตลาด นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างจริงจังมากขึ้น ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อเงินดอลลาร์ และช่วยจำกัดการปรับตัวลงของราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน (non-yielding) นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลตำแหน่งงานว่าง JOLTS ของสหรัฐเพื่อหาทิศทางเพิ่มเติม
ราคาทองคำยังซบเซาเมื่อความหวังในข้อตกลงการค้าทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัว
การที่จีนประกาศยกเว้นภาษีตอบโต้บางรายการสำหรับสินค้าสหรัฐ สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐหลายรายได้เสนอข้อเสนอทางภาษีที่ “ดีมาก”
สัญญาณของความคืบหน้าในการเจรจาการค้าช่วยสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนที่สดใส ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง และดึงเงินทุนออกจากราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระวังตัวจากสัญญาณที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่จริงแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเจรจาการค้ากับจีนยังดำเนินอยู่ แต่จีนกลับปฏิเสธว่ากำลังมีการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับภาษี
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะกลับมาเริ่มรอบการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ข้อมูลตลาดในปัจจุบันยังบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลงอาจช่วยให้โลหะสีเหลืองซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนสามารถรักษาระดับราคาพื้นฐานในระยะสั้นได้
ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นเวลา 72 ชั่วโมงในความขัดแย้งยูเครน เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม แม้ว่าประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี จะปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวดังกล่าว นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของเกาหลีเหนือในสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงรักษาความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ไว้อย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนขณะนี้รอคอยการเปิดเผยข้อมูลตำแหน่งงานว่าง JOLTS ของสหรัฐในวันอังคารนี้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐในวันพุธ และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ในวันศุกร์ ซึ่งทั้งหมดอาจให้ภาพใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มของนโยบายการเงินของ Fed
วิเคราะห์ราคาทองคำ 15 เมษายนกรอบ D แสดงให้เห็นถึงแรงขาย โดยนักลงทุนอาจเทขายทำกำไร แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีแนวโน้มขาลง
โครงสร้างคลื่น h4 ยังคงโน้มเอียงไปทางขาขึ้นค่อนข้างมาก เนื่องจากโซน 3215 ได้รับการสังเกตจากผู้ซื้อ
ทองคำกำลังปฏิเสธโซนราคา 3,232 และมีการซื้อขายที่บริเวณ 3,223 ซึ่งสร้างโซนต้านสำคัญในช่วงเซสชั่นที่ระดับ 3,232
สถานการณ์การซื้อขาย: แนวโน้มขาลงยังค่อนข้างแข็งแกร่งและสามารถลดลงเหลือโซนแนวรับที่ 3,215 ได้ ในช่วงการซื้อขายของสหรัฐฯ ให้สังเกตปฏิกิริยาราคาของโซนนี้เพื่อซื้อ หากดีดตัวแรงจาก 3,215 ก็สามารถพิจารณาถือยาวได้ ในทางกลับกัน ถ้า 3215 ทะลุ 3203 จะเป็นจุดหมายของสัญญาณขาย 3237 เป็นโซนต้านทานที่สำคัญสำหรับวันนี้ หากราคาทะลุโซนนี้ จะยืนยันถึงระดับ ATH ในเซสชั่นสหรัฐฯ
ทองคำ (XAU/USD) Timeframe เพื่อวางแผนล่วงหน้ารายสัปดาห์ ผมสแกนจากทุก Timeframe (W1, D1, H4, H1, M15) เพื่อวางแผนล่วงหน้ารายสัปดาห์สำหรับ ทองคำ (XAU/USD) สไตล์ Oak Master Trader พร้อมหาจุด POI และจุดได้เปรียบในการเทรดที่แม่นยำ:
🧠 1. โครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure)
🔹 Timeframe W1 & D1
✅ โครงสร้างหลัก: ยังเป็นขาขึ้น
แต่ล่าสุด เกิดการ Break Structure ลงจาก Premium Zone → เกิด CHoCH บน Daily
→ สัญญาณแรกของ Distribution Phase
🔸 Timeframe H4–H1
เกิด BOS ลงต่อชัดเจน → ราคาเบรก HL ลงมา
TF15M ล่าสุดเริ่มมีการ CHoCH ขึ้น (อาจเป็นแค่การ pullback)
❗ สรุป: ตอนนี้ทองกำลังเข้าสู่ "Phase Distribution หรือ Reversal"
→ เตรียมตัว “Short ตามเทรนด์ใหญ่” หรือ “Long สั้นๆ จาก Demand Zone” เท่านั้น
📍 2. จุดสำคัญ POI (Points of Interest)
🟥 Sell POI (Short Zone)
3,110 – 3,140 = Supply Zone + Equilibrium TF4H/D1
3,160 – 3,200 = Premium Zone + Weak High (Reversal Ideal)
3,260 – 3,320 = Strong Supply (W1) → ถ้าไปถึงคือโอกาส Short ระดับสวรรค์
🟩 Buy POI (Long Zone)
3,015 – 3,025 = Demand TF15M + CHoCH
2,980 – 3,000 = Strong Demand Zone (H4–H1 + Discount)
2,910 – 2,950 = Liquidity zone + HL ใหญ่ (Daily)
🧭 3. วางแผนเทรด (ล่วงหน้ารายสัปดาห์)
📉 แผน A: Short จาก POI#1
✅ Bias: ตามโครงสร้างขาลงระยะกลาง
✅ Entry: 3,110 – 3,140
❌ SL: 3,160
🎯 TP1: 3,025
🎯 TP2: 2,980
🔥 R:R ~ 3.5
💡 Trigger: Bearish CHoCH บน M15/H1 + Volume reject
📈 แผน B: Long จาก POI#2 (Scalp/Intraday)
✅ Bias: Rebound จาก Demand
✅ Entry: 2,980 – 3,000
❌ SL: 2,965
🎯 TP1: 3,050
🎯 TP2: 3,100
🔥 R:R ~ 2.5
💡 Trigger: Bullish CHoCH + RSI Oversold + Imbalance
📉 แผน C: Short จาก Premium Zone
✅ Bias: เทรนด์ใหญ่ (Reversal from High)
✅ Entry: 3,160 – 3,200
❌ SL: 3,230
🎯 TP1: 3,025
🎯 TP2: 2,950
🔥 R:R ~ 4+
💡 Trigger: M-Shaped / Engulfing บน TF15–H1
📊 4. ความเป็นไปได้ (% โอกาสสำเร็จ)
กลยุทธ์ ความเป็นไปได้ ความเห็นเสริม
✅ Short จาก 3,110–3,140 70% อยู่ในโซน Equilibrium + เทรนด์รองขาลง
✅ Long จาก 2,980–3,000 60% เน้น Scalp / เล่นเด้ง ระยะสั้น
✅ Short จาก 3,160–3,200 80% เป็นแผน Golden Zone หากราคาวิ่งขึ้นไปทดสอบ
📌 5. บทสรุปรายสัปดาห์:
🔹 เทรนด์หลัก W1–D1 ยังเป็นขาขึ้น แต่เริ่มอ่อนแรง
🔹 โครงสร้าง H4/H1 เปลี่ยนเป็นขาลง → เน้นเทรด Pullback เพื่อ Short
🔹 จุด Long จะเล่นได้แค่ “รีบาวด์จากโซน Demand” เท่านั้น
🔧 กลยุทธ์แนะนำ:
รอให้ราคากลับขึ้นไปทดสอบโซน 3,110–3,140 แล้ววางแผน Short
หากลงก่อน → รอ Long สั้นจาก 2,980–3,000
🧩 สรุปสุดท้าย – โซนได้เปรียบในการเทรด ✅ Short จาก 3,140 เป็นแผนหลัก
✅ Long จาก 2,980 เป็นแผนรอง
🎯 รอ Confirmation จาก LTF ก่อนเข้าเพื่อความแม่นยำสูงสุด
ช่วยกดติดตามด้วยนะ ผมจะมาวิเคราห์กราฟ ด้วยระบบSMC
#smcลึกแต่เข้าใจง่าย #เทรดแบบไม่โดนแดก #oakmastertrader #บันทึกเทรดน้า
XAUUSD (GOLD) H4 (ทองคำโลก)เห็นยังไง วิเคราะห์ไปแบบนั้น
ไม่ยึดติดทฤษฏี มองถึงความได้เปรียบของรูปทรงกราฟที่เกิดขึ้น
นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างผลตอบแทน !!
แต่ถ้าอยากรู้เหตุผลอย่างอื่นเพิ่มเติม
เข้ามารับชมได้ที่เพจ Order Concept
หรือพิมพ์ค้นหาที่ FacebooK : @OrderConceptFX ได้เลย
ไลฟ์วิเคราะห์ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี
(เวลา 14:00 น.) เป็นต้นไป สามารถดูย้อนหลังได้ตลอด
ที่นี้เราจะไม่พูดถึงแค่เรื่องกราฟแบบมือใหม่
แต่เราจะพาไปเจาะลึกถึง Macroeconomics (เศรษฐศาสตร์มหภาค)
เห็นภาพเเล้ว น่าหวด Sell มากเลยครับเห็นภาพเเล้ว น่าหวด Sell มากเลยครับ
เหตุผลทางเทคนิค m30 h1
- เป็นเเนว Break out pullback เบรค support 2906 ลงมาเเล้ววกกลับมาเทส
- เป็นเเนว Fibo50 ปรับฐานลงต่อ
- เป็นเเนว FVG เทรดโซน
‼️ เเต่ยังกดไม้ได้ครับ เหตุผลคือยังไม่มี Price action ยืนยัน ว่าจะลง 👉🏻 เพราะเทรนหลักขาขึ้น หวดก็สวนเทรนทันที
เเล้วเราจะทำยังไง (ต้องรอ Price action Rejaction โซนดังกล่าวก่อนครับ เช่น Doji ปิดด้วยเเท่งเเดงยาวๆสักเเท่ง หรือ เเท่ง PA Sell กลับตัว Hanging man , Shooting star , Bearish spinning top , Grasstone doji ~~~
ทองคำวิ่งกรอบกว้าง 2675-2620 รอข้อมูล ADP-NF และ NF ของสัปดาห์ราคาทองคำพุ่งสูงหลังจากข่าวสงครามเมื่อวานนี้ แต่ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น โดยเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง 2675-2620 รอข้อมูล ADP-NF และ NF ของสัปดาห์นี้
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในเชิงลบเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแนวโน้มขาลงดูเหมือนจะโดนจำกัดท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น เกิดความหวาดกลัวต่อสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาคนี้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปที่อิสราเอล ซึ่งส่งผลให้ความต้องการถือทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และน่าจะเป็นปัจจัยหนุนสำหรับทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ดังนั้น การร่วงลงครั้งต่อไปอาจถือเป็นโอกาสในการซื้อ และมีแนวโน้มที่จะได้รับการบรรเทาลงต่อไป
💵ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากช่วง 2 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางสัญญาณว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะผ่อนปรนนโยบายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นก็ลดลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่คอยสกัดช่วงบวกของทองคำเช่นกัน
คืนนี้ นักลงทุนกำลังมองไปที่รายงาน ADP ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่านายจ้างภาคเอกชนเพิ่มตำแหน่งงาน 120,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับ 99,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นโอกาสในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ความสนใจส่วนสำคัญจะยังคงมุ่งเน้นไปที่รายละเอียดการจ้างงานอย่างเป็นทางการรายเดือนที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ซึ่งน่าจะให้แรงผลักดันเชิงทิศทางใหม่
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
จากมุมมองทางเทคนิค การเคลื่อนตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงข้ามคืนทำให้ราคาทะลุแนวต้านระยะสั้นของช่องขาขึ้นได้สำเร็จ โดยพลิกกลับมาเป็นแนวรับที่บริเวณ 2625-2624
📉แนวรับสำคัญ 2,625-2,624 ดอลลาร์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งหากทะลุผ่านได้อย่างเด็ดขาด อาจกระตุ้นให้เกิดการขายทางเทคนิค การร่วงลงที่ตามมาอาจทำให้ราคาทองคำลดลงต่ำกว่าระดับ 2,600 ดอลลาร์ และเคลื่อนตัวไปสู่แนวรับถัดไปที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,535-2,530 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน บริเวณ 2,674-75 ดอลลาร์อาจยังคงเป็นแนวต้านย่อยๆก่อนถึง 2,685-86 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หากผ่านได้ New Alltime high อาจตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถพิชิตได้ จะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับผู้ซื้อมากขึ้น สนับสุนภาพขาขึ้นได้อีก และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมานานหลายเดือน สู่ 2755-2770 ตามลำดับ
--------
แนวคิดแผน Sell 1 (วันที่ 2ตุลาคม)
Sell zone 2680-2685
Sl 2700
TP1 2660
TP2 2640
TP3 2620
TP4 2600
TP5 2580
TP6 2560
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
..........
แนวคิดแผน Sell 2 (วันที่ 2ตุลาคม)
Sell zone 2695-2700
Sl 2720
TP1 2675
TP2 2655
TP3 2635
TP4 2615
TP5 2595
TP6 2575
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
.............
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 2 ตุลาคม)
Buy zone 2625-2620
Sl 2600
TP1 2640
TP2 2650
TP3 2660
TP4 2670
TP5 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
แนวคิดแผน Buy 2 (2 ตุลาคม)
Buy zone 2605-2600
Sl 2584
TP1 2625
TP2 2645
TP3 2665
TP4 2685
TP5 2705
TP6 2725
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ทองคำเริ่มสะสมกำลังรอ None Farm ศุกร์นี้ราคาทองคำร่วงลงท่ามกลางบรรยากาศตลาดที่คึกคัก แต่แนวโน้มขาขึ้นยังคงดูแข็งแกร่ง
⭐️ราคาทองคำร่วงลงท่ามกลางบรรยากาศตลาดที่คึกคัก แต่แนวโน้มขาขึ้นยังคงดูแข็งแกร่ง
⭐️ปัจจัยทางเทคนิคได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนขายทองคำเพื่อเก็งกำไร เป็นวันที่สองติดต่อกัน แม้ดูเหมือนขาลงจะยังถูกจำกัดก็ตาม
⭐️ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ อิสราเอลทวีความรุนแรงของสงครามที่ชายแดนกับเลบานอน ทำให้มีความเสี่ยงที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
⭐️นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ กำลังวางแผนการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 27 ตุลาคม พร้อมกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ น่าจะช่วยหนุนทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
⭐️การคาดว่าเฟดจะผ่อนปรนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ราคายังทรงตัวระดับสูงต่อได้
⭐️อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่จีนประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ คาดว่าจะกดดันทองคำเป็นวันที่สองติดต่อกัน
แต่โดยรวมมองว่า ปัจจัยพื้นฐานยังสนับสนุนแนวโน้มการเกิดการซื้อในช่วงขาลงนั้น
👀คืนนี้ หลังเที่ยงคืน นักลงทุนรอฟังถ้อนแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เพื่อหาแรงกระตุ้นที่สำคัญอีกครั้ง
🕯แนวโน้มทางเทคนิค:
ราคาทองคำอาจดึงดูดผู้ซื้อในช่วงที่ราคาปรับตัวลงได้
📉จากมุมมองทางเทคนิค การร่วงลงครั้งต่อไปมีแนวโน้มที่จะพบกับแนวรับที่ดีใกล้จุดทะลุแนวต้านระยะสั้นของช่องแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 2,625 ดอลลาร์ จากนั้นจะตามมาด้วยระดับ 2,600 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุลงได้อย่างเด็ดขาด อาจนำไปสู่แนวโน้มขาลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะใกล้นี้
เมื่อพิจารณาว่าดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) บนกราฟรายวันยังคงวนเวียนอยู่ใกล้โซนซื้อมากเกินไป ราคาทองคำอาจเร่งให้ราคาลดลงไปที่แนวรับระยะกลางที่ 2,560 ดอลลาร์ ก่อนจะไปถึงบริเวณ 2,535-2,530 ดอลลาร์
📈ในทางกลับกัน บริเวณ 2,670-2,671 ดอลลาร์ในขณะนี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญก่อนที่จะถึงโซน 2,685-2,686 ดอลลาร์ หรือระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่แตะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และอาจจะตามมาอย่างใกล้ชิดด้วยระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งหากสามารถพิชิตได้ ก็จะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับทศทางขาขึ้น และปูทางไปสู่การขยายแนวโน้มขาขึ้นที่ระยะกลางระยะยาวต่อไป
แนวคิดแผน Sell1 (วันที่ 30 กันยายน)
Sell zone 2670-2672-2674 (Scalping zone)
Sl 2686 (Highrisk‼️)
TP1 2665
TP2 2660
TP3 2655
TP4 2650
TP5 2645
TP6 2640
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
-----------------
แนวคิดแผน Sell2 (วันที่ 30 กันยายน)
Sell 2705-2710-2715
Sl 2730
TP1 2690
TP2 2670
TP3 2650
TP4 2630
TP5 2610
TP6 2590
TP7 2570
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
------------------
แนวคิดแผน Buy1 (วันที่ 30 กันยายน)
Buy 2643-2640-2638
Sl 2625
TP1 2650
TP2 2660
TP3 2670
TP4 2680
TP5 2690
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
..............
แนวคิดแผน Buy2 (วันที่ 30 กันยายน)
Buy zone 2632-2630-2625
Sl 2613
TP1 2640
TP2 2650
TP3 2660
TP4 2670
TP5 2680
แนวคิดเพิ่มเติมจะประกาศในกลุ่ม
ขึ้นลงได้เท่าตัว แต่ส่วนตัววันนี้ มองว่า "ถ้าไม่หลุด 2529 ยัง..📊มุมมองทอองคำวันนี้ 30/08/2024
ขึ้นลงได้เท่าตัว แต่ส่วนตัววันนี้ มองว่า
"ถ้าไม่หลุด 2529 ยังในน้ำหนักไปทาง SEll"
ให้ Focueข่าวในตาราง 19:30 น.
วันนี้ และอย่าลืมด฿เงื่อนไขในการเข้าทำไรกันตัว
เช่น Candlestick , Volume Marker กันด้วนนะคะ
💥1. ข่าวเศรษฐกิจและข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อทองคำวันนี้:**
- **Core PCE Price Index m/m:** ตัวชี้วัดภาวะเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ โดยคาดการณ์และผลที่ออกมาตรงกันที่ 0.2% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ตลาดรับรู้ว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบที่คาดไว้ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาทองคำเนื่องจากอาจลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- **Chicago PMI และ Revised UoM Consumer Sentiment:** ตัวเลขดัชนี PMI ของชิคาโก้ที่คาดการณ์ไว้ที่ 45.0 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 68.0 ทั้งสองตัวนี้มีผลต่อการประเมินสถานะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเงินดอลลาร์และราคาทองคำต่อไป
💥2. มุมมองของกองทุนและนักวิเคราะห์:**
- **แนวโน้มขาลง (Bearish):** หลายฝ่ายมองว่าทองคำยังมีโอกาสปรับตัวลง หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาสนับสนุนความแข็งแกร่งของดอลลาร์ ซึ่งอาจดึงดูดการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
- **แนวโน้มขาขึ้น (Bullish):** นักลงทุนบางกลุ่มยังเชื่อว่าหากดัชนี PMI และความเชื่อมั่นผู้บริโภคแย่กว่าคาด ทองคำอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามา เนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่อาจอ่อนแอลง
💥3. แนวรับแนวต้านสำคัญของทองคำ (XAU/USD):**
- แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,493 - 2,479 ดอลลาร์ หากราคาทองคำหลุดแนวรับนี้ไปอาจมีการปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 2,473 ดอลลาร์
- แนวต้านสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,521 - 2,526ดอลลาร์ หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ได้ จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,532 ดอลลาร์
(หมายเหตุ: การวิเคราะห์นี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นและอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด ควรเทรดอย่างมีวินัยและมีจุดยอมอย่างชัดเจน)
ราคาทองคำร่วงลงเนื่องจากค่าเงินเยนเพิ่มขึ้นราคาทองคำร่วงลงในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
การลดลงของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงดำเนินต่อไป โดยราคาทองแดงปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือน ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผู้นำเข้ารายใหญ่ของจีน ข้อมูลที่อ่อนแอเกี่ยวกับกิจกรรมการผลิตจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่น ยังบั่นทอนแนวโน้มของทองแดงอีกด้วย
ราคาทองคำสปอตร่วงลง 0.9% สู่ระดับ 2,376.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนสิงหาคมลดลง 1.7% สู่ระดับ 2,375.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 00:52 ET (04:52 GMT)
ราคาทองคำลดลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยส่งผลดีต่อเงินเยน
ราคาทองคำลดลงเนื่องจากผู้ค้าหันไปหาเงินเยนของญี่ปุ่น คู่ USDJPY ของเยน ซึ่งใช้วัดเงินเยนที่จำเป็นในการซื้อหนึ่งดอลลาร์ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองเดือนในวันพฤหัสบดี
เงินเยนได้รับประโยชน์จากการลดลงของสถานะขายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีข้อสงสัยว่ารัฐบาลจะเข้าแทรกแซงตลาดสกุลเงิน แต่การเก็งกำไรเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้าก็เป็นประโยชน์ต่อเงินเยนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจญี่ปุ่น
คาดว่าทองคำจะร่วงลงอย่างมากในวันนี้ที่ 2,300ราคาทองคำลดลงเล็กน้อยในช่วงเซสชั่นเอเชียเมื่อวันอังคาร โดยได้รับแรงสนับสนุนอย่างจำกัดจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ในขณะที่ยังคงมุ่งเน้นไปที่ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ หลังจากที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีราฟาห์ในฉนวนกาซาตอนใต้อย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวที่ทำให้การเจรจาหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น รายงานยังชี้ให้เห็นว่าการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก
ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอกว่าที่คาดเมื่อวันศุกร์ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมาก แต่ดอลลาร์กลับพบจุดยืนในวันอังคาร
ราคาทองคำสปอตร่วงลง 0.1% สู่ระดับ 2,322.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะหมดอายุในเดือนมิถุนายนทรงตัวที่ 2,330.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 01:14 ET (05:14 GMT)
คาดว่าทองคำจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแล้วลดลงลึกราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ในวันจันทร์ (6 พ.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวกว่าที่คาด ทำให้เกิดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้
ในช่วงท้ายของช่วงการซื้อขายในวันที่ 6 พฤษภาคม สัญญาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 1.04% เป็น 2,325.44 USD/ออนซ์ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.13% เป็น 2,334.70 USD/oz
Daniel Ghali นักยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า "การลดลงที่เราได้เห็นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจทำให้โมเมนตัมหายไป เป็นการปูทางให้ราคาทองคำกลับมามีโมเมนตัมขาขึ้นอีกครั้ง"
ราคาทองคำร่วงลง 1.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของงานในสหรัฐฯ ชะลอตัวเกินคาดในเดือนเมษายน ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างรายปีลดลงต่ำกว่า 4.0% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี
แม้ว่าทองคำมักถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แต่อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ และสร้างแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ตรึงทองคำไว้
เงินดอลลาร์ร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในวันที่ 3 พฤษภาคม ตามรายงานของการจ้างงาน
ทองคำอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2070 จากนั้นลดลงเป็น 2050เงินดอลลาร์สหรัฐมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันซื้อขายแรกของปี โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังรอข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ และตัวเลขเงินเฟ้อของยุโรปที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อประเมินทิศทางที่เป็นไปได้ของนโยบายของธนาคารกลาง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดที่เปรียบเทียบสกุลเงินสหรัฐฯ กับสกุลเงินหลักอื่นๆ อีก 6 สกุลเงิน เพิ่มขึ้น 0.7% ถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ซึ่งตามมาด้วยการลดลง 2% ในปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดการเพิ่มขึ้นสองปีติดต่อกัน การลดลงในปีที่แล้วได้รับอิทธิพลจากความคาดหวังของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเผชิญกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
ปัจจัยสนับสนุนการล่วงหน้าของเงินดอลลาร์คืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น โดยธนบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 7.1 จุดเป็น 3.931% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางของการเพิ่มขึ้นรายวันที่สำคัญที่สุดในรอบกว่าสามสัปดาห์
แม้ว่าเงินดอลลาร์เผชิญกับแรงกดดันขาลงเมื่อเดือนที่แล้วภายหลังจากสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่อาจลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 Win Thin หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สกุลเงินระดับโลกของ Brown Brothers Harriman &Co ตั้งข้อสังเกตว่า "ตลาดกำลังตระหนักอย่างช้า ๆ ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง" เขาแนะนำว่า "การลงจอดแบบนุ่มนวล" อาจนำไปสู่การลดมาตรการป้องกัน 2-3 ครั้งภายในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดกำลังกำหนดราคาให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 6 ครั้งในปีนี้ ผลที่ได้คือ Thin ชี้ให้เห็นว่าเงินดอลลาร์อาจยังคง "อยู่ภายใต้แรงกดดันและเปราะบาง" จนกว่าความคาดหวังเหล่านี้จะถูกต้อง
เงินยูโรร่วงลง 0.8% สู่ระดับ 1.0956 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ซื้อขายที่ 1.262 ดอลลาร์ ลดลง 0.81% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เงินเยนของญี่ปุ่นก็อ่อนค่าลงเช่นกัน โดยซื้อขายลดลง 0.56% ที่ 141.66 ต่อดอลลาร์
นักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์ที่ยุ่งวุ่นวายด้วยการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อของยุโรป ตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ และการจ้างงานนอกภาคเกษตร ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือในการกำหนดความคาดหวังเกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรป