"รูปแบบขาลง XAU/USD: คาดการณ์การหลุดกรอบขาขึ้น 11 มิถุนายน 2025โซนแนวต้านก่อนหน้า (พื้นที่สีแดง):
กราฟแสดงแนวต้านชัดเจนระหว่าง ~3,340 ถึง ~3,370 ดอลลาร์
ราคาเคยถูกปฏิเสธอย่างแรงจากโซนนี้ (จุดวงกลมสีน้ำเงินที่จุดสูงสุด)
ช่องขาขึ้นปัจจุบัน (กรอบสีน้ำเงิน):
มีการสร้างรูปแบบ "ช่องขาขึ้น" ซึ่งมักเป็น สัญญาณขาลง เมื่อเกิดในแนวโน้มขาลงใหญ่
ราคากำลังทดสอบขอบบนของกรอบนี้
การคาดการณ์ขาลง (เส้นลูกศรสีแดง):
คาดว่าราคาจะถูกปฏิเสธจากขอบบนของกรอบ และมีแนวโน้มจะหลุดลงสู่แนวรับถัดไปที่ ~3,246.94 ดอลลาร์
ลูกศรและกล่องสีเขียว-แดง แสดงจุดเข้าและเป้าหมายของแผนเทรดฝั่ง Short
แนวรับสำคัญ:
เส้นแนวนอนสีน้ำเงินที่ 3,246.94 ดอลลาร์ เป็นแนวรับหลัก และอาจเป็นจุดทำกำไรของฝั่งขาย
ปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังจะประกาศ:
สัญลักษณ์ธงชาติสหรัฐฯ 3 จุดด้านล่างกราฟ บ่งบอกว่ามีข่าวสำคัญที่อาจสร้างความผันผวนให้กับ XAU/USD
✅ สรุป:
แนวโน้ม: ขาลง
รูปแบบ: ช่องขาขึ้น (Bearish Channel)
โซนเข้าขาย (Short): ประมาณ 3,350–3,360 ดอลลาร์
เป้าหมายทำกำไร: ประมาณ 3,246 ดอลลาร์
จุดตัดขาดทุน: หากราคาปิดสูงกว่า 3,370 ดอลลาร์ (แนวต้านหลัก)
Goldprediction
โอกาสค่อนข้างเยอะที่ราคาทองคำจะกลับมาอยู่ที่ ATH : 3500วิเคราะห์กราฟรายสัปดาห์ระหว่าง 16-20 มิถุนายน 2568
เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำพุ่งขึ้นเป็นครั้งที่สามติดต่อกันเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่กองทัพอิสราเอลโจมตีเป้าหมายอิหร่าน รวมถึงโรงงานนิวเคลียร์และผู้นำระดับสูง ความตึงเครียดดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงในวงกว้างในตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
📈ทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 3,446 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดระดับการเพิ่มขึ้นลง เนื่องจากผู้ซื้อขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์ ความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ประกอบกับสัญญาณขาลงจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ล่าสุด ได้ตอกย้ำความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะดีขึ้นก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันยังคงสนับสนุนโมเมนตัมขาขึ้นของทองคำ
💬ความคิดเห็นส่วนตัว :
ความตึงเครียดจากสงครามยังคงดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ ซึ่งยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 3,500 จุดต่อไป
🕯 ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญดังนี้:
แนวต้าน: $3,502, $3,524, $3,562
แนวรับ: $3,370, $3,342, $3,304
ข้อจำกัด : การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
GOLD: วิเคราะห์ทองคำ 13 มิ.ย.ทองคำมีปัจจัยหนุนหลายประการ เช่น ความตึงเครียดด้านการค้า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาด ความคาดหวังที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านก่อน... การเฝ้ารอซื้อทองคำจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ปัจจุบันราคาทองคำทะลุโซนจิตวิทยาที่ 3,400 จุด เพื่อขยายการเพิ่มขึ้น คาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นและเคลื่อนตัวไปสู่จุดสูงสุดเดิมที่ราว 3,435 จุด และต่อเนื่องไปถึงจุดสูงสุดที่ 3,500 จุด
✅กลยุทธ์อ้างอิง: ซื้อที่บริเวณ 3,400-3,405 จุด SL 3,395 จุด
GOLD: วิเคราะห์ทองคำ 12 มิถุนายนแม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ผ่อนคลายลงจะกดดันราคาทองคำ แต่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับข้อมูล CPI ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ราคาทองคำกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง โดยวันนี้ ตลาดยังคงจับตาข้อมูล PPI ที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ และนักลงทุนยังต้องจับตาความคืบหน้าของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ด้วย
ขณะนี้โมเมนตัมขาขึ้นของราคาทองคำยังดีอยู่ รอจังหวะปรับฐานก่อนจึงค่อยซื้อทองคำ ส่วนในช่วงตลาดเอเชีย ให้จับตาแนวรับที่ 3,360 และ 3,350 ตามลำดับ โดยคาดว่าทองคำจะขยับขึ้นแตะแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 3,400.
วิเคราะห์ราคาทองคำ 12 มิถุนายนเฟรมรายวัน D1 ของเมื่อวานดีดตัวขึ้นและปิดเหนือ 3,348 ส่งผลให้ราคาเกิดช่องว่างในวันนี้
3,375 เป็นโซนต้านทานที่แสดงปฏิกิริยาราคาในเซสชั่นเอเชีย หากไม่สามารถทะลุผ่านได้ในช่วงท้ายเซสชั่น อาจสามารถตั้งขายที่ 3,355 เพื่อซื้อในโซน GAP
หากราคาลดลงในวันนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อทองคำเพื่อมุ่งไปที่ 3,411
ให้จับตาโซน 3,355-3,347-3,338 เพื่อรับสัญญาณซื้อในวันนี้ เป้าหมายยังคงอยู่ที่ 3,411 แต่ยังคงมี 3,386 ซึ่งอาจมีปฏิกิริยา
GOLD: วิเคราะห์ 11 มิ.ย.ราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับตัวหลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งครั้งก่อน ในกรอบ H1 โครงสร้างราคาแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มหลักในปัจจุบันคือการสะสมในแนวข้างโดยมีแอมพลิจูดตั้งแต่ 3,300 ถึง 3,355
ในบริบทที่ตลาดกำลังรอข้อมูล CPI และข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความเป็นไปได้ของความผันผวนที่ไม่คาดคิด (fakeout) นั้นมีสูงมาก ดังนั้น การระบุโซนอุปทานและอุปสงค์ที่ชัดเจน ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
โซน 3,340–3,355:
นี่คือโซนการกระจายที่แข็งแกร่งในช่วงการซื้อขายล่าสุด โครงสร้างแท่งเทียน H1 สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่องที่นี่
โซน 3,302–3,304:
นี่คือโซนอุปสงค์ H1 ที่สำคัญ โดยราคาจะตอบสนองอย่างแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับ หากราคาปรับตัวตรงนี้และสร้างรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว → ให้รอซื้อในระยะสั้น
GOLD: พยากรณ์อากาศวันที่ 10 มิถุนายนราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวลดลงมาที่ 3,301 จุด ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาที่ราว 3,330 จุด
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 2 ในกรุงลอนดอน ประกอบกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้ต่ำกว่าบริเวณ 3,340 จุด เนื่องจากตลาดกำลังรอผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนและข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่ในเย็นวันพรุ่งนี้
ปัจจุบัน หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,340 จุด ในการซื้อขายของยุโรป อาจพิจารณาขายทองคำ
XAUUSD – 09/06: การปรับฐานสิ้นสุดแล้วหรือยัง? XAUUSD – 09/06: การปรับฐานสิ้นสุดแล้วหรือยัง? ทองคำเตรียมพุ่งอีกครั้ง?
หลังจากที่ราคาทองคำได้ทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1.272 Fibonacci Expansion บริเวณ 3,294 แล้วดีดตัวกลับขึ้นมา สะท้อนถึงความเป็นไปได้ว่าคลื่นปรับฐานระยะสั้นอาจสิ้นสุดลงแล้ว และราคากำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานระดับมหภาค
🌍 มุมมองมหภาค & จิตวิทยาตลาด
ดัชนี DXY อ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 99 ลดลง 0.22% แสดงถึงแรงกดดันต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเอื้อต่อการฟื้นตัวของทองคำ
เจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีน: การพบหารือระดับสูงที่ลอนดอนในวันนี้ (09 มิ.ย.) เป็นจุดโฟกัสหลัก หากล้มเหลว ทองคำจะได้รับอานิสงส์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ดุลการค้าจีน: สูงถึง $103.22 พันล้านในเดือนพฤษภาคม เกินความคาดหมาย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของภาคส่งออก และส่งผลบวกต่อความต้องการถือครองทองคำของธนาคารกลางในเอเชีย
📊 วิเคราะห์ทางเทคนิค (H1 – H4 – D1)
ในกรอบ M30 ทองคำเปิดตลาดด้วย gap ขาขึ้น ก่อนย่อตัวลงสู่แนว fibo 1.272 ที่บริเวณ 3,294 และเกิดแรงดีดกลับ
EMA ระยะสั้นกำลังทำหน้าที่เป็นแนวรับ เสริมแรงส่งให้เกิดการฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น
แนวโน้มหลักยังเป็นขาขึ้น แต่คลื่นย่อยของการปรับฐานยังคงอยู่ จึงควรระวังบริเวณ 3,329–3,337 ซึ่งอาจเกิดแรงขายก่อนการ breakout จริง
📍 ระดับราคาสำคัญที่ควรจับตา
แนวต้าน: 3,329 – 3,337 – 3,342 – 3,364 – 3,375 – 3,390
แนวรับ: 3,300 – 3,270 – 3,250
🧭 แผนการเทรดที่แนะนำ
🔵 Buy Zone: 3,270 – 3,272
SL: 3,265
TP: 3,290 → 3,310 → 3,320 → 3,342 → 3,360 → 3,375
🔻 Sell Zone: 3,390 – 3,392
SL: 3,397
TP: 3,377 → 3,350 → 3,337
✅ บทสรุป:
ทองคำกำลังแสดงสัญญาณฟื้นตัวหลังทดสอบแนวรับสำคัญ และได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงความไม่แน่นอนในภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนควรรอจังหวะยืนยันก่อนเข้าซื้อ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในกลยุทธ์
ราคาทองคำร่วงทะลุกรอบใหญ่ แนวโน้มการปรับตัวเพื่อสะสมกำลัง📊วิเคราะห์ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025
ราคาทองคำลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในวันศุกร์ แต่ยังคงมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ด้วยกำไรมากกว่า 1.30% เนื่องจากผู้ซื้อขายปรับคาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใหม่ หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) รายงานว่าตลาดแรงงานยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น โดยอัตราการว่างงานทรงตัวจากเดือนเมษายน ในขณะเดียวกัน วอลล์สตรีทฟื้นตัวเล็กน้อยจากการขาดทุนเมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะมีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และอีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
💬 ความเห็นส่วนตัว:
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนพฤษภาคมที่ดี โดยราคาทองคำทะลุแนวรับ H4 ไปแล้วและยังคงสะสมกำลังต่อไป
🕯ในทางเทคนิค:
จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุแนวรับสำคัญ
ตั้งแต่วันที่ 06/09/2025 - 06/13/2025 ได้ดังนี้:
แนวต้าน : 3,350 ดอลลาร์, 3,400 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,250 ดอลลาร์, 3,200 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
คาดหวัง NF ค่ำคืนนี้หนุนราคาทองยึดครอง 3400 กลับคืนมา
ผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯ และจีนจะประชุมกันในไม่ช้านี้ที่สถานที่ที่ยังไม่ได้กำหนด ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวทำให้ความรู้สึกของตลาดดีขึ้นและส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเนื่องจากความต้องการเสี่ยงเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะไม่โดดเด่นนัก ซึ่งยิ่งทำให้ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้เพิ่มสูงขึ้น
ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ พบว่าตลาดแรงงานมีความอ่อนแอลงเมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะการจ้างงานที่อาจชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ รายงานว่าการขาดดุลการค้าลดลงในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของการนำเข้าล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจัดเก็บภาษีศุลกากร
✉️ความคิดเห็นส่วนตัว :
คืนนี้รอคอยข่าว NF อย่างใจจดใจจ่อ มีแรงกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ตัวเลข NF ที่นักลงทุนกังวลยังคงเป็นลบต่อ DXY
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
กระทิงจะทำให้ทองคำแตะ 3,400 ได้ในวันนี้หรือไม่?📊เมื่อคืนนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 0.80% ระหว่างการซื้อขายในตลาดออเมริกา โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวังซึ่งส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของกิจกรรมทางธุรกิจและการเติบโตของการจ้างงานที่อ่อนแอลง ทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3,382 ดอลลาร์ หลังจากดีดตัวกลับจากระดับต่ำสุดของการซื้อขายที่ 3,343 ดอลลาร์
ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังส่งผลให้ทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นอีกด้วย เนื่องจากความไม่แน่นอนที่คืบคลานเข้ามาเกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง นักลงทุนจึงหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็นสองเท่าจาก 25% เป็น 50% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิถุนายน การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการสนทนาที่คาดหวังกันอย่างมากระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว :
กำลังซื้อยังคงดำเนินต่อไป และจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายของสหรัฐฯ
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?📊ปัจจัย ADP-NF จะช่วยหนุนราคาทองคำกลับสู่ 3,400 ได้ใหม?
เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 0.80% เนื่องจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและกดดันโลหะที่ไม่ให้ผลตอบแทน ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,346 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวัน 3,392 ดอลลาร์
ความรู้สึกของนักลงทุนดีขึ้นหลังจากการสำรวจการเปิดงานและอัตราการลาออกของแรงงานในสหรัฐฯ (JOLTS) ล่าสุดเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน ซึ่งส่งสัญญาณถึงความตึงตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน ข้อมูลเชิงบวกนี้เกิดขึ้นก่อนสัปดาห์สำคัญที่เต็มไปด้วยรายงานการจ้างงาน รวมถึง ADP Employment Change ในเดือนพฤษภาคมในคืนนี้ และ Nonfarm Payrolls ที่คาดการณ์กันสูงในวันศุกร์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจส่งผลต่อความคาดหวังต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มภาษีศุลกากรยังคงแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน
ราคาทรงตัวเหนือ 3350 ฝ่ายกระทิงต้องการเอาชนะ 3411
🔼เมื่อวานนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาปะทุอีกครั้งทำให้บรรดานักลงทุนต่างพากันซื้อทองคำตลอดทั้งวัน
โดยเช้านี้อารมณ์ของตลาดเปลี่ยนไปในเชิงลบ เนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดว่ายูเครนโจมตีทางอากาศต่อรัสเซีย ซึ่งทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลและเครื่องบินลำอื่นๆ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเป็น 50% ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน และวาทกรรมต่อต้านจีนส่งผลให้หุ้นทั่วโลกของสหรัฐฯ ลดลง
CNBC รายงานว่าทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนอาจกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำยังคงทรงตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากรและสงครามกับรัสเซียยังคงคาดเดาไม่ได้ ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนให้กลับสู่โซน 3400
แนวรับ/แนวต้านตามบนพื้นที่ H1 วันที่ 3 มิถุนายน
แนวต้าน 3416
แนวรับ 3308
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
วิเคราะห์ราคาทองคำ 2 มิถุนายนด้วยคลื่นการฟื้นตัวของกรอบ D1 ตำแหน่งของทองคำจะกลับสู่ Sideway กว้างใกล้กับโซน ATH
3360 และ 3260 ราคา Sideway 100 สำหรับแนวโน้มปัจจุบัน และวันนี้ยังคงเป็นไปได้ที่จะทำลายโซนนี้
ทองคำเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเซสชั่นยุโรป โดยแตะขอบบนของโมเดล Sideway
คลื่น h1 ยังคงเป็นคลื่นขาขึ้นมากกว่า ด้วยโซนสนับสนุนที่เปิด GAP ของเซสชั่นเอเชีย 3296 ยังคงถือเป็นโซนสนับสนุนที่แข็งแกร่งในวันนี้ โซนการทะลุในช่วงเช้าก็กลายเป็นโซนสนับสนุนที่สำคัญเช่นกัน
ในทิศทางตรงข้ามของการทะลุ 3360 ยังคงมีโซน 3368 เป็นแนวต้านทันที ก่อนที่ราคาทองคำจะมุ่งหน้าสู่ ATH ระวังแนวต้านรายวัน 3396
ทองคำพยายามยืนหยัดเหนือระดับ 3300 รอผล FOMC สัปดาห์นี้📊ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,300 ดอลลาร์ เหนือระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ผู้ซื้อขายรอฟังรายงานการประชุม FOMC
🌐ไฮไลท์ปัจจัยพื้นฐาน
ราคา ทองคำปรับตัวขึ้น และแกว่งขึ้นลงสลับระหว่างขาขึ้นเล็กน้อยและขาลงเล็กน้อยตลอดช่วงการซื้อขายในเอเชีย ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ผสมผสานกันดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดึงดูดผู้ซื้อเป็นวันที่สองติดต่อกันจากข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อวันอังคาร ซึ่งเมื่อรวมกับแนวโน้มเชิงบวกในตลาดหุ้น กลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อทองคำ
💭อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ทำให้ความเชื่อมั่นของตลาดลดลง นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯ ที่แย่ลง และการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2568 อาจจำกัดการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของดอลลาร์สหรัฐ และสนับสนุนราคาทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน ซึ่งในทางกลับกัน เรื่องนี้ควรให้ความระมัดระวังสำหรับฝ่ายที่ถือทองคำและก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อปรับตัวลดลงต่อไป
🔍 ขณะนี้ นักลงทุนต่างรอคอยที่จะได้ทราบผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เพื่อรับทราบข้อมูลแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการมีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และยังเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนอีกด้วย นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ตารางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังประกอบด้วย GDP เบื้องต้นประจำไตรมาสที่ 1 และดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ตามลำดับ
🕯แนวโน้มทางเทคนิค: การปรับราคาทองคำทำให้ฝ่ายขาลงต้องระมัดระวัง โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 บน H4 ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
🔼จากมุมมองทางเทคนิค การพังทลายในชั่วข้ามคืนผ่านเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการขาลงของเทรดเดอร์ การขายตและการยอมรับราคาต่ำกว่าระดับ 3,300 ดอลลาร์ จะตอกย้ำแนวโน้มเชิงลบ อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์บนกราฟรายวัน (แม้ว่าจะสูญเสียแรงดึงดูด) ยังไม่ยืนยันแนวโน้ม เชิงลบ ดังนั้นการตกครั้งต่อไปอาจดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนและพบแนวรับที่ดีใกล้โซนแนวนอน 3,250-3,245 ดอลลาร์ จุดหลังควรทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยน ซึ่งหากพังทลายลง ก็จะสร้างสถานการณ์ให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระยะใกล้
🔽อีกด้านหนึ่ง โมเมนตัมที่ทะลุจุดสูงสุดของเซสชั่นเอเชียที่บริเวณ 3,315-3,316 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าจะเผชิญกับอุปสรรคบางอย่างที่บริเวณ 3,340-3,345 ดอลลาร์ ซึ่งจุดหลังนี้ตรงกับจุดทะลุแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งหากทะลุจุดนั้นไปได้ การเปิดสถานะซื้อใหม่จะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่บริเวณ 3,365-3,366 ดอลลาร์ ซึ่งแตะเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปจะช่วยให้ทองคำ กลับมามีมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น การยืนเหนือระดับดังกล่าวจะถือเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับฝ่ายซื้อ และจะช่วยให้ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 3,400 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และไต่ระดับต่อไปที่ระดับ 3,465-3,470 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ิเคราะห์ทองคำ XAU/USD: ทดสอบแนวต้านสำคัญ เตรียมเข้าสู่จังหวะขายโครงสร้างตลาด
ราคากำลังกลับขึ้นมาทดสอบแนวรับเดิมที่กลายเป็นแนวต้านใหม่ (บริเวณคำว่า “SUPPOT” ซึ่งควรแก้เป็น “SUPPORT”)
หากราคาไม่สามารถทะลุผ่านโซนนี้ได้ มีโอกาสที่จะเกิดการกลับตัวลงอีกครั้ง
2. ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA)
เส้นสีแดงคือ EMA 50 (ระยะสั้น) – 3,284.33
เส้นสีน้ำเงินคือ EMA 200 (ระยะยาว) – 3,239.30
ราคาปัจจุบันอยู่เหนือทั้งสองเส้น EMA ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น แต่ควรระวังแรงขายที่โซนแนวต้าน
3. แผนการเทรด (Sell Setup)
จุดเข้า: บริเวณราคา 3,358
จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): บริเวณ 3,405 (โซนสีแดง)
จุดทำกำไร (Take Profit): บริเวณ 3,136 (โซนสีเขียว และมีคำว่า “POINT” กำกับ)
4. อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk to Reward Ratio)
ประมาณ 1:3 ถือว่าเป็นระดับที่ดีสำหรับการวางแผนเทรด
5. ข้อเสนอแนะ
ควรรอให้มีสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจนในโซนแนวต้าน เช่น แท่งเทียนกลับตัว (Pin Bar, Bearish Engulfing) ก่อนเข้าออเดอร์ขาย
สรุป
ราคาทองคำอยู่ในจุดสำคัญที่อาจกลับตัวลง หากแนวต้านนี้ยังแข็งแกร่ง ผู้เทรดสามารถพิจารณาแผนการขายตามรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิค พร้อมการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
วิเคราะห์ราคาทองคำ วันที่ 27 พ.ค.ราคาที่ปรับขึ้นในช่วงปลายวันนี้เชื่อกันว่าจะผลักดันให้ราคาสูงขึ้นในวันนี้ แต่ที่น่าแปลกใจคือ เมื่อสิ้นสุดเซสชั่นเอเชียและเริ่มต้นเซสชั่นยุโรป ราคาทองคำกลับร่วงลงอย่างรวดเร็ว
หลังกวาดสภาพคล่องไปถึง 3305 แล้ว
ระดับแนวรับทันทีที่ทองคำกำลังเผชิญอยู่คือ 3,303 โดยแถบนี้ยังคงใช้ในการซื้อขายในช่วงเซสชั่นยุโรป และในช่วงเซสชั่นสหรัฐฯ ดูที่ระดับแนวรับรายวันที่ราวๆ 3,292
3323 เป็นโซนต้านสำคัญ เมื่อราคาทะลุแนวรับแล้ว คุณสามารถขายแบบระยะสั้นๆ ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งรอบ จากนั้นแนวต้านของเซสชันเอเชียที่ประมาณ 3,345 ถือเป็นโซนที่ราคาทองคำสามารถทรงตัวได้ระหว่างแนวโน้มขาขึ้นของเซสชันสหรัฐฯ
โปรดทราบว่าจุดทะลุ 3,303 นั้นจะทำลายแนวโน้มขาขึ้น และการฟื้นตัวจะอ่อนแอ ดังนั้น ควรพิจารณา TP เพื่อเข้าซื้อที่สมเหตุสมผล
ทองกราฟขึ้นไม่สุด…แต่จุด Short อาจสุดใจ xau/usd 4H"กราฟขึ้นไม่สุด…แต่จุด Short อาจสุดใจ 💔📉"
🧠 1. โครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure)
✅ แนวโน้มล่าสุด:
TF 4H → ยังคงเป็นโครงสร้าง Bearish ชัดเจน: HH → LH → BOS → CHoCH ย้ำฝั่ง Sell
TF 1H → แกว่งในขอบบน Premium Zone ใกล้ PDH โดย RSI มี Bearish Divergence
❗ สถานการณ์ปัจจุบัน:
ราคากลับมาทดสอบ EQ ของ OB H1
RSI TF 15m และ 5m เกิด Bearish Divergence และ เบรก Low ย่อยใน 5m = BOS แล้ว
📍Bias: Bearish (ตาม HTF ยังไม่มีการเบรกโครงสร้างหลักกลับขึ้น)
⏳ Liquidity:
มี Sell-side Liquidity ค้างอยู่ด้านล่างแถว ~3210 และ 3180 (Weak Low)
ข้างบน PDH และ EQH เก็บหมดแล้ว = เคลียร์ Buy-side ไปแล้ว
🧭 พฤติกรรมราคา:
ราคาทดสอบกลับขึ้น Premium แล้ว Reject + RSI Bear Divergence ใน TF 5m, 15m
มี BOS LTF = บอกว่าฝั่ง Buy จบ Cycle รอบสั้น
📍 2. จุดสำคัญ POI (Points of Interest)
🟩 Buy POI:
3180–3160 OB เก่า + Discount Zone TF 1H (Weak Low)
🟥 Sell POI:
บริเวณ 3235–3245 (OB บน + Equilibrium + RSI เบรก Divergence)
โซนที่ราคาปฏิเสธซ้ำซ้อนหลายรอบใน HTF
🧭 3. วางแผนเทรด
📉 แผน A: Short จาก Premium Zone
✅ Bias: Bearish
✅ Entry1: 3,231.5 (เข้าเมื่อเบรก BOS LTF แล้ว Pullback)
✅ Entry2: 3,234.5 (ทดสอบ EQ OB H1)
❌ SL: 3,246.5 (เหนือ Strong High)
🎯 TP1: 3,204.5 (Low ก่อนหน้า)
🎯 TP2: 3,182.0 (Weak Low + Liquidity)
🔥 R:R: ประมาณ 1:2.5 – 1:4 ขึ้นกับจุดเข้า
💡 Trigger:
รอให้ 5m / 15m ปิดแท่ง bearish + confirm BOS
RSI ต้องตัดลงหรือมี divergence ยืนยัน
📈 แผน B: Long
✅ Bias: ถือว่าเป็นแผนสำรองเท่านั้น
✅ Entry: 3,182–3,172 (discount zone)
❌ SL: 3,155
🎯 TP1: 3,204
🎯 TP2: 3,230
🔥 R:R: ประมาณ 1:2
💡 Trigger: ต้องมี SFP + RSI Divergence + BOS ย่อยใน 5m
📉 แผน C: Hold / รอชัดเจน
เนื่องจากราคาทำ LH แล้วกลับลง แผน C แนะนำ งด Long ตรงนี้ เพราะไม่คุ้ม Risk
📊 4. ความเป็นไปได้ (% โอกาสสำเร็จ)
✅ Short จาก 3,231–3,235: 75%
→ RSI Divergence + BOS + OB HTF
✅ Long จาก 3,182–3,172: 50%
→ ต้องรอ Confirm ว่าราคาไม่ทะลุ Weak Low
✅ Hold / รอเข้าใหม่: 25%
→ ไม่ค่อยคุ้ม เพราะเข้าเสี่ยงตอนกลางกรอบแล้ว
📌 5. บทสรุป
🔹 โครงสร้างหลัก: Bearish (TF 4H ยังเป็น LH และยังไม่มีเบรกขึ้น)
🔹 โครงสร้างรอง: LTF เริ่มมี BOS ลง → ชี้ไปฝั่ง Short
🔹 เน้นความแม่นยำสูงสุด: Short จาก Premium Zone + Confirm LTF BOS
🔧 แนะนำเสริม:
สังเกต RSI 5m ถ้ามี Hidden Bear / Reject ที่ 50 = เป็นจุดเข้าดี
ใช้ EMA 34 / 89 / 200 เป็นแนวต้านเสริม Entry
🧩 สรุปสุดท้าย – แผนแนะนำ:
Short จากโซน 3231–3235 โดยตั้ง SL ไว้เหนือ 3246 / TP ที่ 3204 และ 3180 แบบ Split TP
#บันทึกเทรดน้า #roongee #playbooksmc
ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200 Planday 19 พ.ค 2568
📊ทองคำเริ่มสัปดาห์ด้วยการรักษาระดับเหนือ 3200
💵ปัจจัยพื้นฐาน:
ทองคำ กำลังฟื้นตัวจากการขาดทุนเมื่อเร็วๆ นี้ โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทรอยในช่วงการซื้อขายเอเชียในเช้าของวันนี้ ขณะที่นักลงทุนมองหาที่หลบภัยในสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความยั่งยืนทางการคลัง
การฟื้นตัวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มูดี้ส์ตัดสินใจลดระดับเครดิตของสหรัฐฯ ลงหนึ่งขั้นจาก Aaa เป็น Aa1 โดยอ้างถึงหนี้ที่เพิ่มขึ้นและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ปรับลดระดับในปี 2023 และ S&P ในปี 2011 ก่อนหน้านี้ ปัจจุบันมูดี้ส์คาดการณ์ว่าหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134% ของ GDP ภายในปี 2035 จาก 98% ในปี 2023 ซึ่งขับเคลื่อนโดยต้นทุนการชำระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น โปรแกรมสิทธิประโยชน์ที่ขยายตัว และรายได้ภาษีที่ลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นและช่วยหนุนราคาทองคำอีกครั้ง
💬ความคิดเห็นส่วนตัว
ทองคำซื้อขายที่เหนือระดับ 3200 ในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ไม่มีข่าวอะไรมากนัก ยังคงเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideway
กรอบแนวต้าน : 3269-3272
กรอบแนวรับ : 3191-3188
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
🔼จากมุมมองทางเทคนิค ราคาทองคำดูเหมือนจะพยายามปรับตัวขึ้นเหนือแนวรับ บนกราฟ 4 ชั่วโมง ดังนั้น ควรรอให้มีการซื้อตามมาหลังจากผ่านโซนอุปทาน 3,250-3,252 ดอลลาร์ก่อนจึงค่อยยืนยันว่าราคาทองคำแตะจุดต่ำสุดแล้ว และเตรียมวางตำแหน่งเพื่อรอการเพิ่มขึ้นต่อไป การเคลื่อนตัวขึ้นครั้งต่อไปอาจพาให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือแนวต้าน 3,274-3,275 ดอลลาร์ไปสู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้จริง อาจเป็นการหักล้างแนวโน้มเชิงลบในระยะใกล้ และเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นของผู้ซื้อ ซึ่งจะเปิดทางให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อไป
🔽ในทางกลับกัน หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 3,200 ดอลลาร์ อาจมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 3,178-3,177 ดอลลาร์ การขายต่ออาจทำให้ราคาทองคำเสี่ยงต่อการร่วงลงอย่างรวดเร็วสู่จุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณ 3,120 ดอลลาร์ หรือระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ หากราคาทองคำทะลุลงต่ำกว่าระดับ 3,060 ดอลลาร์ได้ แนวรับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 3,060 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
อารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ทองคำเริ่มถูกขายคาดการณ์แนวโน้ม ราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 19/05/2025 - 23/05/2025
📊อารมณ์ตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ทองคำเริ่มถูกขายเพื่อซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่า
🌐 สถานการณ์ล่าสุด:
ราคาทองคำร่วงลงกว่า 1.5% ในวันศุกร์ เตรียมปิดสัปดาห์ด้วยการร่วงลงอย่างรวดเร็วกว่า 4% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันเหออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยและหันไปลงทุนในหุ้นและการลงทุนเสี่ยงอื่นๆ แทน ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,205 ดอลลาร์ ลดลงจากระดับสูงสุดประจำวันที่ 3,252 ดอลลาร์
🖥การเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการชะลอตัวหลังจากมีรายงานว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนคลี่คลายลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงข้อตกลงร่วมกันในการลดภาษีลง 115% ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเทขายทองคำแท่งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทองคำจะผันผวนระหว่าง 3,120 ดอลลาร์และ 3,265 ดอลลาร์ตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ทองคำก็ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นได้ โดยความสนใจของผู้ซื้อที่ลดลงเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นท่ามกลางความต้องการเสี่ยงที่สูงขึ้นและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สดใส
💬ความเห็นส่วนตัว :
ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงสะสมรอราคาลดลงที่ราว 3,200 ดอลลาร์ จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากข่าวภาษีศุลกากรและการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
⚙️ ในทางเทคนิค:
วันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจนสามารถปิดตลาดรายวันเหนือ 3,200 ดอลลาร์ได้
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ผู้ขายสามารถเข้ามาแทรกแซง โดยลากราคาให้ลงไป และยืนยันว่ายังมี “จุดสูงสุดสองจุด” อยู่ โมเมนตัมสนับสนุนการลงต่อเนื่องจากดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลง
🔽ดังนั้น หากราคาลงไปอยู่ต่ำกว่า 3,200 ดอลลาร์ ระดับแนวรับถัดไปจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) 50 วันที่ 3,155 ดอลลาร์ ตามด้วย 3,087 ดอลลาร์
🔼ในทางกลับกัน หากทองคำทะลุ 3,200 ดอลลาร์ ระดับแนวต้านถัดไปจะเป็นจุดสูงสุดในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ 3,257 ดอลลาร์ ก่อนที่จะถึง 3,300 ดอลลาร์
....
🕯จากแนวต้านและแนวรับของราคาทองคำตามกรอบ H4 ระบุพื้นที่สำคัญที่สำคัญดังต่อไปนี้:
แนวต้าน: 3,267 ดอลลาร์ 3,357 ดอลลาร์ 3,370 ดอลลาร์
แนวรับ: 3,155 ดอลลาร์ 3,087 ดอลลาร์ 2,950 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ทองคำฟื้นตัวแรงฟื้น กลับมาสะสมกำลังเหนือ 3190 อีกครั้ง⭐️ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวได้จากการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้จากที่ได้ร่วงลงไปทดสอบระดับ 3,120 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ทั้งนี้ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันการขายอีกครั้งในช่วงการซื้อขายในเอเชียของวันนี้
ข้อตกลงการค้า 90 วันระหว่างสหรัฐฯ และจีนช่วยบรรเทาความตึงเครียดในตลาดการเงินโลกบางส่วน ซึ่งส่งผลต่อความต้องการทองคำในฐานะสินทรพย์ที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงยังคงเป็นแรงสนับสนุนพื้นฐาน ช่วยจำกัดการลดลง นอกจากนี้ ความคาดหวังของตลาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมโดยธนาคารกลางสหรัฐ อาจทำให้ผู้ซื้อขายไม่กล้าถือครองสถานะขาลงที่แข็งแกร่งต่อทองคำในระยะใกล้
⭐️ความคิดเห็นส่วนตัว
ราคาทองคำฟื้นตัว ผู้ซื้อมุ่งมั่นที่จะรักษาราคาให้คงที่ที่ระดับ 3,200 ในเดือนพฤษภาคม รอโมเมนตัมขาขึ้นใหม่หลังการเจรจาภาษีศุลกากรสิ้นสุดลง
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
ผู้ลงทุนรอผลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - การประเมินอัตราเงินเฟ้อ📊ผู้ลงทุนรอผลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - การประเมินอัตราเงินเฟ้อ คืนนี้
ราคาทองคำสามารถรักษาระดับ 3,200 ดอลลาร์ไว้ได้อีกครั้ง โดยฟื้นตัวจากระดับลดลง 3% เมื่อวันจันทร์ในช่วงเช้าวันนี้ ผู้ขายทองคำพักเบรกเนื่องจากผู้ค้ารอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบสูง ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในครั้งต่อไป
ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าปฏิบัติการทางทหารต่อปากีสถานนั้นถูกระงับไว้เพียงเท่านั้น โดยเตือนว่าการดำเนินการในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการดำเนินการของอิสลามาบัด ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนแสดงความเต็มใจที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้เขา "ยอมรับ" คำเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสันติภาพในตุรกีในทันที ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการพัฒนาดังกล่าวอาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ ซึ่งตอกย้ำความน่าดึงดูดใจของโลหะชนิดนี้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่
นอกจากนี้ ผู้ซื้อขายยังหันไปขายทำกำไรจากสัญญาซื้อ USD ก่อนการเผชิญหน้าระหว่างดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยจำกัดขาลงของราคาทองคำ
การเคลื่อนไหวในทิศทางต่อไปของโลหะมีค่าขึ้นอยู่กับผลของการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ตลาดคาดการณ์ว่าดัชนี CPI ประจำปีของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนเมษายนในอัตราเดียวกับเดือนมีนาคม ส่วนอัตราเงินเฟ้อ CPI พื้นฐานจะคงอยู่ที่ 2.8% ตลอดทั้งปีในช่วงเวลาเดียวกัน
ตัวเลข CPI ที่ออกมาค่อนข้างดีจะทำให้ความรู้สึกที่แข็งกร้าวต่อเฟดกลับมาเป็นสองเท่า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ราคาทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ยลดลงอีกครั้ง ในทางกลับกัน การชะลอตัวของการเติบโตของ CPI ของสหรัฐฯ ที่ไม่คาดคิดอาจทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม พาดหัวข่าวใดๆ จากรัฐบาลทรัมป์เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นกับหุ้นส่วนทางการค้าหลักของสหรัฐฯ อาจมีน้ำหนักมากกว่าปฏิกิริยาของตลาดต่อข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
คำกล่าวของผู้กำหนดนโยบายของเฟดจะถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
💭ความคิดเห็นส่วนตัว
ข้อมูล CPI ประเมินระดับเงินเฟ้อในเศรษฐกิจสหรัฐ ราคาทองคำยังคงพยายามรักษาช่วงราคาไว้ที่ 3200
🕯การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
อิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค EMA 34, EMA89 และพื้นที่แนวรับแนวต้าน เพื่อกำหนดคำสั่งขายที่เหมาะสม
ราคาทองคำทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 21 วัน (SMA) จากนั้นปิดตลาดรายวันที่ 3,313 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดแนวโน้มขาลงเพิ่มเติม
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ 14 วัน (RSI) หันไปเป็นขาลงเช่นกัน หลังจากปิดตัวต่ำกว่าเส้นกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน
ยังคงต้องรอดูว่าข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาดจะส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอีกครั้งไปที่เส้น SMA 50 วันที่ 3,145 ดอลลาร์หรือไม่
ระดับแนวรับที่ดีถัดไปอยู่ที่ระดับรอบ 3,100 ดอลลาร์และระดับต่ำสุดในวันที่ 10 เมษายนที่ 3,072 ดอลลาร์
หากข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ ออกมาในทางลบราคาทองคำอาจสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวรับ SMA 21 วันที่ปัจจุบันอยู่ที่ 3,311 ดอลลาร์ได้ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ ราคาจะทดสอบแนวต้านเส้นแนวโน้มขาลงที่ 3,430 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านแบบไม่สม่ำเสมอ
การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเหนือระดับดังกล่าวจะเปิดประตูไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์
ข้อจำกัด: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ และสถานการณ์ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ: ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนของตนเอง
"CHoCH มาเต็มกราฟนี้ถ้าไม่ Short ก็ต้องใจแข็งระดับ Premium🧠 1. โครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure)
✅ แนวโน้มล่าสุด: ขาขึ้น (Bullish) จากโครงสร้าง Week / Day ทำ HH ต่อเนื่อง
❗ สถานการณ์ปัจจุบัน: เกิด CHoCH บน TF 4H และมี FVG/OB บริเวณ Premium โดน Rejection แล้ว
📍bias: Neutral to Bearish สำหรับสัปดาห์นี้ หากไม่มี BOS กลับขึ้น
⏳liquidity:
Buy-side: บริเวณ Weak High (เหนือ PMH ประมาณ 3,590–3,600)
Sell-side: บริเวณ FVG ใต้ 3,280 และ OB บริเวณ PDL
🧭พฤติกรรมราคา (Price Behavior):
H4, H1 ยืนยัน Bearish CHoCH
TF ใหญ่ยังมี Momentum แรง แต่ RSI เริ่มอ่อนแรง (Bearish RSI Divergence)
📍 2. จุดสำคัญ POI (Points of Interest)
🟩 Buy POI (โซนซื้อ):
Discount Zone ใต้ 3,260–3,210 (FVG + OB + EQ zone)
Rebalance OB บริเวณ 3,170–3,190 (ระดับกลางถึงลึก)
🟥 Sell POI (โซนขาย):
OB Premium บริเวณ 3,330–3,350
Weak High บริเวณ 3,375–3,390 (อาจเกิด SFP)
🧭 3. วางแผนเทรด
📉 แผน A: Short
✅ Bias: Bearish (TF 4H มี CHoCH แล้ว)
✅ Entry1: บริเวณ OB ที่ 3,330
✅ Entry2: บริเวณ 3,375–3,390 (ถ้าราคา Sweep Weak High)
❌ SL: 3,402
🎯 TP1: 3,278
🎯 TP2: 3,210
🔥 R:R ประมาณ 1:2.5+
💡 Trigger: RSI Divergence + CHoCH H1 หรือ 15m ที่ OB
📈 แผน B: Long (หากไม่ลงตามคาด)
✅ Bias: Bearish แต่หาจุดกลับตัว
✅ Entry1: 3,210–3,190
✅ Entry2: 3,170–3,150
❌ SL: 3,134
🎯 TP1: 3,290
🎯 TP2: 3,330
🔥 R:R ประมาณ 1:2+
💡 Trigger: CHoCH 5m/1m พร้อม RSI Bullish Divergence
📊 4. ความเป็นไปได้ (% โอกาสสำเร็จ)
✅ Short จาก 3,330–3,375 → 70%
ความเห็นเสริม: RSI อ่อนแรง + ราคาอยู่ใน Premium Zone + CHoCH แล้ว
✅ Long จาก 3,210–3,170 → 55%
ความเห็นเสริม: ต้องรอคอนเฟิร์ม Bullish CHoCH ก่อน
✅ Hold → ไม่แนะนำ
เนื่องจากอยู่กลางโซน ไม่มีจุดได้เปรียบชัด
📌 5. บทสรุป
🔹 โครงสร้างหลัก: ขาขึ้น (TF ใหญ่ยัง Bullish อยู่)
🔹 โครงสร้างรอง: Bearish CHoCH 4H, 1H
🔹 เน้นความแม่นยำสูงสุดในการ Short ที่ OB Premium
🔹 หากจะ Buy ให้รอลงมา Discount Zone เท่านั้น
🔧 แนะนำเสริม:
เทรดเฉพาะใน Killzone London / New York
รอ RSI Divergence ยืนยันทุกไม้
ใช้ Split Entry และวาง TP1/TP2 อย่างแม่น
🧩 สรุปสุดท้าย – แผนแนะนำ
“วาง Short จาก OB Premium ก่อน ถ้ายังไม่ลงค่อยพิจารณา Long จาก Discount Zone”
#บันทึกเทรดน้า #roongee #playbooksmc